- ตอนนี้มีเหตุการณ์เกี่ยวข้องกับมีน แน่นอนว่าปลายต้องสืบเรื่องนั้นด้วย
ตอนที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้File 19 : จักรยานที่หายไป [บทเฉลย]
https://ppantip.com/topic/39455271
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
File 20 : เพชฌฆาตบนถนน
- 1 -
“เฮ้อ.. ยุ่งจัง”
เสียงห้าว ๆ ของนักศึกษาสาวผู้หนึ่งพูดขึ้นมา เธอกำลังก้าวเดินอย่างรีบเร่ง ทั้งที่เวลานี้ก็ไม่ใช่เวลาที่ต้องรีบร้อนอะไรมากมาย ถึงจะเกือบเที่ยงคืนแล้วก็เถอะ
แน่นอนว่าสาวห้าวคนนี้คือ มีนนั่นเอง เธอกำลังเดินอยู่ข้างถนนอย่างไม่สนใจอะไร เพราะต้องรีบมุ่งกลับหอพักก่อนที่จะถึงเที่ยงคืน
เนื่องจากหอพักในของมหาวิทยาลัยที่มีนพักอยู่นั้นจะปิดประตูหอตอนเที่ยงคืน จึงเป็นเหตุที่ทำให้เธอต้องรีบอย่างนี้
มีนออกจากหอพักในมหาวิทยาลัยเพื่อไปเอาเอกสารวิชาการเกี่ยวกับโปรเจ็คที่ตัวเองทำที่หอพักของเพื่อน แต่เนื่องด้วยเหตุสุดวิสัยบางอย่าง ทำให้เธอต้องรั้งอยู่ที่ห้องเพื่อนจนเวลาเกือบถึงเที่ยงคืน
เหตุที่ทำให้มีนต้องอยู่นั้นก็คือ เอกสารวิชาการที่มีนจะเอาจากเพื่อนนั้น เพื่อนของเธอได้ลืมทิ้งไว้ที่หอเพื่อนอีกคนหนึ่ง จึงต้องเสียเวลาออกไปเอาที่เพื่อนคนนั้นอีกที จนเวลาล่วงเลยไปเกือบถึงเที่ยงคืน
สาวห้าวหอบเอกสารที่ได้มาก้าวเดินอย่างรวดเร็ว เธอไม่มีรถมอเตอร์ไซค์หรือจักรยาน จึงต้องเดินเอาอย่างเดียว ซึ่งในเวลาเช่นนี้ก็ดึกมากแล้ว ทำให้ไม่มีรถโดยสารที่สามารถส่งเธอไปถึงหอพักได้เลย
มีนจำเป็นต้องเดิน
ระยะทางระหว่างหอพักเพื่อนกับหอพักของมีน แม้จะดูไกลไปนักสำหรับความคิดคนทั่วไป แต่สำหรับมีนถือว่าไม่เหลือบ่ากว่าแรงเลย ภูกระดึงเธอยังพิชิตยอดมาแล้ว แค่เดินกลับหอนี่ ไม่คณามือสำหรับสาวห้าวอย่างเธอหรอก
บริเวณข้างทางร้านรวงต่าง ๆ ได้ปิดเป็นส่วนใหญ่ สถานที่ที่เปิดอยู่ในเวลาเช่นนี้ก็มีเพียงเซเว่นอีเลฟเว่น แล้วก็ร้านเหล้า ผับ บาร์เท่านั้น
ข้างทางที่มีนเดินก็ย่อมมีผับบาร์เช่นกัน แน่นอนว่าถ้ามีสถานที่อย่างนี้อยู่ ก็ต้องมีเหล่านักเที่ยว สุราของมึนเมา และเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มจนกระแทกโสตประสาทพังได้
มีนหันหน้าไปดูผับข้างทางอยู่ครู่หนึ่ง ผับนี้ตกแต่งเริดรู มีสปอร์ทไลท์ส่องไฟสีแดงวูบวาบไปทั่วร้าน ทั้งด้านนอกและด้านใน
สาวห้าวก้าวเท้าไปหยุดยืนอยู่ที่ด้านหน้าผับนั้น พูดขึ้นว่า
“สนุกกันจริง ๆ พ่อแม่ส่งมาเรียนกันนะ”
เหมือนมีนตั้งใจจะบ่นผู้ที่อยู่ในผับนั้นขึ้นลอย ๆ ไม่ได้เจาะจงไปที่ใคร อีกทั้งยังพูดเสียงเบา จึงไม่มีผู้ใดตอบโต้กับเธอ
เธอแค่บ่นในสิ่งที่เห็นว่าไม่สมควรออกมาเท่านั้น ไม่ได้ก้าวก่ายผู้ใด
แน่นอนว่ามีนไม่ได้เข้าไปในผับนั้น ที่เธอต้องยืนอยู่หน้าผับ ก็เพราะต้องการจะข้ามถนน เพื่อมุ่งหน้ากลับหอพักของตัวเองต่อไป
เธอมองซ้ายมองขวา เมื่อได้จังหวะจึงก้าวเดินเพื่อจะข้ามถนน ซึ่งเวลานี้รถรามีไม่มากเท่าไหร่ ทำให้การข้ามของมีนดูไม่ยากลำบากนัก
สาวห้าวก้าวเท้าเดินข้ามถนนอย่างรวดเร็ว
แต่ในจังหวะหนึ่งนั้น...
มีรถคันหนึ่งแล่นมาหาเธออย่างรวดเร็ว แถมไม่ตรงทางส่ายไปส่ายมาอีกด้วย ท่าทางผู้ขับขี่น่าจะดื่มเหล้ามาเต็มที่ทีเดียว ซึ่งเมื่อผู้ขับขี่สังเกตเห็นมีนเข้า เขารีบหักพวงมาลัยรถ เลี้ยวหักหลบโดยทันที
แต่ทว่า... มันไม่ทันการณ์เสียแล้ว รถพุ่งเฉี่ยวมีนล้มไปข้างทางอย่างรุนแรง
มีนถูกรถชน!
เธอร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด หวังว่าเจ้าของรถจะลงมาช่วย แต่ผู้ที่ชนไม่ได้หยุดรถดูอาการของเธอเลย เขารีบบึ่งรถหนีออกไปทันที
มีนพยายามหันไปมองดูรถที่เพิ่งชนตัวเอง แต่แล้วสักพักก็ฟุบหมดแรงลงไป
“มีน...”
ปลาย หนุ่มนักศึกษาผมตั้งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงอย่างยิ่ง เขาและลูกสมุนทั้งสามตอนนี้มาอยู่รวมในห้องพักฟื้นหนึ่งของโรงพยาบาล
แน่นอนว่าทั้งหมดมาเยี่ยมมีนที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถชน ซึ่งตอนนี้เธอกำลังนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง
ทันทีที่มีนติดต่อกับพวกปลาย พวกเขาก็รีบรุดมาดูอาการของเธอทันที โดยอาการของสาวห้าวนั้นบาดเจ็บหนักทีเดียว กระดูกซี่โครงและขาหัก รวมทั้งมีบาดแผลฟกช้ำตามตัวอีกด้วย
แต่โชคยังดีที่ใบหน้าอันแสนน่ารักของมีนไม่มีบาดแผลใด ๆ ยังขาวเนียนสวยใสเช่นเดิม
“เป็นไรมากมั้ย?” ปลายถามมีนอีก
“ก็เท่าที่เห็นแหละ” มีนบอก เธอยังสามารถลุกขึ้นมานั่งบนเตียงได้บ้าง
“อืม.. นะ” ปลายพยักหน้ารับ “ไงก็ขอให้มีนหาย ๆ เร็วนะ”
มีนยิ้ม มองปลายกลับ “อือ..”
“แล้วมีนรู้รึยังว่าใครขับรถชน” คราวนี้แอลพูดขึ้นบ้าง
มีนหันไปหาแอล ส่ายหัวเล็ก ๆ “ยังนะ.. เห็นตำรวจบอกว่ายังจับไม่ได้เลย แถมไม่มีใครเป็นพยานให้ด้วย”
“แต่ไม่เป็นไรหรอกนะมีน” ปลายแทรกขึ้นมา “ยังไงฉันจะช่วยตำรวจหาตัวไอ้คนที่ชนมีนให้ได้”
ท่าทางของปลายตอนที่พูดขึ้นมานี้ ดูจริงจังมากทีเดียว
มีนยิ้มมองดูเขา “ก็ดี ไงก็ฝากนายด้วยนะ”
ปลายผงกศีรษะรับ “ได้อยู่แล้ว.. เพื่อมีนเราทำให้ได้อยู่แล้ว” เขานิ่งไปพักแล้วค่อยเอ่ยต่อ “แล้วมีนเห็นมั้ยว่าไอ้รถคันที่ชนน่ะ มันทะเบียนอะไร?”
มีนเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย แล้วพูดตอบไป “ไม่รู้นะ ฉันเห็นไม่ชัดเท่าไหร่ จำได้ว่า... ตัวท้ายของทะเบียนน่าจะเป็นเลขสามนะ”
“เลขสามเหรอ” ปลายทวนคำ หยุดครุ่นคิดเล็กน้อย “แล้วรู้มั้ยว่ารถมันเป็นสีอะไร?”
มีนนิ่งคิด “น่าจะ... สีดำนี่แหละ”
“สีดำ เอ่อ ..เป็นรถเก๋งหรือเปล่า?”
“รถเก๋ง ไม่ใช่แบบพวก Jazz ด้วย ..แต่ฉันไม่ทันสังเกตนะว่ายี่ห้อหรือรุ่นอะไร”
“อืม...” ปลายพยักหน้าเล็กน้อย “ไม่เป็นไร แค่นี้ก็น่าจะพอช่วยให้จับตัวคนชนได้แล้วแหละ”
“อือ..” มีนจ้องปลาย ฉีกยิ้มเล็กน้อย “ไงถ้านายสงสัยอะไรอีกก็ถามได้นะ ฉันเชื่อว่าอย่างนายต้องสืบหาตัวไอ้ตีนผีนั่นได้อย่างแน่นอน”
“จ้า... มีน” ปลายรับปาก ท่าทางจริงจังขึ้นอีก “ยังไงฉันต้องลากตัวไอ้ตีนผีมารับโทษแน่ ...ฉันไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรมีนของฉันหรอก”
เหมือนกับว่าปลายจะหลุดปากพูดอะไรออกมา ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่รู้เสียด้วย..
แต่สามสมุนข้างกายย่อมรู้ดี ทั้งหมดยิ้มกรุ่นขึ้นอย่างพร้อมเพรียง พร้อมจ้องดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในลำดับต่อมา เพราะว่าตอนนี้หัวหน้าแก๊งของพวกเขาได้หลุดพูดคำที่แสดงความเป็นเจ้าของออกมาซะแล้ว!
“ของนาย...” มีนเลิกคิ้ว หันจ้องปลาย “ใครเป็นของนายกัน! ฉันไม่ได้เป็นของนายนะ!!” เธอเถียงขึ้นทันที
แม้มีนจะพูดเถียงขึ้นมา แต่ไม่รู้เหตุใดใบหน้าของเธอกลับดูอมยิ้ม หน้าแดงกรุ่นขึ้นมาด้วย
เพราะอะไรน้า...
“อ่ะ..” ปลายสะดุ้งโหยง เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองพลั้งปากแสดงความเป็นเจ้าของมีนไป “จ้า... มีนเป็นของตัวเอง ไม่ได้เป็นของใครอยู่แล้ว”
“เออ” มีนมองอากัปกิริยาของชายหนุ่มตรงหน้า “เดี๋ยวหมอจะต้องมาดูอาการฉันอีกครั้ง พวกนายกลับไปก่อนนะ ...ขอบใจมากที่มาเยี่ยม”
ดูท่าจะหมดเวลาเยี่ยมของพวกปลายแล้ว
“จ้า” ปลายผงกศีรษะรับ แล้วหันหน้าไปมองลูกน้องทั้งสาม
สามคนนั้นย่อมรู้ตัว ทั้งหมดจึงพากันออกจากห้องนี้ไปก่อน
แต่ขณะที่ปลายกำลังจะเดินออกจากห้องตามเหล่าลูกน้องนั้น มีนกลับเรียกเขาขึ้นมา
“ปลาย...”
ปลายหันขวับ ก้าวเดินกลับหามีน “มีอะไรเหรอมีน?”
สาวห้าวจ้องตาเขา “ฉันเชื่อใจนายนะ ...จับไอ้ตีนผีให้ได้!!”
หนุ่มผมตั้งพอได้ยินก็คลี่ยิ้มขึ้นทันที “แน่นอนมีน เราจะจับมันให้ได้!”
ซึ่งพอปลายหันหน้ากลับเพื่อจะเดินออกจากห้อง มีนก็จ้องดูแผ่นหลังอันเข้มแข็งของหนุ่มผมตั้งพร้อมฉีกยิ้มขึ้นมา แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ เพียงมองดูอย่างเดียว
แล้วปลายก็เดินออกจากห้องนี้ไป
(มีต่อครับ)
ปลาย นักสืบจำเป็น - File 20 : เพชฌฆาตบนถนน [บทปัญหา]
ตอนที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- 1 -
“เฮ้อ.. ยุ่งจัง”
เสียงห้าว ๆ ของนักศึกษาสาวผู้หนึ่งพูดขึ้นมา เธอกำลังก้าวเดินอย่างรีบเร่ง ทั้งที่เวลานี้ก็ไม่ใช่เวลาที่ต้องรีบร้อนอะไรมากมาย ถึงจะเกือบเที่ยงคืนแล้วก็เถอะ
แน่นอนว่าสาวห้าวคนนี้คือ มีนนั่นเอง เธอกำลังเดินอยู่ข้างถนนอย่างไม่สนใจอะไร เพราะต้องรีบมุ่งกลับหอพักก่อนที่จะถึงเที่ยงคืน
เนื่องจากหอพักในของมหาวิทยาลัยที่มีนพักอยู่นั้นจะปิดประตูหอตอนเที่ยงคืน จึงเป็นเหตุที่ทำให้เธอต้องรีบอย่างนี้
มีนออกจากหอพักในมหาวิทยาลัยเพื่อไปเอาเอกสารวิชาการเกี่ยวกับโปรเจ็คที่ตัวเองทำที่หอพักของเพื่อน แต่เนื่องด้วยเหตุสุดวิสัยบางอย่าง ทำให้เธอต้องรั้งอยู่ที่ห้องเพื่อนจนเวลาเกือบถึงเที่ยงคืน
เหตุที่ทำให้มีนต้องอยู่นั้นก็คือ เอกสารวิชาการที่มีนจะเอาจากเพื่อนนั้น เพื่อนของเธอได้ลืมทิ้งไว้ที่หอเพื่อนอีกคนหนึ่ง จึงต้องเสียเวลาออกไปเอาที่เพื่อนคนนั้นอีกที จนเวลาล่วงเลยไปเกือบถึงเที่ยงคืน
สาวห้าวหอบเอกสารที่ได้มาก้าวเดินอย่างรวดเร็ว เธอไม่มีรถมอเตอร์ไซค์หรือจักรยาน จึงต้องเดินเอาอย่างเดียว ซึ่งในเวลาเช่นนี้ก็ดึกมากแล้ว ทำให้ไม่มีรถโดยสารที่สามารถส่งเธอไปถึงหอพักได้เลย
มีนจำเป็นต้องเดิน
ระยะทางระหว่างหอพักเพื่อนกับหอพักของมีน แม้จะดูไกลไปนักสำหรับความคิดคนทั่วไป แต่สำหรับมีนถือว่าไม่เหลือบ่ากว่าแรงเลย ภูกระดึงเธอยังพิชิตยอดมาแล้ว แค่เดินกลับหอนี่ ไม่คณามือสำหรับสาวห้าวอย่างเธอหรอก
บริเวณข้างทางร้านรวงต่าง ๆ ได้ปิดเป็นส่วนใหญ่ สถานที่ที่เปิดอยู่ในเวลาเช่นนี้ก็มีเพียงเซเว่นอีเลฟเว่น แล้วก็ร้านเหล้า ผับ บาร์เท่านั้น
ข้างทางที่มีนเดินก็ย่อมมีผับบาร์เช่นกัน แน่นอนว่าถ้ามีสถานที่อย่างนี้อยู่ ก็ต้องมีเหล่านักเที่ยว สุราของมึนเมา และเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มจนกระแทกโสตประสาทพังได้
มีนหันหน้าไปดูผับข้างทางอยู่ครู่หนึ่ง ผับนี้ตกแต่งเริดรู มีสปอร์ทไลท์ส่องไฟสีแดงวูบวาบไปทั่วร้าน ทั้งด้านนอกและด้านใน
สาวห้าวก้าวเท้าไปหยุดยืนอยู่ที่ด้านหน้าผับนั้น พูดขึ้นว่า
“สนุกกันจริง ๆ พ่อแม่ส่งมาเรียนกันนะ”
เหมือนมีนตั้งใจจะบ่นผู้ที่อยู่ในผับนั้นขึ้นลอย ๆ ไม่ได้เจาะจงไปที่ใคร อีกทั้งยังพูดเสียงเบา จึงไม่มีผู้ใดตอบโต้กับเธอ
เธอแค่บ่นในสิ่งที่เห็นว่าไม่สมควรออกมาเท่านั้น ไม่ได้ก้าวก่ายผู้ใด
แน่นอนว่ามีนไม่ได้เข้าไปในผับนั้น ที่เธอต้องยืนอยู่หน้าผับ ก็เพราะต้องการจะข้ามถนน เพื่อมุ่งหน้ากลับหอพักของตัวเองต่อไป
เธอมองซ้ายมองขวา เมื่อได้จังหวะจึงก้าวเดินเพื่อจะข้ามถนน ซึ่งเวลานี้รถรามีไม่มากเท่าไหร่ ทำให้การข้ามของมีนดูไม่ยากลำบากนัก
สาวห้าวก้าวเท้าเดินข้ามถนนอย่างรวดเร็ว
แต่ในจังหวะหนึ่งนั้น...
มีรถคันหนึ่งแล่นมาหาเธออย่างรวดเร็ว แถมไม่ตรงทางส่ายไปส่ายมาอีกด้วย ท่าทางผู้ขับขี่น่าจะดื่มเหล้ามาเต็มที่ทีเดียว ซึ่งเมื่อผู้ขับขี่สังเกตเห็นมีนเข้า เขารีบหักพวงมาลัยรถ เลี้ยวหักหลบโดยทันที
แต่ทว่า... มันไม่ทันการณ์เสียแล้ว รถพุ่งเฉี่ยวมีนล้มไปข้างทางอย่างรุนแรง
มีนถูกรถชน!
เธอร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด หวังว่าเจ้าของรถจะลงมาช่วย แต่ผู้ที่ชนไม่ได้หยุดรถดูอาการของเธอเลย เขารีบบึ่งรถหนีออกไปทันที
มีนพยายามหันไปมองดูรถที่เพิ่งชนตัวเอง แต่แล้วสักพักก็ฟุบหมดแรงลงไป
“มีน...”
ปลาย หนุ่มนักศึกษาผมตั้งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงอย่างยิ่ง เขาและลูกสมุนทั้งสามตอนนี้มาอยู่รวมในห้องพักฟื้นหนึ่งของโรงพยาบาล
แน่นอนว่าทั้งหมดมาเยี่ยมมีนที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถชน ซึ่งตอนนี้เธอกำลังนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง
ทันทีที่มีนติดต่อกับพวกปลาย พวกเขาก็รีบรุดมาดูอาการของเธอทันที โดยอาการของสาวห้าวนั้นบาดเจ็บหนักทีเดียว กระดูกซี่โครงและขาหัก รวมทั้งมีบาดแผลฟกช้ำตามตัวอีกด้วย
แต่โชคยังดีที่ใบหน้าอันแสนน่ารักของมีนไม่มีบาดแผลใด ๆ ยังขาวเนียนสวยใสเช่นเดิม
“เป็นไรมากมั้ย?” ปลายถามมีนอีก
“ก็เท่าที่เห็นแหละ” มีนบอก เธอยังสามารถลุกขึ้นมานั่งบนเตียงได้บ้าง
“อืม.. นะ” ปลายพยักหน้ารับ “ไงก็ขอให้มีนหาย ๆ เร็วนะ”
มีนยิ้ม มองปลายกลับ “อือ..”
“แล้วมีนรู้รึยังว่าใครขับรถชน” คราวนี้แอลพูดขึ้นบ้าง
มีนหันไปหาแอล ส่ายหัวเล็ก ๆ “ยังนะ.. เห็นตำรวจบอกว่ายังจับไม่ได้เลย แถมไม่มีใครเป็นพยานให้ด้วย”
“แต่ไม่เป็นไรหรอกนะมีน” ปลายแทรกขึ้นมา “ยังไงฉันจะช่วยตำรวจหาตัวไอ้คนที่ชนมีนให้ได้”
ท่าทางของปลายตอนที่พูดขึ้นมานี้ ดูจริงจังมากทีเดียว
มีนยิ้มมองดูเขา “ก็ดี ไงก็ฝากนายด้วยนะ”
ปลายผงกศีรษะรับ “ได้อยู่แล้ว.. เพื่อมีนเราทำให้ได้อยู่แล้ว” เขานิ่งไปพักแล้วค่อยเอ่ยต่อ “แล้วมีนเห็นมั้ยว่าไอ้รถคันที่ชนน่ะ มันทะเบียนอะไร?”
มีนเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย แล้วพูดตอบไป “ไม่รู้นะ ฉันเห็นไม่ชัดเท่าไหร่ จำได้ว่า... ตัวท้ายของทะเบียนน่าจะเป็นเลขสามนะ”
“เลขสามเหรอ” ปลายทวนคำ หยุดครุ่นคิดเล็กน้อย “แล้วรู้มั้ยว่ารถมันเป็นสีอะไร?”
มีนนิ่งคิด “น่าจะ... สีดำนี่แหละ”
“สีดำ เอ่อ ..เป็นรถเก๋งหรือเปล่า?”
“รถเก๋ง ไม่ใช่แบบพวก Jazz ด้วย ..แต่ฉันไม่ทันสังเกตนะว่ายี่ห้อหรือรุ่นอะไร”
“อืม...” ปลายพยักหน้าเล็กน้อย “ไม่เป็นไร แค่นี้ก็น่าจะพอช่วยให้จับตัวคนชนได้แล้วแหละ”
“อือ..” มีนจ้องปลาย ฉีกยิ้มเล็กน้อย “ไงถ้านายสงสัยอะไรอีกก็ถามได้นะ ฉันเชื่อว่าอย่างนายต้องสืบหาตัวไอ้ตีนผีนั่นได้อย่างแน่นอน”
“จ้า... มีน” ปลายรับปาก ท่าทางจริงจังขึ้นอีก “ยังไงฉันต้องลากตัวไอ้ตีนผีมารับโทษแน่ ...ฉันไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรมีนของฉันหรอก”
เหมือนกับว่าปลายจะหลุดปากพูดอะไรออกมา ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่รู้เสียด้วย..
แต่สามสมุนข้างกายย่อมรู้ดี ทั้งหมดยิ้มกรุ่นขึ้นอย่างพร้อมเพรียง พร้อมจ้องดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในลำดับต่อมา เพราะว่าตอนนี้หัวหน้าแก๊งของพวกเขาได้หลุดพูดคำที่แสดงความเป็นเจ้าของออกมาซะแล้ว!
“ของนาย...” มีนเลิกคิ้ว หันจ้องปลาย “ใครเป็นของนายกัน! ฉันไม่ได้เป็นของนายนะ!!” เธอเถียงขึ้นทันที
แม้มีนจะพูดเถียงขึ้นมา แต่ไม่รู้เหตุใดใบหน้าของเธอกลับดูอมยิ้ม หน้าแดงกรุ่นขึ้นมาด้วย
เพราะอะไรน้า...
“อ่ะ..” ปลายสะดุ้งโหยง เพราะเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองพลั้งปากแสดงความเป็นเจ้าของมีนไป “จ้า... มีนเป็นของตัวเอง ไม่ได้เป็นของใครอยู่แล้ว”
“เออ” มีนมองอากัปกิริยาของชายหนุ่มตรงหน้า “เดี๋ยวหมอจะต้องมาดูอาการฉันอีกครั้ง พวกนายกลับไปก่อนนะ ...ขอบใจมากที่มาเยี่ยม”
ดูท่าจะหมดเวลาเยี่ยมของพวกปลายแล้ว
“จ้า” ปลายผงกศีรษะรับ แล้วหันหน้าไปมองลูกน้องทั้งสาม
สามคนนั้นย่อมรู้ตัว ทั้งหมดจึงพากันออกจากห้องนี้ไปก่อน
แต่ขณะที่ปลายกำลังจะเดินออกจากห้องตามเหล่าลูกน้องนั้น มีนกลับเรียกเขาขึ้นมา
“ปลาย...”
ปลายหันขวับ ก้าวเดินกลับหามีน “มีอะไรเหรอมีน?”
สาวห้าวจ้องตาเขา “ฉันเชื่อใจนายนะ ...จับไอ้ตีนผีให้ได้!!”
หนุ่มผมตั้งพอได้ยินก็คลี่ยิ้มขึ้นทันที “แน่นอนมีน เราจะจับมันให้ได้!”
ซึ่งพอปลายหันหน้ากลับเพื่อจะเดินออกจากห้อง มีนก็จ้องดูแผ่นหลังอันเข้มแข็งของหนุ่มผมตั้งพร้อมฉีกยิ้มขึ้นมา แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ เพียงมองดูอย่างเดียว
แล้วปลายก็เดินออกจากห้องนี้ไป
(มีต่อครับ)