รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 14 คืนสู่เหย้า

                                                                        รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 14 คืนสู่เหย้า



ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
........................................................................

หลังจากบิดามารดาและน้องชายของเรย์ได้เดินทางกลับเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว  อีก 3 สัปดาห์ต่อมา ก็ถึงเวลาที่เรย์และไบร์นี่ต้องเดินทางตามไปสมทบที่เมืองไทย เพื่อเตรียมตัวและความพร้อมต่างๆ ในการจัดพิธีแต่งงานที่กำลังจะมีขึ้นอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า  โดยมีบัวซอนร่วมเดินทางไปด้วย

"ไม่ลืมอะไรแล้วนะแม่ ทุกอย่างแพ็คใส่กระเป๋าเดินทางเรียบร้อยใช่ไหม?  พอเคลียร์งานทางนี้เสร็จ พ่อกับมาร์ตี้จะรีบตามไปสมทบให้เร็วที่สุด ถ้าแม่มีเรื่องไม่สบายใจก็รีบวีดีโอคอลมาหาพ่อทันทีนะ พ่ออยู่เคียงข้างแม่เสมอ เราจะต่อสู้ไปด้วยกัน" ธานีให้กำลังใจภรรยา เขายินดีที่จะให้ภรรยาเดินทางล่วงหน้าไปพร้อมกับลูกสาว  อย่างปราศจากความวิตกกังวลใดๆทั้งสิ้น 
เขาเชื่อใจภรรยาว่า เธอมีความหนักแน่นมากพอและรักเดียวใจเดียว ปัญหาเรื่องถ่านไฟเก่า ไม่มีวันคุกรุ่นขึ้นมาแน่นอน

"ขอบใจพ่อมาก แม่รักพ่อที่สุด ถ้ามีอะไรไม่สบายใจ แม่จะรีบวีดีโอคอลมาหาพ่อด่วน ไม่ต้องห่วง พอไปถึงเมืองไทย แม่จะดูแลปกป้องไบร์นี่ให้ดีที่สุด ไม่ให้พวกคนที่เกลียดชังเราต้องข่มเหงรังแกได้"  
สาเหตุที่บัวซอนไม่ยอมปล่อยให้ลูกสาวเดินทางไปเมืองไทยกับคู่หมั้นตามลำพัง เพราะเธอวิตกจริตว่าลูกสาวอาจโดนคนบางคนในครอบครัวเดชศักดา ที่ไม่ชอบหน้ากลั่นแกล้งข่มเหงรังแกได้ เหมือนที่เธอเคยโดนกระทำมาแล้วในอดีต
ด้วยสัญชาติญาณความเป็นแม่ เธอต้องปกป้องลูกสาวจากคนพาล ไม่ให้มารังแกได้   หากคนพวกนั้นกระทำต่อเธอๆยังพอปล่อยว่างและอโหสิกรรมให้ แต่ถ้ากระทำต่อลูกสาวของเธอ อย่าได้หวังว่าเธอจะยอมเมินเฉยๆโดยไม่ทำอะไรเลย  เธอพร้อมกลายร่างจากแม่พระผู้แสนดีมาเป็นนางมารร้ายได้ในชั่วพริบตา
ภาพในอดีตแห่งการสูญเสียพยานรักระหว่างเธอกับอดีตคนเคยรัก ยังคงตามหลอกหลอนเธอ มันได้ตอกย้ำถึงความอ่อนแอของเธอในครั้งนั้น

.............................................................................................................

                          ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

เดชศักดาและสายนทีมารอรับลูกชาย ว่าที่ลูกสะใภ้และบัวซอน อยู่ตรงจุดรอรับผู้สารขาเข้า 

"สวัสดีครับ.. พ่อแม่"
"สวัสดีค่ะ.. คุณพ่อคุณแม่"  
เรย์และไบร์นี่ต่างยกมือไหว้ทักทายผู้ใหญ่

"สวัสดีค่ะ..  คุณเดช คุณน้ำ  ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะคะ  มารอนานไหม?" บัวซอนกล่าวทักทาย

"ไม่นานหรอกค่ะ นี่ก็เพิ่งมาถึงเหมือนกัน คุณซอนย่าเดินทางเหนื่อยไหมค่ะ? เห็นว่าเปลี่ยนเครื่องตั้ง 2ที่"  สายนทีรู้สึกดีใจที่ได้เจอฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง

"เหนื่อยเหมือนกันค่ะ แต่พอมาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ความเหนื่อยล้าหายไป ความสดใสเข้ามาแทนที่" 

"เชิญที่รถเลยครับ จะได้แวะหาอะไรอร่อยๆเพิ่มพลังก่อนถึงเชียงคำ  เย็นตาโฟตรงห้าแยกพ่อขุนฯ เจ้านี้เขาดังมาก คงไม่ต้องเสียเวลาถามแล้วมั้งครับ อาหารจำพวกเส้นนี่คุณซอนย่าต้องคุ้นเคยแน่นอน" เดชศักดาพูดทีเล่นทีจริง เขาเดินนำทุกคนไปยังลานจอดรถ

เมื่อทุกคนเดินมาถึงยังรถตู้ที่จอดรอ คนขับรถที่นั่งรออยู่ข้างใน ก็รีบลงมาจากรถเพื่อช่วยยกกระเป๋าสัมภาระ 

"เอก...  ใช่ไหม?" เมื่อเห็นหน้าคนขับรถ บัวซอนรู้สึกตกใจนิดหน่อย เพราะหน้าตาเขาเหมือนคนที่เธอเคยรู้จักมาก เธอมั่นใจว่าต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน

"ครับผม  บัวซอน...  ?" คนขับรถวัย 48ปี ที่ชื่อ "เอก" หรือ "เอกกมล" อดีตนักมวยสุดหล่อของหมู่บ้าน (ในอดีตเขากับบัวซอนเคยเป็น"คู่จิ้น"ประจำหมู่บ้าน ที่ชาวบ้านเห็นว่าเหมาะสมกันมาก) ตื่นเต้นและดีใจที่ได้เจอหน้าอดีตคนเคยรักอีกครั้ง บัวซอนเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่อยู่ในใจเขามาโดยตลอด ที่ผ่านมาเขารู้สึกผิดอย่างมหันต์ที่เหตุการณ์บังคับให้ต้องจำใจบอกเลิกเธอ ทั้งที่เขารักเธอสุดหัวใจ

"รู้จักกันมาก่อนหรือค่ะ?  นายเอกคนขับรถประจำตัวพี่เดช ทำงานกับเรามาเป็น 10ปีแล้ว ขยัน มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และที่สำคัญคือ ซื่อสัตย์มาก  พี่เดชชมไม่ขาดปากเสมอ  นายเอกจ๊ะ...  คุณซอนย่าเป็นแม่ของหนูไบร์นี่คู่หมั้นตาทะเล" สายนทีบอกสถานภาพของบัวซอนให้เอกกมลทราบ

"ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ยังฟิตเหมือนเดิมนะ น้าเอก ไม่เสียชื่อนักมวยเก่า" เรย์ทักทายคนขับรถ

"คุณทะเลก็เหมือนกัน ยังหล่อเนี๊ยบเหมือนเดิม ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะครับ" เอกกมลยิ้มให้เจ้านาย

เอกกมลแอบชำเลืองสายตามาทางบัวซอน เขาทำท่าทางนิ่งเงียบอย่างคนเจียมเนื้อเจียมตัว ส่วนบัวซอนเองก็ไม่รู้จะวางตัวแบบไหนดี
เดชศักดาสังเกตเห็นท่าทางแปลกๆของทั้งสองคน
  
ย้อนกลับไปเมื่อ 10ปีที่แล้ว ก่อนจะรับเอกกมลเข้าทำงานในตำแหน่งคนขับรถ เขารู้ดีถึงความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างเอกกมลกับบัวซอน เหตุผลหลักที่รับเอกกมลเข้าทำงาน เพราะแรงยุของสายนภา ที่อยากช่วยเหลือสนับสนุนสามีของนางต้นห้องอย่างเฉลียวศรี ให้มีงานมีรายได้

ส่วนตัวเอกกมลก็รู้เรื่องความสัมพันธ์อันลึกซึ่งระหว่างเจ้านายกับบัวซอนด้วยเหมือนกัน จากปากเฉลียวศรี ซึ่งเป็นภรรยาคนปัจจุบันของเขา 

..........................................................................................................................

รถตู้ได้เดินทางมาถึงยังจุดหมายปลายทางคือ "ไร่เดชศักดา" ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน  อาณาเขตอันกว้างใหญ่ไพศาลสุดลูกหูลูกตาของไร่ ได้ถูกแบ่งออกเป็น 4ส่วนด้วยกัน 
ฝั่งเนินสูงปีกซ้ายสร้างเป็นรีสอร์ตและร้านอาหารหันหน้าออกไปทางทุ่งนาที่ล้อมรอบด้วยภูเขา เนื้อที่ตรงขอบมุมสุดของปีกสร้างเป็นเรือนพักส่วนตัวของเจ้าของกิจการ 2เรือน และเรือนพักรับรองแขกอีก 2เรือน โดยมีกำแพงรั้วกั้นจากตัวรีสอร์ตอย่างเป็นสัดส่วนและแน่นหนา  
ฝั่งเนินสูงปีกขวาทำเป็นไร่ไวน์ปลูกองุ่นตามแนวลดหลั่นลงมา โดยมีบ้านพักคนงานอยู่ในมุมสุดติดกับแนวรั้วกำแพง  
ฝั่งที่ราบต่ำปีกซ้ายทำเป็นแปลงปลูกผักปลอดสารพิษ และฝั่งที่ราบต่ำปีกขวาเป็นลานจอดรถและร้านขายผลิตภัณฑ์จากไร่   

ย้อนอดีตไป 12 ปีที่แล้ว ครอบครัว"ศรีโยธาวัฒน์"  ประสบปัญหาทางธุรกิจอย่างหนักถึงขั้นเกือบล้มละลาย จึงตัดสินใจขายคฤหาสน์หรูทีกรุงเทพฯ  ประจวบเหมาะกับเดชศักดาได้ทำการกว้านซื้อที่ดินในเชียงคำบริเวณท้ายหมู่บ้านของบัวซอน จากชาวบ้านเอาไว้ก่อนหน้าหลายปี  เมื่อทุกอย่างลงตัว ครอบครัวนี้จึงหันหัวเรืออพยพย้ายแหล่งทำมาหากิน มาลงหลักปักฐานยังไร่แห่งนี้ 

สมาชิกในครอบครัว"ศรีโยธาวัฒน์" ต่างรอต้อนรับอยู่ตรงหน้าประตูเรือนใหญ่

"สวัสดีครับ... คุณปู่ คุณย่า สบายดีนะครับ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ยังแข็งแรงเหมือนเดิม" เรย์ยกมือไหว้ทักทายปู่ย่า

"ไหว้พระเถิดลูก บุญรักษานะ กลับมาอยู่บ้านให้ปู่ย่าชื่นใจซะที ไหนว่าที่หลานสะใภ้?" นายจอมพลในวัย 76ปี และคุณหญิงทิพย์อาภาในวัย 74ปี  ตื่นเต้นดีใจที่เห็นหน้าหลานชายคนโต

"ไบร์นี่...   นี่.. คุณปู่กับคุณหญิงย่า" เรย์แนะนำให้คู่หมั้นรู้จักกับผู้อาวุโสประมุขของตระกูล

ไบร์นี่ยกมือไหว้อย่างเคารพนอบน้อม

"ไหว้พระเถิดลูก บุญรักษานะ สวยคมมาก เจ้าทะเลนี่ตาถึงจริงๆ เลือกเมียได้เหมาะสมกันดี" คุณหญิงทิพย์อาภากล่าวชมว่าที่หลานสะใภ้

"นี่...  น้าซอนย่า แม่ของไบร์นี่ครับ" เรย์แนะนำบัวซอนให้รู้จักกับปู่ย่า

"นับว่าเป็นบุญของดิฉันกับลูกอย่างมาก ที่พวกท่านกรุณาให้โอกาสคนระดับพวกเรา ได้มาดองเป็นครอบครัวเดียวกันกับพวกท่าน" บัวซอนยกมือไหว้ พร้อมกับจ้องมองหน้าคุณหญิงทิพย์อาภาอยู่ครู่หนึ่ง เธอยังจดจำน้ำเสียงของผู้หญิงคนนี้ทางโทรศัพท์ที่เคยพูดประชดประชันดูถูกศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงของเธอ อย่างไม่มีวันลืมเลือน มาในวันนี้เธอได้มีโอกาสมาเห็นหน้าเจ้าของน้ำเสียงตัวจริง

ทำเอาคุณหญิงทิพย์อาภาถึงกับงงเลยทีเดียวว่า สิ่งที่บัวซอนพูดนั้นต้องการจะสื่ออะไร?

"น้าซอนย่าครับ  นี่... คุณป้าฟ้า แม่ของนายเมฆ" เรย์แนะนำบัวซอนกับสายนภา

"สวัสดีค่ะ..  คุณฟ้า ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะคะ หวังว่าคุณคงสบายดีมีความสุข" บัวซอนทักทายฝ่ายตรงข้ามด้วยน้ำเสียงที่ส่อในเชิงประชดประชัน

"สวัสดีค่ะ...  คุณซอนย่า" สายนภาทักทายตามมารยาท ในที่ประชุมชนแบบนี้ เธอต้องพยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

"สวัสดีครับ น้าซอนย่า ดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้งนะครับ" สายเมฆยกมือไหว้ทักทายบัวซอน

"ไม่ต้องชะโงกหน้าขนาดนั้น มาร์ตี้ไม่ได้มาด้วย จะตามมากับน้าทอมเดือนหน้าโน่น คิดถึงละซิ?" เรย์แซวน้องชาย

"พี่ทะเลก็...  คนเยอะแยะขนาดนี้ ยังจะกล้าแซวเล่นอีก ผมก็อายเป็นเหมือนกันนะ" สายเมฆเขินอาย
.........................................................................................................
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่