'พท.'ไม่ปิดทาง'มิ่งขวัญ'ร่วมซักฟอกรบ.
https://www.dailynews.co.th/politics/755035

 
“อนุดิษฐ์”เคารพการตัดสินใจ“พรรคเศรษฐกิจใหม่”
 
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการทำงานร่วมกับพรรคเศรษฐกิจใหม่หลังประกาศขอถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า การทำงานของพรรคเศรษฐกิจใหม่ในช่วงที่ผ่านมามีมติแตกต่างจากพรรคร่วมฝ่ายค้านหลายครั้ง เข้าใจว่าคงเห็นว่าการที่พรรคร่วมฝ่ายค้านไม่เป็นไปทางเดียวกันทำให้กระทบกับเสถียรภาพ เขาจึงแยกออกไป เราเคารพการตัดสินใจ หลังจากนี้ก็หวังว่าเขาจะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองโดยยึดผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน ส่วนการร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นสิทธิของส.ส. ที่ผ่านมานายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ เคยบอกว่า จะร่วมอภิปราย 
 
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่มีความเห็นต่างกับพรรคร่วมฝ่ายค้านมา 2 ครั้ง เรายอมรับความเห็นต่าง แต่ก็ต้องเคารพมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วย วันนี้เขาจึงมายื่นหนังสือถึงผู้นำฝ่ายค้านเพื่อขอเป็นฝ่ายค้านอิสระ และเขายังไม่พิจารณาไปร่วมกับพรรคไหน หลังจากนี้ถ้ามีประเด็นอะไร มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ก็ยังร่วมงานกันได้ โดยว่าเป็นกรณีๆ ไป อะไรที่เห็นต่างก็ว่ากันไป แต่การอภิปรายครั้งนี้จะไม่มีตัวแทนพรรคเศรษฐกิจใหม่เข้าร่วม ส่วนที่ก่อนหน้านี้ที่นายมิ่งขวัญจะขออภิปรายด้วยนั้น ถ้าจะเกิดขึ้น ก็เป็นการอภิปรายในฐานะส.ส.คนหนึ่ง ซึ่งต้องคุยกันอีกที. 
 

---

 
'โรม' ชี้ จนท.ยังใช้อำนาจเหมือนอยู่ในยุค คสช.
https://voicetv.co.th/read/1IH3ZM6y-
 
รังสิมันต์ โรม หนุนรายงานสถานการณ์สิทธิ “แอมเนสตี้” สะท้อนเรื่องจริง - สอดคล้องเคส ปชช.ร้อง กมธ. - ชี้ จนท.ใช้อำนาจราวกับยังอยู่ในยุค คสช.
 
เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่รัฐสภา (เกียกกาย) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ และโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน กล่าวถึงความเห็นรายงานของแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล ว่าด้วยสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2562-2563 ที่ระบุว่า สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยยังคงไม่ดีขึ้นตามมาตรฐานสากล
 
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เท่าที่ตนอยู่ใน กมธ.การกฎหมายฯ มายังไม่ถึงครึ่งปีด้วยซ้ำ พบว่าเรื่องส่วนใหญ่ที่ได้รับร้องเรียนล้วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งสิ้น หลายเรื่องเป็นกรณีที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง แสดงให้เห็นว่า เหตุที่เกิดขึ้นก่อนหน้าการเลือกตั้งในยุค คสช.ยังคงมีผลกระทบมาถึงทุกวันนี้ และยังมีคนที่ได้รับผลกระทบจากการถูกคุกคามดำเนินคดีจากเจ้าหน้าที่รัฐอยู่ แสดงให้เห็นว่า การละเมิดสิทธิมนุษยชนยังคงเกิดขึ้นแม้เราจะมีการเลือกตั้งผ่านมาแล้ว และวันนี้ กฎหมายหลายฉบับโดยเฉพาะประกาศ/คำสั่ง คสช.แม้จะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่กลับพบว่าแนวปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐในการเข้าไปคุกคามประชาชนยังคงเหมือนเดิม เสมือนว่าวันนี้ ยังคงอยู่ในยุค คสช. สิ่งที่แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลรายงานมาสอดคล้องกับสิ่งที่ กมธ.ได้รับข้อร้องเรียนมา สะท้อนว่าการคุกคามสิทธิของประชาชนไม่ได้ลดลงเลย
 
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ตัวอย่างเช่น กรณีของนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว ที่ถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ทั้งๆ ที่การจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ารัฐไม่ได้มีส่วนได้เสียกับการกระทำในครั้งนั้น หรือกรณีกิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่มีการทำกิจกรรมทั่วประเทศ ปรากฏว่าในเกือบทุกจังหวัดเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนตามกฎหมายปกติ ทำให้คนจัดชุมนุมถูกดำเนินคดีหรือถูกคุกคาม บางรายมีเจ้าหน้าที่ไปข่มขู่ถึงบ้าน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น แม้เราจะมีการเลือกตั้งแล้วก็ตาม นี่คือสิ่งที่ กมธ.ได้รับร้องเรียนมา
 
"สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่ามีความน่าสนใจ คือ การคุกคามคนที่ทำกิจกรรมทางการเมือง มักจะเกิดขึ้นกับคนที่เห็นต่างจากรัฐบาลปัจจุบัน เพราะผมไม่เคยเห็นกรณีร้องเรียนเลยว่า คนที่เห็นด้วยกับรัฐบาลปัจจุบันถูกดำเนินคดีหรือถูกคุกคามสิทธิ
 
ดังนั้น ผมคิดว่าถ้าเราปิดวันเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมเมื่อปีที่แล้วเอาไว้ วันนี้ประเทศไทยแทบจะไม่ต่างกันกับยุค คสช. จะมีจุดต่างหน่อยก็คือก่อนวันที่ 24 มี.ค.ถ้ามีการคุกคามเกิดขึ้น จะไม่มีใครไปซักถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ ได้ ว่าตัวท่านมีความเกี่ยวข้องอย่างไร จะรับผิดชอบอย่างไร แต่วันนี้ เรามีฝ่ายค้าน มี กมธ. เราก็พยายามทำหน้าที่นี้ แต่ด้วยอำนาจที่เรามีอย่างจำกัด เราก็ต้องยอมรับว่าอาจไม่สามารถที่จะปกป้องพี่น้องประชาชนได้ทั้งหมด” นายรังสิมันต์ กล่าว