JJNY : แฉทีมไอโอโจมตีคนเห็นต่างทำยอดได้เงิน/นักสิทธิเหยื่อ แฉแจ้งจับใครไม่ได้/#รู้ทันIOแรง!!!/วางพวงหรีดหน้าบ้านส.ส.อนค.

แฉอีก เอกสารกลาโหม ติวทีมไอโอ โจมตีคนเห็นต่าง "ประยุทธ์" ทำยอดพุ่งได้เงินด้วย!
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3645068
 

 
วันที่ 25 ก.พ. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีพฤติกรรมยุยงปลุกปั่นสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน ปัจจุบันหากเข้าโลกออนไลน์จะพบบัญชีรายชื่อปลอม เพจปลอม โดยเอารูปตัวการ์ตูน รูปต่างๆที่ไม่ใช่ตัวเองมาตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ และออกปฏิบัติการคุกคามประชาชน
 
เราเรียกภารกิจแบบนี้ว่า “ไอโอ” หรือ ปฏิบัติการข่าวสาร เป้าหมายคือคุกคามประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพในการวิจารณ์รัฐบาล โดยการขุดประวัติบุคคลนั้นมาโพสต์ประจานเหมือนพฤติกรรมการล่าแม่มด ใช้ถ้อยคำเกลียดชังด่าทอประชาชน เข้าไปโพสต์ข้อความด่าทอนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม นักสิทธิมนุษยชน นักวิชาการ สร้างความเกลียดชัง เลือกเอาข้อมูลด้านเดียว ประโยคเดียว เพื่ออวยกองทัพ
 
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า การทำงานของไอโอเหล่านี้มีรูปแบบทำซ้ำทุกครั้ง มีวงรอบปฏิบัติการวนไปรายชั่วโมงเหมือนเดิมทุกวัน และแล้วเจ้าหนูโคนันก็เจออีก เมื่อเจอเอกสารทางราชการ 3 ฉบับ ของกระทรวงกลาโหม ฉบับแรกลงวันที่ 25 เมษยน 2562 ในเอกสารมีการซักซ้อมการปฏิบัติการข่าวสารที่หน่วยเหนือมอบให้แต่ละวัน มีการสอนการโพสต์ว่าไม่ต้องเรียงลำดับหัวข้อตามภารกิจที่มอบให้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับได้ว่าเป็นบัญชีผู้ใช้ปลอมหรือเรียกว่าอวตาร มีการสนับสนุนค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ตทุกสิ้นเดือน เดือนละ 2,000 บาท
 
ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 22 พ.ย.2562 เอกสารนี้อ้างถึงการประชุมวันที่ 4 พ.ย.2562 และอ้างว่าเป็นข้อสั่งการของนายทหารระดับพลโท ให้หน่วยระดับกองพล และระดับกรม ตรวจสอบยืนยันตัวผู้ปฏิบัติการข่างสารที่ตั้งไว้หน่วยละ 5 นาย ส่งข้อมูลทุกวันที่ 5 ของเดือน มีการประชุมผ่านวิดีโอเทเลคอนเฟอร์เร้นทุกวันจันทร์ – ศุกร์ มีค่าโทรศัพท์ที่กองทัพบกจัดสรรให้เจ้าหน้าที่ไอโอ เดือนละ 300 บาท และยังมีเงินรางวัล และประกาศนียบัตรให้กับเพจ
 
และผู้ปฏิบัติงานที่มีผู้ติดตามสูงสุดในสื่อโซเชียลทุกเดือน รางวัลละ 3,000 บาท และเอกสารลงวันที่ 22 พ.ย.2562 อีกฉบับ ที่มีการสนับสนุนค่าโทรศัพท์ให้เจ้าหน้าที่ไอโอคนละ 100 บาท
 
ทั้งนี้ สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นกองทัพจะทำเองโดยพละการไม่ได้ ต้องมีการคำสั่ง ดังนั้น ภารกิจคุกคามจึงเป็นการปฏิบัติการคำสั่งโดยมิชอบ โดยพล.อ.ประยุทธ์ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ตนอยากให้มินิฮาร์ทนายกฯเหลือเกินว่าทำไปได้อย่างไร
 
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม กระบวนการไอโอทั้งหมด เราสืบทราบว่าจะมีภารกิจ 20 ภารกิจเศษ โดยจะมีกรุ๊ปไลน์ 3 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกเป็นกลุ่มของผู้บังคับบัญชา กลุ่มที่สองเป็นไลน์ส่งมอบภารกิจให้กับหน่วยปฏิบัติการ และสามเป็นกลุ่มรายงานผล และชี้วัดภารกิจในแต่ละวัน เช่น ไลน์กรุ๊ปที่ชื่อ “รายงานมิติเพจในพื้นที่ ทภ.2” เป็นต้น
 
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่แต่ละคนจะมีบัญชีปลอมสองบัญชี โดยตนขอเปิดข้อความบางส่วนในไลน์กรุ๊ปที่สอง ซึ่งระบุชัดเจนในการออกคำสั่งให้คุกคามพรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องยกเลิกการเกณฑ์ทหาร
 
อีกทั้งยังให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติภารกิจในเฟซบุ๊กต่างๆที่เป็นลบต่อรัฐบาลด้วย โดยลักษณะทั้งกดเศร้า กดโกรธ แสดงความเห็นคุกคาม เพื่อด้อยค่าฝั่งเห็นต่าง และยังมีภารกิจอวยเพจต่างๆที่เป็นบวกกับรัฐบาล ทั้งกดไลค์ กดเลิฟ ให้กับเนื้อหาที่เป็นบวกกับรัฐบาล รวมทั้งในทวิตเตอร์ก็ใช้วิธีการเดียวกัน
 
นายวิโรจน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ เป้าหมายไอโอ คือประชาชน นักวิชาการ และคนธรรมดา ที่โพสต์หลักการ และมีจำนวนคนแชร์มาก และยังมีการล็อกเป้าสื่อ แม้แต่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ก็โดน ตนจึงหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ทบทวน
 
ทั้งนี้ มีหลายหน่วยในกองพันเดียวกัน มากกว่า 1,000 คน คอย นายกฯจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของท่าน ใช้งบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนยุยงปลุกปั่นประชาชน
 
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดเป็นเพียงปลายน้ำ ต้นน้ำ ที่ตนไปสืบเบื้องต้นเกี่ยวพันกับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง โดยบริษัทนี้ชื่อย่อว่า “พ และ พ” มีที่ตั้งอยู่ที่พญาไท โดยมีผู้ถือหุ้น 3 คน หนึ่งในนั้นมีตัวย่อ “ส.” ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวพันกับผู้ผลิตเนื้อหาสร้างความเกลียดชังป้อนให้กับหน่วยงานเหล่านี้ ตนขอฝากเจ้าหน้าที่ที่ทำภารกิจไอโอ ว่าภารกิจไอโอที่ท่านได้รับ ภายใต้การรู้เห็นของนายกฯ ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการสร้างความมั่นคงของชาติ
 
แต่เป็นความมั่นคงในการสืบทอดอำนาจของตัวเอง และรัฐบาลที่มาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วันนี้ตนพบคำตอบแล้ว ที่เราเกลียดกันไม่ใช่เพราะอยู่ดีๆแล้วเราเกลียดกัน แต่ในกระบวนการที่รู้เห็นนี้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของพล.อ.ประยุทธ์ ที่พยายามบ่มเพาะเมล็ดแห่งความเกลียดชังในสังคม
 
โดยสั่งการให้กองทัพทำในสิ่งที่เสื่อมเสียเกียรติภูมิของทหาร ถึงเวลาที่ประชาชนต้องเลิกเกลียดกันเสียที เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของพล.อ.ประยุทธ์  และขอเตือนพล.อ.ประยุทธ์ ว่าหากเกิดโศกนาฏกรรมที่คนไทยต้องฆ่ากันอีกครั้ง ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร
 
นอกจากนี้ ขอยืนยันว่า ตนไม่เกี่ยวข้องกับเพจพระเจ้า ตนได้หลักฐานจากทหารไอโอที่เกลียดพฤติกรรมเหล่านี้ และเอามาผสมผสานกับข้อมูลในเพจพระเจ้าที่อาจเกี่ยวเนื่องกัน ความผิดนี้ของพล.อ.ประยุทธ์ ค่อนข้างฉกรรจ์ จนสภา และประชาชนมิอาจแค่ไม่ไว้วางใจ แต่แค่ให้อภัยก็ไม่สมควร
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปรายนายวิโรจน์ ได้เปิดคลิปสัมภาษณ์ทหารในกระบวนไอโอ ที่ระบุว่ากระบวนการดังกล่าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง
 
และระหว่างที่นายวิโรจน์ อภิปรายอยู่นั้นบรรยากาศในห้องประชุมเริ่มตึงเครียด ส.ส.พรรคฝ่ายรัฐบาล ได้ประท้วงการอภิปรายของนายวิโรจน์ โดยนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นกล่าวว่า ตนเข้าไปดูในเพจชื่อเพจ “พระเจ้า” มีการนำรูปภาพตนไปลงในเพจ เชื่อมโยงข่าวการซื้อตัวส.ส.
 
นอกจากนั้น ยังพบว่าเพจดังกล่าวระบุว่า จะส่งข้อมูลการอภิปรายเรื่องไอโอให้ส.ส.ในสภา ดังนั้น เมื่อได้ฟังการอภิปรายของนายวิโรจน์ จึงเห็นว่าเป็นการทำงานร่วมกัน และเพจดังกล่าวมีเนื้อหาสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ ดังนั้น ที่กล่าวหาว่ามีการทำไอโอ ซึ่งเพจดังกล่าวก็มีการทำไอโอกับตนด้วย เพราะมีการใส่ร้ายป้ายสีตน ในขณะที่กล่าวหาว่าเขาทำไอโอ ท่านก็ไอโออยู่ กล่าวหาว่าเขาไม่สุจริต ท่านก็มาด้วยมือที่ไม่สะอาดเหมือนกัน
 


นักสิทธิชายแดนใต้ เหยื่อโดนบูลลี่ จี้ บิ๊กตู่ ตอบปมไอโอ แฉแจ้งความ 2 ครั้ง จับใครไม่ได้
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3645525

หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีพฤติกรรมยุยงปลุกปั่นสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน
 
โดยใช้ “ไอโอ” หรือ ปฏิบัติการข่าวสารคุกคามประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพในการวิจารณ์รัฐบาล โดยการขุดประวัติบุคคลมาโพสต์ประจานเหมือนพฤติกรรมการล่าแม่มด ใช้ถ้อยคำเกลียดชังด่าทอประชาชน
 
โดยในเรื่องนี้ นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนักสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ตกเป็นเหยื่อการใช้ข่าวสารโจมีในทางเสียหาย ได้แสดงความคิดเห็นหลังมีการอภิปราย ประเด็นไอโอ ความว่า 

โป๊ะแตกIO : นึกว่าใครอยู่เบื้องหลัง IO ใส่ร้าย กล่าวหา บิดเบือนการทำงานของนักสิทธิมนุษยชน ซึ่งเรื่องนี้ปรากฎในรายงานของเลขาธิการสหประชาติ - 2019 SG Report on Reprisal
 
นายกรัฐมนตรีต้องตอบคำถามในเรื่องนี้ เนื่องจากการกระทำของ IO ทำให้เกิดความเสียหายและอับอายไปทั่ว พร้อมระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความกับ บก.ปอท. ถึง 2 ครั้ง หลังถูก IO ลงข้อความทำให้เสื่อมเสีย ซึ่งการอภิปรายดังกล่าวที่เปิดเผยถึงเบื้องหลังของ IO ทำให้เข้าใจเลยว่าทำไมตำรวจถึงยังไม่สามารถจับกุมใครได้เลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่