รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 16 ถ่านไฟเก่า
ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
....................................................................................................................
"เหลียว.. แกรู้ไหม ที่นาข้างไร่ เขาจะสร้างอะไรกัน? ฉันได้ยินเสียงรถขนดินรถบดดินวิ่งเข้าออกตลอด เสียงดังหนวกหู ฝุ่นฟุ้งตลบอบอวล" สายนภามองออกไปนอกหน้าต่างห้องนอน
"คุณฟ้ายังไม่รู้เหรอค่ะ ที่นานั่นเป็นมรดกที่นังบัวซอนเพิ่งได้ แล้วมันก็ยกให้ลูกสาวเป็นของขวัญแต่งงาน นี่คงจะขนดินมาถมที่ให้มันสูงและแน่นกว่าเดิม ได้ยินมาว่า พอหลังจากแต่งงาน คุณทะเลกับนังไบโพล่าร์จะสร้างบ้านบนที่ตรงนั้น" เฉลียวศรีรายงานสถานการณ์ความเคลื่อนไหว
"เหรอ.. แกนี่ช่างแสนรู้ไปหมด"
" แค่.. รู้ ก็พอค่ะ ไม่ต้องมีคำว่า แสน นำหน้าก็ได้ ฟังแล้วมันมะแล่มมะแล่มยังไงไม่รู้”
"ฉันแค่พูดแหย่เล่นแค่นี้ ทำเป็นน้อยอกน้อยใจไปได้ คนที่ถือแก้วน้ำไปให้เจ้าทะเล ใช่.. อีนังไบโพล่าร์ไหม? ดูหุ่นมันแปลกๆ รสนิยมการแต่งตัวตลาดล่างมาก ปรกตินางจะประโคมแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า ฉันก็ไม่ได้ใส่แว่นด้วยซิ แกมาช่วยฉันดูหน่อยว่าใช่ไหม?" สายนภากวักมือเรียกนางต้นห้องมาที่หน้าต่าง
"ไม่ใช่นังไบโพล่าร์ค่ะ นั่นมัน คุณรติ ว่าแต่นางมาทำอะไร? ถิ่นของนางคือร้านอาหาร เหลียวว่ามันต้องมีอะไรในกอไผ่มากกว่านั้นแน่ค่ะ" เฉลียวศรีครุ่นคิด
"แกก็ฉลาดน้อยจริง นังรติเคยเป็นเมียเก่าเจ้าทะเลมาก่อน นังเด็กใจแตกได้กับเจ้าทะเลสมัยยังเรียนไม่จบมหาลัย นางเคยท้องกับเจ้าทะเล แต่ดันมาแท้งซะก่อน จากนั้นก็เลิกกัน และนางไปมีผัวใหม่ พอเลิกผัวใหม่ก็ไม่มีเงินไม่มีที่ไป เลยซมซานมาขอพึ่งบารมีพี่เดชๆก็ใจดีเกิน ให้นางทำงานเป็นผู้จัดการร้านอาหาร ประสบการณ์ก็ไม่มี ความรู้ก็เท่าหางอึ่ง มีดีแค่หุ่นกับหนังหน้าพลาสติกที่พอจะล่อลูกค้าเข้าร้านได้" สายนภาเล่าภูมิหลังของบุคคลที่ 3
"จริงเหรอค่ะ ที่คุณรติเคยท้องกับคุณทะเลมาก่อน? ทำไมเหลียวไม่รู้เรื่องนี้เลย? รู้คร่าวๆเพียงแค่ว่า คุณรติเคยเป็นแฟนเก่าคุณทะเลเท่านั้น เหลียวตกข่าวไปได้อย่างไรนี่?" เฉลียวศรีคาดไม่ถึงกับเรื่องที่นายผู้หญิงเล่าให้ฟัง
"ตอนที่นังรติเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ๆ ช่วงนั้นแกฟุ้งซ่านจนไม่เป็นอันทำอะไรเลย มัวแต่ไปเฝ้าผัวทั้งวันทั้งคืน กลัวนังพยาบาลที่มาดูแลคุณพ่อ มันชื่ออะไรนะ? อ๋อ... นังอ้อยหวานมางาบผัวแกไปกิน"
"แหม.. เหลียวรักของเหลียวนี่ค่ะ ได้ผัวหล่อต้องคอยเฝ้าตามประกบนิดหนึ่ง เอกยิ่งแก่ก็ยิ่งหล่อ หุ่นยังเซี๊ยะยังฟิตแอนด์เฟิร์ม หัวก็ไม่เถิก ไม่อ้วนลงพุงเหมือนเพื่อนรุ่นเดียวกัน ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่เห็นเข้าต้องน้ำลายหก ยิ่งช่วงนี้เทรนด์รักลุงกำลังมาแรง เหลียวต้องคอยระวังไม่ให้คลาดสายตา"
"ย่ะ... แกนี่บ้าผู้ชายขึ้นสมองจริงๆ ยิ่งมาได้ผัวตอนแก่ยิ่งกู่ไม่กลับเลยนะ แกคอยดูต่อไป ฉันว่างานนี้สนุกแน่ นังรติคงไม่ปล่อยให้เจ้าทะเลกับนังไบโพล่าร์ลงเอยแบบแฮ๊ปปี้เอ็นดิ้งหรอก" สายนภายิ้มอย่างสาแก่ใจ
…………………………………………………………
"กาแฟเย็นค่ะ 2ช๊อต ใส่นมเยอะๆ ไม่หวานมาก น้ำแข็งทุบละเอียดเท่าเม็ดข้าวโพด" รติยายื่นแก้วพลาสติกให้เรย์
"ตกใจหมด รติแอบย่องมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ผมไม่ได้ยินเสียงเลย ขอบใจมากสำหรับกาแฟ ยังอุตส่าห์จำได้อีกว่าผมชอบกินแบบไหน"
"ทุกอย่างเกี่ยวกับทะเล รติจำได้หมด" รติยาส่งยิ้มให้อดีตคนรัก
หลังจากตรวจเช็คการทำงานของคนงานถมดินจนเป็นที่พอใจแล้ว ไบร์นี่เดินตรงเข้ามาหาเรย์ ทันทีที่เห็นคนรักยืนข้างผู้หญิงที่เธอไม่รู้จัก เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ยังไม่แสดงอาการออกทางสีหน้ามากนัก
"เหนื่อยไหมที่รัก?" เรย์ใช้ผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงซับเหงื่อบริเวณขมับและหน้าผากของหญิงคนรัก
รติยาจ้องมองด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมด้วยความริษยาคนรักใหม่ของเรย์
"ลืมแนะนำให้รู้กัน ที่รักจ๊ะ นี่.. รติยาเป็นผู้จัดการร้านอาหาร และเป็นเพื่อนผม รติ นี่.. ไบร์นี่ สุดที่รักของผม" เรย์แนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน
"ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณรติยา ทั้งสวยทั้งเก่งแบบนี้นับว่าเป็นโชคดีของทางไร่ ที่ได้คุณมาร่วมงาน" ไบร์นี่กล่าวทักทายอย่างเป็นมิตร
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน เรียกฉันว่า รติ ก็ได้ค่ะ ทะเลโชคดีมากนะ ที่ได้คุณมาเป็นเจ้าสาว ทะเลคงจะลืมบอกคุณหรือคงไม่กล้าบอกว่า ระหว่างฉันกับทะเล เราไม่ได้เป็นแค่เพื่อนสนิทกันเฉยๆ อดีตเราเคยเป็นอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น คุณคงไม่โกรธที่ฉันพูดเรื่องนี้ ฉันเป็นคนตรง คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ที่พูดเพราะไม่ใช่อยากจะมาแสดงความเคยเป็นเจ้าของในอดีตหรอก แต่อยากให้คุณเข้าใจและเคลียร์ใจให้มากที่สุด จะได้ไม่ต้องมาหึงหวงฉัน ระแวงฉันเวลาที่คุยกับทะเลสองต่อสองอีก" รติยาเป็นฝ่ายเปิดเกมส์รุกทันที เพื่อหยั่งเชิงฝ่ายตรงข้าม
"ขอบคุณในความหวังดีนะคะ ฉันไม่ถือสาเรื่องนั้น ช่วงนี้ยังมีฝนตกอยู่ ถ่านไฟเก่าคงไม่มีทางครุกรุ่นขึ้นมาหรอกค่ะ หรือถ้าเกิดครุกรุ่นขึ้นมาจริงๆ ไร่นี้มีสายยางฉีดน้ำอยู่เกือบทุกพื้นที่ ยังไงคงตัดไฟแต่ต้นลมได้ทันท่วงที ที่สำคัญ.. อดีตก็คืออดีต มันเกิดขึ้นและจบไปตรงนั้นเรียบร้อยแล้ว เหมือนสายน้ำไหลไปแล้วไม่ไหลย้อนกลับมา" ไบร์นี่ตั้งรับเกมส์ของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีสติ
รติยาได้ฟังถึงกับสะดุ้งโหยงกับคำพูดของไบร์นี่ ที่ดูนิ่มๆแต่บาดลึกเข้าไปในใจ
"ผมว่าเวลาใกล้เที่ยงแล้ว ทางร้านอาหารกำลังต้องการคุณนะ รติ ยิ่งวันนี้เป็นวันเสาร์ด้วย คนมาเที่ยวที่ไร่เยอะมาก รติต้องรีบไปควบคุมดูแลทั้งในครัวและข้างนอก ที่สำคัญคือต้องรีบเทิร์นโต๊ะให้ได้เร็วและมากที่สุด" เรย์เห็นสถานการณ์เริ่มจะตึงเครียดเลยหาเรื่องแยกอีกฝ่ายออกไป
รติยารู้สึกเสียหน้าเลยเดินเชิ่ดออกไปอย่างรวดเร็ว
"ทำไมไม่ตามเขาไป? ปล่อยให้เขาเดินคนเดียวแบบนั้น เดี๋ยวก็สะดุดคันนาหกล้มกันพอดี ใส่รองเท้าส้นสูงมาเดินบนคันนา คงทรงตัวได้อยู่หรอก" ไบร์นี่หยิกแกมหยอกชายคนรัก
"ตัวเองหึงเขาเหรอ?" เรย์ทำหน้าเป็นใส่
"เออ.. เขาเป็นคนตรง รู้สึกอะไรก็พูดอย่างนั้น ไม่ชอบเก็บไม่ชอบแอ๊บเหมือนนางเอกหนังไทย" ไบร์นี่ยังคงแกล้งประชดประชัน
"ตัวเองสบายใจและเชื่อใจเขาได้ เรื่องระหว่างเขากับรติ มันจบไปนานแล้ว เขากล้ายืนยันตรงนี้เลยว่า ถ่านไฟเก่าจะไม่ครุกรุ่นขึ้นมาเด็ดขาด ตอนนี้สี่ห้องหัวใจเขามีแต่ตัวเองเท่านั้น เราจะสร้างครอบครัวด้วยกัน มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง" เรย์คว้าตัวหญิงคนรักเข้ามาโอบกอด
.................................................................................................
บัวซอนนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก เธอกำลังวีดีโอคอลคุยกับสามีอย่างมีความสุข...
"พ่อรีบๆมานะ แม่คิดถึงพ่อกับมาร์ตี้จะแย่อยู่แล้ว"
"พ่อก็คิดถึงแม่เหมือนกัน อีกแค่อาทิตย์กว่าเอง เดี๋ยวพ่อจะได้มาหอมแก้มแม่ให้ชื่นใจหลายๆฟอด แม่อยู่ที่โน่นสบายดีนะ ทำไมดูผอมลง? อาหารการกินน่าจะถูกปาก กลับบ้านเกิดทั้งทีแทนที่จะอ้วนขึ้น"
"แม่สบายดี แม่ก็อยากผอมอยากหุ่นดีกับเขาบ้าง ขืนกินเยอะเดี๋ยวอ้วนเป็นช้างน้ำนอกจากไม่สวยแล้ว เดินเหินลำบากแย่ ยิ่งอายุมาก กินอะไรต้องระวังหน่อย"
"ต่อให้แม่จะอ้วนแค่ไหน สำหรับพ่อแล้ว แม่ยังเป็นคนสวยเสมอ พ่อรักแม่นะ"
"พ่อก็พูดอะไรไม่อายลูกอายเต้าบ้าง เผื่อลูกผ่านมาเห็นมาได้ยินเข้า"
"รุ่นนี้แล้วยังจะอายอะไรกันอีก ไบร์นี่กับเจ้าเรย์เป็นอย่างไรบ้าง? งานแต่งเตรียมกันไปถึงไหนแล้ว? "
"พ่อไม่ต้องห่วง ทางบ้านนายเรย์เขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จนแทบจะไม่ต้องเตรียมอะไรเลย เป็นเจ้าของกิจการไร่และรีสอร์ตครบวงจร มันดีแบบนี้เอง สถานที่พร้อม คนงานพร้อม วัตถุดิบทุกอย่างพร้อม แค่เดินตัวเปล่ามาเฉยๆ มาร์ตี้อยู่ไหน?"
"โน่น... นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ สงสัยกำลังแชทกับหนุ่มๆแน่เลย เจ้าลิงน้อย... แม่เขาอยากคุยด้วย"
หลังจากบัวซอนวีดีโอคอลคุยกับสามีและลูกชายเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเอนหลังนอนลงบนโซฟาเพื่อผ่อนคลายอิริยาบถ
"กลับมาเร็วจัง พี่ไบร์นี่ละ? เงียบแบบนี้สงสัยคงอยู่กับพี่เรย์แน่เลย เขาถมที่เสร็จแล้วเนอะ คงต้องรอซักหนึ่งหน้าฝนก่อน ให้น้ำฝนซึมเข้าดินๆจะได้แน่น ถึงปลูกบ้านได้" บัวซอนนอนหลับตาคุย เธอคิดว่าคนที่เปิดประตูเข้ามาในเรือนพักคือ บัวชมพูซึ่งเป็นหลานสาว
"เล่นเป็นเด็กไปได้ เอามือลูบหน้าแบบนี้ น้าจั๊กจี้นะ"
เมื่อบัวซอนลืมตาขึ้นมา เธอตกใจจนแทบช็อค เพราะเจ้าของมือที่ลูบไล้ใบหน้าเธอคือ เดชศักดา อดีตคนเคยรักนั่นเอง
"คุณเดช เข้ามาได้ยังไงค่ะ? ฉันหลงคิดว่าเป็นยัยพิ้งค์กี้" บัวซอนรีบยืนขึ้นจากโซฟาโดยเร็ว
"ทำไมผมจะเข้ามาหาคนที่ผมรักไม่ได้? บัวซอนยังสวยเหมือนเดิม กาลเวลาไม่สามารถทำอะไรความสวยของบัวซอนได้เลย ผมพยายามหักห้ามใจและเข้าใจสถานภาพปัจจุบันระหว่างเรา แต่ผมไม่สามารถบังคับใจตัวเองได้" เดชศักดาใช้มือโอบลำตัวของบัวซอนเข้ามาแนบชิด
"คุณเดชค่ะ อย่าทำแบบนี้เลย ปล่อยฉันเถิดค่ะ ฉันขอร้องละ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดี อีกอย่างครอบครัวของเรากำลังจะดองกัน ถ้ามีเรื่องเข้าใจผิดเกิดขึ้น มันจะมองหน้ากันไม่ติดไม่สนิทใจทั้งสองฝ่ายนะคะ ถ้าไม่เห็นแก่ฉันก็น่าจะเห็นแก่ลูกๆของเราบ้าง"
ยังไม่ทันที่บัวซอนจะขอร้องอ้อนวอน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น บัวซอนอาศัยจังหวะนี้ รีบแกะแขนของเดชศักดาออกจากลำตัวเธอ จากนั้นจึงรีบเดินไปเปิดประตู
"มาได้จังหวะเลยนะ กำลังพูดถึงพวกเธออยู่พอดี ยัยพิ้งค์กี้หายไปไหน?" บัวซอนเอ่ยทักลูกสาวและว่าที่ลูกเขย เพื่อสร้างสถานการณ์ให้ปรกติ
"วันนี้ป้าบัวเงินทอดขนมดอกจอกกับข้าวแต๋น เลยโทรบอกพิ้งค์กี้ไปเอาขนมมาให้แม่ชิม เดี๋ยวคงมาค่ะ"
"พ่อมาทำอะไรที่นี่ครับ?" เรย์เห็นเดชศักดานั่งอยู่บนโซฟา
"มาถามเรื่องแขกที่จะเชิญมางานแต่งเรานี่แหละ พ่อเพิ่งนึกได้ เลยแวะมาถามเพื่อความแน่ใจ แขกทางฝั่งเราทั้งหมด พ่อลิสต์รายชื่อและพิมพ์บนซองใส่การ์ดแล้ว ยังขาดรายชื่อแขกฝ่ายเจ้าสาว" เดชศักดาหาเรื่องพูดเบี่ยงประเด็น
"แขกฝั่งเรา แม่เพิ่งบอกกับคุณเดชไปเมื่อกี้นี้เอง" บัวซอนช่วยสนับสนุนให้เรื่องราวมีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 16 ถ่านไฟเก่า
ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
....................................................................................................................
"เหลียว.. แกรู้ไหม ที่นาข้างไร่ เขาจะสร้างอะไรกัน? ฉันได้ยินเสียงรถขนดินรถบดดินวิ่งเข้าออกตลอด เสียงดังหนวกหู ฝุ่นฟุ้งตลบอบอวล" สายนภามองออกไปนอกหน้าต่างห้องนอน
"คุณฟ้ายังไม่รู้เหรอค่ะ ที่นานั่นเป็นมรดกที่นังบัวซอนเพิ่งได้ แล้วมันก็ยกให้ลูกสาวเป็นของขวัญแต่งงาน นี่คงจะขนดินมาถมที่ให้มันสูงและแน่นกว่าเดิม ได้ยินมาว่า พอหลังจากแต่งงาน คุณทะเลกับนังไบโพล่าร์จะสร้างบ้านบนที่ตรงนั้น" เฉลียวศรีรายงานสถานการณ์ความเคลื่อนไหว
"เหรอ.. แกนี่ช่างแสนรู้ไปหมด"
" แค่.. รู้ ก็พอค่ะ ไม่ต้องมีคำว่า แสน นำหน้าก็ได้ ฟังแล้วมันมะแล่มมะแล่มยังไงไม่รู้”
"ฉันแค่พูดแหย่เล่นแค่นี้ ทำเป็นน้อยอกน้อยใจไปได้ คนที่ถือแก้วน้ำไปให้เจ้าทะเล ใช่.. อีนังไบโพล่าร์ไหม? ดูหุ่นมันแปลกๆ รสนิยมการแต่งตัวตลาดล่างมาก ปรกตินางจะประโคมแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า ฉันก็ไม่ได้ใส่แว่นด้วยซิ แกมาช่วยฉันดูหน่อยว่าใช่ไหม?" สายนภากวักมือเรียกนางต้นห้องมาที่หน้าต่าง
"ไม่ใช่นังไบโพล่าร์ค่ะ นั่นมัน คุณรติ ว่าแต่นางมาทำอะไร? ถิ่นของนางคือร้านอาหาร เหลียวว่ามันต้องมีอะไรในกอไผ่มากกว่านั้นแน่ค่ะ" เฉลียวศรีครุ่นคิด
"แกก็ฉลาดน้อยจริง นังรติเคยเป็นเมียเก่าเจ้าทะเลมาก่อน นังเด็กใจแตกได้กับเจ้าทะเลสมัยยังเรียนไม่จบมหาลัย นางเคยท้องกับเจ้าทะเล แต่ดันมาแท้งซะก่อน จากนั้นก็เลิกกัน และนางไปมีผัวใหม่ พอเลิกผัวใหม่ก็ไม่มีเงินไม่มีที่ไป เลยซมซานมาขอพึ่งบารมีพี่เดชๆก็ใจดีเกิน ให้นางทำงานเป็นผู้จัดการร้านอาหาร ประสบการณ์ก็ไม่มี ความรู้ก็เท่าหางอึ่ง มีดีแค่หุ่นกับหนังหน้าพลาสติกที่พอจะล่อลูกค้าเข้าร้านได้" สายนภาเล่าภูมิหลังของบุคคลที่ 3
"จริงเหรอค่ะ ที่คุณรติเคยท้องกับคุณทะเลมาก่อน? ทำไมเหลียวไม่รู้เรื่องนี้เลย? รู้คร่าวๆเพียงแค่ว่า คุณรติเคยเป็นแฟนเก่าคุณทะเลเท่านั้น เหลียวตกข่าวไปได้อย่างไรนี่?" เฉลียวศรีคาดไม่ถึงกับเรื่องที่นายผู้หญิงเล่าให้ฟัง
"ตอนที่นังรติเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ๆ ช่วงนั้นแกฟุ้งซ่านจนไม่เป็นอันทำอะไรเลย มัวแต่ไปเฝ้าผัวทั้งวันทั้งคืน กลัวนังพยาบาลที่มาดูแลคุณพ่อ มันชื่ออะไรนะ? อ๋อ... นังอ้อยหวานมางาบผัวแกไปกิน"
"แหม.. เหลียวรักของเหลียวนี่ค่ะ ได้ผัวหล่อต้องคอยเฝ้าตามประกบนิดหนึ่ง เอกยิ่งแก่ก็ยิ่งหล่อ หุ่นยังเซี๊ยะยังฟิตแอนด์เฟิร์ม หัวก็ไม่เถิก ไม่อ้วนลงพุงเหมือนเพื่อนรุ่นเดียวกัน ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่เห็นเข้าต้องน้ำลายหก ยิ่งช่วงนี้เทรนด์รักลุงกำลังมาแรง เหลียวต้องคอยระวังไม่ให้คลาดสายตา"
"ย่ะ... แกนี่บ้าผู้ชายขึ้นสมองจริงๆ ยิ่งมาได้ผัวตอนแก่ยิ่งกู่ไม่กลับเลยนะ แกคอยดูต่อไป ฉันว่างานนี้สนุกแน่ นังรติคงไม่ปล่อยให้เจ้าทะเลกับนังไบโพล่าร์ลงเอยแบบแฮ๊ปปี้เอ็นดิ้งหรอก" สายนภายิ้มอย่างสาแก่ใจ
…………………………………………………………
"กาแฟเย็นค่ะ 2ช๊อต ใส่นมเยอะๆ ไม่หวานมาก น้ำแข็งทุบละเอียดเท่าเม็ดข้าวโพด" รติยายื่นแก้วพลาสติกให้เรย์
"ตกใจหมด รติแอบย่องมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ผมไม่ได้ยินเสียงเลย ขอบใจมากสำหรับกาแฟ ยังอุตส่าห์จำได้อีกว่าผมชอบกินแบบไหน"
"ทุกอย่างเกี่ยวกับทะเล รติจำได้หมด" รติยาส่งยิ้มให้อดีตคนรัก
หลังจากตรวจเช็คการทำงานของคนงานถมดินจนเป็นที่พอใจแล้ว ไบร์นี่เดินตรงเข้ามาหาเรย์ ทันทีที่เห็นคนรักยืนข้างผู้หญิงที่เธอไม่รู้จัก เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ยังไม่แสดงอาการออกทางสีหน้ามากนัก
"เหนื่อยไหมที่รัก?" เรย์ใช้ผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงซับเหงื่อบริเวณขมับและหน้าผากของหญิงคนรัก
รติยาจ้องมองด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมด้วยความริษยาคนรักใหม่ของเรย์
"ลืมแนะนำให้รู้กัน ที่รักจ๊ะ นี่.. รติยาเป็นผู้จัดการร้านอาหาร และเป็นเพื่อนผม รติ นี่.. ไบร์นี่ สุดที่รักของผม" เรย์แนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน
"ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณรติยา ทั้งสวยทั้งเก่งแบบนี้นับว่าเป็นโชคดีของทางไร่ ที่ได้คุณมาร่วมงาน" ไบร์นี่กล่าวทักทายอย่างเป็นมิตร
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน เรียกฉันว่า รติ ก็ได้ค่ะ ทะเลโชคดีมากนะ ที่ได้คุณมาเป็นเจ้าสาว ทะเลคงจะลืมบอกคุณหรือคงไม่กล้าบอกว่า ระหว่างฉันกับทะเล เราไม่ได้เป็นแค่เพื่อนสนิทกันเฉยๆ อดีตเราเคยเป็นอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น คุณคงไม่โกรธที่ฉันพูดเรื่องนี้ ฉันเป็นคนตรง คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ที่พูดเพราะไม่ใช่อยากจะมาแสดงความเคยเป็นเจ้าของในอดีตหรอก แต่อยากให้คุณเข้าใจและเคลียร์ใจให้มากที่สุด จะได้ไม่ต้องมาหึงหวงฉัน ระแวงฉันเวลาที่คุยกับทะเลสองต่อสองอีก" รติยาเป็นฝ่ายเปิดเกมส์รุกทันที เพื่อหยั่งเชิงฝ่ายตรงข้าม
"ขอบคุณในความหวังดีนะคะ ฉันไม่ถือสาเรื่องนั้น ช่วงนี้ยังมีฝนตกอยู่ ถ่านไฟเก่าคงไม่มีทางครุกรุ่นขึ้นมาหรอกค่ะ หรือถ้าเกิดครุกรุ่นขึ้นมาจริงๆ ไร่นี้มีสายยางฉีดน้ำอยู่เกือบทุกพื้นที่ ยังไงคงตัดไฟแต่ต้นลมได้ทันท่วงที ที่สำคัญ.. อดีตก็คืออดีต มันเกิดขึ้นและจบไปตรงนั้นเรียบร้อยแล้ว เหมือนสายน้ำไหลไปแล้วไม่ไหลย้อนกลับมา" ไบร์นี่ตั้งรับเกมส์ของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีสติ
รติยาได้ฟังถึงกับสะดุ้งโหยงกับคำพูดของไบร์นี่ ที่ดูนิ่มๆแต่บาดลึกเข้าไปในใจ
"ผมว่าเวลาใกล้เที่ยงแล้ว ทางร้านอาหารกำลังต้องการคุณนะ รติ ยิ่งวันนี้เป็นวันเสาร์ด้วย คนมาเที่ยวที่ไร่เยอะมาก รติต้องรีบไปควบคุมดูแลทั้งในครัวและข้างนอก ที่สำคัญคือต้องรีบเทิร์นโต๊ะให้ได้เร็วและมากที่สุด" เรย์เห็นสถานการณ์เริ่มจะตึงเครียดเลยหาเรื่องแยกอีกฝ่ายออกไป
รติยารู้สึกเสียหน้าเลยเดินเชิ่ดออกไปอย่างรวดเร็ว
"ทำไมไม่ตามเขาไป? ปล่อยให้เขาเดินคนเดียวแบบนั้น เดี๋ยวก็สะดุดคันนาหกล้มกันพอดี ใส่รองเท้าส้นสูงมาเดินบนคันนา คงทรงตัวได้อยู่หรอก" ไบร์นี่หยิกแกมหยอกชายคนรัก
"ตัวเองหึงเขาเหรอ?" เรย์ทำหน้าเป็นใส่
"เออ.. เขาเป็นคนตรง รู้สึกอะไรก็พูดอย่างนั้น ไม่ชอบเก็บไม่ชอบแอ๊บเหมือนนางเอกหนังไทย" ไบร์นี่ยังคงแกล้งประชดประชัน
"ตัวเองสบายใจและเชื่อใจเขาได้ เรื่องระหว่างเขากับรติ มันจบไปนานแล้ว เขากล้ายืนยันตรงนี้เลยว่า ถ่านไฟเก่าจะไม่ครุกรุ่นขึ้นมาเด็ดขาด ตอนนี้สี่ห้องหัวใจเขามีแต่ตัวเองเท่านั้น เราจะสร้างครอบครัวด้วยกัน มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง" เรย์คว้าตัวหญิงคนรักเข้ามาโอบกอด
.................................................................................................
บัวซอนนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก เธอกำลังวีดีโอคอลคุยกับสามีอย่างมีความสุข...
"พ่อรีบๆมานะ แม่คิดถึงพ่อกับมาร์ตี้จะแย่อยู่แล้ว"
"พ่อก็คิดถึงแม่เหมือนกัน อีกแค่อาทิตย์กว่าเอง เดี๋ยวพ่อจะได้มาหอมแก้มแม่ให้ชื่นใจหลายๆฟอด แม่อยู่ที่โน่นสบายดีนะ ทำไมดูผอมลง? อาหารการกินน่าจะถูกปาก กลับบ้านเกิดทั้งทีแทนที่จะอ้วนขึ้น"
"แม่สบายดี แม่ก็อยากผอมอยากหุ่นดีกับเขาบ้าง ขืนกินเยอะเดี๋ยวอ้วนเป็นช้างน้ำนอกจากไม่สวยแล้ว เดินเหินลำบากแย่ ยิ่งอายุมาก กินอะไรต้องระวังหน่อย"
"ต่อให้แม่จะอ้วนแค่ไหน สำหรับพ่อแล้ว แม่ยังเป็นคนสวยเสมอ พ่อรักแม่นะ"
"พ่อก็พูดอะไรไม่อายลูกอายเต้าบ้าง เผื่อลูกผ่านมาเห็นมาได้ยินเข้า"
"รุ่นนี้แล้วยังจะอายอะไรกันอีก ไบร์นี่กับเจ้าเรย์เป็นอย่างไรบ้าง? งานแต่งเตรียมกันไปถึงไหนแล้ว? "
"พ่อไม่ต้องห่วง ทางบ้านนายเรย์เขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จนแทบจะไม่ต้องเตรียมอะไรเลย เป็นเจ้าของกิจการไร่และรีสอร์ตครบวงจร มันดีแบบนี้เอง สถานที่พร้อม คนงานพร้อม วัตถุดิบทุกอย่างพร้อม แค่เดินตัวเปล่ามาเฉยๆ มาร์ตี้อยู่ไหน?"
"โน่น... นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ สงสัยกำลังแชทกับหนุ่มๆแน่เลย เจ้าลิงน้อย... แม่เขาอยากคุยด้วย"
หลังจากบัวซอนวีดีโอคอลคุยกับสามีและลูกชายเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเอนหลังนอนลงบนโซฟาเพื่อผ่อนคลายอิริยาบถ
"กลับมาเร็วจัง พี่ไบร์นี่ละ? เงียบแบบนี้สงสัยคงอยู่กับพี่เรย์แน่เลย เขาถมที่เสร็จแล้วเนอะ คงต้องรอซักหนึ่งหน้าฝนก่อน ให้น้ำฝนซึมเข้าดินๆจะได้แน่น ถึงปลูกบ้านได้" บัวซอนนอนหลับตาคุย เธอคิดว่าคนที่เปิดประตูเข้ามาในเรือนพักคือ บัวชมพูซึ่งเป็นหลานสาว
"เล่นเป็นเด็กไปได้ เอามือลูบหน้าแบบนี้ น้าจั๊กจี้นะ"
เมื่อบัวซอนลืมตาขึ้นมา เธอตกใจจนแทบช็อค เพราะเจ้าของมือที่ลูบไล้ใบหน้าเธอคือ เดชศักดา อดีตคนเคยรักนั่นเอง
"คุณเดช เข้ามาได้ยังไงค่ะ? ฉันหลงคิดว่าเป็นยัยพิ้งค์กี้" บัวซอนรีบยืนขึ้นจากโซฟาโดยเร็ว
"ทำไมผมจะเข้ามาหาคนที่ผมรักไม่ได้? บัวซอนยังสวยเหมือนเดิม กาลเวลาไม่สามารถทำอะไรความสวยของบัวซอนได้เลย ผมพยายามหักห้ามใจและเข้าใจสถานภาพปัจจุบันระหว่างเรา แต่ผมไม่สามารถบังคับใจตัวเองได้" เดชศักดาใช้มือโอบลำตัวของบัวซอนเข้ามาแนบชิด
"คุณเดชค่ะ อย่าทำแบบนี้เลย ปล่อยฉันเถิดค่ะ ฉันขอร้องละ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดี อีกอย่างครอบครัวของเรากำลังจะดองกัน ถ้ามีเรื่องเข้าใจผิดเกิดขึ้น มันจะมองหน้ากันไม่ติดไม่สนิทใจทั้งสองฝ่ายนะคะ ถ้าไม่เห็นแก่ฉันก็น่าจะเห็นแก่ลูกๆของเราบ้าง"
ยังไม่ทันที่บัวซอนจะขอร้องอ้อนวอน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น บัวซอนอาศัยจังหวะนี้ รีบแกะแขนของเดชศักดาออกจากลำตัวเธอ จากนั้นจึงรีบเดินไปเปิดประตู
"มาได้จังหวะเลยนะ กำลังพูดถึงพวกเธออยู่พอดี ยัยพิ้งค์กี้หายไปไหน?" บัวซอนเอ่ยทักลูกสาวและว่าที่ลูกเขย เพื่อสร้างสถานการณ์ให้ปรกติ
"วันนี้ป้าบัวเงินทอดขนมดอกจอกกับข้าวแต๋น เลยโทรบอกพิ้งค์กี้ไปเอาขนมมาให้แม่ชิม เดี๋ยวคงมาค่ะ"
"พ่อมาทำอะไรที่นี่ครับ?" เรย์เห็นเดชศักดานั่งอยู่บนโซฟา
"มาถามเรื่องแขกที่จะเชิญมางานแต่งเรานี่แหละ พ่อเพิ่งนึกได้ เลยแวะมาถามเพื่อความแน่ใจ แขกทางฝั่งเราทั้งหมด พ่อลิสต์รายชื่อและพิมพ์บนซองใส่การ์ดแล้ว ยังขาดรายชื่อแขกฝ่ายเจ้าสาว" เดชศักดาหาเรื่องพูดเบี่ยงประเด็น
"แขกฝั่งเรา แม่เพิ่งบอกกับคุณเดชไปเมื่อกี้นี้เอง" บัวซอนช่วยสนับสนุนให้เรื่องราวมีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น