ย้อนรอย Lan Mozambique 470 สัญญาณเตือนก่อน Germanwings 9525

หลายๆ คนคงไม่เคยลืมเหตุกาณ์เมื่อวันที่ 24 มินาคม 2015 คือเหตุการณ์หายนะที่ทำให้ตื่นตระหนกไปทั้งโลกแต่อันที่จริงเหตุการณ์ดังกล่าวมีสัญญาณเตือนมาก่อนหน้านั้นถึง 2 ปีแล้ว แต่กลับไม่เป็นที่สนใจของสื่อเท่าที่ควร

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2013 

สายการบิน Lan Mozambique 470 เดินทางจากมาปูโต ประเทศโมซัมบิก ไปยัง ลูอันดา ประเทศแองโกล่า  เครื่องออกบินเวลา 9.26 นาที และมีกำหนดลงจอดเวลา 13.10 

กัปตัน เฮอมินิโอ เฟอร์นันเดซ อายุ 49 ปี เขาเป็นนักบินประสบการณ์สูงของบริษัทร่วมทั้งยังมีใบอนุญาตการบินของบริษัทอีกด้วย อีกทั้งยังผ่านการตรวจสุขภาพมาเมื่อเดือนสิงหาคม วันนี้เขาจะบินนักบินผู้ช่วยอายุ 24 ที่พึ่งเข้าทำงานกับสายการบิน โดยพึ่งจะได้ Commercial Pilot License มา โดยสำหรับสายการบินการให้นักบินมือใหม่บินร่วมกับกัปตันมากประสบการณ์เป็นเรื่องปกติ


เครื่องใช้เวลา 20 นาทีไต่ระดับขึ้นไป 38,000  ฟิต เส้นทางการบินของเที่ยวบิน 470 จะผ่าน บอตสวานา ไปถึงแองโกล่า ใช้เวลา 4 ชั่วโมง


ผู้โดยสารเที่ยวบินนี้มี 27 คน  รวมลูกเรืออีก 6 คนเป็น 33 คน ค่อนข้างโล่งกับเส้นทางที่เป็นรูทหลักของสายการบิน


เครื่องที่ใช้การบินคือเครื่อง 2 เครื่องยนต์ Embraer 190 สัญชาติบราซิล พึ่งรับมาได้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012 บินมาได้มากกว่า 2900 ชั่วโมงเป็นเครื่องที่นิยมมากในสายการบินระดับภูมิภาค ที่มีผู้โดยสารไม่เยอะ 


45 นาทีหลังจากเทคออฟ FO ติดต่อไปยังหอควบคุมการบินบอสวาน่า เขตน่านฟ้ากาบาโรน โดย ATC ให้นักบินรายงานเส้นทางการบินเมื่อผ่านเส้นสมมุติจุดแรกไปแองโกล่า พวกเขาจะรายงานตอน 10.20 


แต่เมื่อผ่านมาได้ชั่วโมงกว่าหลังการติดต่อครั้งสุดท้าย ATC ไม่ได้รับข้อความจากเที่ยวบิน 470 อีกเลย เวลานี้พวกเขาควรจะบินเข้าน่านฟ้าแองโกล่าแล้ว ATC จึงแจ้งให้นักบินเปลี่ยนคลื่นความถี่ใหม่สำหรับหอบังคับการแองโกล่า 


แต่ไม่มีการติดต่อกลับ 

ผ่านไป 5 นาที เรื่องนี้ทำให้ ATC ไม่สบายใจเขาติดต่อไปหอบังคับการลูวันด้า เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องอยู่ในน่านฟ้าของพวกเขาแล้ว แต่คำตอบชวนน่าหวั่นใจเมื่อลูวันด้าแจ้งว่าพวกเขาไม่เห็นเครื่องอยู่ในเรดาห์


เครื่องไม่มีการแจ้งสถานการณ์ฉุกเฉินอะไร ทีมค้นหาจาก 3 ประเทศ บอสวาน่า แองโกล่า นามิเบีย เริ่มการค้นหาเครื่องบินทันที 


หอบังคับการนามิเบียย้อนเวลาหน้าจอเรดาห์เพื่อดูว่ามีเที่ยวบิน 470 อยู่ในเรดาห์หรือไม่ และพวกเขาก็เห็นเครื่องในหน้าจอแต่เครื่องทำในสิ่งที่ผิดปกติ

 

ทีมสืบสวน DAAI พบว่าเครื่องลดระดับลงมาในอัตรา 100 ฟิตต่อวินาที ที่ความสูง 3800 ฟิต ก่อนจะหายไปจากจอเรดาห์ พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอุทยาน  Bwabwata National Park ทีมสืบสวนสงสัยเวลาที่ลดระดับลงประมาณ 6 นาทีเพียงพอที่จะแจ้งสถานการณ์ฉุกเฉินทำไมถึงไม่ทำ พวกเขาหวังว่าเครื่องจะลงจอดในพื้นที่โล่ง


ทีมค้นหาลงพื้นที่เกิดเหตุทันที และเจอซากเครื่องไม่นานนักจากเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนป่าไม้ ผู้โดยสารรวมลูกเรือ 33 คนเสียชีวิตทั้งหมด จุดที่พบซากเป็นพื้นที่ ที่ทุรกันดารอย่างมาก เครื่องแตกละเอียดทั้งลำ


ทีม DAAI เก็บซากและตรวจพื้นที่ทั้งหมด พวกเขาทราบว่าเครื่องลดระดับลงมาชันมากแต่จากมุมที่ตกเครื่องมุ่งหน้าไปลูวันด้า พวกเขาไม่ได้ออกนอกเส้นทาง แต่พวกเขาก็พบกับดินที่สไลด์ยาว 2 จุดเมื่อคำนวณออกมามันเป็นส่วนของเครื่องยนต์อีกทั้งสภาพซากอยู่วงที่แคบมาก แปลงเป็นภาพออกมาได้ว่าเครื่องตกในสภาพที่ร่อนลงมาด้วยความเร็วสูง 

 
 
เมื่อตรวจดูสภาพล้อไม่กางออก ทำให้พวกเขาวิเคราะห์ได้ว่ามันไม่ใช้การลงจอดฉุกเฉิน นี้คือเบาะแสแรก

 
ทีมสืบสวนค้นพบกล่องดำของเที่ยวบิน 470 พวกเขาส่งไปให้ NTSB ดาวน์โหลดข้อมูลทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่อีกทั้งพวกเขายังได้ส่ง
เดนนิส โจนส์ เข้าร่วมการสืบสวนด้วย เขาทำงานสืบสวนเครื่องบินในแอฟริกามาตั้งแต่ปี 1996 และสืบสวนมามากถึง 24 เคสแล้ว ถือเป็นเจ้าหน้าที่มากความสามารถคนนึง

 

พวกเขาไม่พบหลักฐานว่ามีไฟเกิดขึ้นและจากสภาพพื้นที่และเส้นทางบิน อธิบายได้ว่านักบินยังควบคุมเครื่องได้ คำถามคือถ้านักบินยังควบคุมได้ทำไมมันถึงตก 

พวกเขากังวลว่าเครื่องยนต์ที่มีปัญหาจะเป็นสาเหตุแต่จากการตรวจซากมันทำงานตามปกติตอนที่เครื่องตก


การสืบสวนผ่านมาได้ 1 อาทิตย์ พวกเขาย้านฐานไปยังสำนักงาน DAAI และตรวจเอกสารการบินทั้งหมดของบริษัท เครื่องรับมาได้ 1 ปีกว่าๆ และซ่อมบำรุงโดยสายการบินทุกอย่างทุกอย่างปกติ 


พวกเขามาดูปัจจัยอื่น พวกเขาขอข้อมูลสภาพอากาศเวลานั้นว่าเป็นอย่างไรและส่งผลพอที่จะให้เครื่องตกหรือไม่ แต่สิ่งที่พบสภาพอากาศนั้นดีเยี่ยมอย่างยิ่งสำหรับการบิน


พวกเขาไม่เหลือปัจจัยอะไรอีก จะเหลือก็แต่เพียงตัวนักบิน เท่านั้น กัปตันเฟอร์นันเดซ นอกจากจะประสบการณ์สูง เครื่อง Embraer 190 ยังมีชั่วโมงบินถึง 2500 ชั่วโมงอีกด้วยเท่านั้นยังไม่พอการจับคู่กับ FO ที่ประสบการณ์น้อยก็ถูกต้องอย่างยิ่ง ทุกอย่างปกติหมดเลย 


ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนด้านจิตวิทยานักบิน  มัลคอม เบรนเนอร์ ได้เข้ามาเป็นที่ปรึกษากับทีมสืบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย


ทีมสืบสวนมืดแปดด้านว่ามันเกิดอะไรกับขึ้น พวกเขาได้แต่รอของสำคัญอย่างเดียว กล่องดำ จาก NTSB หลังจากการตกผ่านมาได้ 2 อาทิตย์ พวกเขาก็ได้ข้องมูลการบินทั้งหมดจากวอชิงตัน FDR และ CVR พร้อมใช้งานแล้ว 


ทีมสืบสวนฟังเทปบันทึกไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง FO ได้ขอกัปตันไปเข้าห้องน้ำ และฝากกัปตันรับผิดชอบการบินต่อ  ผ่านไป 6 นาที ที่เงียบสนิทพวกเขาก็ได้ยินเสียงสำคัญ


FO กลับมาแล้ว แต่เขาเปิดประตูไม่ได้ ไม่มีการตอบกลับอะไรเลย เสียงเคาะประตูยังคงดังอย่างต่อเนื่อง 


ระหว่างการบินประตูห้องนักบินจะล็อกอัตโนมัติแต่สามารถเปิดออกได้ด้วยรหัสผ่านแต่ FO พยายามกดรหัสแล้วก็ไม่ยอมเปิดและกัปตันก็ไม่ยอมตอบสนอง

 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่