เมื่อ 26 มี.ค. เอเอฟพีรายงานว่า ผลการสอบสวนเบื้องต้นสาเหตุเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 สายการบินเยอรมันวิงส์ ในเครือลุฟท์ฮันซา สัญชาติเยอรมัน ตกที่เทือกเขาแอลป์ในเขตประเทศฝรั่งเศส พบข้อมูลที่น่าตกตะลึงว่า นักบินผู้ช่วยล็อกห้องนักบินไว้ไม่ให้กัปตันเข้าไป กระทั่งเครื่องพุ่งชนเทือกเขาแอลป์ เป็นเหตุให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 150 รายเสียชีวิตทั้งลำ

ไบรซ์ โรบิน อัยการคดี กล่าวว่า กัปตันที่อยู่ด้านนอกพยายามเรียกนักบินผู้ช่วยแต่ไม่มีเสียงตอบ ในนาทีนั้น นักบินผู้ช่วยควบคุมเครื่องตามลำพัง ปล่อยให้เครื่องดิ่งลงเรื่อยๆ โดยผู้โดยสารเองก็ไม่รู้ความผิดปกติ กระทั่งในช่วงจังหวะสุดท้าย ตามที่มีรายงานว่า เครื่องดิ่งลงตลอด 8 นาทีก่อนกระแทกเทือกเขา

รายงานระบุด้วยว่า กัปตันของเครื่องลำนี้มีชั่วโมงบินกว่า 6,000 ชั่วโมง และมีประสบการณ์บังคับเครื่องแอร์บัสรุ่นข้างต้นกว่า 10 ปี แต่นักบินผู้ช่วยมีชั่วโมงบินเพียง 630 ชั่วโมง และเพิ่งเข้าทำงานกับสายการบินเมื่อเดือนก.ย.2556
ส่วนกล่องดำชิ้นที่สอง ซึ่งเป็นหน่วยบันทึกข้อมูลการบิน หรือเอฟดีอาร์ เจ้าหน้าที่พบเพียงกล่องภายนอกที่เสียหายบิดเบี้ยวอย่างรุนแรงจากแรงปะทะ แต่เครื่องชิ้นส่วนภายในยังไม่พบ

ขณะที่การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก เข้าถึงได้ด้วยเฮลิคอปเตอร์เท่านั้น เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่สูงชันเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 1,500 เมตร ขณะที่เครื่องแอร์บัสนั้นแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจายไปทั่วบริเวณ

วันเดียวกัน ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศสและนางแองเกลาแมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี พร้อมนายมาริอาโน ราฆอย นายกรัฐมนตรีสเปน เดินทางไปยังจุดฐานปฏิบัติการส่วนหน้าใกล้จุดเกิดเหตุเพื่อสังเกตการณ์ โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างลำเลียงชิ้นส่วนร่างเหยื่อผู้เสียชีวิต มายังฐานดังกล่าวเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์และยืนยันสัญชาติ

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU56TTNNVFl3T0E9PQ%3D%3D