รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 20 สานสัมพันธ์

รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 20 สานสัมพันธ์


ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์
................................................................................................................

หนึ่งบุรุษนอนครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เจอมาร์ตี้ในตลาดนัดตอนเย็น เขารู้สึกสับสนไม่แน่ใจกับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเด็กหนุ่มคนนี้ มันเป็นความรู้สึกพิเศษที่แอบซ่อนเร้นอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ เวลาที่เขาได้เจอเด็กหนุ่มโลกทั้งใบของเขาที่จืดชืดน่าเบื่อหน่าย กลับสดใสมีชีวิตชีวามากกว่าปรกติ

รสนิยมทางเพศของเขา ไม่มีคำจำกัดความหรือนิยามที่แน่นอนตายตัว ความเสน่หา ความพิศวาสหลุ่มหลง รวมถึงความรัก เป็นสิ่งสวยงามที่ไม่มีข้อแม้ ไม่มีพรมแดน ไม่ว่าจะรักเพศเดียวกัน หรือต่างเพศ ก็ได้ทั้งนั้น ถ้าทำให้เขามีความสุขใจ

แต่…. เขาคงมีสิทธิแค่ฝันเท่านั้น มันคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะเขาไม่เลวพอที่จะแย่งชิงมาร์ตี้จากสายเมฆได้ ของสิ่งไหนที่ไม่ใช่ของเรา ต่อให้ไปแย่งชิงมาอย่างไร สุดท้ายของสิ่งนั้นก็ต้องไปจากเราจนได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง  นอกจากนั้นยังมีเรื่องของความแตกต่างทางด้านฐานะ มาเป็นกำแพงขวางกั้นอีกด้วย

.....................................................................................

"คุณผู้จัดการมาทำอะไรแถวนี้แต่เช้าครับ?" หนึ่งบุรุษเห็นรติยาเดินมาจากทางห้องพักของเพื่อน ที่อยู่ริมสุดของบ้านพักคนงาน

"เออ... ฉันมาหาปิน ห้องน้ำผู้หญิงในร้านอาหาร ชักโครกกดไม่ลงตั้งแต่เมื่อคืน ฉันเลยรีบมาตามให้ไปซ่อมด่วน สงสัยคงออกไปข้างนอก หรือไม่ก็นอนหลับสนิทจนไม่ยินเสียงเคาะ ฉันไม่รู้จะเคาะยังไงให้ดังกว่านี้แล้ว เจ็บมือหมด ยังไงพี่ช่วยตามปินให้หน่อยนะ" รติยาหาเหตุผลมาอธิบาย

……………………………………………………………………..

เสียงสัญญาณเตือนข้อความเข้าจากไลน์ ดังถี่ขึ้นมาหลายรอบ มาร์ตี้สะดุ้งตื่น ด้วยความรำคาญเขารีบปิดโทรศัพท์มือถือ พร้อมทั้งล้มตัวนอนต่อไป

เวลาผ่านไป 5ชั่วโมง เขาตื่นขึ้นมาอย่างคนที่ได้นอนเต็มอิ่ม หลังจากทำกิจวัตรส่วนตัวเรียบร้อย เขาเปิดประตูเดินออกจากห้องนอน ตรงไปยังห้องรับแขก 

"พ่อกับแม่อยู่ไหน?" มาร์ตี้กวาดสายมองทั่วห้องรับแขก เขาเห็นไบร์นี่กับเรย์นั่งซบกันดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟาใหญ่ โดยมีสายเมฆนั่งหน้ามุ่ยอยู่ตรงโซฟาเดี่ยวฝั่งตรงข้าม ส่วนบัวชมพูกำลังปลอกแตงโมใส่จานอยู่ที่มินิบาร์

"ทำตัวเป็นลูกแหง่ติดพ่อแม่ไปได้ โตจนมีไม่รู้กี่ผัวแล้ว พ่อกับแม่ไปถวายภัตตาหารหลวงตาตั้งแต่เช้า และเลยไปเยี่ยมเพื่อนแม่ที่พะเยา กว่าจะกลับคงค่ำโน่น ขณะนี้เวลาบ่าย 3โมง ทำไมไม่อดใจรออีกนิด จะได้ตื่นมากินมื้อเย็นพอดิบพอดี เมื่อคืนคงแชทกับหนุ่มๆทางยุโรปจนสว่างคาตาละซิ ถึงได้ตื่นเอาป่านนี้ เริ่ดนะยะ " ไบร์นี่ประชดประชันน้องชาย

"หุบปากไปเลย พูดมากเป็นคนแก่ไปได้ น่ารำคาญ สงสัยคงติดเชื้อป้าเหลียวมาแน่ๆ พี่เรย์ช่วยสั่งสอนนางสาวบัวหอมให้สงบปากสงบคำบ้างนะครับ ยิ่งนับวันปากคอร้ายกาจขึ้นทุกที" มาร์ตี้ต่อปากต่อคำ

"พี่คงช่วยอะไรไม่ได้ ผัวที่ดีต้องเชื่อฟังเมีย อยู่ในโอวาทเมีย ห้ามเถียงเด็ดขาด" เรย์พูดติดตลก

"ดีมาก จำให้ขึ้นใจนะตัวเอง" ไบร์นี่รับมุขต่อ

สายเมฆงอนตุ๊บป่อง เดินออกไปนอกเรือนพัก

"ไม่ออกไปง้อเขาหน่อยเหรอ? เห็นมารอเฝ้านายตั้งแต่ตอนสายโน่นแล้ว" เรย์แนะนำ

"ไม่จำเป็น ผมไม่ผิด ไม่เคยขอให้เขาเฝ้า เขาอยากมาเองช่วยไม่ได้ พอไม่ได้ดั่งใจก็มาโกรธฟึดฟัด ไร้เหตุผลสิ้นดี" มาร์ตี้พูดด้วยความเบื่อหน่าย

"แต่งตัวซะหล่อเชียว ออกไปล่าเหยื่อที่ไหนหรือ?" ไบร์นี่ยังไม่หยุดแซว

บัวชมพูหัวเราะออกมาอย่างชอบอกชอบใจ 

"ไม่ยุ่งซักเรื่องจะได้ไหม? เอาเวลาไปเตรียมการงานแต่งของตัวเอง เป็นประโยชน์กว่านะ   ยัยพิ้งค์กี้ก็อีกคน อย่าเจ๋อได้ไหม" " มาร์ตี้โต้ตอบพี่สาวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับชี้นิ้วไปที่บัวชมพู

.........................……………………………………………………………………….

"ตาเมฆเป็นอะไรของเขา? เดินฟึดฟัดอารมณ์เสียเข้ามาในบ้าน อย่างกับไปกินรังแตนมา ปรกติเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน" สายนภาแปลกใจกับพฤติกรรมของลูกชาย

"แหม… คุณฟ้าน่าจะเดาออกนะคะ จะมีอะไรละค่ะ ก็เรื่องรักๆใคร่ๆ คุณหนูเมฆต้องทะเลาะหรืองอนลูกอีบัวซอนมาแน่ค่ะ เหลียวเอาหัวเป็นประกันได้" เฉลียวศรีมั่นใจที่สุด

"แกนี่.. ผู้สันทัดกรณีตัวจริงมาตอบเอง ฉันก็ว่างั้น" สายนภาเออออตาม

"เดี๋ยวเหลียวไปดูให้นะคะ" เฉลียวศรีเดินตรงไปห้องของสายเมฆ

"เข้ามาได้ ห้องไม่ได้ล็อค" สายเมฆส่งสัญญาณตอบรับ หลังได้ยินเสียงเคาะประตู

"เหลียวเห็นคุณหนูหน้าบึ้งอารมณ์เสียตอนเดินเข้ามาในบ้าน เลยเป็นห่วง คุณหนูเป็นอะไรค่ะ? ปรกติคุณหนูเป็นคนร่าเริงสดใส อารมณ์ดี ใครทำให้คุณหนูของเหลียวโกรธเคืองเศร้าโศกเสียใจ บอกเหลียวมาเถิดค่ะ เหลียวจะไปจัดการให้ ถ้าให้เดาคง งอนหรือไม่ก็โกรธคุณมาร์ตี้ใช่ไหมค่ะ?" เฉลียวศรีถามด้วยความเป็นห่วงปนอยากรู้อยากเห็น

"ไม่มีอะไรหรอก พี่เหลียว.. แค่เรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย เมฆไม่ดีเอง ไปวางกรอบจัดระเบียบมากเกินไปจนทำให้เขารำคาญ ก็คนมันรักนิ เลยอยากดูแลเทคแคร์ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่เขากลับไม่เห็นความตั้งใจของเรา" สายเมฆระบายความทุกข์ในใจ

"โถ… โถ… คุณหนูขา.. ไม่เอานะคะ อย่าคิดแบบนั้นซิ เพชรก็คือเพชร ในเมื่อเราพยายามทำดีที่สุดแล้ว แต่เขาไม่เห็นค่า ก็อย่าไปแคร์ซิค่ะ เชิ่ดใส่เท่านั้นค่ะ  คุณหนูทั้งน่ารัก ทั้งแสนดี เพียบพร้อมด้วยฐานะอย่างนี้ หาผู้ชายหล่อๆระดับเดียวกันได้สบายมาก เชื่อเหลียวนะคะ" เฉลียวศรีปลอบใจเจ้านายตัวน้อย

"พูดมันง่ายนะ แต่ตอนทำซิ ยากกว่าหลายสิบเท่า เมฆรักมาร์ตี้จนสุดใจไปแล้ว จะให้ปุ๊บปั๊บเลิก มันทำไม่ได้ เมฆไม่อยากเจ็บ"

"คุณหนูของเหลียวต้องเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น คนที่มันกล้าหักอกคุณหนู มันต้องเจ็บกว่าคุณหนูหลายเท่าค่ะ ไม่ต้องคิดมากนะคะ เชื่อเหลียว คนดีของเหลียว" 

"ตกลงตาเมฆเป็นอะไร?" สายนภารีบซักเอาความ ทันทีที่เฉลียวศรีเดินมา

"งอนลูกอีบัวซอนค่ะ ลูกอีบัวซอนไม่เห็นค่าคุณหนูเมฆ อุตส่าห์รักเทคแคร์ดูแลมันอย่างดีเยี่ยม แต่มันไม่เคยเห็นคุณค่าความดีเลย เหลียวไม่อยากเห็นคุณหนูเมฆทุกข์ใจเสียใจ เลยเตือนสติให้รีบตัดไฟแต่ต้นลม เลิกได้ให้เลิก ก่อนที่จะเจ็บจะเสียใจมากกว่านี้ คงต้องล้มเลิกแผนการที่พวกเราวางไว้แล้วค่ะ ในเมื่อเหตุการณ์กลับพลิกเป็นแบบนี้ คนที่จะเจ็บสุดคือคุณหนูเมฆนะคะ ไม่ใช่ลูกอีบัวซอน" เฉลียวศรีแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล

"แกพูดเข้ามากท่า เหตุผลดีเยี่ยม ฉันเห็นด้วยกับแก หวังว่าตาเมฆคงตัดใจลืมลูกบัวซอนได้เร็วๆ" สายนภาเห็นด้วย เธอเป็นห่วงความรู้สึกของลูกเหนือสิ่งอื่นใด

………………………………………………………………………………………………

"คุณมาร์ตี้ จะไปไหนครับ?" หนึ่งบุรุษทักทาย สีหน้าของเขาสดชื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ทันทีที่เห็นหน้ามาร์ตี้

"กำลังจะไปหาพี่ที่คอกม้า บังเอิญเจอที่นี่ซะก่อน กำลังจะไปไหนครับ?" มาร์ตี้เห็นฝ่ายตรงข้ามนั่งควบรถมอเตอร์ไซด์ ทำท่ากำลังจะสตาร์ทเครื่อง

"ผมเพิ่งเลิกงาน รู้สึกเบื่อๆเซ็งๆ เลยจะออกไปขี่รถเล่น จากนั้นก็ไปหาอะไรกิน" 

"แอบนัดสาวที่ไหนไว้หรือเปล่าเอ่ย?" มาร์ตี้โยนหินถามทาง

"ไปคนเดียวครับ ผมโสดสนิท ยาจกอย่างผมไม่มีใครเขามองหรอก" หนึ่งบุรษพูดตามตรง

"อย่าพูดแบบนั้นอีกนะครับ เรื่องมีเรื่องจน มันเป็นแค่สิ่งสมมุติกันขึ้นมาโดยอ้างหลักความสะดวกสบาย สำหรับผมมันไม่สำคัญ ผมคบคนที่ใจมากกว่า ทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นคนเท่าเทียมกันหมด  ที่ว่ายังโสดจริงหรือเปล่าเอ่ย?" มาร์ตี้หยั่งเชิง

"จริงครับ ผมสาบานได้" หนึ่งบุรุษเน้นย้ำอย่างมั่นใจ

"ล้อเล่นนะครับ ผมก็รู้สึกเซ็งๆเบื่อๆเหมือนกัน ถ้าไม่เป็นการรบกวน ขอผมไปด้วยได้ไหม?" มาร์ตี้เอ่ยถาม

"ยินดีเต็มที่ครับ  เดี๋ยวผมเอาหมวกกันน็อคมาให้" หนึ่งบุรุษดีใจออกนอกหน้า จนลืมเก็บความรู้สึกไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่