รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 23 คลี่คลาย

รักเก่าเขาและเธอ : ตอนที่ 23 คลี่คลาย



ขอขอบคุณเครดิดรูปภาพปกสวยๆจาก คุณรัชต์สารินท์

.............................................................................................................................

เช้าวันนี้บัวซอนเดินซื้ออาหารพื้นเมืองและขนมอีกหลายอย่างที่กาดใหญ่ โดยมีธานีคอยเดินตามหลังเป็นผู้ช่วยถือของ

"หนักไหมพ่อ? ทนเอาหน่อยนะ พวกเด็กๆไม่ยอมตื่นเช้ากัน คนแก่อย่างเราเลยต้องมากันสองคน เดี๋ยวแม่เดินไปซื้อแกงกระด้างกับน้ำพริกคั่วเจ้าโน่นก็เสร็จแล้ว" 

"แค่นี้สบายมาก ถือของเยอะๆยิ่งดี จะได้ฝึกบริหารกล้ามแขนไปในตัวด้วย พ่อพยายามนึกภาพว่าตัวเองกำลังยกดรัมเบลอยู่" ธานีพูดอย่างอารมณ์ดี

เมื่อซื้อของเสร็จเรียบร้อย สองสามีภรรยาเดินเอาของมาเก็บตรงท้ายรถยนต์ที่จอดอยู่บนขอบถนน ทันใดนั้นก็มีเสียงเหมือนรถมอเตอร์ไซด์เบรคอย่างกระทันหันดังขึ้นมา เนื่องจากมีสุนัขวิ่งตัดหน้า รถมอเตอร์ไซด์ได้เสียหลักล้มลงบริเวณถนนฝั่งตรงข้าม

ทั้งสองรีบวิ่งไปดูอาการของคนขี่มอเตอร์ไซด์ที่ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด พร้อมโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยให้มารับตัวนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน 

.....................................................................................................

"แม่ …. เจ็บตรงไหนบ้าง? ฉันใจหายใจคว่ำหมดเลย พอรู้ข่าว ฉันกับหลานก็รีบบึ่งมาหาแม่ที่โรงบาลทันที แม่อย่าเป็นอะไรนะ แม่ต้องหาย ต้องอยู่กับฉันนานๆ" เฉลียวศรีเปิดประตูวิ่งถลาเข้ามาหาผู้ป่วยที่นอนพักฟื้นอยู่บนเตียง โดยมีฉลองชัยตามมาด้วย

"กูไม่เป็นอะไรแล้ว  แขนกูหัก ข้อศอกอีกข้างถลอกเป็นแผลเปิด  ก็ยังมาบีบแขนกูซ้ำอีก" นางศรีต๊อดบ่นตามประสา

"อีบัวซอน.. มาทำอะไรที่นี่? อย่าบอกนะว่า มะรึงขับรถชนแม่ของกู มะรึงนี่ตัวซวย อุบาทว์อัปะรีย์ กูไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าให้สมกับความเลวของมะรึงจริงๆ กูขอตบมะรึงเพื่อล้างแผลให้แม่กูทีเถอะ" เฉลียวศรีกำลังเดินพุ่งเข้าไปตบบัวซอนอย่างไร้สติ

"หยุดได้แล้ว อีผีบ้า...  ทำไมไม่ถามกูก่อนว่าเพราะอะไร? โง่แล้วยังอวดฉลาดอีก กูอยากตบกบาลซักฉาดสองฉาด เผื่อจะได้ฉลาดเหมือนคนอื่นเขาบ้าง" นางศรีต๊อดหยิบกระเป๋าถือที่วางไว้ข้างเตียง เขวี้ยงใส่ลูกสาวเต็มแรง

"อ้าว.. แม่ … ทำไมทำอย่างนี้? รถมอไซด์ล้มจนความจำฝั่นเฟือนไปแล้วเหรอ? ถึงได้ปกป้องอีบัวซอน มันเป็นศัตรูของพวกเรา แม่เกลียดมันอย่างกับขี้" เฉลียวศรีหยุดชะงักชั่วครู่ เธอมึนงงกับการแสดงออกของมารดา 

"อีผีบ้า...  มะรึงน่าจะถามไถ่ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น ที่มาที่ไปยังไง ไม่ใช่เอะอะก็จะพุ่งเข้าไปตบเขาท่าเดียว กูมีสติสตังครบถ้วน ไม่ได้เพี้ยนเหมือนที่ปากของมะรึงเห่า เมื่อก่อนอาจจะใช่ กูยอมรับว่าเกลียดบัวซอนเข้ากระดูก แต่ตอนนี้บัวซอนก็ได้พิสูจน์ให้กูเห็นแล้วว่า ความดีของมันสามารถเอาชนะทิฐิโมหะจริตของกูได้ บัวซอนมันเป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ ต่อให้กูเคียดแค้นชิงชังมันแค่ไหน มันก็ไม่เคยถือสาโกรธเคืองกูเลย พอมันเห็นกูตกทุกข์ได้ยากอยู่ในอันตราย มันก็ยังมีน้ำใจช่วยเหลือ ถ้าไม่ได้มันมาช่วยไว้ ป่านนี้กูคงแย่ไปมากกว่านี้" นางศรีต็อดอธิบายเหตุผลให้ลูกสาวฟัง

"ป้าไม่ต้องคิดอะไรมากนะจ๊ะ เรื่องในอดีตที่ผ่านมา ฉันเองก็มีส่วนผิดอยู่ที่ทำให้ป้าและลูกชายต้องอับอายขายหน้าชาวบ้าน ฉันไม่เคยโกรธเคืองถือสาป้าเลย ฉันช่วยป้าเพราะป็นคนบ้านเดียวกัน ป้าก็เสมือนเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของฉันเหมือนกัน สามีของป้าก็เป็นเพื่อนสนิทหลวงพ่อ ครอบครัวเราทั้งสองฝ่ายรู้จักสนิทสนมกันมาตั้งนาน ส่วนเหลียวก็เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับฉัน เรียนอยู่ชั้นเดียวกันมาตั้งแต่จำความได้" บัวซอนพูดออกมาจากใจจริง

"ป้าต้องขอบใจบัวซอนอีกรอบ และขอโทษแทนนังเหลียวผีบ้าด้วย อย่าไปถือสามันเลย ถ้ามันยังพูดหรือทำอะไรให้เอ็งไม่สบายใจอีก บอกป้าได้เลย เดี๋ยวป้าจะตบสั่งสอนมันเอง" นางศรีต๊อดส่งยิ้มที่เต็มเปี่ยมด้วยมิตรไมตรีจิต

เฉลียวศรียืนแน่นิ่งมึนงงกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า เธอไม่คิดไม่ฝันว่าเหตุการณ์มันพลิกผันเปลี่ยนขั้วจากหน้ามือเป็นหลังเท้าได้เพียงนี้ ทั้งที่ความน่าจะเป็นมีค่าเท่ากับศูนย์

"เอ็งจะยืนแข็งทื่อเป็นสากกะเบืออีกนานไหม? รีบขอโทษบัวซอนเดี๋ยวนี้เลย  ต่อไปนี้เอ็งอย่าได้ริอาจทำตัวเป็นศัตรูหรือทำอะไรให้บัวซอนขุ่นข้องหมองใจอีก ถ้ากูรู้ละก็ กูจะตบให้คนสันดานชั่วอย่างกลายเป็นคนดีเลยละ" นางศรีต๊อดเทศนาลูกสาวชุดใหญ่

"ที่ผ่านมาฉันไม่เคยคิดโกรธเกลียดเหลียว บางครั้งอาจจะรำคาญบ้าง แต่ก็ไม่เคยคิดว่าเธอเป็นศัตรูเลย ฉันรู้ว่าเธอต้องทำตามหน้าที่ดูแลคุณฟ้าๆไม่ชอบฉัน ย่อมเป็นธรรมดาที่เธอต้องเลือกปฏิบัติกับฉันแบบนั้น ฉันเข้าใจเหตุผลเธอ ไหนจะเรื่องเอกอีก มันยิ่งทำให้เธอเกลียดฉันทวีคูณเข้าไปใหญ่ ฉันขอบอกเธอตรงนี้จากใจจริง ฉันกับเอกเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น เธอสบายใจได้เลย ที่ผ่านมาเขาพยายามหาทางเข้ามาคุยกับฉัน เพื่ออยากขอโทษเรื่องอดีตเท่านั้น พอได้คุยกับฉันแล้ว เหมือนเขาได้ปลดล็อคสิ่งที่มันติดค้างคาใจเขามาตลอด 30กว่าปี เธอไม่ต้องขอโทษอะไรฉันเลย สิ่งที่ฉันต้องการจากเธอมากที่สุดคือ ความเชื่อใจ ว่าฉันไม่มีทางคิดทำร้ายเธออย่างแน่นอน" บัวซอนพยายามยื่นมิตรไมตรีให้เฉลียวศรี

"ฉันขอบใจเธอนะ… บัวซอน..   ที่ช่วยเหลือแม่ฉัน แม่เป็นสมบัติที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตฉัน ถ้าไม่ได้เธอ แม่ฉันคงแย่กว่านี้แน่ ฉันดีใจที่เธอไม่เคยเคืองโกรธฉันกับเรื่องที่ผ่านมา ฉันต้องขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับเธอมาตลอด จริงอย่างที่มีคนพูดเอาไว้ เราจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของคนๆนั้น ในยามเราตกทุกข์ได้ยาก และฉันก็ได้เห็นตัวจริงของเธอ บัวซอน เธอเป็นดีมีน้ำใจ ฉันละอายใจตัวเองมาก " เฉลียวศรีเดินเข้าไปจับมือบัวซอน น้ำตาที่ค่อยๆไหลออกมาจากสองตา บ่งบอกถึงข้อความทั้งหมดที่เธอสื่อสารออกมาอย่างจริงใจ

……………………………………………………………………………………………………………..

"ทำไมเงียบจัง? ไปไหนกันหมด?" เรย์เดินเข้ามาในเรือนพักของครอบครัวไกลลำเนา เขาเห็นไบร์นี่กำลังนั่งเช็ดกระเป๋าแบรนด์เนมใบโปรดอยู่ในห้องนั่งเล่น

"พ่อกับแม่ไปตลาด เพิ่งส่งไลน์มาบอกว่ามีธุระด่วนอาจจะกลับช้านิดหนึ่ง ส่วนนางสาวเมืองขวัญกับแฟนยังไม่ตื่นเลย สงสัยเมื่อคืนคงวิ่งมาราธอนกันทั้งคืน" ไบร์นี่พูดติดตลก

"รักสุขภาพดีจัง วิ่งมาราธอนทั้งคืน ตัวเองไม่สนใจมาวิ่งมาราธอนกับเขาบ้างหรือ?" เรย์เล่นหยอดคารมสองแง่สองง่าม

"ทะลึ่ง… ยังไม่ถึงเวลา ช่วงนี้เป็นช่วงเก็บตัวก่อนวันลงสนามจริง" ไบร์นี่ตอบกลับอย่างแสบๆคันๆ

"ร้ายนักนะเรา เดี๋ยวพอถึงวันลงสนามจริง จะเชือดอย่างไม่ปราณีเลย" เรย์ทำหน้าทะเล้นใส่หญิงสาวคนรัก

"ก๊อก... ก๊อก… " ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้นมา เรย์เดินไปเปิดประตู

"สวัสดีครับ ผมมาเยี่ยมพี่ธานีกับพี่บัวซอน" เจ้าของเสียงเป็นชายลูกครึ่งไทย-ตะวันตก วัย33 ปี รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาคมคาย เส้นผมสีวิสกี้ ดวงตากลมรี นัยตาสีฟ้าน้ำทะเล จมูกโด่งเป็นสัน ปากสีชมพูเรียวเป็นรูปกระจับ 

ยังไม่ทันที่ชายลูกครึ่งจะพูดจบ ไบร์นี่ก็วิ่งเข้ามาโอบกอดอย่างรวดเร็ว พร้อมกับรัวหอมแก้มทั้งสองข้างอีกหลายฟอด

"ว๊าย… พี่วิน... มาได้ไงค่ะ ? เซอร์ไพรส์มากๆ ทำไมไม่บอกก่อนจะได้เตรียมตัวต้อนรับ แล้วไปไงมาไง? ดีใจมากที่ได้เจอพี่อีกครั้ง เราไม่ได้เจอกันมานานหลายปีเแล้วเนอะ" ไบร์นี่รัวถามฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่ยั้ง

"จู่โจมถามพี่ไม่ยั้งแบบนี้ พี่จะตอบทันไหม? จะค่อยๆตอบทีละคำถาม ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับว่าที่เจ้าสาวแสนสวย ส่วนคนนี้คงเป็นเจ้าบ่าวผู้โชคดีใช่ไหมครับ?" ผู้ชายลูกครึ่งหันไปทางเรย์

"ครับ… " เรย์ยกมือไหว้ทักทายฝ่ายตรงข้าม

ไบร์นี่แนะนำให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกัน

ชายลูกครึ่งที่ไบร์นี่เรียกว่า "พี่วิน" มีชื่อจริงว่า "เนวิน" เป็นลูกชายของคุณนายนวลมณีกับคุณโยเซฟ ซึ่งเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ทั้งธานีและบัวซอนเคารพนับถือ

"มานั่งก่อนค่ะ พี่วิน... ไบร์นี่มีเรื่องเม้าท์ให้พี่วินฟังหลายเรื่องมาก" ไบร์นี่จูงแขนเนวินมายังโซฟา อย่างสนิทชิดเชื้อ

"กระเป๋าใบนี้ยังอยู่อีกหรือ? สภาพยังใหม่เอี่ยม มีการเอามาขัดถูกซะด้วย สงสัยรักมาก กระเป๋าใบนี้มีเรื่องราว" เนวินมองดูกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะกาแฟ

"พี่วินก็ ... ไม่เอา ไม่พูดเรื่องนี้นะคะ ควรจะฝังกลบมันไว้กับอดีต ไม่สมควรขุดคุ้ยเป็นอย่างยิ่ง" ไบร์นี่เอานิ้วทาบบนริมฝีปาก เพื่อเป็นสัญญาณไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามปริปากพูด 

เรย์จ้องมองทั้งสองคนสนทนากัน ด้วยสายตาแสดงความสงสัย

"ดูว่าที่เจ้าบ่าวเรา ยืนทำหน้าสงสัย คงอยากรู้ว่าเจ้าสาวคนสวยของเขาสร้างวีรกรรมอะไรไว้บ้างกว่าจะได้กระเป๋าใบนี้มาครอบครอง" เนวินมองไปทางเรย์

"ไม่เอานะคะ พี่วิน อย่าค่ะ… " ไบร์นี่ขอร้องฝ่ายข้าม

"เล่ามาเถิดครับ พี่วิน นะครับ… ผมจะได้รู้ทางหนีทีไล่ เวลาว่าที่ภรรยาผมแสดงอิทธิฤทธิ์ออกมา" เรย์สนใจอยากฟังเรื่องราว

"สมัยที่ยัยจอมป่วนเพิ่งสอบเข้ามหาลัยที่ปารีสได้ เย็นวันหนึ่งทุกคนไปเลี้ยงฉลองกัน ระหว่างทางเดินไปร้านอาหาร พี่ธานีกับพี่บัวซอนถามลูกสาวสุดที่รักว่า อยากได้อะไรเป็นของขวัญ? จับจังหวะเดินผ่านหน้าร้านบูติกสุดหรูชื่อดังพอดี ยัยจอมป่วนเลยชี้มือไปที่ร้านและบอกว่าอยากได้กระเป๋า พี่ทั้งสองไม่ยอมซื้อให้ตอนนั้น เพราะราคามันแพงหลายพันยูโร เอาไว้รอให้เรียนจบก่อนถึงจะซื้อเป็นของขวัญให้ แต่ยัยจอมป่วนรอไม่ไหว อยากได้ทันที เลยสำแดงฤทธิ์เดช งอแง ซึมเศร้า น้ำตาคลอ นิ่งเงียบ ถามคำตอบคำ จนในที่สุดพี่ทั้งสองก็ใจอ่อนยอมซื้อให้ เพราะกลัวลูกสาวสุดที่รักจะน้อยใจ" นาวินเล่าวีรกรรมของหญิงสาว

"เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอยู่ครับพี่วิน เวลาคุณเธออยากได้อะไรแล้วไม่ได้ดั่งใจ มักจะแผลงฤทธิ์กับผมเสมอ จนผมเริ่มชินแล้ว แต่ผมชอบนะ เวลาไบร์นี่แสดงอาการแบบนี้ออกมา เธอดูน่ารักไปอีกแบบหนึ่ง" เรย์หยอดคำหวานอวยว่าที่เจ้าสาว

ไบร์นี่ถึงกับหน้าแดงจนพูดไม่ออก

....…………………………………………………………………………………………………………………..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่