รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 17 พิษรัก แรงหึง (15+ เนื้อหาและภาษา)

รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 17 พิษรัก แรงหึง 


ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
..........................................................................................................

ณ ร้านอาหารของรีสอร์ต

สายนภากับสายนทีกำลังนั่งคุยกันอยู่บนโต๊ะอาหาร โดยมีเฉลียวศรีคอยนั่งสังเกตการณ์อยู่ท้ายโต๊ะ

"เรื่องนั้นน้ำรู้จากปากพี่เดชและตาทะเลแล้ว ไม่เห็นมีอะไรต้องวิตกกังวล พี่เดชแค่เข้าไปถามคุณซอนย่าเรื่องแขกฝ่ายเจ้าสาวที่จะเชิญมางานแต่ง ทำไมคุณพี่ต้องแสดงอาการตื่นตระหนกขนาดนั้น? อายุปูนนี้แล้ว ยังไม่เลิกหึงหวงพี่เดชอีกเหรอค่ะ? มีใครคาบข่าวมาบอกใช่ไหม? น้ำจะได้ไปบอกพี่เดชให้รู้ตัวว่าในไร่ของเรามีสายลับแฝงอยู่" สายนทีพูดกับพี่สาว จากนั้นจึงหันมองไปทางเฉลียวศรี

"อูย... เดี๋ยว.. เหลียวขอตัวเข้าไปเร่งยำส้มโอทะเลในครัวให้คุณๆก่อนนะคะ เห็นสั่งตั้งนานแล้วยังไม่ได้" เฉลียวศรีรีบเผ่นแนบออกจากวงสนทนา

"เธอก็โลกสวยเกิน แทนที่จะช่วยกันคิดหาทางป้องกัน กลับเมินเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อน รู้กันอยู่พี่เดชมีความต้องการอย่างว่าสูงแค่ไหน ขนาดแก่จนจะเป็นปู่คนแล้ว ยังคึกมีเรี่ยวแรงเหมือนตอนหนุ่มๆ ส่วนนังบัวซอนก็วัวเคยค้าม้าเคยขี่ ยิ่งตอนนี้อยู่ห่างผัวด้วยแล้ว คงขาดคนไถนาผืนน้อย สบทั้งโอกาสและบรรยากาศเป็นใจ ถ่านไฟเก่ามันพร้อมที่จะลุกได้เสมอ" สายนภาท้วงติงน้องสาว

"น้ำเชื่อใจพี่เดชค่ะ ส่วนคุณพี่ หากยังกังวลอยู่ จะจัดการอย่างไรก็สุดแต่ใจ น้ำไม่ขอยุ่งด้วยนะคะ ถ้าโดนพี่เดชดุหรือต่อว่าอะไร อย่ามาบ่นให้น้ำฟัง เพราะน้ำได้เตือนคุณพี่แล้ว" สายนทีส่ายหน้า

………………………………………………………………………..

"ว๊าย… แหกแตกกระเจิง" เฉลียวศรีอุทานร้องเสียงหลง ขณะที่เดินชนกับใครคนหนึ่งตรงประตูทางเข้าห้องครัวของร้านอาหาร

"พี่เหลียวนี่เอง มาทำอะไรตรงนี้ค่ะ? ยิ่งเวลาอาหารกลางวัน ประตูครัวจะมีอาหารออกตลอด ต้องระวังนะคะ เพราะมันอันตราย โชคยังดีที่รติไม่ได้ถือถ้วยแกงร้อนๆมา" รติยาเตือนฝ่ายตรงข้าม

"โทษทีจ๊ะ จะเข้ามาดูว่ายำส้มโอทะเลของคุณฟ้ากับคุณ ทำเสร็จหรือยัง? รอนานมาก แม่ครัวกำลังไปเก็บส้มโอหรือไง?"

"เดี๋ยวรติเข้าไปดูให้" รติยาเดินกลับเข้าในครัวทันที จากนั้นไม่ถึงนาทีก็เดินออกมาพร้อมกับจานใส่ยำส้มโอทะเล เธอสั่งให้พนักงานรีบเอาไปเสิร์ฟที่โต๊ะเจ้านายทั้งสองอย่างเร่งด่วน

"เมื่อกี้รติได้ยินคุณๆทั้งสองคุยกันเรื่องใครแอบเข้าหาใครค่ะ?" รติยาถามไถ่ด้วยอยากรู้อยากเห็น

"เป็นเรื่องของเจ้านายเขา คุณไม่ต้องอยากรู้หรอก" เฉลียวศรีตัดบทด้วยความรำคาญ

"ฮั่นแน่… ไม่อยากบอกหรือว่ารู้ไม่จริงค่ะ?" รติยาใช้หลักจิตวิทยาจี้จุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม เธอค่อนข้างรู้จักเฉลียวศรีดีพอควร

"ว๊าย… พูดจาแบบนี้ดูถูกกันชัดๆ มีเรื่องไหนในไร่ในหมู่บ้านนี้ที่คนอย่างอีเหลียวไม่รู้ไม่เห็นบ้าง? จากฉายาโทรโข่งประจำหมู่บ้าน จนอัพเกรดมาเป็นพีอาร์ยืนหนึ่ง การันตีสกิลขั้นเทพของข้าโว้ย" เฉลียวศรีเคืองคู่สนทนา

"ค่ะ… ไหนลองโชว์สกิลขั้นเทพที่ภูมิใจนักหนาให้ดูหน่อยซิ ถ้าไม่เล่าแสดงว่าแค่ราคาคุย พ่นน้ำลายใครๆก็ทำได้" รติยาพยายามหลอกล่อให้เฉลียวศรีพูดออกมา

เฉลียวศรีเล่าเรื่องทั้งหมดให้รติยาฟังอย่างถึงอกถึงใจ เธอค่อนข้างแน่ใจว่าคนอย่างรติยามีอุดมการเดียวกัน เผื่อวันข้างหน้าอาจต้องอาศัยผู้หญิงคนนี้มาเป็นแนวร่วมเสริมทัพ

........................……………………………….

บัวซอนเดินมาดูความเรียบร้อยของที่นาหลังจากถมดินเสร็จ เธอรู้สึกเย็นวูบบริเวณข้างหลังเหมือนมีใครมายืนอยู่

"เอกเองหรือ? มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ฉันตกใจหมด ไม่ไปขับรถให้คุณๆหรือไง?" บัวซอนหันไปทักทายอดีตเพื่อนชายคนสนิท

"ไปส่งคุณเดชในเมือง เพิ่งกลับมาเมื่อกี๊ เราไม่มีโอกาสได้คุยกันส่วนตัวแบบนี้เลยนะ" เอกกมลมองหน้าอดีตหญิงที่เคยรัก

"เอกมีอะไรก็พูดมาเลย จะได้รีบคุยรีบแยกย้ายกันกลับ แถวนี้หูตาคนมันเยอะ เดี๋ยวเกิดเข้าใจผิดเอาไปนินทา มันจะเสียหายทุกฝ่าย เอกก็น่าจะรู้ว่าเหลียวหึงและหวงเอกขนาดไหน ยิ่งมาเห็นเอกอยู่กับฉันสองต่อสองแบบนี้ เหลียวต้องเกลียดฉันมากกว่าเดิมแน่" บัวซอนพูดอย่างตรงไปตรงมา

"เราอยากขอโทษบัวซอนเรื่องที่ผ่านมาในอดีต โดยเฉพาะตอนที่เราได้เขียนจดหมายมาบอกเลิก เรารู้สึกผิดต่อบัวซอนมาก ผิดที่ทำให้บัวซอนเสียใจช้ำใจ ผิดไม่รักษาสัญญาที่ว่า จะรักบัวซอนคนเดียวตลอดไป ผิดที่ไม่รู้จักหักห้ามใจตัวเอง เลยพลาดไปทำผู้หญิงท้อง บัวซอนจะโกรธจะเกลียดเราแค่ไหน เรายินดีรับผิดในสิ่งที่เราได้ก่อไว้ เราขอแค่ บัวซอนอภัยให้เราเถิด" เอกกลมเอื้อมมือมาสัมผัสกับมือของฝ่ายตรงข้าม แววตาของเขาดูเศร้าสร้อย ลูกตาแดงก่ำ ภายในใจลึกๆ เขายังรักบัวซอนอยู่เสมอไม่มีเปลี่ยนแปลง

"เอก… ฟังฉัน.. ฉันไม่เคยโกรธหรือเกลียดเอกเลยแม้แต่น้อย ฉันกลับชื่นชมในความมีน้ำใจลูกผู้ชายด้วยซ้ำ ทำผิดแล้วยอมรับผิด ไปทำผู้หญิงท้องก็ต้องรับผิดชอบ ที่ผ่านมาถือซะว่า เราทั้งสองมีวาสนาต่อกันเพียงแค่นี้ แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ มิตรภาพเป็นสิ่งที่ยั่งยืนและมั่นคงตลอดไป" บัวซอนปลอบใจและให้กำลังใจเอกกมล

"กรี๊ด.. จับได้คาหนังคาเขาแบบนี้ดูซิว่าจะแก้ตัวกันยังไง?" เฉลียวศรีกรีดร้องสุดเสียง เธอปรี๊ดแตกขึ้นมาทันที ภาพที่เธอเห็นตำตาอยู่ข้างหน้า มันช่างบาดตาบาดใจเธอยิ่งนัก

"แกเป็นอะไรเหลียว? ร้องแหกปากซะดังลั่นเหมือนเปรตขอส่วนบุญ" สายนภาถึงกับสะดุ้งตกใจ

เฉลียวศรีรีบวิ่งตรงดิ่งไปยังที่นาอย่างคนเสียสติ โดยมีเป้าหมายคือ เอกกมลและบัวซอน

"แอบมาพลอดรักรำลึกถึงความหลังกันตรงนี้เอง จับมือถือแขนกันด้วย เอก... ทำไมถึงทำกับเหลียวได้ลงคอ? ตั้งแต่เป็นผัวเมียกันมา 10ปี เอกไม่เคยจับมือถือแขนเหลียวเลย เหลียวน้อยใจและเสียใจมาก อีบัวซอนก็เหมือนกัน มีผัวแล้ว ไหนจะคุณเดชอีก มีคนเกาให้ตั้งสองคนขนาดนี้ ยังไม่หนำใจแกหรือไง? ทำไมต้องมาแอบลักกินเอกของฉัน? ความร่านคันคะเยอมันซึมเข้าสู่กมลสันดานแกตั้งแต่สาวยันแก่เลยเนอะ พูดแล้วขอใช้ฝ่ามือตบเอายางอายที่หน้าแกออกมา ดูซิว่ายังมีเหลืออยู่ไหม?" เฉลียวศรีกระหน่ำด่าบัวซอนด้วยบันดาลโทสะบวกพิษรักแรงหึง เธอง้างฝ่ามือเดินปรี่เข้าหาทันที

เอกกมลรีบเข้าไปกันตัวเฉลียวศรีออกมาอย่างไว เพื่อไม่ให้มีโอกาสมาทำร้ายบัวซอน

"เหลียว… ตั้งสติแล้วฟังฉันก่อน สิ่งที่เธอเห็นมันไม่ใช่สิ่งที่เธอคิด ฉันกล้าสาบานตรงนี้ว่า ฉันกับเอกไม่มีอะไรต่อกันในทางชู้สาว เราเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น เธอลองใช้สมองของเธอคิดซิว่า ถ้าฉันกับเอกแอบพลอตรักกันจริง พวกฉันคงไม่โง่พอที่จะมาพลอตรักกันตรงนี้หรอก มันประเจิดประเจ้อเกินไป คนผ่านไปผ่านมาเยอะแยะ เดี๋ยวได้เป็นขี้ปากชาวบ้านแน่ สู้ไปแอบพลอตรักที่สุมทุมพุ่มไม้ริมหนองโน่น ไม่ดีกว่าหรือ มันทั้งมิดชิดลับหูลับตาคน" บัวซอนตั้งสติและพยายามใช้เหตุผลอธิบาย

"เพื่อนกันมันส์ดีละซิ   ยิ้ม... แหม … ทำมาเป็นพูดจามีหลักการ ฉันไม่เชื่อคนอย่างแกหรอก เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ฉันรู้จักสันดานแกดีพอ" เฉลียวศรีตะคอกใส่ศัตรูคู่อริ

"เธอมันหึงจนหน้ามืดตามัวขาดสติ ต่อให้ยกแม่น้ำทั้ง5 มาอธิบายเหตุผลยังไง บัวใต้น้ำอย่างเธอ คงไม่เข้าใจหรอก กลับๆได้แล้ว" เอกกมลฉุดกระชากลากตัวเฉลียวศรีออกจากพื้นที่เกิดเหตุทันที

สายนภายืนดูเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมกับถ่ายคลิปเก็บไว้ 

บัวซอนจ้องหน้าสายนภาด้วยแววตาที่แข็งกร้าว เพื่อเป็นการตำหนิติเตียนในการกระทำที่ไม่สมควรยิ่ง

………………………………………………………………

บัวชมพูเดินเข้ามาในโรงอาหารพนักงาน เธอสังเกตเห็นพนักงานทั้งหมดนั่งล้อมวงสุมหัวกันดูคลิปในโทรศัพท์มือถือ ในแพด บ้างก็พูดจาแสดงความคิดเห็นกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์เกี่ยวกับคลิปที่ได้ดู

"เสด็จมาแล้วหรือย่ะ แม่นางต้นห้องยืนหนึ่ง จะมาเอาปี๊บให้เจ้านายหล่อนไปคลุมหัวหรือไง?" ฉลองชัยกล่าวประชดประชัน

"พูดอะไรของหล่อน? เป็นแค่ลูกจ้างพูดจาลามปามไม่เห็นหัวเจ้านายแบบนี้ มันไม่ดีต่ออนาคตการงานนะ น้าบัวซอนของฉันก็ถือเป็นเจ้านายคนหนึ่งของหล่อนเหมือนกัน รอให้พี่ไบร์นี่แต่งงานกับคุณทะเลก่อนเถอะ แล้วจะได้รู้ว่าใครเป็นใคร? ถ้าหล่อนยังไม่ตบปากตัวเอง หรือขอโทษน้าบัวซอน หล่อนเจอดีแน่ ฉันขอเตือนไว้ก่อน" บัวชมพูหัวเสียกับคำพูดของคู่ปรับ

"สงสัยคงยังไม่รู้เรื่องคลิปแน่ๆ" พนักงานคนหนึ่งพูดขึ้น

"คลิปอะไรกัน? ฉันไม่รู้เรื่อง ไหนขอดูหน่อยซิ" บัวชมพูสงสัย

"คลิปนี้กำลังเป็นที่โด่งดังในโลกโซเชียลตอนนี้ มีคนกระหน่ำกดแชร์กันเยอะมาก" พนักงานคนดังกล่าวยื่นโทรศัพท์มือถือให้บัวชมพูดู

…………………………………………………………………….

"งี่เง่า ไร้เหตุผล ไร้การศึกษา ต่ำตมสิ้นดี ตัวเองต้องจัดการไล่มันออกไปเดี๋ยวนี้เลย ดูมันทำกับแม่เขาซิ ด่าซะจนแม่เขาเสียหาย ทั้งๆที่แม่เขาบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกับผัวมัน ใจมันคงสกปรกโสโครก ถึงคิดเรื่องอัปปรีย์จัญญไรได้" ไบร์นี่ดูคลิปแล้วโกรธจนเลือดขึ้นหน้า

"ใจเย็นๆก่อนนะที่รัก ตอนนี้พ่อของเขากำลังจัดการสอบสวนอยู่ เขามั่นใจว่าพ่อต้องให้ความเป็นธรรมกับน้าซอนย่าแน่นอน" เรย์พยายามกล่อมคนรักให้สงบลง

"เรย์พูดถูกนะลูก อย่าใจร้อนวู่วาม แม่ยังเฉยๆเลย ขนาดส่งคลิปให้พ่อดู พ่อยังหัวเราะ พ่อเขารู้ว่าแม่ไม่มีทางทำเรื่องบัดสีแบบนั้นหรอก เราไม่ผิด เราไม่ได้ทำอย่างที่เขากล่าวหา จะกลัวอะไร ไปด่าไปตบตีเขา มันได้ประโยชน์อะไร จิตใจเราจะเศร้าหมองขุ่มมัวเปล่าๆ ใครทำอะไรไว้ สิ่งนั้นก็จะกลับไปหาเขาเอง" บัวซอนพูดให้แง่คิด
…………………………………………………………………..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่