JJNY : 4in1 เวิลด์แบงก์ชี้ไทยคนจนพุ่ง6.7ล./กมธ.แก้รธน.เริ่มหลังถูกกดดัน/ชงแก้รธน.60ที่มานายกฯ/พีมูฟหนุนแฟลชม็อบนิสิต-นศ.

เวิลด์แบงก์ ชี้ไทยคนจนพุ่ง 6.7ล้านคน ชาติเดียวในอาเซียนที่เพิ่มบ่อยในรอบเกือบ20ปี
https://www.matichon.co.th/foreign/news_2029854


 
เว็บไซต์บลูมเบิร์ก รายงานเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ธนาคารโลก ได้เผยแพร่รายงานว่าด้วยความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ชาติที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคอาเซียน โดยระบุว่า ประเทศไทยมีอัตราความยากจนเพิ่มขึ้นถึง 9.8 เปอร์เซ็นต์ และนับเป็นชาติเดียวในอาเซียนที่มีรายงานคนจนเพิ่มขึ้นหลายครั้งนับตั้งแต่ปีค.ศ. 2543 เป็นต้นมา
 
เวิล์ดแบงก์แถลงว่า อัตราความยากจนของไทยพุ่งสูงขึ้นเป็น 9.8 เปอร์เซ็นต์ในปี 2561 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 7.2 เปอร์เซ็นต์ระหว่างปี 2558 ถึง ปี 2561  โดยตัวเลขคนยากจนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นมากกว่า 6.7 ล้านคนจาก 4.85 ล้านคน นอกจากนี้ความยากจนยังแพร่กระจายออกไปมากถึง 61 จังหวัดจากทั้งหมด 77 จังหวัด
 
แนวโน้มความยากจนในช่วงที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าแม้ไทยจะมีระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ แต่ภาคครัวเรือนยังคงมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจหยุดชะงักและอ่อนตัว” เบอร์กิต ฮันสล์ ผู้แทนธนาคารโลกประจำประเทศไทย ระบุ
 
ฮันสล์ ระบุด้วยว่า เพื่อที่ประเทศไทยจะเดินหน้าไปถึงการมีสถานะผู้มีรายได้สูงได้นั้น ภาคครัวเรือนของไทยจำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากภาวะรายได้หยุดชะงักเช่น ผลพวงจากสุขภาพที่ไม่ดี การสูญเสียตำแหน่งงาน และภัยธรรมชาติ รวมไปถึงให้ความสำคัญในการสนับสนุนการสร้างงานที่มีประสิทธิผลและมรายได้สูงขึ้น
 
ทั้งนี้แถลงการณ์ระบุว่าประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต้องเผชิญกับอัตราการยากจนที่สูงขึ้นหลายครั้งนับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา
 
อ่านรายงานภาษาไทยฉบับเต็ม คลิก
 
https://www.bloomberg.com/news/articles/2020-03-05/world-bank-says-poverty-rising-in-thailand-amid-slowing-growth
 
https://www.worldbank.org/th/country/thailand/publication/taking-the-pulse-of-poverty-and-inequality-in-thailand
 

 
กมธ.แก้รธน.เริ่มดำเนินการหลังถูกกดดันจากสังคม
https://www.innnews.co.th/politics/news_614282/
 
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส. นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการดำเนินงานของ กมธ.ศึกษาแก้ รธน.ว่า เท่าที่ติดตามข่าวการประชุมในวันนี้ เห็นว่าเริ่มขยับขึ้นมาบ้างตามแรงกดดันของสังคมและเด็กนักศึกษา ยังไม่ได้เกิดจากแรงผลักดันจากก้นบึ้งจิตใจของตนเองอย่างแท้จริงช่วงนี้จึงเหมาะแก่การฝากฝีมือไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็นผลงานในการแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศด้วยการเสนอแนวทางแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย
 
ส่วนของเพื่อไทย ก็มีการสัมมนารับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ ดำเนินการคู่ขนานกันไปเช่นกัน ตนเห็นว่า ประเด็นการแก้ รัฐธรรมนูญ เป็นปัญหาโครงสร้างทางการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งต้องแก้ให้เป็นประชาธิปไตยเพื่อสร้างความเชื่อมั่นประเทศ ส่วนประเด็นผู้บริหารประเทศที่มาจากโครงสร้างเพื่อการสืบทอดอำนาจ เป็นปัญหาที่ส่งผลให้ประเทศขาดความเชื่อมั่น จนไม่อาจจะแก้ไขปัญหาสำคัญ ๆ ของประเทศได้ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง
 
ดังนั้น การจะแก้ไขปัญหาสร้างความเชื่อมั่นประเทศดังกล่าวจะได้หรือไม่ นั้น ขึ้นอยู่กับจริยธรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มาจากการสืบทอดอำนาจว่า เวลาที่ผ่านมาในการบริหารประเทศมา 6 ปี พล.อ.ประยุทธ์ “พอหรือยัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่