นักบินผู้ช่วย Germanwings พูดเป็นนัย!!! การทำบางสิ่ง เพื่อให้ชื่อของตัวเองเป็นที่จดจำของคนทั้งโลก!!!

ลูบิตซ์ เคยพูดทีเล่นทีจริงกับเธอเมื่อปีที่แล้ว ว่า
สักวันหนึ่งจะทำ "บางสิ่ง" ที่สามารถเปลี่ยนแปลงกลไกทางสังคมของโลกทั้งใบ
และเพื่อให้ชื่อของตัวเองเป็นที่จดจำของคนทั้งโลกตราบนานเท่านาน

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นักบินผู้ช่วย Germanwings พูดเป็นนัย!!! การทำบางสิ่ง เพื่อให้ชื่อของตัวเองเป็นที่จดจำของคนทั้งโลก!!!

28 มีนาคม 2558



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองดึสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ว่าหนังสือพิมพ์รายวันชื่อดังของเยอรมนี "บิลด์" ฉบับวันเสาร์ ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินสาววัย 26 ปี ซึ่งเป็นอดีตคนรักของนายอังเดรอาส ลูบิตซ์ นักบินผู้ช่วยของเยอรมันวิงส์ ลำที่ประสบอุบัติเหตุตกในเทือกเขาแอลป์สทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เมื่อวันอังคาร คร่าชีวิต 150 ศพ และพนักงานสืบสวนเชื่อว่า ลูบิตซ์ วัย 27 ปี "เจตนา" ควบคุมให้เครื่องบินพุ่งชนกระแทกเข้ากับภูเขาด้วยความเร็วสูง

หญิงสาวซึ่งขอเผยตัวเพียงชื่อ "มาเรีย" กล่าวว่า ลูบิตซ์เคยพูดทีเล่นทีจริงกับเธอเมื่อปีที่แล้ว ว่าสักวันหนึ่งจะทำ "บางสิ่ง" ที่สามารถเปลี่ยนแปลงกลไกทางสังคมของโลกทั้งใบ และเพื่อให้ชื่อของตัวเองเป็นที่จดจำของคนทั้งโลกตราบนานเท่านาน เธอยอมรับว่า ในเวลานั้นยังไม่เข้าใจความหมายแท้จริงของคำพูดดังกล่าว จนกระทั่งถึงวันที่เกิดโศกนาฏกรรมที่สร้างความตกตะลึงให้กับคนทั้งโลก มาเรียยอมรับว่า ตอนนี้เธอเข้าใจ "ความต้องการ" ของลูบิตซ์อย่างแจ่มแจ้งแล้ว

มาเรียกล่าวด้วยว่า การได้เป็นนักบินของลุฟต์ฮันซาคือความใฝ่ฝันสูงสุดในอาชีพของลูบิตซ์ แต่การก้าวถึงตำแหน่งกัปตันหรือนักบินควบคุมเครื่องบินในเส้นทางบินระยะยาวดูเหมือนยากจะเป็นไปได้ ด้วยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ "สุขภาพ" อย่างไรก็ตาม หญิงสาวเลิกรากับลูบิตซ์เมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากวุฒิภาวะทางอารมณ์ของฝ่ายชายที่ "ไม่มั่นคง" อย่างรุนแรง ทั้งที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานถึง 7 ปี และวางแผนจะแต่งงานกันในปีหน้า

ทั้งนี้ ผลการวิเคราะห์กล่องบันทึกข้อมูลการบินทำให้ทีมสืบสวนตั้งสมมติฐานว่า ลูบิตซ์อาศัยจังหวะที่กัปตันลุกออกจากที่นั่งเพื่อไปเข้าห้องน้ำ กดล็อกประตูแล้วเริ่มลดเพดานบินลงสู่ระดับต่ำ เพื่อนำเครื่องพุ่งชนเข้ากับเทือกเขาแอลป์ส ขณะที่อัยการไม่พบเบาะแสเชื่อมโยงการก่อการร้าย เว้นแต่เอกสารทางการแพทย์ในสภาพถูกฉีกขาด ที่มีข้อความจากโรงพยาบาลกำกับว่า ลูบิตซ์ "ไม่พร้อม" สำหรับการเป็นนักบิน ทำให้เกิดความสงสัยว่า ลูบิตซ์พยายามปกปิดอาการป่วยของตัวเองต่อนายจ้าง

http://www.dailynews.co.th/Content/foreign/310669/นักบินผู้ช่วยเยอรมันวิงส์พูดจาเป็นนัยก่อนเกิดเหตุ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์          

28 มีนาคม 2558



เอเอฟพี – นักบินผู้ช่วยของสายการบิน เยอรมันวิงส์ ซึ่งนำแอร์บัสพร้อมผู้โดยสาร 149 ชีวิตพุ่งชนเทือกเขาแอลป์ เคยพูดกับอดีตแฟนสาวว่า “วันหนึ่งทุกคนจะรู้จักชื่อผม” หนังสือพิมพ์บิลด์ (Bild) ของเยอรมนีรายงานล่าสุดวันนี้ (28 มี.ค.)
      
       แอร์โฮสเตสสาววัย 26 ปี ซึ่งมีชื่อว่า มาเรีย ว. (Maria W.) ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับ บิลด์ หลังทราบข่าวโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน 4U9525 ซึ่งทำให้เธอนึกขึ้นได้ว่า อันเดรียส ลูบิตซ์ เคยพูดกับเธอเมื่อปีที่แล้วว่า “สักวันหนึ่งผมจะเปลี่ยนแปลงระบบโดยสิ้นเชิง... ทุกคนจะได้รู้จักชื่อผม และจดจำผมไว้”
      
       ข้อมูลจากอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบินบ่งชี้ว่า ลูบิตซ์ วัย 27 ปี จงใจล็อกประตูห้องนักบินไม่ให้กัปตันเข้า จากนั้นก็ขับแอร์บัส A320 ไปพุ่งชนภูเขาซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลบนเทือกเขาแอลป์ฝรั่งเศส
      
       นายกรัฐมนตรี มานูเอล วอลล์ แห่งฝรั่งเศส แถลงว่า หลักฐานทั้งหมดล้วน “ชี้ชัดว่าเป็นการกระทำของนักบินที่ไม่รู้จะอธิบายว่าอย่างไร... เป็นทั้งอาชญากรรม ความบ้าคลั่ง และการฆ่าตัวตาย”
      
       อัยการเยอรมนีเผยว่า จากการตรวจค้นบ้านของ ลูบิตซ์ พบ “เอกสารทางการแพทย์ระบุว่าเขาป่วย แต่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม” นอกจากนี้ยังพบใบลางานของ ลูบิตซ์ ซึ่งลงวันที่ครอบคลุมถึงวันเกิดเหตุด้วย
      
       แอร์โฮสเตสสาวบอกกับผู้สื่อข่าวบิลด์ว่ารู้สึก “ช็อก” กับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเมื่อปีที่แล้วเธอเคยบินไฟลท์เดียวกับ ลูบิตซ์ ในเส้นทางยุโรปอยู่ประมาณ 5 เดือน จนใกล้ชิดสนิทสนมกันเกินเพื่อน
      
       มาเรีย บอกว่า ถ้า ลูบิตซ์ จงใจขับเครื่องบินไปชนภูเขาจริง “คงเพราะเขาเสียใจว่าโรคที่เป็นอยู่จะทำให้หมดโอกาสทำตามฝัน และไม่มีวันได้เป็นกัปตันควบคุมเที่ยวบินระยะไกลของลุฟต์ฮันซาได้”
      
       มาเรีย ตัดสินใจแยกทางกับ ลูบิตซ์ “เพราะเห็นชัดขึ้นทุกวันว่าเขาเป็นคนมีปัญหา” เธอยังเล่าว่าฝ่ายชายนอนฝันร้ายบ่อยๆ และเคยตื่นขึ้นมาร้องตะโกนลั่นว่า “เรากำลังจะตกแล้ว”
      
       รายงานฉบับก่อนหน้าของ บิลด์ ได้อ้างข้อมูลจากเอกสารของสำนักงานการบินกลางเยอรมนี (LBA) ซึ่งระบุว่า ลูบิตซ์ เคยมีอาการเครียดจัดจนต้องไปพบจิตแพทย์เมื่อปี 2009 และยังพบแพทย์อยู่เป็นระยะๆ ก่อนจะก่อวินาศกรรมเครื่องบินตัวเอง
      
       คาร์สเตน สปอร์ ซีอีโอลุฟต์ฮันซา เปิดเผยว่า ลูบิตซ์ เริ่มเข้าคอร์สฝึกเป็นนักบินเมื่อปี 2008 แต่เคยขอพักการฝึกอบรม “ชั่วระยะเวลาหนึ่ง” หลังจากนั้นก็กลับเข้าอบรมต่อจนมีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับการเป็นนักบินแอร์บัส เอ320 เมื่อปี 2013
      
       ผู้โดยสารและลูกเรือ 150 คนบนเที่ยวบิน 4U9525 เป็นชาวเยอรมันครึ่งหนึ่ง และมีชาวสเปนอย่างน้อย 50 คน ส่วนที่เหลือเป็นพลเมืองจากกว่า 10 ประเทศ
      
       เมื่อวานนี้ (27) เยอรมันวิงส์ประกาศจะจ่ายเงินช่วยเหลือเฉพาะหน้าแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต สูงสุดรายละ 50,000 ยูโร โดยเงินจำนวนนี้ผู้รับไม่ต้องจ่ายคืน และเป็นคนละส่วนกับเงินชดเชยที่ทางสายการบินอาจจะต้องจ่ายตามกฎหมายอยู่แล้ว

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000036031

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่