รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 18 สงครามยังไม่จบ
ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
................................................................................................................
สินไหมมาเยี่ยมบัวซอนด้วยความเป็นห่วงเป็นใย หลังจากได้ดูคลิปที่เผยแพร่ทางโซเชียลฯ
"นังเหลียวหลงผัวซะจนเป็นผีบ้า ถ้าฉันเป็นเธอนะ ฉันจะตบสั่งสอนเผื่อสติสตังมันจะกลับมาบ้าง ไม่เจียมตัวเอาซะเลย เธอเป็นใคร มันเป็นใคร อีกหน่อยพอบ้านเธอกับดองกับบ้านคุณเดช เธอก็เป็นเหมือนเจ้านายคนหนึ่งของมันเหมือนกัน มันช่างกล้าเนอะ" สินไหมเป็นเดือดเป็นร้อนแทน
"ฉันรู้สึกเฉยๆ ถ้าเราไม่เป็นอย่างที่เขากล่าวหา จะไปกลัวทำไม ตัวเราย่อมรู้ดีกว่าใคร ฉันสงสารเหลียวมากกว่าที่ตกเป็นเหยื่อของความรักจนตาบอด ป่านนี้คงเกลียดฉันทวีคูณจนเข้ากระดูกไปแล้ว" บัวซอนปลงตก
"เอกก็เหมือนกัน แทนที่จะหาสถานที่ให้มันมิดชิดและปลอดสายตาคนกว่านี้ จะได้ไม่ต้องเกิดการเข้าใจผิด แต่ขอชมมันอย่างนะ ที่เข้าไปห้ามเมียผีบ้าไม่ให้มาทำร้ายเธอได้ ก่อนที่จะเกิดเรื่อง เอกมาคุยอะไรกับเธอเหรอ? ถ้าไม่ละลาบละล้วงเกินไป หรือเธอไม่สะดวกใจ ก็ไม่เป็นไร ฉันขอโทษด้วยที่ถาม" สินไหมสงสัยใคร่รู้
"เธอก็คิดเยอะเกิน เราเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน ระหว่างฉันกับเธอไม่เคยมีความลับต่อกันอยู่แล้ว เอกมาขอโทษเรื่องสมัยก่อนโน้น ที่เขียนจดหมายมาบอกเลิกฉัน เธอจำจดหมายฉบับนั้นได้ใช่ไหม? นั่นแหละ เขาคิดว่าฉันยังโกรธเคืองอยู่ นับว่าโชคดี ที่ยังทันบอกเขาว่า ฉันไม่โกรธในสิ่งที่เขาได้ตัดสินใจ เรายังสามารถเป็นเพื่อนกันได้ พอพูดจบเหลียวก็พุ่งพรวดเข้ามาอาละวาดทันที" บัวซอนเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
"ดีแล้วที่ต่างฝ่ายเปิดเผยความในใจกัน จะได้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างต่อกัน สงสารก็แต่เอกเท่านั้น พอเลิกเมียคนเก่าที่จำใจแต่งเพราะทำเขาท้อง แทนที่จะหาเมียคนใหม่ดีๆหน่อย กลับมาได้ก้อนขี้อย่างนังผีบ้าเหลียว"
เสียงเคาะประตูดังขึ้น บัวซอนเดินไปประตู… "คุณน้ำ... เชิญข้างในก่อนค่ะ"
"อ้าว... คุณน้องสินไหม ไปไงมาไงค่ะ? หมู่นี้ไม่ค่อยได้เจอกันเลย สบายดีนะ แล้วหมอทรัพย์ละ? คลีนิคที่บ้านคนไข้เยอะตามเคย ไม่พาลูกชายสุดหล่อมาด้วย?" สายนทีกล่าวทักทาย
"สวัสดีค่ะ คุณพี่… ฉันสบายดี ส่วนหมอทรัพย์รายนั้นคลุกตัวอยู่ที่คลีนิคตลอดวัน แทบไม่ได้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันกับเขาหรอก เคยบอกให้ลองปิดคลีนิคซักวันสองวันเพื่อพักผ่อน เขาไม่ยอมท่าเดียว คนมีอุดมการณ์สูง เราเลยไม่อยากขัดขวาง ส่วนเจ้าลูกชายก็บ้างานเหมือนพ่อ นอกจากสอนหนังสือแล้ว พอเวลาว่างยังอุตส่าห์พานักศึกษาไปออกพื้นที่หาความรู้อีก ทิ้งให้ฉันเป็นอีแก่เฝ้าบ้านคนเดียว" สินไหมรายงานสารทุกข์สุกดิบของตัวเอง
"ดิฉันเห็นคลิปเมื่อวานแล้ว อดเป็นห่วงความรู้สึกคุณซอนย่าไม่ได้ เมื่อเย็นวาน ถ้าไม่ติดงานเลี้ยงที่เชียงราย ดิฉันจะช่วยพี่เดชจัดการเรื่องนี้ให้มันเด็ดขาดถึงที่สุดเอาชนิดถอนรากถอนโคนปัญหาเลย ต้องขอโทษแทนคนของพี่สาวดิฉันด้วย ที่ทำกริยาไม่เหมาะสมกับคุณ ดิฉันรู้สึกละอายใจแทนยังไงไม่รู้ หวังว่าคุณซอนย่าคงไม่ถือสาไม่โกรธเคืองในการตัดสินปัญหาของทางเรานะคะ ดิฉันขอรับประกันว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกต่อไป" สายนทีขออภัยในเรื่องที่เกิดขึ้น
"คุณน้ำไม่ต้องคิดมากนะคะ แค่คุณน้ำมาเยี่ยมและแคร์ความรู้สึกทางฝ่ายฉันๆก็ดีใจแล้วค่ะ ฉันไม่ได้โกรธเคืองอะไรเลย ทางฝ่ายคุณทำดีที่สุดแล้ว ความรักทำให้คนตาบอด" บัวซอนยิ้มให้สายนที
"ตาทะเลบอกว่า วันพุธหน้าคุณซอนย่าจะไปรับคุณทอมกับมาร์ตี้ที่สนามบินเชียงรายใช่ไหมค่ะ? พวกเขาจะมาถึงกันกี่โมง? ดิฉันจะได้เตรียมการต้อนรับทางนี้เอาไว้ คุณซอนย่าไม่ต้องเกรงใจและห้ามปฏิเสธน้ำใจนี้เด็ดขาด อีกไม่นานเกินรอพวกเราจะได้มาดองกันแล้ว"
"ฉันต้องขอบคุณๆน้ำนะคะ ที่มีน้ำใจกับทางฝ่ายดิฉันมาตลอด" บัวซอนไหว้สายนทีเพื่อขอบคุณในความมีน้ำใจอันดีงาม
.................................................................................................................
ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง จ. เชียงราย
บัวซอน ไบร์นี่ เรย์ และสายเมฆ มายืนรอรับธานีกับมาร์ตี้อยู่ตรงจุดรอรับผู้โดยสารขาเข้า ส่วนคนขับรถอย่างเอกกมล ยืนรออยู่ตรงลานจอดรถ
"นั่นไงค่ะ แม่ … พ่อกับนังเมืองขวัญ" ไบร์นี่สะกิดบัวซอน เธอโบกไม้โบกมือให้พ่อและน้องชาย
"พ่อคิดถึงแม่มากที่สุด ขอหอมให้หายคิดถึงทีเถิด" ธานีวิ่งโล่ไปกอดภรรยา พร้อมหอมแก้มไปหนึ่งฟอด
"พ่อก็… ทำตัวเป็นเด็กวัยรุ่นไปได้ แก่แล้วนะ ชอบทำอะไรให้เด็กมันหัวเราะ" บัวซอนเขินอาย
"จะสวีตกันอีกนานไหมครับ? ขอผมกอดแม่บ้าง สวัสดีครับแม่ ผมคิดถึงแม่ที่สุดในโลก และ สวัสดีครับทุกๆคน" มาร์ตี้กล่าวทักทาย
"เดินทางมาเหนื่อยไหม? เราก็คิดถึงนาย ที่ผ่านมาได้แต่นั่งนับวันนับคืนรอให้ถึงวันนี้ซักที ตอนคุยกันทางไลน์มันไม่ฟินเหมือนเจอตัวเป็นๆ" สายเมฆช่วยมาร์ตี้ถือกระเป๋าสัมภาระ
"จริงหรือเปล่าครับ? คราวนี้ได้ฟินสมใจแล้วซิ ผมก็คิดถึงเมฆเหมือนกัน" มาร์ตี้ส่งสายตายั่วยวนคู่สนทนา
"สองคนนั่น มัวแต่ยืนพลอตรักกันอยู่ได้ เร็วๆหน่อยซิ พ่อกับแม่เดินไปเกือบจะถึงรถโน่นแล้ว" ไบร์นี่แซวขึ้น
เมื่อเห็นภาพบัวซอนเดินจับมือกับสามีตัวจริง เอกกมลรู้สึกใจหายชนิดล่องลอยไปในอากาศ จิตใต้สำนึกของเขาสั่งการให้โทษตัวเองโดยอัตโนมัติ ที่ปล่อยให้เพชรเม็ดงามน้ำหนึ่งหลุดมือไปเพราะความโง่เขลา
บัวซอนแนะนำสามีให้รู้จักกับเอกกมล
"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ หน้าตาคุ้นๆ ใช่… คนในคลิปหรือเปล่าครับ?" ธานีถามไถ่
"ครับ… ผมต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ภรรยาของผมเข้าใจผิดและหึงจนไม่ลืมหูลืมตา" เอกกมลยกมือไหว้ขอโทษ
"ไม่เป็นไรครับ เรื่องเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้เสมอ คุณไม่ต้องคิดมากนะ ผมดูคลิปไปหัวเราะไป" ธานีเอามือตบบ่าเอกกมลเพื่อให้กำลังใจ
"หนูกับเรย์หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว เดี๋ยวเราแวะหาอะไรอร่อยๆกินกันก่อน แล้วไปเที่ยววัดร่องขุ่น หลังจากนั้นค่อยเดินทางกลับเชียงคำนะคะ" ไบร์นี่บอกกำหนดการเดินทางอย่างคร่าวๆ
"คุณพ่อกับคุณแม่อยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ?" เรย์ถามความคิดเห็น
"สำหรับแม่อะไรก็ได้จ๊ะ แล้วแต่พวกลูกๆพาไป พ่อว่าไงเอ่ย?" บัวซอนถามสามี
"ที่ไหนก็ได้ถ้ามีอาหารอร่อยๆพ่อโอเคหมด จัดไปโลด" ธานีเอ่ยขึ้น
……………………………………………………………………………………………………
หลังจากสวัสดีทักทายนายจอมพลกับคุณหญิงทิพย์อาภา รวมถึงสมาชิกในครอบครัวศรีโยธาวัฒน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดชศักดากับสายนทีเดินมาส่งธานีและครอบครัวที่หน้าเรือนพัก
"เดินทางมาเหนื่อยๆ เชิญพักผ่อนตามสบายก่อนนะครับ ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกได้ ทางเราได้จัดเตรียมมื้อเย็นไว้คอยต้อนรับที่ร้านอาหารของรีสอร์ต เจอกัน 6โมงเย็นนะครับ" เดชศักดาจัดการอำนวยความสะดวกให้แขกพิเศษ
"ขอบคุณคุณเดชกับคุณน้ำนะครับ สำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นประทับใจ ทางผมโชคดีมากที่จะได้มาเป็นทองแผ่นเดียวกับครอบครัวคุณ" ธานีกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
เขานึกย้อนกลับไปเมื่อในอดีต ครั้งหนึ่งเขาเคยขับแท็กซี่พาบัวซอนมาส่งยังคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลนี้ ตอนนั้นฐานะระหว่างเขากับคนพวกนี้ แทบเรียกได้ว่าห่างชั้นกันอย่างฟ้ากับเหว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนระดับล่างอย่างเขาจะได้มีโอกาสมาเกี่ยวข้องกับพวกผู้ดีตีนแดงก๊กนี้
กาลเวลาผ่านไป ไม่มีใครล่วงรู้อนาคตได้ มาวันนี้สายลมแห่งโชคชะตาได้พัดพาเขาให้มีโอกาสกลับมาเกี่ยวข้องกับตระกูลนี้อีกครั้ง
ณ เวลานี้ สถานะภาพทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของเขา ได้เปลี่ยนแปลงจากในอดีตอย่างมาก
………………………………………………………………………
ภายในร้านอาหารของรีสอร์ต ได้แยกมุมหนึ่งเอาไว้สำหรับต้อนรับแขกพิเศษของครอบครัวศรีโยธาวัฒน์ นอกจากนั้นยังจัดพนักงานบริการเพื่อโต๊ะนี้ 2คน หนึ่งในนั้นคือ ฉลองชัย โดยมีรติยาซึ่งเป็นผู้จัดการร้านอาหาร มาคอยต้อนรับ และดูแลความเรียบร้อยอยู่เป็นระยะๆ
สมาชิกครอบครัวที่มาถึงก่อนลำดับแรกนอกจากเดชศักดากับสายนที ยังมีสายนภาที่มานั่งรอ โดยมีนางต้นห้องอย่างเฉลียวศรี คอยยืนเฝ้าสังเกตการณ์เป็นหูเป็นตาให้เจ้านายอยู่ห่างๆ
ซักพักหนึ่งธานีกับบัวซอนก็เดินมาถึงสถานที่นัดหมาย พร้อมกับสายเมฆและมาร์ตี้
"คืนนี้คุณซอนย่าสวยมาก ยิ่งใส่ชุดนี้แล้วยิ่งขับผิวให้ผ่องขึ้น ดูมีสง่าราศี" สายนทีตะลึงในความสวยของบัวซอน หน้าตาที่สวยงามจิ้มลิ้ม ทาเครื่องสำอางค์บางๆ มัดผมรวบตึง ขมวดจุกไว้ตรงท้ายทอย ใส่ชุดเดรสปักเลื่อมยาวจรดหัวเข่า
เดชศักดาเพ่งมองบัวซอนราวกับต้องมนต์ความสวยอมตะของเธอ โดยไม่รู้ว่า ได้มีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองพฤติกรรมอยู่
"คุณน้ำก็ชมซะฉันตัวลอยไปโน่น ก็โบ๊ะๆเท่าที่จะหาวัตถุดิบใกล้มือได้ ชุดนี่เก่ามากตั้งแต่สมัยไหนแล้ว คุณน้ำก็สวยสง่านะคะ ออร่าคุณหญิงคุณนายเปล่งประกาย"
สายนภาที่นั่งอยู่บนโต๊ะ ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคน ถึงกับเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้
ธานียืนคุยกับเดชศักดาอยู่ตรงระเบียงชมวิวข้างขอบโต๊ะ ส่วนสายเมฆกำลังถ่ายรูปเซลฟี่กับมาร์ตี้อย่างมีความสุข
"แกๆ.. ดูคู่จิ้นคู่วายของไร่นี้ซิ หล่อกันทั้งคู่เหมาะสมกันดีเนอะ" พนักงานบริการพูดกับฉลองชัย
"ค่ะ… คุณมาร์ตี้หล่อจริง ส่วนอีกคน ส๊าว.. สาว" ฉลองชัยแสดงความคิดเห็น
"กระเป๋าถือคุณซอนย่า สวยมากนะแก ฉันเคยเห็นพวกดารา เซเลบ ไฮโซใช้กัน ใบหนึ่งราคาเป็นแสน" พนักงานบริการสะกิดให้เฉลิมชัยมองดูกระเป๋าในมือของบัวซอน
"กระเป๋าแบรนด์เนมของแท้ราคาเป็นแสน กับของก๊อปแม่สายราคาไม่กี่ร้อย มันก็เหมือนๆกัน ถือไปไหนไม่มีใครรู้หรอก มัวแต่เม้าท์เจ้านายอยู่นั่นแหละ ตรวจตราความเรียบร้อยเช็คข้าวของกันเสร็จหรือยัง? เครื่องดื่ม ของกินเล่น แก้วน้ำ ช้อนส้อม อย่าให้ขาดตกบกพร่องนะ เซอร์วิสคืนนี้ต้องเป๊ะเว่อร์ ไม่งั้นโดนดีแน่" รติยาเดินเข้ามาแทรกกลางวงสนทนา
รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 18 สงครามยังไม่จบ
ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
................................................................................................................
สินไหมมาเยี่ยมบัวซอนด้วยความเป็นห่วงเป็นใย หลังจากได้ดูคลิปที่เผยแพร่ทางโซเชียลฯ
"นังเหลียวหลงผัวซะจนเป็นผีบ้า ถ้าฉันเป็นเธอนะ ฉันจะตบสั่งสอนเผื่อสติสตังมันจะกลับมาบ้าง ไม่เจียมตัวเอาซะเลย เธอเป็นใคร มันเป็นใคร อีกหน่อยพอบ้านเธอกับดองกับบ้านคุณเดช เธอก็เป็นเหมือนเจ้านายคนหนึ่งของมันเหมือนกัน มันช่างกล้าเนอะ" สินไหมเป็นเดือดเป็นร้อนแทน
"ฉันรู้สึกเฉยๆ ถ้าเราไม่เป็นอย่างที่เขากล่าวหา จะไปกลัวทำไม ตัวเราย่อมรู้ดีกว่าใคร ฉันสงสารเหลียวมากกว่าที่ตกเป็นเหยื่อของความรักจนตาบอด ป่านนี้คงเกลียดฉันทวีคูณจนเข้ากระดูกไปแล้ว" บัวซอนปลงตก
"เอกก็เหมือนกัน แทนที่จะหาสถานที่ให้มันมิดชิดและปลอดสายตาคนกว่านี้ จะได้ไม่ต้องเกิดการเข้าใจผิด แต่ขอชมมันอย่างนะ ที่เข้าไปห้ามเมียผีบ้าไม่ให้มาทำร้ายเธอได้ ก่อนที่จะเกิดเรื่อง เอกมาคุยอะไรกับเธอเหรอ? ถ้าไม่ละลาบละล้วงเกินไป หรือเธอไม่สะดวกใจ ก็ไม่เป็นไร ฉันขอโทษด้วยที่ถาม" สินไหมสงสัยใคร่รู้
"เธอก็คิดเยอะเกิน เราเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน ระหว่างฉันกับเธอไม่เคยมีความลับต่อกันอยู่แล้ว เอกมาขอโทษเรื่องสมัยก่อนโน้น ที่เขียนจดหมายมาบอกเลิกฉัน เธอจำจดหมายฉบับนั้นได้ใช่ไหม? นั่นแหละ เขาคิดว่าฉันยังโกรธเคืองอยู่ นับว่าโชคดี ที่ยังทันบอกเขาว่า ฉันไม่โกรธในสิ่งที่เขาได้ตัดสินใจ เรายังสามารถเป็นเพื่อนกันได้ พอพูดจบเหลียวก็พุ่งพรวดเข้ามาอาละวาดทันที" บัวซอนเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
"ดีแล้วที่ต่างฝ่ายเปิดเผยความในใจกัน จะได้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างต่อกัน สงสารก็แต่เอกเท่านั้น พอเลิกเมียคนเก่าที่จำใจแต่งเพราะทำเขาท้อง แทนที่จะหาเมียคนใหม่ดีๆหน่อย กลับมาได้ก้อนขี้อย่างนังผีบ้าเหลียว"
เสียงเคาะประตูดังขึ้น บัวซอนเดินไปประตู… "คุณน้ำ... เชิญข้างในก่อนค่ะ"
"อ้าว... คุณน้องสินไหม ไปไงมาไงค่ะ? หมู่นี้ไม่ค่อยได้เจอกันเลย สบายดีนะ แล้วหมอทรัพย์ละ? คลีนิคที่บ้านคนไข้เยอะตามเคย ไม่พาลูกชายสุดหล่อมาด้วย?" สายนทีกล่าวทักทาย
"สวัสดีค่ะ คุณพี่… ฉันสบายดี ส่วนหมอทรัพย์รายนั้นคลุกตัวอยู่ที่คลีนิคตลอดวัน แทบไม่ได้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันกับเขาหรอก เคยบอกให้ลองปิดคลีนิคซักวันสองวันเพื่อพักผ่อน เขาไม่ยอมท่าเดียว คนมีอุดมการณ์สูง เราเลยไม่อยากขัดขวาง ส่วนเจ้าลูกชายก็บ้างานเหมือนพ่อ นอกจากสอนหนังสือแล้ว พอเวลาว่างยังอุตส่าห์พานักศึกษาไปออกพื้นที่หาความรู้อีก ทิ้งให้ฉันเป็นอีแก่เฝ้าบ้านคนเดียว" สินไหมรายงานสารทุกข์สุกดิบของตัวเอง
"ดิฉันเห็นคลิปเมื่อวานแล้ว อดเป็นห่วงความรู้สึกคุณซอนย่าไม่ได้ เมื่อเย็นวาน ถ้าไม่ติดงานเลี้ยงที่เชียงราย ดิฉันจะช่วยพี่เดชจัดการเรื่องนี้ให้มันเด็ดขาดถึงที่สุดเอาชนิดถอนรากถอนโคนปัญหาเลย ต้องขอโทษแทนคนของพี่สาวดิฉันด้วย ที่ทำกริยาไม่เหมาะสมกับคุณ ดิฉันรู้สึกละอายใจแทนยังไงไม่รู้ หวังว่าคุณซอนย่าคงไม่ถือสาไม่โกรธเคืองในการตัดสินปัญหาของทางเรานะคะ ดิฉันขอรับประกันว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกต่อไป" สายนทีขออภัยในเรื่องที่เกิดขึ้น
"คุณน้ำไม่ต้องคิดมากนะคะ แค่คุณน้ำมาเยี่ยมและแคร์ความรู้สึกทางฝ่ายฉันๆก็ดีใจแล้วค่ะ ฉันไม่ได้โกรธเคืองอะไรเลย ทางฝ่ายคุณทำดีที่สุดแล้ว ความรักทำให้คนตาบอด" บัวซอนยิ้มให้สายนที
"ตาทะเลบอกว่า วันพุธหน้าคุณซอนย่าจะไปรับคุณทอมกับมาร์ตี้ที่สนามบินเชียงรายใช่ไหมค่ะ? พวกเขาจะมาถึงกันกี่โมง? ดิฉันจะได้เตรียมการต้อนรับทางนี้เอาไว้ คุณซอนย่าไม่ต้องเกรงใจและห้ามปฏิเสธน้ำใจนี้เด็ดขาด อีกไม่นานเกินรอพวกเราจะได้มาดองกันแล้ว"
"ฉันต้องขอบคุณๆน้ำนะคะ ที่มีน้ำใจกับทางฝ่ายดิฉันมาตลอด" บัวซอนไหว้สายนทีเพื่อขอบคุณในความมีน้ำใจอันดีงาม
.................................................................................................................
ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง จ. เชียงราย
บัวซอน ไบร์นี่ เรย์ และสายเมฆ มายืนรอรับธานีกับมาร์ตี้อยู่ตรงจุดรอรับผู้โดยสารขาเข้า ส่วนคนขับรถอย่างเอกกมล ยืนรออยู่ตรงลานจอดรถ
"นั่นไงค่ะ แม่ … พ่อกับนังเมืองขวัญ" ไบร์นี่สะกิดบัวซอน เธอโบกไม้โบกมือให้พ่อและน้องชาย
"พ่อคิดถึงแม่มากที่สุด ขอหอมให้หายคิดถึงทีเถิด" ธานีวิ่งโล่ไปกอดภรรยา พร้อมหอมแก้มไปหนึ่งฟอด
"พ่อก็… ทำตัวเป็นเด็กวัยรุ่นไปได้ แก่แล้วนะ ชอบทำอะไรให้เด็กมันหัวเราะ" บัวซอนเขินอาย
"จะสวีตกันอีกนานไหมครับ? ขอผมกอดแม่บ้าง สวัสดีครับแม่ ผมคิดถึงแม่ที่สุดในโลก และ สวัสดีครับทุกๆคน" มาร์ตี้กล่าวทักทาย
"เดินทางมาเหนื่อยไหม? เราก็คิดถึงนาย ที่ผ่านมาได้แต่นั่งนับวันนับคืนรอให้ถึงวันนี้ซักที ตอนคุยกันทางไลน์มันไม่ฟินเหมือนเจอตัวเป็นๆ" สายเมฆช่วยมาร์ตี้ถือกระเป๋าสัมภาระ
"จริงหรือเปล่าครับ? คราวนี้ได้ฟินสมใจแล้วซิ ผมก็คิดถึงเมฆเหมือนกัน" มาร์ตี้ส่งสายตายั่วยวนคู่สนทนา
"สองคนนั่น มัวแต่ยืนพลอตรักกันอยู่ได้ เร็วๆหน่อยซิ พ่อกับแม่เดินไปเกือบจะถึงรถโน่นแล้ว" ไบร์นี่แซวขึ้น
เมื่อเห็นภาพบัวซอนเดินจับมือกับสามีตัวจริง เอกกมลรู้สึกใจหายชนิดล่องลอยไปในอากาศ จิตใต้สำนึกของเขาสั่งการให้โทษตัวเองโดยอัตโนมัติ ที่ปล่อยให้เพชรเม็ดงามน้ำหนึ่งหลุดมือไปเพราะความโง่เขลา
บัวซอนแนะนำสามีให้รู้จักกับเอกกมล
"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ หน้าตาคุ้นๆ ใช่… คนในคลิปหรือเปล่าครับ?" ธานีถามไถ่
"ครับ… ผมต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ภรรยาของผมเข้าใจผิดและหึงจนไม่ลืมหูลืมตา" เอกกมลยกมือไหว้ขอโทษ
"ไม่เป็นไรครับ เรื่องเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้เสมอ คุณไม่ต้องคิดมากนะ ผมดูคลิปไปหัวเราะไป" ธานีเอามือตบบ่าเอกกมลเพื่อให้กำลังใจ
"หนูกับเรย์หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว เดี๋ยวเราแวะหาอะไรอร่อยๆกินกันก่อน แล้วไปเที่ยววัดร่องขุ่น หลังจากนั้นค่อยเดินทางกลับเชียงคำนะคะ" ไบร์นี่บอกกำหนดการเดินทางอย่างคร่าวๆ
"คุณพ่อกับคุณแม่อยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ?" เรย์ถามความคิดเห็น
"สำหรับแม่อะไรก็ได้จ๊ะ แล้วแต่พวกลูกๆพาไป พ่อว่าไงเอ่ย?" บัวซอนถามสามี
"ที่ไหนก็ได้ถ้ามีอาหารอร่อยๆพ่อโอเคหมด จัดไปโลด" ธานีเอ่ยขึ้น
……………………………………………………………………………………………………
หลังจากสวัสดีทักทายนายจอมพลกับคุณหญิงทิพย์อาภา รวมถึงสมาชิกในครอบครัวศรีโยธาวัฒน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดชศักดากับสายนทีเดินมาส่งธานีและครอบครัวที่หน้าเรือนพัก
"เดินทางมาเหนื่อยๆ เชิญพักผ่อนตามสบายก่อนนะครับ ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกได้ ทางเราได้จัดเตรียมมื้อเย็นไว้คอยต้อนรับที่ร้านอาหารของรีสอร์ต เจอกัน 6โมงเย็นนะครับ" เดชศักดาจัดการอำนวยความสะดวกให้แขกพิเศษ
"ขอบคุณคุณเดชกับคุณน้ำนะครับ สำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นประทับใจ ทางผมโชคดีมากที่จะได้มาเป็นทองแผ่นเดียวกับครอบครัวคุณ" ธานีกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
เขานึกย้อนกลับไปเมื่อในอดีต ครั้งหนึ่งเขาเคยขับแท็กซี่พาบัวซอนมาส่งยังคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลนี้ ตอนนั้นฐานะระหว่างเขากับคนพวกนี้ แทบเรียกได้ว่าห่างชั้นกันอย่างฟ้ากับเหว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนระดับล่างอย่างเขาจะได้มีโอกาสมาเกี่ยวข้องกับพวกผู้ดีตีนแดงก๊กนี้
กาลเวลาผ่านไป ไม่มีใครล่วงรู้อนาคตได้ มาวันนี้สายลมแห่งโชคชะตาได้พัดพาเขาให้มีโอกาสกลับมาเกี่ยวข้องกับตระกูลนี้อีกครั้ง
ณ เวลานี้ สถานะภาพทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของเขา ได้เปลี่ยนแปลงจากในอดีตอย่างมาก
………………………………………………………………………
ภายในร้านอาหารของรีสอร์ต ได้แยกมุมหนึ่งเอาไว้สำหรับต้อนรับแขกพิเศษของครอบครัวศรีโยธาวัฒน์ นอกจากนั้นยังจัดพนักงานบริการเพื่อโต๊ะนี้ 2คน หนึ่งในนั้นคือ ฉลองชัย โดยมีรติยาซึ่งเป็นผู้จัดการร้านอาหาร มาคอยต้อนรับ และดูแลความเรียบร้อยอยู่เป็นระยะๆ
สมาชิกครอบครัวที่มาถึงก่อนลำดับแรกนอกจากเดชศักดากับสายนที ยังมีสายนภาที่มานั่งรอ โดยมีนางต้นห้องอย่างเฉลียวศรี คอยยืนเฝ้าสังเกตการณ์เป็นหูเป็นตาให้เจ้านายอยู่ห่างๆ
ซักพักหนึ่งธานีกับบัวซอนก็เดินมาถึงสถานที่นัดหมาย พร้อมกับสายเมฆและมาร์ตี้
"คืนนี้คุณซอนย่าสวยมาก ยิ่งใส่ชุดนี้แล้วยิ่งขับผิวให้ผ่องขึ้น ดูมีสง่าราศี" สายนทีตะลึงในความสวยของบัวซอน หน้าตาที่สวยงามจิ้มลิ้ม ทาเครื่องสำอางค์บางๆ มัดผมรวบตึง ขมวดจุกไว้ตรงท้ายทอย ใส่ชุดเดรสปักเลื่อมยาวจรดหัวเข่า
เดชศักดาเพ่งมองบัวซอนราวกับต้องมนต์ความสวยอมตะของเธอ โดยไม่รู้ว่า ได้มีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองพฤติกรรมอยู่
"คุณน้ำก็ชมซะฉันตัวลอยไปโน่น ก็โบ๊ะๆเท่าที่จะหาวัตถุดิบใกล้มือได้ ชุดนี่เก่ามากตั้งแต่สมัยไหนแล้ว คุณน้ำก็สวยสง่านะคะ ออร่าคุณหญิงคุณนายเปล่งประกาย"
สายนภาที่นั่งอยู่บนโต๊ะ ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคน ถึงกับเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้
ธานียืนคุยกับเดชศักดาอยู่ตรงระเบียงชมวิวข้างขอบโต๊ะ ส่วนสายเมฆกำลังถ่ายรูปเซลฟี่กับมาร์ตี้อย่างมีความสุข
"แกๆ.. ดูคู่จิ้นคู่วายของไร่นี้ซิ หล่อกันทั้งคู่เหมาะสมกันดีเนอะ" พนักงานบริการพูดกับฉลองชัย
"ค่ะ… คุณมาร์ตี้หล่อจริง ส่วนอีกคน ส๊าว.. สาว" ฉลองชัยแสดงความคิดเห็น
"กระเป๋าถือคุณซอนย่า สวยมากนะแก ฉันเคยเห็นพวกดารา เซเลบ ไฮโซใช้กัน ใบหนึ่งราคาเป็นแสน" พนักงานบริการสะกิดให้เฉลิมชัยมองดูกระเป๋าในมือของบัวซอน
"กระเป๋าแบรนด์เนมของแท้ราคาเป็นแสน กับของก๊อปแม่สายราคาไม่กี่ร้อย มันก็เหมือนๆกัน ถือไปไหนไม่มีใครรู้หรอก มัวแต่เม้าท์เจ้านายอยู่นั่นแหละ ตรวจตราความเรียบร้อยเช็คข้าวของกันเสร็จหรือยัง? เครื่องดื่ม ของกินเล่น แก้วน้ำ ช้อนส้อม อย่าให้ขาดตกบกพร่องนะ เซอร์วิสคืนนี้ต้องเป๊ะเว่อร์ ไม่งั้นโดนดีแน่" รติยาเดินเข้ามาแทรกกลางวงสนทนา