เมื่อลูกช้านป่วยเป็นมะเร็ง...ระยะสุดท้าย..

กระทู้คำถาม
เมื่อวันที่ลูกฉันป่วยเป็นมะเร็ง...ระยะสุดท้าย
เรื่องเล่าเรื่องนี้ เราอยากบอกให้ลูกรู้ว่า ลูกเป็นคนที่โชคดีมาก ถ้าแม่ไม่มีเงิน ไม่มีมิตร ไม่มีคุณหมอที่เก่งและทุ่มเทเพื่อลูกขนาดนี้ ลูกทรมาณมากกว่านี้ และ คงไม่ได้อยู่จนถึงทุกวันนี้ หมอมีหลายแบบ บางคน เก่งมีพรสวรรค์ แต่พรสวรรค์ของแพทย์ที่เราว่า สำคัญที่สุด คือ ความเป็นห่วงคนไข้ ไม่ใช่ฝีมือการผ่าตัด หรือ ความรู้ในการรักษาโรคเลย
น้องไอซ์ เกิดวันที่28มกราคม พศ. 2543 ปีเถาะ อายุตอนนี้ครบ20ปี เป็นเด็กร่าเริง เลี้ยงง่าย เก่ง ฉลาด มีสัมมาคาวะ ใครเห็นก็รักและเอ็นดู และเป็นเด็กที่มีความอดทนสูงมาก ตอนน้องไอซ์อายุได้ 11ขวบ เคยบ่นเรื่องปวดท้อง นอนเจ็บท้องจนร้องไห้ ตอนนั้นน้องไอซ์ไม่ได้อยู่กับแม่ อยู่กับญาติที่จ.ตาก ทุกคนไม่คิดว่าสาเหตุที่น้องปวดท้องเพราะเป็นมะเร็งที่รังไข่
พอน้องไอซ์อายุได้ 12ปี ตอนน้องไอซ์ ถูกส่งตัวไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเชียงใหม่มหาราช เพื่อทำการผ่าตัดมะเร็งที่รังไข่ ผลผ่าตัดเนื้องอกขนาด15เซนออกมาได้สำเร็จ จากนั้นหมอบอกว่า น้องไอซ์เป็นมะเร็ง รังไข่แต่เป็นมะเร็งที่โอกาสเกิดยาก ไม่ร้ายแรง เป็นมะเร็งที่โอกาสลุกลามน้อยมาก จึงไม่ได้ให้ยาเคมีบำบัด หรือ ติดตามการรักษาต่อ
ผ่านไปอีก 7ปี น้องไอซ์มีอาการไอ จึงได้ไปรพ. ผลเอ๊กซเรย์ปอดบอกว่า น้องไอซ์มีก้อนเนื้อที่ปอด สงสัยมะเร็งปอด
ตอนนั้น ทำยังไง
เราปรึกษาแฟน และ รุ่นน้องของแฟนที่นับถือแฟนเราเป็นพี่ชาย หมอเจบอกให้มารักษาที่รพ. หาดใหญ่ โดยติดต่อ อ. เพชร หมอผ่าตัดช่องปอดและหัวใจ
ตอนนั้น เราตัดสินใจที่จะไปรักษาที่รพ. หาดใหญ่ แม้น้องไอซ์จะอยู่กรุงเทพ.... เพราะเรามั่นใจและไว้ใจคุณหมอเพชร และเชื่อว่าหมอเจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เรา หมอเพชรโทรมาหาเราถามถึงอาการน้องไอซ์ซักประวัติละเอียดมาก เราจึงมั่นใจว่าเราจะให้ลูกรักษาที่โรงพยาบาลนี้หล่ะ
หลังการผ่าตัดปอดครั้งแรก วันแรก....
จนครบ1อาทิตย์.... หมอเพชรบอกว่าปอดน้องไอซ์รั่ว จำเป็นต้องเข้าไปผ่าตัดใหม่ น้องไอซ์ต้องผ่าตัดปอดรอบที่2 ตอนนั้นน้องไอซ์เจ็บและทรมานมาก
แต่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีขอบคุณ คุณหมอเพชรที่รักษาน้องไอซ์เป็นอย่างดี หมอดูแลและใส่ใจน้องตลอดระยะเวลาที่อยู่โรงพยาบาลเรารู้สึกโชคดีที่ได้เจอหมอท่านนี้ที่มารักษาลูกเรา สุดท้ายน้องไอซ์หาย ได้กลับบ้าน ผลชิ้นเนื้อบอกว่า ตัดออกหมด ไม่มีเหลือ รวมถึงต่อมน้ำเหลือง ไม่มีเซล
แพทย์ถามว่า จะเอายาเคมีบำบัดมั๊ย? เนื่องจากโรคมะเร็งชนิดนี้ โอกาสตอบสนองน้อยมาก ลูกบอกว่าไง
สุดท้าย น้องไอซ์ตัดสินใจเอายาเคมีบำบัด แต่ต้องเดินทางจากกรุงเทพมาหาดใหญ่ เป็นเวลา4เดือน เดือนนึงต่อครั้งให้คีโม5วันต้องนอนโรงพยาบาล5วัน จน
ระหว่างที่ให้ยา รพ. หาดใหญ่ และ หอผู้ป่วย 520 เจ้าหน้าที่ทุกคนรักและดูแลน้องเป็นอย่างดี รวมถึงหัวหน้าพยาบาลที่ชื่อพี่เขียดพี่น่ารักและดูแลน้องดีมาก จากที่เรา2คนแม่ลูกไปรักษาตัวต่างบ้าน แต่เรากลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยทุกครั้งที่ไปรักษาตัวที่นี้ ระหว่างให้คีโม น้องไอซ์มีอาการอาเจียนเยอะ เพลีย นอนทั้งวัน
สุดท้าย ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี น้องไอซ์รับยาเคมีบำบัดจนครบ แต่โลกไม่ได้ใจดีขนาดนั้น ผล MRI พบว่า มีต่อมน้ำเหลืองที่ขั้วปอดด้านขวา
แพทย์บอกว่า อาจจะเป็นแค่การอักเสบ จึงได้วางแผนที่จะส่องกล้องอัลตร้าซาวน์เข้าหลอดลม เพื่อไปเอาชิ้นเนื้อ ตอนนั้น น้องไอซ์อยู่กรุงเทพ หมอเจติดต่อทาง รพ. ราชวิถีให้ แต่ติดปัญหาเรื่อง... กล้องเสีย
จึงได้ส่งตัวไปที่รพ. รามา ตอนนั้น ไปหาหมอที่รามานั่งรอพบหมอเป็นคิวสุดท้าย ไม่รู้เพราะหมอเหนื่อยที่ตรวจคนไข้เยอะหรือป่าว ไม่รับรักษาให้แถมโดนหมอด่าด้วยว่าจะมาตรวจหาอะไรอีก ตรวจไปมันก็คือมะเร็ง สุดท้ายไล่กลับไปโรงพยาบาลเดิม เสียเวลารอหมอ ฟังหมอด่า และเสียเงินค่าที่เป็นหมออีก
สุดท้าย หมอเจติดต่อ อ. อัสมา ที่รพ. สงขลานครินทร์ให้ น้องไอซ์ไปนั่งรอตั้งแต่7โมงเช้า อดข้าวน้ำหลังเที่ยงคืน ได้เจาะตอน5โมงเย็น เพราะวันนั้นคุณหมอเครสเยอะมาก นอนรพ.2 วัน กลับบ้าน โชคร้ายของลูก ผลชิ้นเนื้อเป็นมะเร็งตัวเดิม แพทย์ทุกคนงงมาก ว่าทำไมทุกอย่างดูดี แต่ผลกลับเป็นแบบนี้ ตอนนั้น แพทย์ให้ทางเลือก 2 ทาง คือ เข้าไปผ่าตัดใหม่ และให้ยาเคมีบำบัด แต่ตอนนั้น น้องไอซ์โทรมมา และ เข้า ๆ ออก ๆ รพ. บ่อย หมอเจบอกว่า ให้เด็กไปใช้ชีวิตก่อน ระหว่างนั้น ให้โด๊ปตัวเอง กำลังใจดีขึ้น ค่อยมาผ่าตัด แต่ที่เราทราบ น้องไอซ์ไม่สามารถผ่าตัดได้อีกแล้ว เพราะก้อนอยู่ติดขั้วปอด และ หัวใจ ถ้าผ่าตัดน้องไอซ์อาจจะไม่รอด เนื่องจากต้องตัดปอดข้างขวาออก
ระหว่างนั้น ลูกก็กลับมาเรียนใช้ชีวิตปรกติ รักษาทางเลือก ด้วยกัญชา และสมุนไพร ลูกอยากได้รถขับไปเรียน เราก็ซื้อรถให้ลูก
เราติดต่อหมอเจ + หมอเพชร ตลอด ตอนนั้น หมอทำนายว่า วันนึง ปอดข้างขวาจะหายไป เด็กจะเหนื่อย หายใจมีเสียง ต้องใช้แรงในการหายใจ ถ้าวันนั้น มาถึง น่าจะต้องใส่ท่อถ่างขยาย (หมอเจเป็นหมอผ่าตัดช่องท้อง ไม่ใช่หมอปอด)
และแล้ว วันนั้นก้อมาถึงจริง ๆ วันที่น้องไอซ์ไปรพ. ตอนนั้น น้องไอซ์ไปรักษาทางเลือกได้2วัน(สาเหตุนึงที่ทำให้ร่างกายน้องทรุดเพราะน้องทานเกลือดำกะมะม่วงสุก14วันสูตรไม้ร่มเลยทำให้ร่างกายน้องขาดสารอาหารและร่างกายทรุดลงรวดเร็ว บวกกับมาอัดกัญชาหนักจนร่างกายน้องแย่ลง)อยู่ที่จ. พิษณุโลก เข้ารพ. เอกชน เนื่องจากเหนื่อยมากจนนอนไม่ได้ หายใจมีเสียงดัง รักษาจนอาการดีขึ้นได้2วันก็ออกมาจากโรงพยาบาล และก็ไปรักษาทางเลือกโดยใช้กัญชาต่อ อีก2วัน แต่2วันนั้นน้องไอซ์นอนไม่ได้เพราะหายใจลำบาก สุดท้ายตอนตี3ต้องพาน้องไอซ์มาโรงพยาบาลพุทธชินราช เนื่องจากหายใจไม่ได้ น้องไอซ์ยกมือไหว้หมอ สายตาวิงวอนขอให้หมอช่วยชีวิต ตอนหมอใส่ท่อช่วยหายใจ น้องไอซ์ตัวเกร็ง ตัวเย็น สุดท้าย สลบไป หมอบอกว่า น้องไอซ์ไม่น่าจะรอด ให้ฉีดยาให้หลับ น้องจะได้ไม่ทรมาณ แต่สัญญาณชีพยังดีอยู่ ตอนนั้น เราคิดอะไรไม่ออก มันตื้อไปหมด ทั้งสงสาร สับสน รู้สึกผิด ทุกอย่าง รวมกันในหัวเรา สุดท้าย เรายกหูโทรศัพท์ ให้หมอเจ้าของไข้ คุยกับหมอเจ หมอเจบอกว่า ถ้าไหว เด็กจะตื่น ถ้าไม่ไหว เด็กหลับไป ก็ปล่อยให้เค้าไป อย่าให้เข้าทรมาณ
     แต่ตอนจากตี3ที่เข้าโรงพยาบาลจนถึง8 โมง เช้าน้องไอซ์ ตื่น และ ลืมตา เราโทรกลับไปหาหมอเจอีกครั้ง หมอเจบอกว่า น่าจะต้องใส่ท่อถ่างขยาย แล้วหมอเจก็ติดต่อรุ่นน้องที่รพ. พุทธชินราช และ อ. ทวี ที่รพ. ราชวิถี  มีแผนว่า ถ้ารพ. พุทธชินใส่ได้ ให้ใส่ที่นี้ แต่ถ้าไม่ได้ ให้ส่งตัวมาที่รพ. ราชวิถี แต่ติดปัญหาเรื่องเตียง จึงทำให้ส่งตัวไม่ได้
    ระหว่างที่นอนอยู่หอผู้ป่วยรวม มีหมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่หลายคน บอกว่า ไม่ไหวหรอก ให้ปล่อยเด็กไป
ดีที่ได้กำลังใจจากหมอเจ บอกว่า ขอโอกาสให้เด็ก อย่าไปฟังใคร
คนเป็นแม่ จะให้ปล่อยลูกที่คาท่อช่วยหายใจ แต่นอนเล่นมือถือ ยิ้มได้ ชูสองนิ้ว พยักหน้าถามตอบรู้เรื่อง ไปเหรอ รพ. เป็นที่พึ่งสุดท้ายของคนป่วย แต่ทำไมถึงบอกให้เราปล่อยลูกไปตาย
    น้องไอซ์ต้องนอนรอ อีก สุดท้าย ไม่ไหว ต้องย้ายเข้าห้อง ICU เพราะ...เหนื่อยมากขึ้น สุดท้าย หมอยอมส่องกล้อง แต่บอกเราว่าส่องกล้องก็อาจตายระหว่างที่ส่องได้นะ
    ระหว่างรอหมอเจติดต่อที่ราชวิถี หมอเจบอกว่า รพ. พุทธชิน น่าจะใส่ท่อถ่างขยายแบบนี้ ไม่ได้ เคสน้องไอซ์เป็นเคสที่ยากมาก น่าจะต้องมาที่รพ. ราชวิถี ให้เตรียมหารถ Refer ได้เลย
    เราติดต่อทั่วพิษณุโลก แต่ไม่มีใครยอมไปส่ง สุดท้ายได้ รถของรพ.พิษณุเวศ ราคา40000 เพื่อพาน้องเข้ามารักษาตัวที่รพ.ราชวิถี
    สุดท้าย ต้องขอบคุณ อ. ทวี ที่ช่วยหาเตียง ICU และ เป็นแพทย์เจ้าของไข้ให้น้องไอซ์ จากนั้น อ. ทวี ได้ปรึกษา อ. โรคปอด เพื่อทำการส่องกล้อง และ ส่งต่อให้อ. พจนีย์ ดูแลต่อ
     ระหว่างที่รอส่องกล้อง น้องไอซ์ภาวะหัวใจหยุดเต้น ต้องปั๊มหัวใจอีกครั้ง ประมาณ 7 นาที อ. พจนีย์ จึงจำเป็นต้องส่องกล้องฉุกเฉิน เพื่อแก้ปัญหาเรื่อง ภาวะปอดอุดกั้นจากมะเร็ง โชคดีที่สามารถ Clear มะเร็งได้บางส่วน ทำให้น้องไอซ์หายใจเองได้ จากนั้น อ. พจนีย์วางแผนเข้าไปส่องกล้องในห้องผ่าตัด เพื่อกำจัดมะเร็งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
    และแล้ว วันที่เรารอคอยก้อมาถึง น้องไอซ์ก่อนเข้าห้องได้สั่งเสียเพื่อการผ่าตัดครั้งนี้น้องไอซ์อาจไม่รอด และได้รับสายจากหมอเพชรที่โทรมาให้กำลังใจน้อง จากที่น้องใส่ท่อมา17วันน้องไม่เคยร้องเลย แค่ได้ยินเสียงหมอเพชรน้องร้องเลย สุดท้าย น้องไอซ์เข้าไปในห้องผ่าตัด 8ชั่วโมง อ. พจนีย์ ค่อย ๆ ใช้กล้องส่องเข้าไปตัดมะเร็ง ทีละชิ้น ใช้อุปกรณ์ห้ามเลือด และ ใส่ท่อถ่างขยาย สำเร็จ วันรุ่งขึ้น น้องไอซ์ สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจ และ เริ่มรับประทานอาหาร ตอนนี้ กำลัง เข้ารับการรักษา ด้วย ยาเคมีบำบัด และ เตรียมฉายแสงต่อไป
     ที่เล่าให้ฟัง เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็งทุกคน ต่อให้เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ก็อย่าเพิ่งหมดหวัง ไปหาหมอผู้เชี่ยวชาญ วางแผนการรักษาในระยะสุดท้าย เราโชคดีที่รู้จักคุณหมอเก่ง ๆ หลายคน น้องถึงได้โชคดีขนาดนี้ ขออนุโมทนาบุญ และ ขอบคุณ คุณหมอเพชร หมอเจ หมออัญมา หมอพจนี และหมอเทวี และอาจารย์หมอทุกๆท่านและเจ้าหน้าที่ทุกๆคน ที่ช่วยน้อง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่