7 สี เปิดละครยอดฮิตที่เคยสร้างความประทับใจ มีเรื่องอะไรกันบ้างนั้น มาดูกันค่ะ !



“รักข้ามรั้ว” ละครเย็น แนวคอเมดี ของเหล่านุดและแก๊งน้อลหมา นำแสดงโดย อู ภาณุ รับบท “เกื้อ” หนุ่มจอมกะล่อน ที่โคจรมาพบกับ เอมี่ กลิ่นประทุม ในบท “พลอย” นักเขียนสาวโฮมออฟฟิศ ที่ทำตัวเป็นยายป้าบ้างาน ทั้งคู่บ้านอยู่ติดกัน และหมาของเขากับหมาของเธอเป็นสามีภรรยากัน แต่เจ้าของหมาดูเหมือนจะไม่ลงรอยกันนัก แต่ต้องมาร่วมมือกันแก้ปัญหาของคนในหมู่บ้าน เสริมทัพความตั้ลล้าก น่าเอ็นดูของเหล่าน้อลหมาทั้ง 6 ตัว ว้าว ! จะสนุกแค่ไหนไปส่องเรื่องย่อสุดป่วนกันจ้า
 
เกื้อ (อู ภาณุ) ได้รับมรดกจากพี่สาว เป็นบ้านริมแม่น้ำ และต้องดูแลต้าวศรรัก สุนัขสุดรักของพี่สาว พร้อมกับค่าเลี้ยงดูศรรักเดือนละหมื่นห้า มิสชันนี้ดูจะเป็นเรื่องยากแท้ เพราะเกื้อผู้ไม่อินกับน้อลหมา วันแรกที่มาถึงบ้านพี่สาว ก็ถูกเจ้าศรรัก พลอยพราวแสง (เอมี่ กลิ่นประทุม) เจ้าซอนย่า (สุนัขของพลอย) และคนทั้งหมู่บ้านวิ่งไล่ตามเป็นพรวน เพราะเข้าใจผิดนึกว่าเกื้อเป็นโจร อะ !!! วุ่นแล้วหนึ่งช็อต
 
หลังจากเกื้อเข้ามาดูแลเจ้าศรรัก ก็ต้องมีเหตุให้เกื้อมาพัวพันกับพลอย และเจ้าซอนย่า เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาของคนในหมู่บ้าน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปเรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่ยอมเอ่ยปากบอกรักกันสักที เดือดร้อนถึง “เจ้าศรรัก&ซอนย่า” ต้องหาทางวางแผนให้คนปากแข็งยอมจำนน และสารภาพรักกัน…. ไปทำความรู้จักแก๊งน้อลหมา พูดได้ เสียงเป็นเอกลักษณ์ เพิ่มความน่ารัก ชวนอมยิ้มให้กับเรื่องนี้ ไอ้ต้าวแต่ละตัวรับบทอะไร ใครกันที่ตกเป็นทาสหมาบ้างมาดูกันเลย
 
เริ่มกันที่น้องเบ่เบ๋ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ เสียงหล่อ รับบทต้าว “ศรรัก” สุนัขของพระเอก อู ภาณุ // น้องต้มยำ เฟรนช์ บูลด็อก รับบทนุ้ง “ซอนย่า” เจ้าของสำเนียงอู้กำเมืองเจ้า สุนัขของพลอย (เอมี่ กลิ่นประทุม) รวมถึง “ซันนี่” แสดงโดย เปียกปูน สุนัขขาแดนซ์ของคุณรัชนี (ปุ๊ ปิยะมาศ)
 
แจ็คกี้ รับบท “เชอรี่” สุนัขแสนรู้ของ ส้มจุก (เอ๋ พรทิพย์) “เร็คคอร์ด” สุนัขพันธุ์ไทยเสียงเหน่อของ คุณรุจน์ (วิชญะ จารุจินดา) และ “ซูโม่” สุนัขสุดหล่อ สำเนียงพระเอกหนังไทยของ เอก (บอล เชิญยิ้ม)
 
 
 
 
“เมฆ วินัย ไกรบุตร” ตำนานพระเอกร้อยล้าน จากภาพยนตร์เรื่อง นางนาก ประกบคู่กับ “ทราย เจริญปุระ” 

         “เมฆ วินัย ไกรบุตร” รับบท “ลือ” หนุ่มชาวนาอารมณ์ดี ใจนักเลงแห่งทุ่งบางเขน ที่ครองรักกับ “บัวเผื่อน” รับบทโดย “รชนีกร พันธุ์มณี” สาวงามประจำหมู่บ้าน จนมีลูกด้วยกัน “ลือ” ทิ้งความเป็นนักเลง หันไปทำนาหาเลี้ยงครอบครัว แต่ด้วยความยากจน ทำให้ “บัวเผื่อน” หนีไปแต่งงานที่บางกอกกับ “อ่อน” เศรษฐีหนุ่ม
 
         เมื่อ “ลือ” รู้ว่า “บัวเผื่อน” ทิ้งลูกหนีไป ก็ออกตามหาที่บางกอกแต่ไม่พบ จึงกลับบ้านด้วยความท้อแท้ เสียใจ โชคดีที่มีน้องเมีย คือ “บัวผัน” รับบทโดย “ทราย เจริญปุระ” คอยดูแลให้กำลังใจ จน “ลือ” ลืมความทุกข์และเริ่มเห็นความดีของ “บัวผัน” จากความใกล้ชิด ทำให้ลือและบัวผันเริ่มมีใจให้กัน เวลาผ่านไป บัวเผื่อนกลับมาหาลูกและมาขอโทษ “ลือ” บทสรุปความรักของ “ลือ-บัวผัน” จะลงเอยอย่างไร


“99 วันฉันรักเธอ” ละครเกมรัก เกมชีวิต กับภารกิจพิชิตใจหนุ่ม แห่งปี 2548
 
 
99 วันฉันรักเธอ ละครแนวโรแมนติก-ดรามา ที่วางเดิมพันด้วยความรัก นำทีมแชลเลนจ์ครั้งนี้ โดย 2 สาว ครีเอทิฟ & AE มือดี แห่งบริษัทโฆษณาหน้าใหม่ “เปรี้ยว - เภตรา” (ปู ไปรยา) “อ้อ - อมราวดี” (บี มาติกา) และ “ปั้น” (เติ้ล ตะวัน) ช่างภาพหน้ามน ตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดสมการแห่งความว้าวุ่น
 
เดิมที “เปรี้ยว” กะ “อ้อ” สองสาวคู่กัดที่มักไม่ลงรอยกันเสมอ แม้จะต้องทำงานด้วยกัน ทำเอาเพื่อนร่วมงานหัวจะปวดไปตาม ๆ กัน  สมรภูมิการปะทะรุนแรงขึ้น เมื่อ “ปั้น” เข้ามาร่วมทีมทำงาน บอกเลยว่า เข้าขั้นหนัก 😂 เปรี้ยวเกลียดขี้หน้าปั้นในทันที เพราะเข้าใจมาตลอดว่าเป็นพวกแอบถ่ายรูปลามก ตรงข้ามกับอ้อ ที่ถูกชะตา เทกแคร์ดูแลปั้นอย่างดีตั้งแต่แรกพบ เพราะปั้นช่วยให้เธอรอดพ้นจากการถูกมอมเหล้า
 
ปั้น ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ กลายเป็นชนวนเหตุที่ทำให้สองสาวหยุมหัวกันหนักกว่าเดิมมม !! ถึงขั้นประกาศเดิมพัน ท้าพนันกันว่า “ถ้าใครทำให้ ปั้น ตกหลุมรักภายใน 99 วันได้ก่อน คนนั้นก็เป็นฝ่ายชนะไป ส่วนคนแพ้ต้องลาออกจากบริษัท และไปจากชีวิตของอีกคนตลอดกาล”  โอ๊ยยย บอกเลย ออกแนวเวอร์ เล่นใหญ่ เล่นกับใจของหนุ่มปั้นสุด ๆ
 
แหม่ ๆ ศักดิ์ศรีมันค้ำคอขนาดนี้ !! มีเหรอที่สองสาว เปรี้ยว กะ อ้อ จะยอมกัน ของแบบนี้มีเท่าไหร่ต้องใส่ไปให้สุดค่ะคุณน้า กองเชียร์พร้อม กรรมการพร้อม ก็เริ่มภารกิจพิชิตใจหนุ่มไปค่า แต่ ๆ แนวแกล้งจีบ แกล้งชอบ นี่บอกเลย ตกหลุมพรางตัวเอง ชอบจริงไม่ติงนังมาแล้วหลายรายนะคะ
 
สุดท้าย…จุดจบของความสัมพันธ์ และเกมเดิมพันครั้งนี้จะเป็นอย่างไร แล้วใครจะได้หัวใจของ ปั้น ไปครอง



“อรุณสวัสดิ์” ละครดี เพลงดัง ขวัญใจวัยรุ่นแห่งปี 2535
 
 
“อรุณสวัสดิ์เจ้าเพื่อนเกลอ ยินดีปรีดาที่ได้เจอ” ผ่านมาแล้ว 32 ปี เข้าสู่ช่วงเทศกาลเปิดเทอมแบบนี้  วันที่ได้กลับไปใช้ชีวิตวัยเรียนกับเพื่อน ๆ ทำให้นึกถึงเพลงฮิตจากละครดังในอดีตอย่าง “อรุณสวัสดิ์” ขึ้นมาเลย  แฟน ๆ ละครยังจำเนื้อเพลงท่อนนี้กันได้มั้ยนะ ? วันนี้ ภาพเก่าที่คิดถึงจะพาย้อนความทรงจำกับละครเรื่องนี้กัน อะเริ่ม !!
 
อรุณสวัสดิ์ (ปี 2535) ละครน้ำดี สะท้อนปัญหาช่วงชีวิตวัยรุ่นในรั้วโรงเรียนสู่รั้วมหาลัยฯ เรื่องราวของ “เม่น/ภาสุ” (หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์) นักเรียน ม.ปลาย ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองด้านการเรียนเพื่อให้พ่อยอมรับ โดยมี “อรณี” (ปู-วิชชุดา สวนสุวรรณ) เพื่อนสาวที่แอบชอบ คอยเป็นกำลังใจให้สู้จนเรียนจบ ว้ายยยย งานนี้ #ทีมแอบชอบเพื่อน ต้องมาแล้วนะคะ ทำเอาลุ้นแล้วลุ้นอีก กว่าจะลงเอยกันได้
 
 
ยกทัพเพิ่มเติมความสนุกให้ครบรสยิ่งขึ้นด้วยแก๊งผองเพื่อนร่วมชั้นเรียน อย่าง “เสมอเทพ” (ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์), “ฤกษ์ดี” (โชคชัย เจริญสุข), “ปราชญ์” (ณัฐสิทธิ์ สาลิตุล) รวมไปถึง “หนูมาลี” (ชุลีพร ดวงรัตนตรัย) เพื่อนสาวสายฮา, “เมขลา” (สมนภา เกษมสุวรรณ) เพื่อนสาวคนสวย ที่ทำเอาเม่นตกหลุมรักตั้งแต่วันแรกเจอ, “ไหม” (กวินนา สุวรรณประทีป) ฝาแฝดของเม่น ที่บุคลิกแตกต่างกันแบบคนละขั้ว และ “หมู” (ตะวัน จารุจินดา) น้องชายตัวแสบ ฉลาด ทันคน
 
 
ยุคนั้นเชื่อว่าวัยรุ่นชาวเราที่เติบโตมาพร้อมกับละครเรื่องนี้ต้องอินสุด ๆ เพราะแต่ละประเด็นที่ละครหยิบมาเล่า เป็นเรื่องใกล้ตัวทั้งนั้น ในขณะที่เคมีพระ-นาง ก็ทำแฟนละครอย่างเราฟินไม่น้อย จนสร้างปรากฏการณ์ดังเปรี้ยงปร้างทะลุจอ แจ้งเกิดคู่ขวัญคู่ใหม่ “เม่น - อรณี” ไปเลยหนึ่งกรุบบบบ
 
แถมยังเป็นละครยุคแรก ๆ ที่เพลงประกอบละครฮิตติดหูด้วยจ้า โอ้โห ช่วยเพิ่มอรรถรสในการดูสุด ๆ !! ทำให้ละครเรื่องนี้ครบรสกลมกล่อม แม้ “ปู-วิชชุดา” ต้องจากไป ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในปี 2536 แต่ละครเรื่องนี้ก็สร้างความประทับใจ และยังยืนหนึ่งอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คนจนถึงปัจจุบัน



“มนต์รักสายฟ้าแลบ” 14 ปีละครเย็น เพลงสนุก วัยเด็กเต้นหน้าทีวี
 
 
ถ้าใครกำลังมองหาละครเบาสมอง เพลงสนุก ๆ ดูอยู่ ซิสขอป้ายยาละครเย็นในตำนาน ที่ผ่านมาแล้ว 14 ปี ฟังเพลงประกอบทีไรก็ยังอยากแดนซ์อยู่เสมอ “มนต์รักสายฟ้าแลบ” ลงจอช่อง 7 ปี 2553 ถือเป็นละครเรื่องแรกของ “กุญแจซอล-ป่านทอทอง” เจ้าแม่ละครเย็นในยุคนั้น ประกบคู่กับ “อ๊อฟ ชนะพล” ที่ลงจอละครเย็นเป็นเรื่องแรก แถมทั้งคู่ยังร้องเพลงประกอบละครเองด้วยนะ
 
สำหรับเพลงละคร “มนต์รักสายฟ้าแลบ” มีหลายเนื้อร้องที่ฮิตติดหู ไม่ว่าจะเป็น “หัวใจมันเต้นตึ้กตั้ก ตึ้กตั้ก เมื่อฟ้าแลบแปล๊บ แลบแปล๊บ” หรือท่อน “มันวูบ มันวาบ มันซาบ มันซ่า ยังไงไม่รู้” พร้อม Featuring ความสนุกโดยนักแสดงเด็ก จีโน่-ชญานิน และ เกรซ-ปานรดา ซึ่งปัจจุบันโตเป็นหนุ่ม เป็นสาวกันแล้ว บอกเลยว่าใครทันได้ดูละครเรื่องนี้ เวลา 6 โมงเย็นรีบวิ่งมาเต้นหน้าจอทีวีกันเลย เพราะเพลงนี้มีท่าเต้นง่ายน่ารักที่เด็ก ๆ เต้นตามได้สบาย ๆ
 
“มนต์รักสายฟ้าแลบ” ละครคอเมดี ที่เล่าถึงเรื่องราวของ 2 บ้าน คือ “กัลย์” (กุญแจซอล-ป่านทอทอง) และ “น้องกร” (จีโน่-ชญานิน) เด็กวัย 6 ขวบ สองพี่น้องวางแผนหนีการแต่งงานกับ “เสี่ยเลี้ยง” เพราะแม่เลี้ยงยกกัลย์ให้เสี่ย เพื่อแลกกับการยกหนี้ให้ พร้อมกับแถมเงินให้อีกก้อน น้องกรใช้กลอุบาย โทร.หาบรรดาเมียน้อยของเสี่ยเลี้ยงจนมาอาละวาดในงานแต่ง  ที่ฮาไปอีก น้องกรแอบกระซิบกับเสี่ยเลี้ยงว่า เขาคือลูกชายของกัลย์ ทำให้พี่น้องคู่นี้ซิ่งมอเตอร์ไซค์หนีงานแต่งได้สำเร็จ
 
ฝั่งบ้านหนุ่ม หล่อ รวย “ปราณสม” (อ๊อฟ-ชนะพล) และน้องสาว “น้องกิ่ง” (เกรซ-ปานรดา) ปราณสม จำใจเแต่งงานกับ “เดือนฉาย” ลูกสาวเพื่อนแม่ เมื่อถึงวันเข้าพิธี น้องกิ่งวางแผนล้มงานแต่ง โดย โทร.หาเดือนฉายบอกว่า เธอคือสูกสาวของปราณสม ตอนนี้เธอกับแม่อยู่ในงานแต่ง และจะทำลายพิธีจดทะเบียน ทำให้เดือนฉายสั่นไปหมด หันไปเจอแขกที่พาลูกมางานจึงเข้าไปทำร้าย ปั่นป่วนกันไปหมด น้องกิ่ง-ปราณสม หนีออกจากงาน โดยปราณสมขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาอย่างรวดเร็ว
 
กัลย์-น้องกร ขี่มอเตอร์ไซค์ใจลอยน้ำตาไหล ส่วนปราณสม-น้องกิ่ง ก็ขี่มอเตอร์ไซค์มาด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว ในช่วงที่ฝนใกล้จะตก ท้องฟ้ามืดครึ้ม เมื่อรถมอเตอร์ไซค์  2 คัน แล่นสวนกันในทางแคบ จู่ ๆ ท้องฟ้าก็แลบ ทำให้รถเฉี่ยวชนจนกัลย์-ปราณสม ล้มมากองเกาะกันอยู่ ส่วน น้องกร-น้องกิ่ง ล้มมากองใส่กัน…และนี่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก และที่มาของเพลง “มนต์รักสายฟ้าแลบ”


 
ย้อนไปปี พ.ศ. 2536 ฉากดังจากละครที่ทำให้แฟน ๆ จดจำกันได้ดี คงหนีไม่พ้นฉาก “เหินฟ้า !!” ยืนตะโกนบนหน้าผาสูง ที่มีวิวภูเขาสวย ๆ  จากละคร “ผยอง”  เห็นฉากนี้ทีไรบอกเลย พระเอกเท่ไม่ไหว ไม่มีใครไม่รู้จัก หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์  เหล่าแฟนคลับนำมาคัฟเวอร์ จนกลายเป็นมีมดังในตำนานไปเลยจ้า
 
หลายคนอาจสงสัย ทำไมพระเอกถึงตะโกนว่า “เหินฟ้า !!” นั่นเพราะว่า “เหินฟ้า” คือชื่อของพระเอก (หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์) โดยเขาได้เฉลยให้นางเอก “สวย” รับบทโดย กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง ฟังว่า “ที่นี่…เป็นที่สูงที่สุด ทำให้ฉันเกิดความยิ่งใหญ่ และลำพองใจว่า วันหนึ่งชีวิตฉันจะต้องสูงที่สุดแบบนี้ และชอบเสียงที่มันสะท้อนกลับมา มันดังก้องหุบเขาดี"
ถ้ายังจำกันได้ ฉากพระเอก-นางเอก ประกบคู่ทีไร เคมีเคใจ น่าเอ็นดูฝุด ๆ จนทำให้ ผยอง กลายเป็นละครฮิตติดจอและทัชใจคนดูมาถึงทุกวันนี้  
มีม “เหินฟ้า !!” ถือเป็นการวัดประสบการณ์ บอกเลยว่า ถ้าใครเคยตะโกน “เหินฟ้า !!” บนที่สูงสักที่ แสดงว่าไม่เด็กแล้วนะ อิอิ



 
วันนี้แอดขอเปิดคลังภาพละคร แนวโรแมนติก ดรามา ที่ช่อง 7 นำมาสร้างถึง 2 ครั้ง “ดั่งดวงหฤทัย” ลงจอทางช่อง 7 สี ครั้งแรก ปี 2539  โดย  หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ รับบท “เจ้าหลวงรังสิมันต์” แห่งแคว้นกาสิก คู่กับ นัท มีเรีย รับบท “เจ้าหญิงทรรศิกา” แห่งแคว้นพันธุรัฐ  ผู้สวยสง่างามตามบทประพันธ์ ความสวย หล่อ ของพระ-นาง บวกกับโลเคชันสวย ๆ ของเนปาล ที่เป็นเมืองสมมติในละคร ทำเอาแฟนละครฟิน อบอุ่นหัวใจมากมาย นอกจากนั้นยังเสริมทัพนักแสดงมากฝีมือ ไม่ว่าจะเป็น เกวลิน คอตแลนด์ และโอลิเวอร์ พูพาร์ท
 
 
“ดั่งดวงหฤทัย” ถูกนำกลับมาสร้างอีกครั้ง ในปี 2550 ครั้งนี้ได้ “เจ้าหลวงรังสิมันต์” แห่งแคว้นกาสิก รับบทโดย เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ โคจรมาพบกับ ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์ ในบท “เจ้าหญิงทรรศิกา” แห่งแคว้นพันธุรัฐ  ซึ่งถือเป็นบทที่ท้าทายของทั้งคู่ เสริมทัพความฟินโดย นิว-วงศกร ปรมัตถากร, รถเมล์-คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ และนักแสดงอีกมากมาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่