แซะแรง! ธงทอง ข้องใจทหารเกณฑ์ถูกหักเงินเยอะ ทั้งที่ค่าใช้จ่าย กองทัพต้องรับผิดชอบ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8285358
 
ธงทอง ข้องใจทำไมทหารเกณฑ์ รับเงินเดือนตอบแทนการรับราชการ ถูกหักเงินเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เป็นค่าใช้จ่ายที่ทางราชการสมควรรับผิดชอบ
 
วันที่ 13 มิ.ย.2567 จากกรณีมีเอกสารหลุด ว่อนโซเชียล ซึ่งเป็นใบสรุปค่าใช้จ่าย ทหารเกณฑ์ มีรายรับเดือน พ.ค. รวม 7,830 บาท เดือนมิ.ย. (12 วัน) 3,160 บาท รวม 2 เดือน 10,990 บาท และค่าใช้จ่ายทหารเกณฑ์ผลัดใหม่ สังกัดกองพันทหารเสนารักษ์ที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ซึ่งมีรายการยิบย่อยทั้งค่าเครื่องใช้ส่วนตัว ชุดพราง ชุดวอร์ม ค่าน้ำดื่มและน้ำแข็ง โดยเฉพาะมีค่าดูดส้วม จำนวน 500 บาท จนเหลือเงินแค่ 4,700 บาทเข้าบัญชี
 
ส่งผลให้ชาวเน็ตต่างพากันสงสัยว่า รายจ่ายที่กองทัพสามารถเบิกได้ ทำไมต้องมาหักกับทหารใหม่ รวมทั้งค่าดูดส้วมต้องแพงถึงขนาดนี้เลยหรือ ขณะที่ทางแม่ทัพภาค 2 สั่งเด้ง พ.อ.อาชวิน อัคพิน ผู้บังคับกองพัน ของกองพันส่งกำลังและบริการที่ 22 ไปช่วยราชการที่กองทัพภาคที่ 2 และตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าวแล้วนั้น
 
ล่าสุด นายธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กระบุถึงเรื่องดังกล่าวว่า
 
“เป็นเรื่องที่เข้าใจยากมากว่า ทำไมทหารเกณฑ์ ซึ่งได้รับเงินเดือนตอบแทนการรับราชการ จึงต้องถูกหักเงินเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่ทางราชการสมควรต้องรับผิดชอบ แม้กระทั่งค่าชุดฝึกพราง ถ้าอยู่บ้านเขา เขาก็คงไม่ต้องพรางตัวจากใครครับ”
 
https://www.facebook.com/nha.chandransu/posts/pfbid0NdS59hdy2D4W2E5yY4AtVYpxKot4ayJ6kgTmtXyDjrR5NgxN7ggGpeQHLpSTrnnXl
 

---

'เวิลด์แบงก์' หั่นจีดีพีไทยต่อเนื่อง ปีนี้เหลือแค่ 2.4% ส่วนจีดีพีโลกปรับเพิ่มเป็น 2.6%
https://ch3plus.com/news/economy/morning/403942
 
'ธนาคารโลก' หั่นประมาณการจีดีพีไทย 2567 ลงต่อเนื่องอีกครั้งเหลือ 2.4% หลังจากเพิ่งหั่นเหลือ 2.8% ในการอัปเดตเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
 
แม้ธนาคารโลก (World Bank) จะปรับเพิ่มประมาณการจีดีพีทั่วโลกปีนี้ขึ้นมาเป็น 2.6% แต่สำหรับ "ประเทศไทย" เวิลด์แบงก์ได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้ลงแรงเหลือเพียง 2.4% เท่านั้น หลังจากที่เคยหั่นคาดการณ์จีดีพีไทยไปแล้วเหลือ 2.8% ในการอัปเดตรายงานเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ขณะที่เวิลด์แบงก์เคยให้ประมาณการจีดีพีไทยเอาไว้ถึง 3.2% เมื่อช่วงต้นปีนี้
 
นอกจากนี้ เวิลด์แบงก์ยังลดคาดการณ์จีดีพีไทยปีหน้า 2568 ลงเหลือ 2.9% จากที่ลดลงไปแล้วเหลือ 3% ในการอัปเดตเมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมาเช่นกัน
ธนาคารโลกระบุว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก (EAP) คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.8% ในปีนี้ โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากการค้าโลกที่เติบโตดีขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อกิจกรรมภาคอุตสาหกรรม และการส่งออก และยังช่วยชดเชยผลกระทบจากการเติบโตที่ชะลอตัวลงในจีนได้ โดยคาดว่าประเทศที่เน้นการส่งออกเป็นหลักบางประเทศ เช่น "ไทย" และเวียดนามจะได้อานิสงส์ในเรื่องนี้มากที่สุด
 
ในขณะเดียวกัน การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวทั่วโลกยังดำเนินต่อไปในภูมิภาคนี้ ที่มีการเปิดประเทศช้ากว่าที่อื่นโดยเฉพาะในจีน รายงานระบุว่าปัจจัยนี้จะช่วยเพิ่มการส่งออกภาคบริการในบางประเทศซึ่งรวมถึง "ไทย" และกัมพูชา
 
สำหรับทิศทางเรื่อง "นโยบายการเงิน" ของภูมิภาคแม้คาดว่าจะเป็นในเชิงผ่อนคลายมากขึ้นทั้งในปีนี้และปีหน้า แต่ก็เป็นที่คาดว่าจะมีการ "ลดดอกเบี้ย" ในวงจำกัดเท่านั้น เนื่องจากธนาคารกลางส่วนใหญ่ยังเป็นกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับมาขยายตัวขึ้น บวกกับการที่เขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่บางประเทศยังใช้นโยบายการเงินตึงตัวต่อไป
 
เวิลด์แบงก์ระบุด้วยว่า อัตราดอกเบี้ยในบางประเทศโดยเฉพาะ "จีน" และ "ไทย" ต่ำกว่าอยู่แล้วเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยในสหรัฐ ดังนั้น การลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมจึงอาจส่งผลกระทบต่อเงินทุนไหลเข้า และสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินในประเทศมากขึ้น
 
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/C-gFGzr14lc

---

 
ผู้ประกอบการสถานบันเทิงโคราชโอดปัญหา3เด้งลูกค้าหาย
https://www.innnews.co.th/news/local/news_731793/

ผู้ประกอบการสถานบันเทิงโคราชโอด เจอปัญหา 3 เด้ง ทั้งพิษเศรษฐกิจ การตั้งด่านของตำรวจ และการก่อสร้างโครงการใหญ่ๆ ของรัฐ ทำนักท่องเที่ยวหายกว่า 40% เตรียมปิดตัวหลายแห่ง แบกรับภาวะขาดทุนไม่ไหว
 
ภาวะเศรษฐกิจใน จ.นครราชสีมา ซบเซาเป็นอย่างมาก แม้จะผ่านพ้นช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 มาแล้วเกือบ 2 ปี แต่เศรษฐกิจก็ยังไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะร้านอาหาร และสถานบันเทิง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีการทยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่อง และยังมีหลายร้านที่เตรียมจะปิดตัวลง เนื่องจากไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ ทำให้พบกับภาวะขาดทุนอย่างหนัก
 
โดยนายณรงค์ ผลประเสริฐพร ผู้จัดการร้าน “โรงเหล้า มิตรภาพ” สถานบันเทิงชื่อดัง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนศิรินคร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ร้านอาหาร สถานบันเทิงต่างๆ ประสบกับปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 มาอย่างยาวนาน และสถานการณ์เพิ่งจะกลับมาดีขึ้น ก็เป็นความหวังของผู้ประกอบการว่าจะได้ฟื้นตัวขึ้น แต่ตอนนี้ต้องมาประสบกับปัญหารุมเร้าเพิ่มอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาหลักๆ มี 3 เรื่อง
คือ 

1. ภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ อันเนื่องมาจาก ราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นทุกอย่าง ค่าครองชีพสูง โรงเรียนเพิ่งจะเปิดเทอม ผู้ปกครองต้องเซฟค่าใช้จ่ายในครอบครัวลง

2. การก่อสร้างรถไฟทางคู่ ที่ยืดเยื้อมานาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อร้านอาหาร สถานบันเทิงที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ต้องปิดตัวลง
 
3. เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจถี่เกินไป จนทำให้ประชาชนไม่กล้าที่จะออกมาเที่ยวกลางคืน
 
ซึ่ง 3 เรื่องนี้ กำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับร้านอาหาร และสถานบันเทิงในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เป็นอย่างมาก อย่างเช่นร้านโรงเหล้า มิตรภาพ ซึ่งเป็นสถานบันเทิงที่ไม่ได้อยู่บนถนนเส้นทางหลัก แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตั้งด่านดักหน้า ดักหลัง อยู่แทบทุกวัน สร้างความหวาดกลัวให้กับนักท่องเที่ยว และประชาชนที่ออกมาเที่ยวกลางคืนเป็นอย่างมาก จนส่งผลให้ขณะนี้ร้านของตนเองมีลูกค้าลดลงจากปีที่แล้วกว่า 40% เลยทีเดียว

ดังนั้นเรื่องเศรษฐกิจโดยภาพรวม ก็ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาข้าวของแพง ค่าครองชีพสูง ส่วนเรื่องในพื้นที่ ก็ต้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยบริหารจัดการตั้งด่านให้เหมาะสม