แม่ของรุ่นน้องเสีย จากความประมาทของแพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต ถามเพื่อนทนายผู้มีประสบการณ์ ถ้าจะฟ้องมีแนวชนะไหม

คือเรื่องมันมีอยู่ว่า แม่ของรุ่นน้องแถวบ้านเนี่ยเสียชีวิต ซึ่งในมุมมองของเรามันเป็นความประมาทของแพทย์ทางตรงเลย

แม่ของเขา มีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวานอยู่เดิมแล้ว เคยจวนเจียนจะไปหลายรอบแล้ว แต่ก็รอดมาได้ทุกครั้ง
แต่รอบนี้แกเสียชีวิต

เนื่องจากเบาหวานขึ้นรอบนี้ ทำให้แกหายใจเองไม่ได้ ก็เลยนำส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต เพราะแกเคยไปรักษาที่ธรรมศาสตร์แล้วหายทุกครั้ง แกก็หวังอ่ะนะ
ว่ารอบนี้แกจะหาย

แต่พอรอบนี้มันเป็นหนัก
จนหายใจเองไม่ได้
หมอก็เลยต้องใส่ท่อช่วยหายใจผ่านลงระบบทางเดินหายใจ ผ่านหลอดลมเข้าไปยังปอดโดยตรง

แล้วทีนี้แม่แกก็คงเกิดอาการระคายเคืองอ่ะ
แกก็เลยกระชากท่อช่วยหายใจออก
จนมันทำให้เกิดการอักเสบของหลอดลม
และมีอาการบวมแดง จรเกิดบาดแผลเกิดอะไร
สุดท้ายก็เลยไม่สามารถที่จะใส่ท่อช่วยหายใจใหม่ได้เพราะมันยัดไม่เข้าแล้ว และมันบวมมาก

หมอก็เลยให้ญาติเข้าไปคุยแล้วก็บอกว่า
"คงมีแค่วิธีเดียวเท่านั้นแหละที่จะช่วยชีวิตแกได้ ต้องเจาะคอ"
หมอก็ให้ทางเลือกแค่ทางเดียวว่า "มันช่วยชีวิตได้เยอะนะ " ซึ่งในความเป็นจริง หลังจากเจาะคอแล้วมันก็ช่วยชีวิตคุณแม่ได้เยอะเหมือนกันจริงๆ นั่นแหละ

รักษาไปได้สักพักนึง คุณแม่กลับมามีสติ
กลับมาลุกขึ้นนั่งได้พูดคุยกับลูกได้ทำอะไรได้เอง (โดยที่ไม่ได้หนักเกินไป)

และหมอก็วินิจฉัยแล้วว่า
คุณแม่สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้นะ
ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล แล้วคือแกดีขึ้นมากแล้วอ่ะ หมอก็เลยบอกกับญาติประมาณว่า

"เดี๋ยวโรงพยาบาลเนี่ยจะปิดปีใหม่หมอหลายคนลางาน (ไม่มีหมอเวรหรอ?) ไม่มีหมออยู่ประจำนะ ที่โรงพยาบาลจะไม่มีใครดูแลคนไข้ ภาวะบุคลากรไม่พอขอลากลับบ้านกันหมด" (นี่น่ะเหรอโรงพยาบาลที่อยู่ในมหาวิทยาลัยแพทย์ เออ..! แต่ลืมไป ที่นี่ไม่ใช่สังกัดกระทรวงสาธารณสุขนี่ แต่เป็นสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ มันก็คงไม่เคร่งเรื่องจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์เท่ากับโรงบาลที่ขึ้นกับสาธารณสุขโดยตรงหรอกมั้ง ขนาดบัตรทองเขายังไม่ให้ประชาชนเลยให้ได้เฉพาะนักศึกษามหาวิทยาลัยเขาเท่านั้น) และที่สำคัญเคสของคุณแม่เนี่ยญาติเป็นคนมีฐานะนะ
เขาไม่ใช้สิทธิ์สวัสดิการสังคมอะไรเลยนะ เขาจ่ายเงินเต็มนะและจ่ายเองด้วยดังนั้นก็ควรดูแลเขาดีๆ ถูกไหม? แต่ให้พูดตามความเป็นจริงไม่ว่าคนไข้จะใช้สิทธิ์บัตรทองประกันสังคมหรือจ่ายเองหรือเบิกตรงอ่ะแพทย์ก็ต้องดูแลคนไข้ให้ดีที่สุด.แต่ถ้าพูดในมุมของโรงพยาบาลเอกชนหลายที่ใครจ่ายเงินเองเขาดูแลคนนั้นดีสุด เป็นปกติอยู่แล้ว
แต่นี่คงเป็นระบบโรงพยาบาลรัฐแหละ ทุกคนเท่าเทียมกันต่อให้มีตังค์จ่าย

พอเจ้าหน้าที่บอกมาแบบนี้ก็เลยต้องให้คุณแม่กลับบ้านไป

ที่นี้ หลังจากที่คุณแม่กลับมาพักฟื้นที่บ้าน
คุณแม่ก็มีอาการอึดอัดแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก พอเริ่มอึดอัดขึ้นเรื่อยๆ

ก็เริ่มมีภาวะตกเลือดครับ Bleeding รุ่นแรงมาก

เกิดภาวะ Post-Tracheostomy Hemorrhage
เลือดซึมออกมาผ่านทางบาดแผลเจาะคอ

ลูกสาวคนโตของแกเห็นก็ตกใจ
เลยนำพาแกไปส่งโรงพยาบาล แต่ไม่แน่ใจนะว่าโรงพยาบาลไหน คิดว่าน่าจะเป็นที่ใกล้ที่สุดเพราะเราอยู่กันดอนเมืองถ้าให้ไปถึงธรรมศาสตร์รังสิตแกคงน็อคก่อนเพราะเลือดจะซึมออกเยอะมากในตอนแรกที่นำส่ง

ระหว่างทางขับไปได้ครึ่งชั่วโมงเลือดที่ค่อยๆ ซึม มันพุ่งออกมาเลยครับ ใช้คำว่าพุ่งออกมาเลยเกิดภาวะ Arterial Spurting จนทำให้เลือดเนี่ยไหลออกมาเต็มรถเลยครับ

หลังจากที่พุ่งออกมาผ่านบาดแผลเจาะคอมันไม่พอ
มันทะลัก กระอักเลือดออกมา ทางปาก ทางจมูก
แล้วแกก็เสียเลือดเยอะจนหมดสติไป

พอไปถึงโรงพยาบาล กลายเป็นว่าปั๊มไม่ขึ้นกันแล้ว ตามหลัก CPR 45 นาที ทางเจ้าหน้าที่ CPR ก็บอกกับทางญาติว่า "ปล่อยแกไปเถอะปั๊มยังไงแกก็ไม่ขึ้นแล้วจะไปแล้ว ยิ่งปั๊มมันก็ยิ่งทำให้แกบอบช้ำ"

หลังจากชันสูตร แพทย์ชันสูตรพบว่าในปอดมีเลือดเต็มเลย
น่าจะเกิดมาจากภาวะตกเลือดภายใน
แล้วก็เขียนในใบมรณะบัตรว่า

"เสียชีวิตจากหัตถการเจาะคอ"
นี่คือเหตุผลการเสียชีวิตในวัยมรณะบัตร

แต่เขาจะออกใบชันสูตรโดยละเอียดภายใน 14 วัน
รอญาติไปรับ

ระหว่างนี้ญาติก็ต้องไปหาวัดตั้งศพใช่ไหมครับ 
แต่มันติดช่วงปีใหม่พอดี
วัดที่ทางญาติขึ้นสายตรงประจำเนี่ยก็จะมีงานกิจกรรมทำบุญปีใหม่รวมถึงสวดมนต์เคาท์ดาวน์ ก็เลยไม่สามารถที่จะตั้งศพได้ในช่วงนี้
จะเอาศพมาตั้งได้อีกทีคือวันที่ 2 มกราคม
ซึ่งก็คือเมื่อวันซืน
ก็เลยจำเป็นต้องฝากส่งไปที่โรงพยาบาลโดยฉีดฟอร์มาลีนแล้วก็เข้าโรงเย็น

ทีนี้แหละ ที่ญาติไปคุยกับแพทย์อ่ะ แพทย์ที่เป็นผู้ชันสูตรพูดประมาณว่า
"มันเป็นความประมาทของแพทย์ที่ทำการเจาะคอและรักษา รวมไปถึงแพทย์เจ้าของไข้ เนื่องจากเขาให้กลับบ้านเลยโดยที่ไม่มีการ follow-up ในเคส ก่อนออกจากโรงพยาบาล
ปกติแล้วแผลหัตถการขณะนี้ถือเป็นหัตการใหญ่ ต้องคอยระวังภาวะติดเชื้ออยางยิ่ง และยิ่งก่อนหน้านี้คุณแม่แกมีการกระชากท่อช่วยหายใจออกจนเกิดการอักเสบของหลอดลมทำให้บวม มันอาจจะเกิดภาวะตกเลือดภายใน และทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงได้ แต่นี่แพทย์เจ้าของไข้ไม่เช็คไม่เอกซเรย์อะไรเลยเหรอ? เพราะถ้าเขาเอกซเรย์ตั้งแต่ตอนออกจากโรงพยาบาลน่ะ เขาจะเห็นเลือดที่มันออกอยู่ในปอดทันทีเลย เนื่องจากว่าคุณแม่แกเนี่ย ไม่ใช่อยู่ดีๆ แล้วเพิ่งมากระอักเลือดหลังจากกลับมาถึงบ้านนะ แต่มันตกเลือดอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว และเลือดที่ตกอยู่ข้างในมันก็ไหลท่วมปอดทีละนิดทีละนิดทีละนิด
จนสุดท้ายมันล้น
เมื่อมันไม่มีที่ไป มันก็ทะลักออกมาผ่านแผลที่เจาะคอ
แล้วก็ออกปากออกจมูกนั่นแหละ
มันเป็นความประมาทของแพทย์ผู้ทำการรักษา
ทำไมไม่ดูว่าคนไข้มีภาวะติดเชื้อหรือตกเลือดไหม
ไม่เอกซเรย์ไม่มีการเช็คภาวะปอดเลยเหรอว่ามีการอักเสบรุนแรงที่ยังต้องนอนโรงพยาบาลต่อไหม
เพราะจากที่หมอที่ชันสูตรดู บอกเลยว่ามันไม่ใช่ว่าเพิ่งมาเป็น
มันตกเลือดอยู่ตั้งแต่ตอนอยู่โรงพยาบาลแล้ว
และมันท่วมปอดจนมันกระอักออกมา" อันนี้ผมไม่ได้เป็นคนไปฟังแพทย์ชันสูตรพูดนะครับแต่ยากที่เป็นผู้รับฟังเอามาพูดให้เราฟังอีกทีนึงเราเป็นผู้รับสารต่อโดยที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องหรือคนในเหตุการณ์

แล้วหมอชันสูตรก็พูดอีก ประมาณว่า
"นี่แหละสาเหตุของการเสียชีวิต
ทางญาติสามารถฟ้องทางโรงพยาบาลที่ทำการรักษาได้ แต่ระหว่างนี้ทางโรงพยาบาลมันเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เราเป็นแค่คนตัวเล็กๆ เราจะเอาอะไรไปสู้กับโรงพยาบาลเขา เขาต้องหาวิธีการต่างๆ นานาในการเขียนใบในการออกผลพลิกแพลงหัวหมอให้ตัวเองไม่ถูกฟ้องได้อยู่แล้ว"

(ในฐานะส่วนตัวที่ผมหรือเจ้าของกระทู้เป็นทนายความเนี่ย ผมบอกเลย อาชีพแพทย์ เป็นอาชีพที่โดนคนไข้ฟ้องร้องเยอะที่สุด บางคนหมดตัวก็มีบางคนถูกเพิกถอนใบประกอบโรคศิลป์เป็นหมอไม่ได้ตลอดชีพก็มี เคสนี้ผมมองว่ายังไงก็ฟ้องได้ ถ้าแพทย์ที่ชันสูตรพูดแบบนี้ว่ามันเสียชีวิตจากการประมาทของแพทย์อีกฝ่ายที่ทำการรักษา)

ผมเลยเอามาโพสต์ถามใน pantip ครับว่า
มีแนวทางในการดำเนินคดียังไงกับแพทย์ผู้ทำการรักษาบ้าง ผมขอแนวในการดำเนินคดีเอาผิดทางกฎหมายให้เราเป็นฝ่ายชนะให้ได้ ผมอยากช่วยครอบครัวนี้จริงๆ
อย่ามาพูดคุยกันในมุมของนักกฎหมาย ว่ามันจะออกไปในแนวไหนได้บ้างและต้องสู้ในแนวไหนได้บ้างถึงจะชนะ

และอยากจะสอบถามบุคลากรทางการแพทย์ด้วย
ว่าแค่เป็นเบาหวานมันจำเป็นต้องใส่ท่อเจาะคออะไรขนาดนี้เลยหรอ
มันไม่ใช่โรคติดเชื้อหรือโรคระบบประสาทที่ทำให้แกหายใจเองไม่ได้ทำ
ไมต้องทำถึงขนาดนี้?
แล้วอยากถามบุคลากรทางการแพทย์ว่า
ทำไมก่อนออกจากโรงพยาบาลเขาไม่เอกซเรย์ปอดคนไข้ก่อนเลยหรอ?
ทั้งที่รู้ว่าคนไข้เพิ่งจะทราบท่อช่วยหายใจมาจนเกิดการอักเสบมันต้องมีการตกเลือดภายในหรือไม่มีก็ต้องเอกซเรย์ก่อนไม่ใช่เหรอครับ? ทำไมถึงไล่กลับบ้านด้วยเหตุผลที่บุคลากรไม่พอ แพทย์พยาบาลลากลับบ้านกันหมดเลยหรอธรรมศาสตร์ช่วงปีใหม่เนี่ย
พิลึกพิสดารดีเหมือนกันโรงพยาบาลอะไรวะ?
หมอลากลับบ้านวันหยุดเทศกาลทุกคนเลยา...
เรื่องลากลับบ้านอ่ะยังไงมันก็ต้องมีแหละไม่ใช่ไม่มี แต่จะลาหมดทุกคนจนไม่มีใครอยู่เลยกูไม่เชื่อ

เพราะอดีตแฟนของผม 2 คน ก็เป็นแพทย์ธรรมศาสตร์เหมือนกัน แล้วปีใหม่นี้ แฟนเก่าผมที่เป็นหมอภายใน เฉพาะทางและของธรรมศาสตร์ก็ยังต้องทำงานเลย
ไม่ได้กลับบ้าน ดังนั้นจะบอกว่าไม่มีหมอ...ไม่ได้
ส่วนอีกคนนึงที่อยู่ธรรมศาสตร์ที่เป็นแฟนเก่าผมคนละคนกันนะ เขาก็อยู่อายุรกรรม แต่เคสนั้นได้ลา

อดีตแฟนของผมเป็นหมอหลายคนมากไม่ใช่แค่สองคนนี้ ผมก็พอรู้ระบบทางการแพทย์อยู่แหละถึงจะรู้ไม่ได้ลึกเหมือนคนที่เรียนสายวิทย์มาโดยตรงก็เถอะ เพราะผมเรียนไทยสังคม

แต่จากที่ผมไปถามเพื่อน ถามอดีตแฟนเก่า เขาก็พูดมาเหมือนที่หมอชันสูตรพูดนั่นแหละครับ
เขายุให้ฟ้องเลย แต่ต้องหาหนทางในการฟ้องดีๆ
โรงพยาบาลระดับนี้มันไม่ยอมให้ตัวเองเสียหรอก
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ไม่รู้ว่าตอบไปแล้วจขกท จะหาว่าผมเข้าข้างหมอหรือไม่นะครับ
แต่จะขอตอบเป็น 4 ประเด็นนะครับ
1. เรื่อง ข้อบ่งชี้ในการเจาะคอ
- ที่จขกท บอกว่า "ว่าแค่เป็นเบาหวานมันจำเป็นต้องใส่ท่อเจาะคออะไรขนาดนี้เลยหรอ มันไม่ใช่โรคติดเชื้อหรือโรคระบบประสาทที่ทำให้แกหายใจเองไม่ได้ทำ" เรื่องนี้ต้องไปดูที่เวชระเบียนครับว่าตอนที่ไปนอนรพ ไปนอนด้วยเรื่องอะไร ที่บอกว่าหายใจเองไม่ได้นี่เกิดจากสาเหตุอะไรก็คงต้องถามแพทย์เจ้าของไข้โดยตรงครับ
- ในส่วนของข้อบ่งชี้ในการเจาะคอขอเอาเป็นภาษาอังกฤษมาเลยละกันนะครับ หลักๆ คือ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจนานเกินไป มีปัญหาเรื่องการหายใจ หรือมีปัญหาเรื่องทางเดินหายใจส่วนบนอุดกลั้นทำให้ไม่สามารถหายใจได้เอง
Prolonged intubation
Facilitation of ventilation support/weaning
More efficient pulmonary hygiene (i.e., managing secretions)
Upper airway obstruction
   Stridor, air hunger, retractions
   Obstructive sleep apnoea with documented arterial desaturation
   Bilateral vocal cord paralysis
Inability to intubate
Adjunct to major head or neck surgery/trauma management
Airway protection (neurological disease, traumatic brain injury)

2. เรื่องเสียชีวิตจากการเจาะคอ
- การเจาะคอมีภาวะแทรกซ้อนได้ เรื่องเลือดออกหลังจากเจาะคอนี่พบได้ค่อนข้างน้อย แต่ส่วนใหญ่แล้วเลือดออกหลังเจาะคอจะแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลาคือ แบบเฉียบพลันซึ่งมักเกิดจากการไปตัดโดนหลอดเลือดใกล้ๆ ซึ่งจะมีอาการเลือดออกตั้งแต่ 1-2 วันแรก และส่วนใหญ่จะมีอาการแบบที่จขกท กล่าว กับระยะหลังผ่าตัดตั้งแต่ 1 สัปดาห์เป็น ต้นไป เลือดจะออกช่วงหลังทำประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งมักเกิดจากการอักเสบบริเวณใกล้ๆ แล้วไปกดโดนหลอดเลือดข้างเคียง หรือจากการโดนกดของหลอดลมเอง
- Late haemorrhage is generally due to the tracheostomy tube eroding through the wall of the trachea or a major vessel.
- คิดว่าถ้าหมอให้กลับบ้านไปแล้วน่าจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนแบบเฉียบพลันจึงให้กลับบ้านได้ ส่วนเรื่องเลือดออกก็ต้องดูว่าเลือดออกหลังจากเจาะคอกี่วัน แต่คิดว่าน่าจะเป็น Late hemorrhage นะครับ

3. เรื่อง ทำไมไม่ฟิลม์หลังเจาะคอ
- ปกติภาวะเลือดออกหลังการเจาะคอ การทำฟิลม์จะไม่สามารถเห็นเลือดออกได้ และถ้าเลือดออกแค่ซึมๆ ช่วงแรกๆ ก็จะไม่เห็นเลือดครับ และส่วนใหญ่การทำฟิลม์มักจะใช้ในการดูภาวะลมรั่วในปอดหลังเจาะคอ ไม่ได้ใช้ดูเลือดออกหลังเจาะคอด้วยครับ
- https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC5523006/
- https://onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1002/lio2.1302
- https://onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1111/coa.12233
- ที่เอามาให้ดูเป็นงานวิจัยที่บอกว่าการทำฟิลม์ไม่ช่วยในเรื่องการเปลี่ยนแปลงการดูแลรักษาหลังทำการเจาะคอครับ

4. เรื่องทำไมไม่นัดติดตามอาการ
- ปกติหลังให้ออกจากรพ แพทย์น่าจะนัด follow up อยู่แล้ว แต่แม่ของน้องคุณดันโชคร้ายเกิดภาวะแทรกซ้อนก่อนหรือเปล่าครับ ลองไปดูเรื่องบัตรนัดก่อนนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่