สวัสดีครับ วันส่งท้ายปีเก่าหลายท่านคงได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิด ไปเที่ยว ไปปาร์ตี้ ผมกับภรรยาอาศัยช่วงกรุงเทพฯกลายเป็นเมือง
เกือบร้าง กลับไปทำอะไรทานกันที่บ้าน จะมีอะไรให้ทานบ้าง ตามไปดูครับ
         กระทู้นี้รวดเดียวจบนะครับ กระทู้ที่แล้วอาจทำร้ายคนยังไม่ได้ทานข้าว กระทู้นี้ก็จะทำแบบเดิม...ภาพทั้งหมด ถ่ายด้วยกล้อง Canon
M6 หากภาพใดหลุดโฟกัส ขออภัยไว้ด้วยนะครับ...ไปกันเลย



           วัตถุดิบคราวนี้ไปซื้อกันที่ตลาดทะเลไทยเหมือนเดิม แต่คราวนี้ไม่ซื้อกุ้งแม่น้ำนะครับเพราะว่าเนื้อน้อยและจะหาที่หัวมีมันมากๆ เป็น
ไปได้ยาก(เข้าใจว่ากุ้งหัวมัน คนเลี้ยงย่อมส่งให้ร้านอาหารก่อนอยู่แล้ว) ดังนั้นคราวนี้จึงเลือกกุ้งลายเสือและกุ้งขาว เน้นทานเนื้อดีกว่า ซื้อ
กุ้งลายเสือมา 1.5 กก. ได้มาประมาณ 20 ตัว กับกุ้งขาวครึ่ง กก. ได้มาประมาณ 12 ตัว รวมราคากุ้ง 1,300 บาท แล้วก็ซื้อปลาทับทิมขนาด
1 กก.มาอีก 1 ตัวราคา 170 กว่าบาท
รายการอาหารวันนี้

1. ฉู่ฉี่กุ้งลายเสือ
2. กุ้งแช่น้ำปลา ใช้กุ้งขาว
3. กุ้งอบวุ้นเส้น ใช้กุ้งลายเสือ
4. ปลาทับทิมลุยสวน
เมนูแถมเพราะวัตถุดิบเหลือ
5. กุ้งลายเสือเผา
6. ต้มมะระ
พระเจ้า จะกินกันหมดมั้ย

ฉู่ฉี่กุ้งลายเสือ

          เริ่มจานแรกด้วยเมนูฉู่ฉี่กุ้งลายเสือ เครื่องแกงพ่อตาตำไว้ล่วงหน้าแล้ว 1 วัน ของที่เอาลงไปตำรวมกัน ก็มีพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม
พริกไทย ยี่หร่า ลูกผักชี ผิวมะกรูด รากผักชี ตะไคร้ ขิง อย่างเยอะ ตำเสร็จก็จะได้เป็นพริกแกงแดงๆแบบนี้ พ่อตาเอาพริกแกงฉู่ฉี่ที่ขายตาม
ตลาดมาให้ดมเทียบดูด้วย ของที่ตำเองหอมเครื่องเทศกว่ามาก

เนื่องจากกุ้งทุกตัวเป็นตัวผู้ เพราะว่ามีหนวด จึงต้องตัดหนวดออกเสียก่อน ปอกเปลือกไว้หัวไว้หาง เอาเส้นดำออก พักไว้ก่อน


เอาพริกแกงลงไปผัด ผัดไปสักครู่ใส่กะทิผัดต่ออีกหน่อยโยนซุบก้อนลงไป 1 ก้อน


ผัดเครื่องแกงต่อ ใส่กะทิเพิ่มรอให้แตกมัน ตอนถ่ายทรมานมาก หอมเครื่องแกงสุดๆ



พอได้ที่ก็ส่งกุ้งลงไปผัด รอแป๊บเดียวเพราะกุ้งสุกง่าย ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล ปกติฉู่ฉี่ก็จะปรุงให้หวานนำ เค็มเล็กน้อย เสร็จแล้วก็
ตักลงจาน ยังดูไม่เป็นฉู่ฉี่เลย



ขาดใบมะกรูดกับพริกแดงหั่นฝอยก็คงไม่เป็นฉู่ฉี่ จัดการซ้อนใบมะกรูดเป็นชั้นๆรวมให้เป็นปึกแล้วก็หั่นทีเดียวเป็นฝอยสวยงาม

โรยลงไปบนจานกุ้งที่ผัดเสร็จแล้ว...หน้าตาฉู่ฉี่กุ้งลายเสือก็ปรากฎโฉม กินเลยได้มั้ย ยังครับ เพิ่งเสร็จจานแรกเอง

ปลาทับทิมลุยสวน
           จานต่อมาด้วยปลาทับทิมขนาด 1 กก. เอามาล้างเอาเครื่องในไส้ปลาออกไปให้ไก่กินให้เรียบร้อย ล้างให้สะอาด


บั้งปลาแล้วเอาไปตากไว้ เพิ่งรู้เหมือนกันว่าต้องตาก ให้มันแห้งสักหน่อยเนื้อจะได้ไม่แฉะเกินไป ตากประมาณ 15 นาทีจนปลาเริ่มมึนก็
เอาพี่เขาลงมา

ตั้งน้ำมันให้ร้อน ส่งปลาลงกระทะไป ทอดให้ผิวนอกกรอบ เนื้อในยังนุ่ม


ระหว่างรอปลาสุกก็มาปรุงน้ำราด รสชาติหลักคือเปรี้ยวดังนั้นพระเอกคือมะนาว แล้วก็ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ให้ออกเปรี้ยวนำ หวานตาม
เค็มเล็กน้อย


เตรียมผักเหมือนเครื่องเมี่ยง เช่น ใบชะพลู พริก ขิง หอมแดง แล้วก็ทอดเม็ดมะม่วงเอาไว้ด้วย เครื่องโรยหน้าแล้วแต่ความชอบเลยนะครับ
อยากใส่อะไรก็ใส่ ไม่ชอบเม็ดมะม่วงจะเปลี่ยนเป็นถั่วพิตาชิโอก็ได้

ปลาเสร็จแล้ว วางบนจานพร้อมเสริฟ...ยัง โล่ง โล้นซะขนาดนั้นมันต้องแต่งจานแล้วก็โรยเครื่องที่เตรียมไว้หน่อย

บู้ม...กลายเป็นปลามุดสวน เครื่องถ้วม ปลาหายไปเลย แต่ถ้าไม่โรยและใบชะพลูไม่ซอยก็จะกลายเป็นเมี่ยงปลาทับทิม แล้วแต่ชอบ

กุ้งแช่น้ำปลา
         อันนี้จานโปรดภรรยาผม นำกุ้งขาวมาปอกเปลือก ผ่ากลางเอาเส้นดำออกให้หมด

เสร็จแล้วก็แบในจานให้สวยงาม เว้นตรงกลางไว้ใส่เครื่องเคียง แล้วก็ตรงตามชื่อ สาดน้ำปลาลงไปให้กุ้งแช่ แล้วก็เอาไปแช่ตู้เย็น ที่เอา
ไปแช่ตู้เย็นเพื่อให้เนื้อเด้งขึ้นอีกหน่อย


หั่นมะระเตรียมไว้ พอจะทานก็เอากุ้งออกจากตู้เย็น เอาเครื่องวางไว้ตรงกลาง คนที่ไม่กินเครื่องจะได้ไม่ต้องตัก แล้วก็พร้อมทานได้

มะระเหลือ เลยเอาไปต้มต่อ โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย พอหยาบๆ



เอาทุกอย่างลงหม้อ เพิ่มหมูใส่เข้าไป ปรุงรสให้ออกเค็มนิดๆ รสชาติจะเค็มนิดเดียวแล้วหอมรากผักชี ซดลวกคอ...แหม่ ก็เป่าเสียหน่อยจะ
ได้ซดคล่องคอ

กุ้งอบวุ้นเส้น
        เมนูนี้ของโปรดผม เอากุ้งแค่ 4 ตัวก็เต็มหม้อแล้ว เครื่องมี ขิง รากผักชี มันหมู หรือหมู 3 ชั้นเอาไว้รองก้นหม้อ ต้นหอม ขึ้นช่าย เอาไว้
โรยหน้า 





ปรุงรสวุ้นเส้นด้วยน้ำตาล ซีอิ้ว แต่ถ้าอยากให้วุ้นเส้นออกมาสีเข้มๆ ก็ใส่ซีอิ้วดำเพิ่มหน่อยแต่ของผมไม่ต้องใส่ แล้วก็เริ่มรองพื้นหม้อด้วย
หมู 3 ชั้น รากผักชี ชั้นต่อมาเป็นกุ้งแล้วก็วุ้นเส้นโปะข้างบน ปิดฝา เปิดไฟแล้วรอ

กุ้งยังเหลือ เอาไปเผาง่ายๆได้อีก 4 ตัว

เสร็จแล้ว 4 คนจะกินยังไงให้หมดมื้อนี้เหนื่อยแน่ๆ กินกันหกคนยังได้ มื้อนี้ใช้เวลาทำร่วม 3 ชั่วโมง แต่การทำอาหารแล้วมีความสุขกับ
ครอบครัวก็ไม่มีใครบ่นเหนื่อยเลย หรือบ่นในใจก็ไม่รู้

กุ้งลายเสือเนื้อแน่นมาก เนื้อสด ไม่ยุ่ย ไม่คาว หนึ่งตัวต้องตัดแบ่ง 2-3 ท่อนถึงจะกินหมด เครื่องแกงฉู่ฉี่เผ็ดร้อนไปหน่อย กินกันแทบไม่
หวาดไม่ไหว ปลาผิวนอกกรอบเนื้อนุ่มและไม่แฉะเลย น้ำราดจี๊ดจ๊าด...สรุปมื้อนี้ ทานไม่หมดครับ สู้กุ้งไม่ไหวจริงๆ...ทำกับข้าวกินกับที่บ้าน
ทำให้คนทั้งครอบครัวได้คุยกัน และได้ชิมอาหารที่ทุกคนมีส่วนร่วม มันอร่อยเป็นพิเศษเลยครับ...ลาไปก่อน สวัสดีครับ