1.ตั้งขอสังเกต นามพิจารณา ตรึกตรอง ตามเห็น เปรียบเทียบ จำแนก(กำหนดรู้ทุกขอริยสัจ)
นามเจตสิก52 จิต89-รูป28 ภายใต้กฎไตรลักษณ์ ชรา-มรณะ เกิดผล สืบต่อ
รูปกาย-นามเจตสิก(ความรู้สึกอารมณ์ ความเชื่อความเห็น) อย่างไร
เป็นไปตามหลักธรรมจักรฯ ทุกขอริยสัจ4 และธรรมอื่นๆ ที่เกิดตามมาหรือไม่อย่างไร
(1)เจตสิกอกุศล14 จิต สืบต่อ รูปกายกรรม-นามวิญญาณโลภได้สุขสบายบุญ/ไม่ได้โกรธหลงทุกข์บาปในโลกภพ3
(2)เจตสิก13 จิต สืบต่อ นามรูป/อรูปฌาน ญาณโลกพรหม ปิติ สุขบุญ สงบกุศล/อรูปฌานพรหม ว่าง นานจนเกิดญาณหยั่งรู้
(0)เจตสิกกุศล25 จิต สืบต่อ รูปกายกิริยา-นามอริยบุคคล สงฆ์ โพธิสัตว์ โสดาบัน ทานละเจตสิกทั้งสอง
เบาบางสกิทาคามี หมดไปอนาคามี ศีลสงบนามจิต-รูปใจ ดับเจตสิกที่สุดโต่งทั้งสอง จนไม่กลับมาเกิดอีก อรหันต์
2.ทดลอง(กำหนดละทุกขสมุทัยอริยสัจ) ตั้งมั่นจิต นาม เห็นคิดเพียรตั้งจิต สติ สมาธิ กำหนดรู้ตามเจตสิก52
ธรรมจักรฯ ทุกขอริยสัจ4 และธรรมอื่นๆ ที่เกิดตามมา-รูปวัตถุธาตุ ร่างกาย พูดทำปฏิบัติตามเจตสิกกุศล25
สงบนามเจติสิกอกุศล14 จิต ให้ได้ง่ายเร็ว ทุกเวลา สืบไป เกิดชรา-มรณะ ตั้งจิตให้สงบอยู่ได้สืบไป
3.สรุปผล เขียนรายงานตามที่ได้ผลการทดลอง(กำหนดรู้ให้แจ้ง-ปฏิบัติทำให้เจริญตามทุกขอริยสัจ4) ภายใต้กฎไตรลักษณ์
ชรา-มรณะ เกิดพร้อมสืบต่อ รักษาศีล รักษารูปกาย-นามตั้งจิต(ความรู้สึกอารมณ์ ความเชื่อความเห็น) ตามใครดี
(1)ตามโลกภพ3 รูปกาม-นาม หมุนตามวัฏสงสาร อนุโลม12 อุปาทานขันธ์5 สังโยชน์5 เวทนา สัญญา สังขาร
(สัญชาตญาณดีสุขบุญ/ไม่ดีทุกข์โกรธหลงบาป) ตามวิญญาณในโลกภพ3 จอมเทพ/มาร สวรรค์ชั้น6 เทพ/มาร ผี/ปีศาจ เปรต/อสุรกาย คน/สัตว์
(2)ตามโลกพรหม นาม รูป/อรูปฌาน อารมณ์ ปิติ สุขบุญ สงบกุศล/ไม่มีอารมณ์ อากาศ วิญญาณ ความว่างในฌาน นานจนเกิดญาณหยั่งรู้
(0)ตามโลกนิพพาน รูปดวงตานอก-ใน นามเห็นคิดเพียรสติ ทานละ ศีลสงบกุศล สมาธิชอบ-พูดทำด้วยขันติ กรุณา มุทิตา อุเบกขา ญาณ
ปัญญา วิชชา(หมุนตามธรรมจักรฯ ทุกขอริยสัจ4 ปฏิโลม12 เจตสิกกุศล25 สงบนามจิต-รูปใจ ให้ง่ายเร็ว ทุกเวลา จนเกิดแสงสว่าง กุศลบารมี)
ตั้งข้อสังเกต ทดลอง สรุปผล
นามเจตสิก52 จิต89-รูป28 ภายใต้กฎไตรลักษณ์ ชรา-มรณะ เกิดผล สืบต่อ
รูปกาย-นามเจตสิก(ความรู้สึกอารมณ์ ความเชื่อความเห็น) อย่างไร
เป็นไปตามหลักธรรมจักรฯ ทุกขอริยสัจ4 และธรรมอื่นๆ ที่เกิดตามมาหรือไม่อย่างไร
(1)เจตสิกอกุศล14 จิต สืบต่อ รูปกายกรรม-นามวิญญาณโลภได้สุขสบายบุญ/ไม่ได้โกรธหลงทุกข์บาปในโลกภพ3
(2)เจตสิก13 จิต สืบต่อ นามรูป/อรูปฌาน ญาณโลกพรหม ปิติ สุขบุญ สงบกุศล/อรูปฌานพรหม ว่าง นานจนเกิดญาณหยั่งรู้
(0)เจตสิกกุศล25 จิต สืบต่อ รูปกายกิริยา-นามอริยบุคคล สงฆ์ โพธิสัตว์ โสดาบัน ทานละเจตสิกทั้งสอง
เบาบางสกิทาคามี หมดไปอนาคามี ศีลสงบนามจิต-รูปใจ ดับเจตสิกที่สุดโต่งทั้งสอง จนไม่กลับมาเกิดอีก อรหันต์
2.ทดลอง(กำหนดละทุกขสมุทัยอริยสัจ) ตั้งมั่นจิต นาม เห็นคิดเพียรตั้งจิต สติ สมาธิ กำหนดรู้ตามเจตสิก52
ธรรมจักรฯ ทุกขอริยสัจ4 และธรรมอื่นๆ ที่เกิดตามมา-รูปวัตถุธาตุ ร่างกาย พูดทำปฏิบัติตามเจตสิกกุศล25
สงบนามเจติสิกอกุศล14 จิต ให้ได้ง่ายเร็ว ทุกเวลา สืบไป เกิดชรา-มรณะ ตั้งจิตให้สงบอยู่ได้สืบไป
3.สรุปผล เขียนรายงานตามที่ได้ผลการทดลอง(กำหนดรู้ให้แจ้ง-ปฏิบัติทำให้เจริญตามทุกขอริยสัจ4) ภายใต้กฎไตรลักษณ์
ชรา-มรณะ เกิดพร้อมสืบต่อ รักษาศีล รักษารูปกาย-นามตั้งจิต(ความรู้สึกอารมณ์ ความเชื่อความเห็น) ตามใครดี
(1)ตามโลกภพ3 รูปกาม-นาม หมุนตามวัฏสงสาร อนุโลม12 อุปาทานขันธ์5 สังโยชน์5 เวทนา สัญญา สังขาร
(สัญชาตญาณดีสุขบุญ/ไม่ดีทุกข์โกรธหลงบาป) ตามวิญญาณในโลกภพ3 จอมเทพ/มาร สวรรค์ชั้น6 เทพ/มาร ผี/ปีศาจ เปรต/อสุรกาย คน/สัตว์
(2)ตามโลกพรหม นาม รูป/อรูปฌาน อารมณ์ ปิติ สุขบุญ สงบกุศล/ไม่มีอารมณ์ อากาศ วิญญาณ ความว่างในฌาน นานจนเกิดญาณหยั่งรู้
(0)ตามโลกนิพพาน รูปดวงตานอก-ใน นามเห็นคิดเพียรสติ ทานละ ศีลสงบกุศล สมาธิชอบ-พูดทำด้วยขันติ กรุณา มุทิตา อุเบกขา ญาณ
ปัญญา วิชชา(หมุนตามธรรมจักรฯ ทุกขอริยสัจ4 ปฏิโลม12 เจตสิกกุศล25 สงบนามจิต-รูปใจ ให้ง่ายเร็ว ทุกเวลา จนเกิดแสงสว่าง กุศลบารมี)