คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 47
คุณไม่อยากตื่นเพราะ มันไม่มีเรื่องที่ต้องดิ้นรนแล้วไงล่ะ แบบสถานะทางการเงินมันอยู่ตัวแล้ว ไม่เหมือนกับคนที่ยังต้องดิ้นรน หาเงินมาใช้จ่าย ใช้หนี้ สร้างตัว ฯลฯ ผมเข้าใจดีเพราะเคยอยู่ในสภาวะแบบนั้น ทั้งเครียดสุด ๆ จากการทำงานหนักเพื่อเก็บเงินเยอะ ๆ และเวลาที่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปทำงานหาเงินมาก ๆ อีกแล้ว
คุณได้พบความสุขแล้วคือการออกกำลังกาย การพัฒนาร่างกายตนเอง ลองหางานอดิเรกเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำเน้นสนุกไม่เน้นรายได้ก็จะช่วยได้เยอะครับ
หรือถ้าเอาวิธีผมไปใช้ ลองอ่านดูเผื่อมีอะไรน่าสนใจ ความสุขของผมคือเวลาที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น ช่วยในสิ่งที่เราอยากจะทำและเราไม่เดือดร้อน สิ่งที่ช่วยแล้วเราไม่ต้องเสียเงินทองมากมาย
และความสุขที่จะใช้ชีวิตอย่างสมถะเรียบง่าย ไม่ต้องมีสิ่งของราคาแพง ๆ ที่แทบจะไม่ได้ใช้ ไม่ต้องทานอาหารเลิศหรู ไม่ต้องมีเทคโนโลยีล้ำ ๆ ห้อยเต็มตัว
ผมยังไม่มีครอบครัวด้วยแหละ ถ้ามีลูก น่าจะใช้เวลาอยู่กับลูกเยอะมากอะ 5555
คุณได้พบความสุขแล้วคือการออกกำลังกาย การพัฒนาร่างกายตนเอง ลองหางานอดิเรกเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำเน้นสนุกไม่เน้นรายได้ก็จะช่วยได้เยอะครับ
หรือถ้าเอาวิธีผมไปใช้ ลองอ่านดูเผื่อมีอะไรน่าสนใจ ความสุขของผมคือเวลาที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น ช่วยในสิ่งที่เราอยากจะทำและเราไม่เดือดร้อน สิ่งที่ช่วยแล้วเราไม่ต้องเสียเงินทองมากมาย
และความสุขที่จะใช้ชีวิตอย่างสมถะเรียบง่าย ไม่ต้องมีสิ่งของราคาแพง ๆ ที่แทบจะไม่ได้ใช้ ไม่ต้องทานอาหารเลิศหรู ไม่ต้องมีเทคโนโลยีล้ำ ๆ ห้อยเต็มตัว
ผมยังไม่มีครอบครัวด้วยแหละ ถ้ามีลูก น่าจะใช้เวลาอยู่กับลูกเยอะมากอะ 5555
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
มนุษย์อยู่ได้เพราะมีเป้าหมายครับ
พอถึงเป้าหมายแล้ว มันจะรู้สึกว่างเปล่า
ต้องตั้งเป้าหมายใหม่ให้เกิดขึ้นเพื่อมีชีวิตต่อไป
สิ่งที่คุณเขียนเป็นสิ่งที่จริงมากครับ
ความสุขของเราไม่ได้เกิดจากไม่ทำงาน แต่ได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองไม่เครียด และออกกำลังกายกินถูกสุขลักษณะ
ยุคนี้คนไม่ได้ตายเพราะอดอยากแล้วครับ แต่ตายเพราะกินไม่เลือก คนที่รวยกว่ามีเวลามากกว่าก็มีโอกาสเบือกอาหารที่มีคุณภาพดีกว่าและมีเวลาออกกำลังกายได้มากกว่าอีกด้วยครับ
พอถึงเป้าหมายแล้ว มันจะรู้สึกว่างเปล่า
ต้องตั้งเป้าหมายใหม่ให้เกิดขึ้นเพื่อมีชีวิตต่อไป
สิ่งที่คุณเขียนเป็นสิ่งที่จริงมากครับ
ความสุขของเราไม่ได้เกิดจากไม่ทำงาน แต่ได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองไม่เครียด และออกกำลังกายกินถูกสุขลักษณะ
ยุคนี้คนไม่ได้ตายเพราะอดอยากแล้วครับ แต่ตายเพราะกินไม่เลือก คนที่รวยกว่ามีเวลามากกว่าก็มีโอกาสเบือกอาหารที่มีคุณภาพดีกว่าและมีเวลาออกกำลังกายได้มากกว่าอีกด้วยครับ
ความคิดเห็นที่ 14
ความสุขขึ้นกับreferenceครับ จะรวยขึ้นจะจนลงก็แค่เปลี่ยนตัวอ้างอิง มันอาจสุขแค่แรกๆ แต่ถ้าเคยชิน มันก็จะสุขลดลง
ในทางเศรษฐศาสตร์ อรรถประโยชน์ส่วนเพิ่มที่ได้จะลดลงเรื่อยๆ
ความสุขจากภายใน ความสุขจากการเจริญวิปัสสนา เข้าใจตัวเองจากภายใน ผมว่าเป็นความสุขที่ยั่งยืนที่สุดครับ
ความสุขจากกการมีเมตตาให้กับคนรอบข้าง เมตตาตัวเอง และวางใจเป็นกลาง
เราไม่สามารถควบคุมสิ่งเร้าที่จะเข้ามากระทบเราทั้งหมดได้ แต่เราสามารถฝึกตนให้สามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าเหล่านั้นอย่างชาญฉลาดได้
ผมดูคลิปของพี่บ่อยเหมือนกันในยูทูป พอเห็นชื่อแอคเคาน์จำได้เลย
ในทางเศรษฐศาสตร์ อรรถประโยชน์ส่วนเพิ่มที่ได้จะลดลงเรื่อยๆ
ความสุขจากภายใน ความสุขจากการเจริญวิปัสสนา เข้าใจตัวเองจากภายใน ผมว่าเป็นความสุขที่ยั่งยืนที่สุดครับ
ความสุขจากกการมีเมตตาให้กับคนรอบข้าง เมตตาตัวเอง และวางใจเป็นกลาง
เราไม่สามารถควบคุมสิ่งเร้าที่จะเข้ามากระทบเราทั้งหมดได้ แต่เราสามารถฝึกตนให้สามารถตอบสนองต่อสิ่งเร้าเหล่านั้นอย่างชาญฉลาดได้
ผมดูคลิปของพี่บ่อยเหมือนกันในยูทูป พอเห็นชื่อแอคเคาน์จำได้เลย
แสดงความคิดเห็น
ผมประเมินความสุขจากอิสรภาพทางการเงินสูงเกินไป
ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะพาตัวเองก้าวเข้าไปสู่จุดนั้น ด้วยความเชื่อว่าถ้าหากเราสามารถพาตัวเองออกจากการวิ่งวุ่นทำงานหาเงินตลอดเวลาออกไปได้ ชีวิตของผมจะมีความสุข ผมจึงพยายามทำงาน หาเงิน ลงทุน อดออม สร้างทรัพย์สินทั้งบนโลกออนไลน์และออฟไลน์ มีอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า จนมี Passive Income เดือนละ 20,000 บาท ซึ่งมันชนค่าใช้จ่ายในชีวิตผมพอดีแบบเป๊ะๆ…!!! ในที่สุด 10 ปีที่เริ่มต้น ผมก็ทำสำเร็จ
แต่ผมไม่มีความสุขในชีวิตเลย
ทุกๆวันที่ผมตื่นขึ้นมา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตตัวเอง ผมมีเงินแล้ว ผมควรจะมีความสุขสิ แต่นี่นอกจากจะไม่มีความสุขแล้ว กลับรู้สึกว่าชีวิตตัวเองไร้ค่า ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน วันๆอยากนอนบนเตียงไม่อยากตื่น รู้สึกซึมๆตลอดเวลา เครียดแบบไม่มีสาเหตุ อยากนอนยาวๆโดยไม่อยากตื่น ทุกๆวันผมมีแต่ความรู้สึกแย่กับตัวเอง น่าแปลก ผมไปเที่ยวต่างประเทศก็แล้ว กินอาหารดีๆที่อยากกิน อ่านหนังสือที่ชอบ ดูหนังที่อยากดูทุกเรื่อง เล่นเกมที่อยากเล่น แต่ก็ไม่ช่วยอะไรเลย
สมองก็คิดไปเรื่อย คำสอนของหนังสือเล่มต่างๆเคยบอกเอาไว้ว่าเงินสามารถซื้อความสุขได้ มีเงินแล้วชีวิตจะมีความสุขนี่นา ทำไม ผมถึงไม่ประสบเหตุการณ์แบบนั้น
ดร นิเวศน์ได้เขียนเอาไว้ใน Blog ของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องอิสรภาพทางการเงินในชื่อเรื่อง “ความฝันของคนกินเงินเดือน” ซึ่งได้อธิบายถึงสภาวะ “Overestimate” หรือคาดหวังสูงเกินไปกับการที่จะบรรลุเป้าหมายทางการเงิน ผมถึงได้เข้าใจ…!!! เงินสามารถซื้อความสุขได้จริง เพราะผมก็ชอบตัวเองตอนมีเงินมากกว่าสมัยทำงานประจำที่ใช้เงินเดือนชนเดือน เพราะการมีเงินจะช่วยทำให้ผมมีทางเลือกในชีวิตมากยิ่งขึ้น สามารถเลือกได้ว่าอยากทำหรือไม่อยากทำอะไร
แต่ประเด็นก็คือสิ่งที่เรา “เลือก” นี่แหละ ที่จะกำหนดคุณภาพทางความรู้สึกของตัวเอง…!!!
ผมพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะนั่งทบทวนเรื่องราวต่างๆในชีวิต ว่าช่วงไหนเป็นช่วงที่มีความสุขจนไม่อาจลืมเลือน เก็บเงินได้ล้านแรกเหรอ ทำงานประจำวันแรก ไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก ไม่เลย สิ่งเห่านั้นสร้างความสุขให้ผมก็จริง แต่ไม่ได้สร้างความสุขระดับสุดยอดจนเป็นความทรงจำชั่วชีวิตที่หยิบมาเล่าเมื่อไหร่ก็สลัดม่านหมอกในใจทิ้งไปได้
ท่ามกลางความมืดมิด แสงสว่างเล็กๆก็เล็ดรอดเข้ามาในหัว
สิ่งที่นึกออกมีเพียงอย่างเดียว เป็นความสุขสุดยอดที่ทำให้ผมอยากมีชีวิตทุกวัน ความสุขที่ทำให้ผมรู้สึกถึงพลังชีวิตที่แท้จริง นั่นคือ ตอนที่ผมออกกำลัดงกายอย่างบ้าคลั่งเพื่อลดน้ำหนัก ร่างกายของผมมีสุขภาพดี กินอาหารด้วยความคิดโดยคาดหวังว่าจะมีสุขภาพดี เน้นกินผัก ปลา ไม่กินของทอด ของมัน รวมไปถึงของอร่อยที่ทำลายสุขภาพมากจนเกินไป ผมโชคดีที่เมื่อ 3 ปีที่แล้วผมอ้วน 2 ปีที่แล้วผมผอมจนมีกล้ามหน้าท้อง และปัจจุบันผมก็กลับมาอ้วนอีก ด้วยการอ้วนสลับผอมแบบปีต่อปี ทำให้ผมเปรียบเทียบความรู้สึกได้ดี
ถ้าร่างกายข้างนอกเราแย่ ร่างกายข้างในเราก็แย่
สุขภาพที่ดี = ความสุข
เรื่องตลกก็คือ การมีสุขภาพดี ไม่จำเป็นต้องมีเงินเป็นล้าน ขอแค่มีเวลาออกกำลังกายเท่านั้นพอ…!!!
เหมือนผมอยากมีความสุข แต่อ้อมไปเรื่องเงินก่อน ทั้งๆที่การออกกำลังกายอย่างจริงจัง ให้ความสุขได้ทันทีภายในระยะเวลาอันสั้น T-T
ผมอยากมีความสุขโดยเชื่อว่าการมีอิสรภาพทางการเงินนั้นเป็นเส้นชัย แต่เอาเข้าจริง ถ้าย้อนนึกดีๆ ผมเข้าเส้นชัยเรื่องความสุขตั้งแต่รู้ตัวว่าอ้วนและตัดสินใจออกกำลังกายแล้ว นั่นหมายความว่าถ้าคุณกำลังค้นหาความสุขเพราะตัวเองไม่มีความรู้สึกดีกับตัวเอง คุณไม่จำเป็นต้องมี Passive Income มากมายก่อนหรอกครับ ขอแค่คุณตัดสินใจออกกำลังกาย และเลือกทำงานที่ไม่เครียดจนเกินไป คุณก็จะเข้าเส้นชัยได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าเส้นชัย
ผมโชคดีที่ผมเลือกวางแผนการเงินจนไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการเงินในตอนนี้ (อนาคตไม่แน่) ซึ่งนั่นทำให้ผมไม่ต้องกดดันตัวเองให้ทำงานที่ไม่ชอบตลอดเวลา ซึ่งมันทำให้ผมมีเวลาว่างมากพอที่จะกลับมาสนใจเรื่องสุขภาพอีกครั้ง ในทางงกลับกัน ถ้าผมสนุกกับการใช้เงินจนไม่เหลือเงินเก็บ และไม่มีรายได้จากการไม่ต้องทำงานเองตลอดเวลา ผมคงเครียดคูณ 2 เพราะนอกจากจะต้องเครียดเรื่องการทำงานแล้ว สุขภาพจิตก็ตกลงด้วย
ดังนั้น ผมคิดว่าเงินสามารถซื้อความสุขได้ ก็ต่อเมื่อคุณมีเวลาใช้เงินไปกับสิ่งสำคัญของชีวิต ซื้อประสบการณ์ดีๆให้กับตัวเอง และมีเวลาว่างออกกำลังกายเท่านั้นเอง
เงินให้ความสุขกับคุณได้ แต่การออกกำลังกายให้ความสุขมากกว่าหลายเท่า เรื่องนี้ คุณต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองครับ
ปล ผมไม่ใช่คนรวยนะครับ แต่แค่นี้ก็พอใจแล้ว : )
ปล โปรดอย่าถามเรื่องการลงทุนกับผม เพราะผมก็ไม่รู้ว่าการลงทุนของผมมันจะให้ผลตอบแทนแบบนี้ต่อไปหรือเปล่าครับ
ผมเขียนใน Pantip เป็นที่ที่ 2 ถ้าจะแชร์ รบกวนให้เครดิต Startyourway ด้วยนะครับ