"เดินเข้าไปรักษา แต่กลับออกมาเป็นร่างไร้วิญญาณ"
เราอยากขอความเห็นจากเพื่อนๆ ใน Pantip ว่าเคสของเราที่พาคุณพ่อที่ตอนแรกไม่ได้ป่วยอะไรมากไปรักษาที่รพ. แต่กลับไม่ดีขึ้นและสุดท้ายต้องเสียคุณพ่อไป ควรจะเรียกร้องอะไรจากรพ. ไหม หรือทำใจปล่อยเรื่องไปและยอมจ่ายให้เรื่องมันจบ
เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 9 ธ.ค 67 พ่อเรามีอาการไอเยอะ และอ่อนแรงขาข้างซ้าย จึงพาพ่อไปหาหมอที่รพ.เอกชนแห่งนึง ย่านบางนา เข้าไปตรวจตอนแรกนึกว่าแค่มาเอายากลับบ้าน เพราะพูดคุยได้ปกติ กินข้าวได้ปกติ เดินได้แต่เหนื่อย ก็เลยไปตรวจ ปรากฏว่า พยาบาลบอกต้องไปแผนกฉุกเฉินเนื่องจากออกซิเจนต่ำ เอกซเรย์ปอด พบว่าปอดติดเชื้อ ต้องแอดมิด ICU เลย เราก็ตกใจไม่ได้เตรียมตัว แต่ก็ไว้ใจรพ.เพราะรักษาที่นี่มาตลอดทั้งครอบครัว
2 วันแรกอยู่ไอซียูอาการดูปกติมาก จนหมอบอกจะให้ย้ายไปห้องพิเศษได้พรุ่งนี้ แต่เหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นคืนนั้น หมอโทรมาบอกตอนเช้าว่าพ่อออกซิเจนต่ำผิดปกติ ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ น่าจะเกิดจากการสำลัก สำลักอาหารหรือเสมหะตัวเอง ก็บอกไม่ได้แน่ชัด (แต่ที่แน่ๆเกิดในรพ.ตอนที่นอนไอซียู)
หลังจากรักษาได้9วันในไอซียูและห้องพิเศษอีก8วัน รวม 17วัน หมอก็ให้กลับบ้านได้ แต่ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจแบบหนวดกุ้ง(เรียกทางการแพทย์ไม่รู้ ) และให้อาหารทางสายยาง เพราะต้องป้องกันการสำลักซ้ำ ต้องดูแลแบบนี้อีกระยะเป็นเดือนๆจนกว่าปอดจะหายดี ซึ่งพ่อรู้สึกว่าทรมานกับการดูแลแบบนี้มากๆเพราะกินอะไรทางปากไม่ได้เลย แม้กระทั่งน้ำ
ด้วยความที่พ่ออยากกลับบ้านมาก เราเร่งที่จะซื้ออุปกรณ์ทุกอย่างตามที่หมอแนะนำมาไว้ที่บ้าน และจ้างพยาบาลจากรพ.เอกชนแห่งนั้นมาดูแลพ่อต่อที่บ้าน(แต่มารู้ภายหลังว่าไม่ใช่พยาบาล เป็นแค่ผู้ช่วย เข้าใจว่าพยาบาลเพราะเราติดต่อที่เคาน์เตอร์พยาบาลห้องไอซียู และเขาก็โทรมาคุย เราจึงไม่ได้ซักประวัติด้วยความเชื่อใจรพ.)
เราจ้างจนท.คนนี้ 24ชม. เพื่อมาดูแลพ่อ ทั้งการฟีดอาหาร ดูดเสมหะ พ่นยา ดูแลทุกอย่างเหมือนรพ. สุดท้ายเพียงวันที่ 3 ของการกลับบ้านครั้งนี้คือครั้งสุดท้ายที่เราได้คุณกับพ่อ เพราะพ่อสำลักอาหารอีกครั้งที่บ้าน หลังจากที่จนท.คนนี้ฟีดอาหารให้พ่อ เรารู้เรื่องก็รีบนำส่งโรงพยาบาลเอกชนแห่วนี้(ที่เดิม)ทันที ไปถึงรพ.ก็พบว่ามีอาหารลงไปที่ปอด น่าจะเกิดจากการสำลัก และต่อมาเพียง 4 วัน ก็ติดเชื้อในกระแสเลือด และพ่อก็ได้จากไปด้วนหัวใจหยุดเต้นตอน ตี 4 ของวันที่ 2 ม.ค ที่ผ่านมา
โรงพยาบาลรักษายังไงให้แย่ลง? จากเดินได้กลายเป็นเสียชีวิต!
เราอยากขอความเห็นจากเพื่อนๆ ใน Pantip ว่าเคสของเราที่พาคุณพ่อที่ตอนแรกไม่ได้ป่วยอะไรมากไปรักษาที่รพ. แต่กลับไม่ดีขึ้นและสุดท้ายต้องเสียคุณพ่อไป ควรจะเรียกร้องอะไรจากรพ. ไหม หรือทำใจปล่อยเรื่องไปและยอมจ่ายให้เรื่องมันจบ
เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 9 ธ.ค 67 พ่อเรามีอาการไอเยอะ และอ่อนแรงขาข้างซ้าย จึงพาพ่อไปหาหมอที่รพ.เอกชนแห่งนึง ย่านบางนา เข้าไปตรวจตอนแรกนึกว่าแค่มาเอายากลับบ้าน เพราะพูดคุยได้ปกติ กินข้าวได้ปกติ เดินได้แต่เหนื่อย ก็เลยไปตรวจ ปรากฏว่า พยาบาลบอกต้องไปแผนกฉุกเฉินเนื่องจากออกซิเจนต่ำ เอกซเรย์ปอด พบว่าปอดติดเชื้อ ต้องแอดมิด ICU เลย เราก็ตกใจไม่ได้เตรียมตัว แต่ก็ไว้ใจรพ.เพราะรักษาที่นี่มาตลอดทั้งครอบครัว
2 วันแรกอยู่ไอซียูอาการดูปกติมาก จนหมอบอกจะให้ย้ายไปห้องพิเศษได้พรุ่งนี้ แต่เหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นคืนนั้น หมอโทรมาบอกตอนเช้าว่าพ่อออกซิเจนต่ำผิดปกติ ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ น่าจะเกิดจากการสำลัก สำลักอาหารหรือเสมหะตัวเอง ก็บอกไม่ได้แน่ชัด (แต่ที่แน่ๆเกิดในรพ.ตอนที่นอนไอซียู)
หลังจากรักษาได้9วันในไอซียูและห้องพิเศษอีก8วัน รวม 17วัน หมอก็ให้กลับบ้านได้ แต่ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจแบบหนวดกุ้ง(เรียกทางการแพทย์ไม่รู้ ) และให้อาหารทางสายยาง เพราะต้องป้องกันการสำลักซ้ำ ต้องดูแลแบบนี้อีกระยะเป็นเดือนๆจนกว่าปอดจะหายดี ซึ่งพ่อรู้สึกว่าทรมานกับการดูแลแบบนี้มากๆเพราะกินอะไรทางปากไม่ได้เลย แม้กระทั่งน้ำ
ด้วยความที่พ่ออยากกลับบ้านมาก เราเร่งที่จะซื้ออุปกรณ์ทุกอย่างตามที่หมอแนะนำมาไว้ที่บ้าน และจ้างพยาบาลจากรพ.เอกชนแห่งนั้นมาดูแลพ่อต่อที่บ้าน(แต่มารู้ภายหลังว่าไม่ใช่พยาบาล เป็นแค่ผู้ช่วย เข้าใจว่าพยาบาลเพราะเราติดต่อที่เคาน์เตอร์พยาบาลห้องไอซียู และเขาก็โทรมาคุย เราจึงไม่ได้ซักประวัติด้วยความเชื่อใจรพ.)
เราจ้างจนท.คนนี้ 24ชม. เพื่อมาดูแลพ่อ ทั้งการฟีดอาหาร ดูดเสมหะ พ่นยา ดูแลทุกอย่างเหมือนรพ. สุดท้ายเพียงวันที่ 3 ของการกลับบ้านครั้งนี้คือครั้งสุดท้ายที่เราได้คุณกับพ่อ เพราะพ่อสำลักอาหารอีกครั้งที่บ้าน หลังจากที่จนท.คนนี้ฟีดอาหารให้พ่อ เรารู้เรื่องก็รีบนำส่งโรงพยาบาลเอกชนแห่วนี้(ที่เดิม)ทันที ไปถึงรพ.ก็พบว่ามีอาหารลงไปที่ปอด น่าจะเกิดจากการสำลัก และต่อมาเพียง 4 วัน ก็ติดเชื้อในกระแสเลือด และพ่อก็ได้จากไปด้วนหัวใจหยุดเต้นตอน ตี 4 ของวันที่ 2 ม.ค ที่ผ่านมา