รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 4 กลลวง
ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
...........................................................................................................
" ความอิจฉาริษยาคือ ยาพิษร้ายแรง วิธีแก้พิษของมันคือ การรู้จักปล่อยวางไม่ยึดติดกับสิ่งใดทั้งสิ้น "
ตอนที่ 1
https://ppantip.com/topic/39180863
ตอนที่ 2
https://ppantip.com/topic/39197402
ตอนที่ 3
https://ppantip.com/topic/39233749
เดชศักดามาดักพบบัวซอนทุกเช้าจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ความสนิทสนมของทั้งสองคนค่อยๆแนบแน่นขึ้นตามลำดับ แรกๆก็ดักพบตอนบัวซอนกลับมาจากตลาด พอหลังๆถึงขั้นอาสาเป็นคนขี่มอเตอร์ไซด์พาบัวซอนไปจ่ายตลาดและช่วยถือของ
เวลาอยู่ใกล้ชายหนุ่มคนนี้ บัวซอนมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นความรู้สึกพิเศษเฉพาะที่ต้องแอบเก็บเอาไว้ในใจคนเดียว ยิ่งได้อยู่ใกล้ชิดเขาเท่าไหร่ หัวใจของเธอก็หวั่นไหวมากขึ้นเท่านั้น
"คุณฟ้าค่ะ มีข่าวด่วนสดๆร้อนๆมารายงานค่ะ" เฉลียวศรีตะโกนเสียงดังวิ่งพรวดพราดขึ้นมาบนเรือน
"แหกปากร้องซะดังลั่นแต่เช้า อย่างกับซ่องแตก มีเรื่องอะไรยะ? คนกำลังหลับสบาย มาปลุกอยู่ได้" สายนภาเปิดประตูห้องออกมา เธออยู่ในชุดนอนผ้าซาตินสีขาวบางเกาะอกมีสายเส้นเล็กๆคล้องช่วงไหล่ ชุดยาวถึงหัวเข่า สภาพผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ใบหน้าปราศจากเครื่องสำอางค์
"เมื่อกี้หนูไปกาดใหญ่มา เห็นคุณเดชกับอีนังบัวซอนเดินจ่ายตลาดด้วยกันกระหนุงกระหนิง คุณเดชช่วยอีนังบัวซอนถือของพะรุงพะรังเต็มมือ ส่วนอีนังบัวซอนเดินเชิดหน้าควงแขนคุณเดช อวดพวกแม่ค้าและคนแถวนั้น มันคงไปคุยโวว่าคุณเดชเป็นแฟนใหม่ หนูเห็นแล้วหมั่นใส้มาก อยากเข้าไปกระหน่ำตบอีนังบัวซอนแทนคุณฟ้า ดูซิว่ายางอายบนหน้ามันจะไหลออกมาหรือเปล่า แต่คิดไปคิดมา ขอแอบมองอยู่ห่างๆดีกว่า ขืนเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าเดี๋ยวจะแหวกหญ้าให้งูตื่นเปล่าๆ" เฉลียวศรีเล่ารายละเอียด
"ขอบใจมาก ไม่เสียแรงที่ฉันไว้เนื้อเชื่อใจแก ฉันกำลังยังสงสัยอยู่ว่าทำไมช่วงนี้พี่เดชถึงตื่นแต่เช้าออกไปวิ่งทุกวัน ที่แท้เป็นอย่างนี้เอง ฉันเหมือนคนโง่ถูกหลอกอีกจนได้ ร้ายกาจจริงนะพี่เดช" สายนภาหายงัวเงียทันที
"คุณฟ้าจะจัดการยังไงดีค่ะ?" เฉลียวศรีรอฟังคำตอบ
"พรุ่งนี้เช้าฉันจะแอบสะกดรอยตามพี่เดชไปดูให้เห็นกับตา ลองจับได้คาหนังเขาแบบนี้ ดูซิว่าจะแก้ตัวอย่างไร?" สายนภาวางแผนการ
.............................................................
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น หลังเดชศักดาออกจากบ้าน สายนภารีบสะกดรอยตามไปอย่างไม่รอช้า เธอวิ่งตามเขาตั้งแต่หัวหมู่บ้าน ผ่านกลางหมู่บ้าน ยันท้ายหมู่บ้าน แต่ก็ยังไม่เห็นแม้เงาของบัวซอน เธอยังคงวิ่งตามจนเข้าเขตทุ่งนาไร่สวนรอยต่อระหว่างอีกหมู่บ้านหนึ่ง
ทันใดนั้นมีงูสิงเลื้อยตัดหน้าหญิงสาว เข้าไปยังพงหญ้าข้างทาง
"ว้าย.. ช่วยด้วย" สายนภาร้องเสียงดังลั่นด้วยความตกใจกลัว
"เกิดอะไรขึ้นฟ้า?" เดชศักดาหันหลังกลับไปดูแหล่งที่มาของเสียง เขารีบวิ่งกลับมาหาสายนภาทันที
"งู.. ฟ้ากลัว" สายนภากอดเดชศักดาอย่างแน่น
"พี่ไม่เห็นงูซักตัว" เดชศักดากวาดสายมองดูรอบบริเวณนั้น
"จริงค่ะ ฟ้าเห็นมันเลื้อยเข้าไปในพงหญ้าโน่นแล้ว" สายนภาหลับตาพูดแล้วชี้นิ้วไปยังจุดที่งูเลื้อย
"วันนี้นึกยังไงถึงได้แอบวิ่งตามพี่ ปรกติชวนทีไรปฏิเสธทุกที" เดชศักดาสงสัย
"คือ.. เมื่อคืนฟ้านอนไม่ค่อยหลับ อยากมาวิ่งให้มันเหนื่อย เผื่อจะหลับง่ายบ้าง" สายนภาพยายามอ้างเหตุผลข้างๆคูๆ เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มจับพิรุจได้
เดชศักพยักหน้าตอบรับเป็นอันเข้าใจ
....................................................
"เช้านี้ฉันอุตส่าห์แหกขี้ตาตื่นแอบตามพี่เดชออกไป วิ่งจนแทบขาลาก เหนื่อยก็เหนื่อยแถมยังเกือบโดนงูฉกอีก ถ้าจะให้ฉันตามพี่เดชออกไปวิ่งทุกเช้า ฉันไม่เอานะ ว่าแต่แกไปเห็นพี่เดชกับนังบัวซอนจริงหรือเปล่า? ถ้าเขาแอบนัดกันจริง ฉันคงจับได้คาหนังคาเขาไปแล้ว แกไม่ได้ตาฝาดไปเห็นผู้ชายคนอื่นแล้วทึกทักว่าเป็นพี่เดช" สายนภาเน้นย้ำเพื่อความแน่ใจ
"หนูมั่นใจ 100เปอร์เซ็นต์ กล้าเอาหัวเป็นประกัน สำนักข่าวอีเหลียวเชื่อถือได้เสมอ ไม่เคยมีผิดพลาด ยิ่งไปเห็นมากับสองตาแบบนี้ แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งอีกค่ะ เมื่อวานที่กาดใหญ่ใช่คุณเดชกับอีนังบัวซอนแน่นอน เช้านี้ทำไมคุณเดชไม่ไปกับอีนั่น หนูว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดไม่ชอบมาพากลแน่ เพื่อความสบายใจของคุณฟ้า หนูจะจับตาดูความเคลื่อนไหวอีนังบัวซอนให้เองค่ะ มีอะไรเกิดขึ้นหนูจะรีบมารายงานคุณฟ้าทันที" เฉลียวศรีครุ่นคิด
............................................
เมื่อสินไหมซื้อกล้วยแขกและข้าวเม่าทอดที่ร้านเจ้าประจำเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินไปหาบัวซอนที่เพิงก๋วยเตี๋ยว เธอมักจะมานั่งคุยกับเพื่อนสนิทเวลานี้เสมอ เพราะเลยมื้อกลางวันไปพอสมควรแล้ว ลูกค้าบางตาลงมากจนแทบไม่มีเลย
"ฉันต้องขอบใจเธอ ถ้าไม่ได้เธอ ฉันคงแย่แน่ ตอนขี่มอเตอร์ไซด์กลับจากกาดใหญ่ ผ่านตรงแยกก่อนเข้าบ้าน ฉันยังเห็นคุณฟ้าแอบวิ่งตามคุณเดชอยู่ห่างๆ ดีที่ฉันใส่งอบคุณฟ้าเลยเห็นหน้าฉันไม่ชัด" บัวซอนพูดอย่างโล่งใจ
"โชคยังดีนะที่เมื่อวานตอนเช้าหมอทรัพย์ลืมสมุดบันทึกไว้ที่บ้านของเขา เลยวานให้ฉันช่วยไปเอาและส่งให้ที่อนามัย บังเอิญฉันไปทันจังหวะที่นังเหลียวกำลังคาบข่าวไปรายงานคุณฟ้าพอดี ฉันเลยแอบฟังอยู่หลังบ้าน พอได้ยินก็รีบมาบอกเธอทันที และวานหมอทรัพย์ไปบอกคุณเดชอีกต่อหนึ่ง ดีนะที่พวกเราคิดแผนการกันไว้" สินไหมหยิบข้าวเม่าทอดเข้าปากอย่างสบอารมณ์
"พูดถึงเหลียว ไม่รู้ว่าจงเกลียดจงชังอะไรฉันนักหนา ตั้งแต่สมัยเรียนประถมด้วยกันจนมาถึงตอนนี้ยังเหมือนเดิม ทั้งที่ฉันพยายามทำดีกับเขาเท่าไหร่ เขาก็ยังคงเกลียดฉันอยู่อย่างนั้น" บัวซอนนั่งถอนหายใจ
"มันจะอะไร ก็ความอิจฉาริษยานะซิ จำได้ไหมเมื่อก่อนมันหลงรักเอกหัวปักหัวปำถึงขั้นไปตามตื้อ ไปเสนอตัวให้เขาถึงบ้านทุกวัน แต่เอกไม่สนใจ พอมันเปลี่ยนมาชอบพี่ทบๆก็ไม่มองมันเลย ทั้งเอกและพี่ทบชอบเธอเท่านั้น มันเลยเกลียดเธอเข้าไส้จนถึงทุกวันนี้ไง ก่อนที่มันจะเที่ยวไปชอบผู้ชายหล่อๆทั่วหมู่บ้านทั่วตำบล น่าจะหัดส่องกระจกดูสภาพความสวยอันพังพินาศของมันก่อน ขนาดผ้ายันต์กันผียังเอาไม่อยู่ แทนที่ผู้ชายเห็นแล้วจะรู้สึกสยิวกลับกลายเป็นสยอง" สินไหมพูดถึงบุคคลที่3 อย่างเอือมระอาในพฤติกรรม
บัวซอนได้ยินถึงกับกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
"ตกลงเรื่องระหว่างเธอกับคุณเดช นี่มันอะไรยังไงกัน? ฉันก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งหรอก แต่อดเป็นห่วงเธอไม่ได้ เธอมันแสนดีเกิน ฉันไม่อยากเห็นเธอต้องมานั่งเสียใจอีกรอบ อีกอย่างคุณเดชรูปหล่อซะขนาดนั้น ย่อมเป็นที่หมายปองของสาวๆเป็นธรรมดา เธอก็เห็นๆอยู่ตัวอย่างเพิ่งผ่านไปไม่นาน ยิ่งตอนนี้คู่หมั้นเขาตามมาเฝ้าถึงที่นี่ ถ้าเกิดเรื่องหึงหวงกันซ้ำสองเหมือนคราวยัยบุนตาอีก รับรองชาวบ้านได้นินทากันสนุกปากแน่ ยิ่งนังเหลียวไปอยู่ฝ่ายคุณฟ้าด้วยแล้ว เธอเจอศึกหนักสองเด้งเลยนะ ก่อนจะทำอะไรลงไป ต้องคิดให้รอบคอบ นึกถึงผลเสียที่มันตามมาในภายหน้า คนที่เสียใจไม่ใช่เธอคนเดียว ยังมีลุงแก้วอีกคนที่จะเสียใจมากที่สุด" สินไหมตักเตือนเพื่อนสนิทด้วยความห่วงใย
"เรื่องคุณฟ้า ฉันเคยถามคุณเดชแล้ว เขาบอกว่าผู้ใหญ่เป็นฝ่ายจัดการหมั้นหมายให้เอง โดยที่เขาไม่ได้รักคุณฟ้าอย่างคู่รักเลย เขารักคุณฟ้าเหมือนน้องสาว ส่วนบุนตาก็เป็นแค่ความคึกคนองและอารมณ์ชั่ววูบพาไป" บัวซอนตอบอย่างไม่ค่อยเต็มปากเท่าไหร่
ตอนนี้เธอช่างสับสนและไม่เข้าใจตัวเองว่า ความรู้สึกที่เธอมีให้เดชศักดา มันเป็นความรู้สึกแบบไหนกันแน่ เธอรู้แค่เวลาอยู่ใกล้เขา เธอมีความสุขมาก
อันที่จริงเธอมีคำตอบชัดแจ้งอยู่ในใจเรียบร้อย เพียงแต่ไม่กล้าคิดไปไกลกว่านั้น เพราะความแตกต่างทางด้านฐานะทางสังคมระหว่างเขากับเธอ รวมทั้งเขาเองก็มีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว ดูจากปัจจัยทั้งหมดมันเป็นไปไม่ได้แน่นอน
..............................................................................
รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 4 กลลวง
ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
...........................................................................................................
" ความอิจฉาริษยาคือ ยาพิษร้ายแรง วิธีแก้พิษของมันคือ การรู้จักปล่อยวางไม่ยึดติดกับสิ่งใดทั้งสิ้น "
ตอนที่ 1 https://ppantip.com/topic/39180863
ตอนที่ 2 https://ppantip.com/topic/39197402
ตอนที่ 3 https://ppantip.com/topic/39233749
เดชศักดามาดักพบบัวซอนทุกเช้าจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ความสนิทสนมของทั้งสองคนค่อยๆแนบแน่นขึ้นตามลำดับ แรกๆก็ดักพบตอนบัวซอนกลับมาจากตลาด พอหลังๆถึงขั้นอาสาเป็นคนขี่มอเตอร์ไซด์พาบัวซอนไปจ่ายตลาดและช่วยถือของ
เวลาอยู่ใกล้ชายหนุ่มคนนี้ บัวซอนมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นความรู้สึกพิเศษเฉพาะที่ต้องแอบเก็บเอาไว้ในใจคนเดียว ยิ่งได้อยู่ใกล้ชิดเขาเท่าไหร่ หัวใจของเธอก็หวั่นไหวมากขึ้นเท่านั้น
"คุณฟ้าค่ะ มีข่าวด่วนสดๆร้อนๆมารายงานค่ะ" เฉลียวศรีตะโกนเสียงดังวิ่งพรวดพราดขึ้นมาบนเรือน
"แหกปากร้องซะดังลั่นแต่เช้า อย่างกับซ่องแตก มีเรื่องอะไรยะ? คนกำลังหลับสบาย มาปลุกอยู่ได้" สายนภาเปิดประตูห้องออกมา เธออยู่ในชุดนอนผ้าซาตินสีขาวบางเกาะอกมีสายเส้นเล็กๆคล้องช่วงไหล่ ชุดยาวถึงหัวเข่า สภาพผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ใบหน้าปราศจากเครื่องสำอางค์
"เมื่อกี้หนูไปกาดใหญ่มา เห็นคุณเดชกับอีนังบัวซอนเดินจ่ายตลาดด้วยกันกระหนุงกระหนิง คุณเดชช่วยอีนังบัวซอนถือของพะรุงพะรังเต็มมือ ส่วนอีนังบัวซอนเดินเชิดหน้าควงแขนคุณเดช อวดพวกแม่ค้าและคนแถวนั้น มันคงไปคุยโวว่าคุณเดชเป็นแฟนใหม่ หนูเห็นแล้วหมั่นใส้มาก อยากเข้าไปกระหน่ำตบอีนังบัวซอนแทนคุณฟ้า ดูซิว่ายางอายบนหน้ามันจะไหลออกมาหรือเปล่า แต่คิดไปคิดมา ขอแอบมองอยู่ห่างๆดีกว่า ขืนเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าเดี๋ยวจะแหวกหญ้าให้งูตื่นเปล่าๆ" เฉลียวศรีเล่ารายละเอียด
"ขอบใจมาก ไม่เสียแรงที่ฉันไว้เนื้อเชื่อใจแก ฉันกำลังยังสงสัยอยู่ว่าทำไมช่วงนี้พี่เดชถึงตื่นแต่เช้าออกไปวิ่งทุกวัน ที่แท้เป็นอย่างนี้เอง ฉันเหมือนคนโง่ถูกหลอกอีกจนได้ ร้ายกาจจริงนะพี่เดช" สายนภาหายงัวเงียทันที
"คุณฟ้าจะจัดการยังไงดีค่ะ?" เฉลียวศรีรอฟังคำตอบ
"พรุ่งนี้เช้าฉันจะแอบสะกดรอยตามพี่เดชไปดูให้เห็นกับตา ลองจับได้คาหนังเขาแบบนี้ ดูซิว่าจะแก้ตัวอย่างไร?" สายนภาวางแผนการ
.............................................................
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น หลังเดชศักดาออกจากบ้าน สายนภารีบสะกดรอยตามไปอย่างไม่รอช้า เธอวิ่งตามเขาตั้งแต่หัวหมู่บ้าน ผ่านกลางหมู่บ้าน ยันท้ายหมู่บ้าน แต่ก็ยังไม่เห็นแม้เงาของบัวซอน เธอยังคงวิ่งตามจนเข้าเขตทุ่งนาไร่สวนรอยต่อระหว่างอีกหมู่บ้านหนึ่ง
ทันใดนั้นมีงูสิงเลื้อยตัดหน้าหญิงสาว เข้าไปยังพงหญ้าข้างทาง
"ว้าย.. ช่วยด้วย" สายนภาร้องเสียงดังลั่นด้วยความตกใจกลัว
"เกิดอะไรขึ้นฟ้า?" เดชศักดาหันหลังกลับไปดูแหล่งที่มาของเสียง เขารีบวิ่งกลับมาหาสายนภาทันที
"งู.. ฟ้ากลัว" สายนภากอดเดชศักดาอย่างแน่น
"พี่ไม่เห็นงูซักตัว" เดชศักดากวาดสายมองดูรอบบริเวณนั้น
"จริงค่ะ ฟ้าเห็นมันเลื้อยเข้าไปในพงหญ้าโน่นแล้ว" สายนภาหลับตาพูดแล้วชี้นิ้วไปยังจุดที่งูเลื้อย
"วันนี้นึกยังไงถึงได้แอบวิ่งตามพี่ ปรกติชวนทีไรปฏิเสธทุกที" เดชศักดาสงสัย
"คือ.. เมื่อคืนฟ้านอนไม่ค่อยหลับ อยากมาวิ่งให้มันเหนื่อย เผื่อจะหลับง่ายบ้าง" สายนภาพยายามอ้างเหตุผลข้างๆคูๆ เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มจับพิรุจได้
เดชศักพยักหน้าตอบรับเป็นอันเข้าใจ
....................................................
"เช้านี้ฉันอุตส่าห์แหกขี้ตาตื่นแอบตามพี่เดชออกไป วิ่งจนแทบขาลาก เหนื่อยก็เหนื่อยแถมยังเกือบโดนงูฉกอีก ถ้าจะให้ฉันตามพี่เดชออกไปวิ่งทุกเช้า ฉันไม่เอานะ ว่าแต่แกไปเห็นพี่เดชกับนังบัวซอนจริงหรือเปล่า? ถ้าเขาแอบนัดกันจริง ฉันคงจับได้คาหนังคาเขาไปแล้ว แกไม่ได้ตาฝาดไปเห็นผู้ชายคนอื่นแล้วทึกทักว่าเป็นพี่เดช" สายนภาเน้นย้ำเพื่อความแน่ใจ
"หนูมั่นใจ 100เปอร์เซ็นต์ กล้าเอาหัวเป็นประกัน สำนักข่าวอีเหลียวเชื่อถือได้เสมอ ไม่เคยมีผิดพลาด ยิ่งไปเห็นมากับสองตาแบบนี้ แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งอีกค่ะ เมื่อวานที่กาดใหญ่ใช่คุณเดชกับอีนังบัวซอนแน่นอน เช้านี้ทำไมคุณเดชไม่ไปกับอีนั่น หนูว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดไม่ชอบมาพากลแน่ เพื่อความสบายใจของคุณฟ้า หนูจะจับตาดูความเคลื่อนไหวอีนังบัวซอนให้เองค่ะ มีอะไรเกิดขึ้นหนูจะรีบมารายงานคุณฟ้าทันที" เฉลียวศรีครุ่นคิด
............................................
เมื่อสินไหมซื้อกล้วยแขกและข้าวเม่าทอดที่ร้านเจ้าประจำเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินไปหาบัวซอนที่เพิงก๋วยเตี๋ยว เธอมักจะมานั่งคุยกับเพื่อนสนิทเวลานี้เสมอ เพราะเลยมื้อกลางวันไปพอสมควรแล้ว ลูกค้าบางตาลงมากจนแทบไม่มีเลย
"ฉันต้องขอบใจเธอ ถ้าไม่ได้เธอ ฉันคงแย่แน่ ตอนขี่มอเตอร์ไซด์กลับจากกาดใหญ่ ผ่านตรงแยกก่อนเข้าบ้าน ฉันยังเห็นคุณฟ้าแอบวิ่งตามคุณเดชอยู่ห่างๆ ดีที่ฉันใส่งอบคุณฟ้าเลยเห็นหน้าฉันไม่ชัด" บัวซอนพูดอย่างโล่งใจ
"โชคยังดีนะที่เมื่อวานตอนเช้าหมอทรัพย์ลืมสมุดบันทึกไว้ที่บ้านของเขา เลยวานให้ฉันช่วยไปเอาและส่งให้ที่อนามัย บังเอิญฉันไปทันจังหวะที่นังเหลียวกำลังคาบข่าวไปรายงานคุณฟ้าพอดี ฉันเลยแอบฟังอยู่หลังบ้าน พอได้ยินก็รีบมาบอกเธอทันที และวานหมอทรัพย์ไปบอกคุณเดชอีกต่อหนึ่ง ดีนะที่พวกเราคิดแผนการกันไว้" สินไหมหยิบข้าวเม่าทอดเข้าปากอย่างสบอารมณ์
"พูดถึงเหลียว ไม่รู้ว่าจงเกลียดจงชังอะไรฉันนักหนา ตั้งแต่สมัยเรียนประถมด้วยกันจนมาถึงตอนนี้ยังเหมือนเดิม ทั้งที่ฉันพยายามทำดีกับเขาเท่าไหร่ เขาก็ยังคงเกลียดฉันอยู่อย่างนั้น" บัวซอนนั่งถอนหายใจ
"มันจะอะไร ก็ความอิจฉาริษยานะซิ จำได้ไหมเมื่อก่อนมันหลงรักเอกหัวปักหัวปำถึงขั้นไปตามตื้อ ไปเสนอตัวให้เขาถึงบ้านทุกวัน แต่เอกไม่สนใจ พอมันเปลี่ยนมาชอบพี่ทบๆก็ไม่มองมันเลย ทั้งเอกและพี่ทบชอบเธอเท่านั้น มันเลยเกลียดเธอเข้าไส้จนถึงทุกวันนี้ไง ก่อนที่มันจะเที่ยวไปชอบผู้ชายหล่อๆทั่วหมู่บ้านทั่วตำบล น่าจะหัดส่องกระจกดูสภาพความสวยอันพังพินาศของมันก่อน ขนาดผ้ายันต์กันผียังเอาไม่อยู่ แทนที่ผู้ชายเห็นแล้วจะรู้สึกสยิวกลับกลายเป็นสยอง" สินไหมพูดถึงบุคคลที่3 อย่างเอือมระอาในพฤติกรรม
บัวซอนได้ยินถึงกับกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
"ตกลงเรื่องระหว่างเธอกับคุณเดช นี่มันอะไรยังไงกัน? ฉันก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งหรอก แต่อดเป็นห่วงเธอไม่ได้ เธอมันแสนดีเกิน ฉันไม่อยากเห็นเธอต้องมานั่งเสียใจอีกรอบ อีกอย่างคุณเดชรูปหล่อซะขนาดนั้น ย่อมเป็นที่หมายปองของสาวๆเป็นธรรมดา เธอก็เห็นๆอยู่ตัวอย่างเพิ่งผ่านไปไม่นาน ยิ่งตอนนี้คู่หมั้นเขาตามมาเฝ้าถึงที่นี่ ถ้าเกิดเรื่องหึงหวงกันซ้ำสองเหมือนคราวยัยบุนตาอีก รับรองชาวบ้านได้นินทากันสนุกปากแน่ ยิ่งนังเหลียวไปอยู่ฝ่ายคุณฟ้าด้วยแล้ว เธอเจอศึกหนักสองเด้งเลยนะ ก่อนจะทำอะไรลงไป ต้องคิดให้รอบคอบ นึกถึงผลเสียที่มันตามมาในภายหน้า คนที่เสียใจไม่ใช่เธอคนเดียว ยังมีลุงแก้วอีกคนที่จะเสียใจมากที่สุด" สินไหมตักเตือนเพื่อนสนิทด้วยความห่วงใย
"เรื่องคุณฟ้า ฉันเคยถามคุณเดชแล้ว เขาบอกว่าผู้ใหญ่เป็นฝ่ายจัดการหมั้นหมายให้เอง โดยที่เขาไม่ได้รักคุณฟ้าอย่างคู่รักเลย เขารักคุณฟ้าเหมือนน้องสาว ส่วนบุนตาก็เป็นแค่ความคึกคนองและอารมณ์ชั่ววูบพาไป" บัวซอนตอบอย่างไม่ค่อยเต็มปากเท่าไหร่
ตอนนี้เธอช่างสับสนและไม่เข้าใจตัวเองว่า ความรู้สึกที่เธอมีให้เดชศักดา มันเป็นความรู้สึกแบบไหนกันแน่ เธอรู้แค่เวลาอยู่ใกล้เขา เธอมีความสุขมาก
อันที่จริงเธอมีคำตอบชัดแจ้งอยู่ในใจเรียบร้อย เพียงแต่ไม่กล้าคิดไปไกลกว่านั้น เพราะความแตกต่างทางด้านฐานะทางสังคมระหว่างเขากับเธอ รวมทั้งเขาเองก็มีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว ดูจากปัจจัยทั้งหมดมันเป็นไปไม่ได้แน่นอน
..............................................................................