ย้อนรอย Adam Air 574 จุดเริ่มต้นบัญชีดำการบินอินโดนิเซีย

จนถึงปัจจุบันในเอเชียประเทศที่เป็นที่รู้กันถึงชื่อเสียงที่ไม่ดีนักในด้านการบิน จนถึงทุกวันนี้ก็คงหนีไม่พ้น 2 ประเทศนี้ ไต้หวัน และ อินโดนีเซีย โดยเฉพาะ ประเทศอินโดนีเซีย วันที่  28 มิถุนายน ปี  2007คือวันสำคัญที่สะเทือนอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก และเราจะย้อนกลับไปติดตามเรื่องราวนี้กันอีกครั้งกันครับ และเพื่อเป็นอุทาหรณ์ด้านการบินให้กับสายการบินทั่วโลก 

นี่คือเรื่องจริงอ้างอิงจากรายงานอย่างเป็นทางการและบทสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้อง


วันที่ 1 มกราคม ปี  2007 วันปีใหม่ วันหยุดเฉลิมฉลองของชาวเมืองทั่วโลก ที่สนามบิน Juanda International Airport
สุราบายา ประเทศอินโดนีเซีย 


อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสายการบินต้นทุนต่ำ ด้วยจุดเด่นที่ให้บริการในราคาประหยัด และผู้โดยสารมีความต้องการแค่เดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ เป็นหลักเท่านั้นและไม่จริงจังกับการบริการเท่าไรนัก 


1 ในเที่ยวบินวันนั้นคือ สายการบิน Adam Air เที่ยวบินที่ 574 เป็นสายการบินน้องใหม่ เปิดตัวปี 2002 ด้วยสีที่เป็นเอกลักษณ์ และชุดยูนิฟอร์มที่สะดุดตา ทำให้กลายเป็น 1 ในสายการบินที่เป็นที่นิยมมากในอินโดนีเซีย


กัปตัน Refri Agustian Widodo มาอยู่กับสายการบินได้เพียง 6 เดือน นักบินที่ 1 Yoga Susanto อยู่กับสายการบินมาเกือบปีครึ่งแล้ว เที่ยวบินนี้มีผู้โดยสาร 96 คนลูกเรือ 6 คน


เครื่องที่ใช้คือ โบอิ้ง 737 - 4Q8 อายุ 18 ปี มีเที่ยวบินสะสมแล้วกว่า 50,000 ชั่วโมง วันนี้เที่ยวบินดังกล่าวจะบิน 2 ชั่วโมงจาก สุราบายา บนเกาะจาวาไปยัง มานาโด้ บนเกาสุลาเวสี ระยะทาง 1,700 กิโลเมตรไปทางเหนือ


เป็นเส้นทางที่มีสภาพอากาศแปรปรวนพอสมควร ในเวลานั้นอินโดนีเซียเข้าสู่ช่วงหน้าฝนพอดี สภาพอากาศนั้นคาดการณ์ได้ยาก

1 นาทีหลังจากขึ้นบิน นักบินเปิดระบบบินอัตโนมัติ ในหมวด NAV mode ซึ่งจะควบคุมและนำทางเครื่องไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า 


ที่ 22,000 ฟิต ATC เห็นเครื่องบินในเส้นทาง และนำทางต่อไปยังจุดหมาย DIOLA  


ในที่สุดพวกเขาก็พบสิ่งผิดปกติ Adam air บินออกนอกเส้นทางไปทางเหนือเข้าสู่พายุ 


ตอนนี้เครื่องอยู่กลางพายุฝน เมฆบดบังเส้นทางการบิน ตอนนี้นักบินไม่รู้แล้วว่าพวกเขาบินไปทางไหน ตำแหน่งปัจจุบันของพวกเขาอยู่ที่ 125 ไมล์ Mike Kilo Sierra กำลังผ่านรัศมีที่ 307 Mike Kilo sierra

โดยสภาพอากาศในตำแหน่งนั้นนักบินรู้ดีว่ามันไม่ดีเอาเสียเลย 


กัปตัน ตัดสินใจเข้าควบคุมแทนและขอให้ FO เปลี่ยนระบบไปที่ Attitude mode แทนซึ่งจะบังคับให้เครื่องบินไปตรงๆ 


แต่ระหว่างที่นักบินกำลังแก้ปัญหาเครื่องก็ส่งสัญญาณเตือน ระบบบินอัตโนมัติหยุดทำงาน และหน้าจอคอมพิวเตอร์ดับทั้งหมด 


ตามมาด้วยเครื่องเริ่มที่จะหมุนไปทางขวา กัปตันเปลี่ยนระบบกลับไปที่ NAV mode อีกครั้ง เพื่อกู้ระบบนำทางกลับคืนมา โดยที่ไม่รู้ตัวว่าเครื่องกำลังจะพลิกกลับหัวแล้ว


เท่านั้นยังไม่พอสัญญาณ GPWS ก็ดังตามขึ้นมาอีก จนในที่สุดเครื่องก็หายไปจากจอเรดาห์ 


ข่าวของ Adam air กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว และรัฐบาลอินโดนิเซียเริ่มทำการออกค้นหาในทันที และมอบหมายให้ คณะกรรมการความปลอดทางการคมนาคมของอินโดนิเซีย หรือ The National Transportation Safety Committee : NTSC โดย Frans Wenas รับผิดชอบการสืบสวน 


ปัญหาใหญ่ก็คือจากจุดที่เครื่องหายไป อยู่กลางทะเล เท่ากับงมเข็มในมหาสมุทร พวกเขาต้องกำหนดจุดว่าเครื่องจะตกตรงไหนหลังจากหายไปจากจอเรดาห์  อินโดนีเซียร่วมมือกับทหารเรือสหรัฐในการออกค้นหา

 

ระหว่างออกค้นหานั้นสื่อก็ประโคมข่าวว่าพบซากเครื่องบินตก พร้อมผู้รอดชีวิต 12 คนที่เกาะสุลาเวสี แต่เมื่อไปถึงพื้นที่ก็พบว่าเป็นซากเรือล่มจากพายุไม่ใช่เครื่องบิน 


สำหรับทีมสืบสวนกล่องดำเป็นสิ่งสำคัญ ทั้ง FDR และ CVR โดยกล่องดำมีอุปกรณ์บอกตำแหน่งที่เรียกว่า พิงเกอร์ซึ่งจะทำงานได้เพียง 30 วันจากแบตเตอร์รี่ในตัว 

ในที่สุด 9 วันหลังเกิดเหตุชาวประมง ก็พบซากของเครื่องบินห่างจากชายฝั่งสุลาเวสีไป 300 เมตร 


มันเป็นชิ้นส่วนปีกปรับระดับด้านขวา และพบว่ามันเป็นชิ้นส่วนของ Adam Air  574 จากเลขรหัสเครื่อง พวกเขาสามารถกำหนดให้แคบลงมาได้มากขึ้น


เมื่อเครื่องที่ตกเป็นของสหรัฐ คณะกรรมการความปลอดภัยทางการคมนาคมแห่งชาติ หรือ  National Transportation Safety Board : NTSB เข้าร่วมการสืบสวนด้วย

 

Clint Crookshanks วิศวกรด้านโครงสร้างถูกส่งมาเข้าร่วมการสืบสวน โดยพวกเขาได้กำหนดจุดที่จะค้นหาแล้ว แต่มันอยู่ลึกลงไป 6,500 ฟิตลึกเกินไปที่จะใช้นักดำน้ำ 


โดยทางรัฐบาลต้องการให้สายการบิน Adam Air ออกค่าใช้จ่ายด้านนี้ แต่มันใช้งบที่สูงมาก ทางสายการบินจึงปฏิเสธ แต่ความโกรธของญาติผู้โดยสารก็กลายเป็นแรงกดดันว่าสายการบินต้องรับผิดชอบ หลังจากผ่านมาได้ 7 เดือนทางสายการบินก็ตอบรับที่จะช่วยเรื่องค่าใช้จ่าย


และในที่สุดพวกเขาก็พบซากเครื่องบินและ ไม่มีผู้รอดชีวิต ผู้โดยสาร 102 คนรวมลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด แม้ซากจะอธิบายสาเหตุไม่ได้แต่ก็รู้ว่าเครื่องตกลงมาด้วยความเร็วที่สูงมากๆ 


หลังจากนั้นเพียง 2 วันในที่สุดพวกเขาก็ค้นพบกล่องดำจนได้ แต่มันก็อยู่ใต้น้ำมาถึง 8 เดือน ทีมสืบสวนจึงไม่แน่ใจว่ามันจะทำงานได้ไหม โดยจะถูกส่งไปวิเคราะห์ที่วอชิงตัน โดยมันต้องถูกบรรจุอยู่ในน้ำบริสุทธิ์เพื่อชะล้างเอาเกลือออก โดยอากาศและเกลือเป็นปัจจัย สำคัญของการเกิดสนิมเกาะ 

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่