มนต์ดำในชีวิตจริง: เรื่องราวที่เปลี่ยนความเชื่อ
แต่เดิม ฉันเป็นคนที่ไม่เคยเชื่อในเรื่องคุณไสยหรือสิ่งเหนือธรรมชาติมาก่อนเลย
ชีวิตของฉันเป็นไปตามเหตุและผลมาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง…
ฉันทำงานอยู่ที่ภูเก็ตมาหลายปี มีแฟนเป็นชาวต่างชาติที่คบกันมา 3 ปี
เรารักกันดี ใช้ชีวิตคู่ที่แสนสงบสุขด้วยกัน เขาเป็นคนใจดี อบอุ่น และมีเหตุผล
แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปในพริบตา
วันหนึ่ง ฉันสังเกตเห็นพฤติกรรมของเขาเริ่มแปลกไป
เขาหลงใหลสาวบาร์ที่ไหนสักแห่ง จากชายผู้แสนอ่อนโยน
กลายเป็นคนที่ฉันแทบไม่รู้จัก เขาเย็นชา ไม่สนใจฉัน
และเหมือนถูกใครบางคนครอบงำ
ฉันพยายามทุกวิถีทางเพื่อดึงเขากลับมา พูดคุย อ้อนวอน
แม้กระทั่งยอมก้มกราบเท้า แต่ก็ไร้ผล
สุดท้าย เราแยกทางกันในวันที่ 5 สิงหาคม ชีวิตหลังจากนั้นเต็มไปด้วยความเศร้า
ฉันร้องไห้ทุกวัน แม้กระทั่งเวลาทำงาน ฉันก็ต้องแอบไปร้องไห้ในที่ลับตาคน
โดยไม่เคยเล่าให้ใครฟัง จนกระทั่งปลายเดือนตุลาคม
มีเพื่อนร่วมงานคนใหม่ชื่อ “บัวตอง” เข้ามาในชีวิต
บัวตองเป็นสาวใต้ แต่มีญาติทางภาคเหนือ เธอเป็นคนสังเกตเก่ง
และเพียงแค่มองฉัน เธอก็ถามว่า
“อยากได้แฟนกลับมามั้ยพี่? เดี๋ยวหนูให้ย่าช่วย”
ฉันนิ่งไปพักหนึ่ง เพราะไม่ได้เล่าอะไรให้เธอฟังเลย ฉันตอบไปว่า
“เขาไม่กลับมาหรอก พี่ทำทุกอย่างแล้ว ขนาดจะก้มกราบเขายังไม่กลับเลย”
“เขาโดนของเขมร”
บัวตองพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เธอบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับแฟนฉันไม่ใช่เรื่องปกติ เขาโดน “ของเขมร”
แต่เป็นของเล่น ไม่ได้ตั้งใจให้ผูกมัดจริงจัง ถ้าถอนตอนนี้จะยังง่าย ฉันลังเลอยู่นาน
แต่ด้วยความหวังครั้งสุดท้าย ฉันตัดสินใจให้ย่าของบัวตองทำพิธี
พิธีนี้เรียบง่ายกว่าที่คิด ย่าของบัวตองทำการถอนในคืนพระจันทร์เต็มดวง
ใช้บทสวดและเครื่องเซ่นไหว้เล็กน้อย พิธีใช้เวลาเพียงชั่วโมงเดียว หลังจากนั้นไม่นาน
แฟนของฉันกลับมา เขามาง้อ ขอคืนดี และเล่าด้วยน้ำเสียงสับสนว่าเขาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองทำอะไรลงไป
เขาจำได้เพียงลาง ๆ เหมือนฝันร้ายที่เขาควบคุมไม่ได้
“สายดำ”
เรื่องของฉันดูเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่ความเชื่อเกี่ยวกับคุณไสยไม่ได้จบลงแค่นั้น
มีเพื่อนสนิทของฉันคนหนึ่ง เพิ่งเลิกกับแฟนด้วยเหตุผลคล้าย ๆ กัน เธอสงสัยว่าแฟนของเธออาจโดนมนต์ดำ
ฉันเลยแนะนำบัวตองให้
บัวตองและย่าช่วยตรวจดู แต่กลับพบว่าแฟนของเพื่อนฉันไม่ได้โดนของใด ๆ
เพียงแต่ความรักของเขาหมดไปเอง แต่เพื่อนของฉันรับไม่ได้
เธอรักเขามากจนยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมา
บัวตองเตือนด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า ถ้าจะดึงจิตกลับมาด้วยมนต์ดำสายนี้
มีราคาที่ต้องจ่ายทั้งค่าครูที่สูงและสิ่งที่ต้องเตรียมเซ่นไหว้ครูบาร์อาจารย์
แต่เพื่อนฉันตัดสินใจเดินหน้าต่อ
“พิธี 9 คืน”
ย่าของบัวตองเริ่มพิธีในคืนเดือนมืด ใช้เวลา 9 คืนติดต่อกัน ทุกคืนจะต้องสวดมนต์ เรียกจิต และทำพิธีเซ่นไหว้ที่ดูน่าขนลุก ย่าบอกว่า การเรียกจิตสายดำไม่ใช่แค่ดึงตัวคนรักกลับมา แต่มันเหมือนการจับเขาไว้ด้วยพลังบางอย่างที่ไม่มีใครเห็นแต่สิ่งนี้จะไม่เหมือนการส่งผีพรายไปครอบงำ เขาก็ยังเป็นตัวของตัวเอง แค่จะสนใจในตัวผู้ทำมากขึ้น รักมากขึ้น
หลังพิธีเสร็จ แฟนของเพื่อนฉันกลับมาจริง ๆ ทุกวันนี้พวกเขากลับมาอยู่ด้วยกันแม่ย่าคนนี้เก่งจนฉันขนลุก
เพราะเพื่อนฉันเองแม้จะได้แฟนกลับมาแต่กลัวมากๆ ตระเวนทำบุญและดูดวง
แต่ก็ไม่เคยมีที่ไหนทักว่าแฟนของเธอโดนของเลยสักที่
ฉันเล่าเรื่องราวนี้เพราะของแบบนี้มีจริง และพิธีค่อนข้างน่ากลัวเลย
มีกฏข้อห้ามด้วย ดังนั้น ถ้าคุณคิดว่าการเรียกจิตหรือการทำของไม่มีจริง
ฉันเห็นด้วยตามาแล้วว่ามันมีจริง และใช้ทุกวันดูแลความรักของคุณให้ดี
อย่าให้ต้องไปพึ่งเวทมนตร์คาถาเลย
เรียกจิตคนรัก
แต่เดิม ฉันเป็นคนที่ไม่เคยเชื่อในเรื่องคุณไสยหรือสิ่งเหนือธรรมชาติมาก่อนเลย
ชีวิตของฉันเป็นไปตามเหตุและผลมาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง…
ฉันทำงานอยู่ที่ภูเก็ตมาหลายปี มีแฟนเป็นชาวต่างชาติที่คบกันมา 3 ปี
เรารักกันดี ใช้ชีวิตคู่ที่แสนสงบสุขด้วยกัน เขาเป็นคนใจดี อบอุ่น และมีเหตุผล
แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปในพริบตา
วันหนึ่ง ฉันสังเกตเห็นพฤติกรรมของเขาเริ่มแปลกไป
เขาหลงใหลสาวบาร์ที่ไหนสักแห่ง จากชายผู้แสนอ่อนโยน
กลายเป็นคนที่ฉันแทบไม่รู้จัก เขาเย็นชา ไม่สนใจฉัน
และเหมือนถูกใครบางคนครอบงำ
ฉันพยายามทุกวิถีทางเพื่อดึงเขากลับมา พูดคุย อ้อนวอน
แม้กระทั่งยอมก้มกราบเท้า แต่ก็ไร้ผล
สุดท้าย เราแยกทางกันในวันที่ 5 สิงหาคม ชีวิตหลังจากนั้นเต็มไปด้วยความเศร้า
ฉันร้องไห้ทุกวัน แม้กระทั่งเวลาทำงาน ฉันก็ต้องแอบไปร้องไห้ในที่ลับตาคน
โดยไม่เคยเล่าให้ใครฟัง จนกระทั่งปลายเดือนตุลาคม
มีเพื่อนร่วมงานคนใหม่ชื่อ “บัวตอง” เข้ามาในชีวิต
บัวตองเป็นสาวใต้ แต่มีญาติทางภาคเหนือ เธอเป็นคนสังเกตเก่ง
และเพียงแค่มองฉัน เธอก็ถามว่า
“อยากได้แฟนกลับมามั้ยพี่? เดี๋ยวหนูให้ย่าช่วย”
ฉันนิ่งไปพักหนึ่ง เพราะไม่ได้เล่าอะไรให้เธอฟังเลย ฉันตอบไปว่า
“เขาไม่กลับมาหรอก พี่ทำทุกอย่างแล้ว ขนาดจะก้มกราบเขายังไม่กลับเลย”
“เขาโดนของเขมร”
บัวตองพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เธอบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับแฟนฉันไม่ใช่เรื่องปกติ เขาโดน “ของเขมร”
แต่เป็นของเล่น ไม่ได้ตั้งใจให้ผูกมัดจริงจัง ถ้าถอนตอนนี้จะยังง่าย ฉันลังเลอยู่นาน
แต่ด้วยความหวังครั้งสุดท้าย ฉันตัดสินใจให้ย่าของบัวตองทำพิธี
พิธีนี้เรียบง่ายกว่าที่คิด ย่าของบัวตองทำการถอนในคืนพระจันทร์เต็มดวง
ใช้บทสวดและเครื่องเซ่นไหว้เล็กน้อย พิธีใช้เวลาเพียงชั่วโมงเดียว หลังจากนั้นไม่นาน
แฟนของฉันกลับมา เขามาง้อ ขอคืนดี และเล่าด้วยน้ำเสียงสับสนว่าเขาไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองทำอะไรลงไป
เขาจำได้เพียงลาง ๆ เหมือนฝันร้ายที่เขาควบคุมไม่ได้
“สายดำ”
เรื่องของฉันดูเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่ความเชื่อเกี่ยวกับคุณไสยไม่ได้จบลงแค่นั้น
มีเพื่อนสนิทของฉันคนหนึ่ง เพิ่งเลิกกับแฟนด้วยเหตุผลคล้าย ๆ กัน เธอสงสัยว่าแฟนของเธออาจโดนมนต์ดำ
ฉันเลยแนะนำบัวตองให้
บัวตองและย่าช่วยตรวจดู แต่กลับพบว่าแฟนของเพื่อนฉันไม่ได้โดนของใด ๆ
เพียงแต่ความรักของเขาหมดไปเอง แต่เพื่อนของฉันรับไม่ได้
เธอรักเขามากจนยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมา
บัวตองเตือนด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า ถ้าจะดึงจิตกลับมาด้วยมนต์ดำสายนี้
มีราคาที่ต้องจ่ายทั้งค่าครูที่สูงและสิ่งที่ต้องเตรียมเซ่นไหว้ครูบาร์อาจารย์
แต่เพื่อนฉันตัดสินใจเดินหน้าต่อ
“พิธี 9 คืน”
ย่าของบัวตองเริ่มพิธีในคืนเดือนมืด ใช้เวลา 9 คืนติดต่อกัน ทุกคืนจะต้องสวดมนต์ เรียกจิต และทำพิธีเซ่นไหว้ที่ดูน่าขนลุก ย่าบอกว่า การเรียกจิตสายดำไม่ใช่แค่ดึงตัวคนรักกลับมา แต่มันเหมือนการจับเขาไว้ด้วยพลังบางอย่างที่ไม่มีใครเห็นแต่สิ่งนี้จะไม่เหมือนการส่งผีพรายไปครอบงำ เขาก็ยังเป็นตัวของตัวเอง แค่จะสนใจในตัวผู้ทำมากขึ้น รักมากขึ้น
หลังพิธีเสร็จ แฟนของเพื่อนฉันกลับมาจริง ๆ ทุกวันนี้พวกเขากลับมาอยู่ด้วยกันแม่ย่าคนนี้เก่งจนฉันขนลุก
เพราะเพื่อนฉันเองแม้จะได้แฟนกลับมาแต่กลัวมากๆ ตระเวนทำบุญและดูดวง
แต่ก็ไม่เคยมีที่ไหนทักว่าแฟนของเธอโดนของเลยสักที่
ฉันเล่าเรื่องราวนี้เพราะของแบบนี้มีจริง และพิธีค่อนข้างน่ากลัวเลย
มีกฏข้อห้ามด้วย ดังนั้น ถ้าคุณคิดว่าการเรียกจิตหรือการทำของไม่มีจริง
ฉันเห็นด้วยตามาแล้วว่ามันมีจริง และใช้ทุกวันดูแลความรักของคุณให้ดี
อย่าให้ต้องไปพึ่งเวทมนตร์คาถาเลย