The Lighthouse (2019)
การต่อสู้ระหว่างเทพเจ้าแห่งท้องทะเล และเทพเจ้าแห่งไฟ
กะลาสีแก่ หัวแข็ง ผ่านประสบการณ์เจ็ดย่านน้ำ โทมัส (Willem Dafoe) พากะลาสีหนุ่มวิสโลว์ (Robert Pattinson) มายังเกาะร้าง ไร้ผู้คน มีแต่นกทะเล และ ประภาคา
หนังโทนขาวดำ แถมตัวอย่างแรกก็ตัดออกมาแบบงั้นๆไม่น่าดูเท่าไหร่ แถมเราเองก็ไม่ได้ประทับใจกับ The VVitch ของ Robert Eggers (ผู้กำกับ) แต่คำวิจารณ์ที่ออกมาเป็นเอกฉันท์ว่ายอดเยี่ยมเลยแหกขี้ตาไปดูตอน 10 โมงเช้า (รอบที่ค่าตั๋วถูกที่สุด)
เราเคยบอกไว้ว่าหนังโจ๊กเกอร์เป็นหนังที่ดีที่สุดแห่งปี แถมการแสดงของ Joaquin Phoenix ก็น่าจะได้ออสการ์ แต่ตอนนี้วาคีนอาจจะมีม้ามืดแย่งไปผ่านการแสดงของ Willem Dafoe
หนังถ่ายทอดผ่านสีขาวดำ เหมือนตัวละครที่เป็นขาวดำ (ความดี ความร้าย) ไม่รู้จะเชียร์ใครดีเพราะทั้งคู่ก็ไม่น่าไว้ใจ ไม่รู้ใครพูดจริง ไม่รู้ใครพูดเท็จ หนังใช้วิธีการให้คนดูเรียนรู้ไปพร้อมๆกับตัวละคร ไม่สามารถเดาออกได้ว่าหนังเรื่องนี้จะไปจบตรงไหน -- หนังยาวเกือบสองชั่วโมง และเป็นความยาวที่พอดี ไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อ ถ้าดูแบบไม่มี Subtitle อาจจะแปลยากหน่อย เพราะภาษาที่ใช้เป็นภาษากะลาสีเรือแก่ของอังกฤษ เช่น Aya, Find some winks, Hark แต่ถ้าได้อ่านนิยายเก่าๆ เช่น The Old Man and the Sea (อาจารย์ให้อ่านตอนเรียนภาษาอังกฤษ) หรือบทกวีของ Herman, Jewett (
https://mypoeticside.com/poets/sarah-orne-jewett-poems) ก็อาจจะเข้าใจบางส่วน (เหมือนดูหนังจักๆวงศ์ๆบ้านเรานั่นแหละ)
วกมาที่หนังขาวดำ -- การถ่ายภาพขาวดำในนั้นเรื่องนี้เจ๋งมาก หากใครชอบรูปขาวดำ หรือกลิ่นอายหนังเก่า ห้ามพลาด หนังใช้แสงจากธรรมชาติ เช่น แสงจันทร์ แสงอาทิตย์ หรือ แสงจากตะเกียงเป็นส่วนใหญ่ ด้วยความที่เป็นขาวดำ หนังเลยให้เราไปโพกัสเฉพาะจุดที่หนังต้องการ คืออยากให้ดูตรงไหนแสงก็จะไปตกตรงนั้น ถือว่า เยี่ยมมาก 👍🏼
คุณพี่แวมไพท์ Twilight อยากจะสะบัดภาพเก่าๆ หลังๆเลยรับเล่นหนังอินดี้จ๋าติดๆ กันเช่น Good Time (หนังดี), High Life (หลับ), The Rover (ยังไม่ได้ดู) แต่ก็มาจับหนังเรื่องนี้แหละที่เออ เว้ย ความพยายามของใกล้ถึงฝั่งแล้วแพททินสัน มาถูกทางแล้ว (ก่อนจะไปรับบทแบทแมน) -- Dafoe ก็คุมหนังอยู่ ทุกตอนที่เขาโผล่มาต้องมีกวีเจ๋งๆ คำด่า คำว่ากระแทกเจ็บแสบติดมาตลอด จนคนดูอย่างเราก็ขำแต่ก็อยากจะยิงตัวละครนี้ทิ้งๆไป แต่ก็ต้องมาฉุคิดที่หลังว่าถ้ายิงมันตาย แล้วจะเอายังไงต่อ เพราะกะลาสีแก่แม้จะไม่ฟังกะลาสีหนุ่ม แต่เราก็ต้องมีคนมีประสบการณ์ หรือ น้ำพึงเรือเสือพึ่งป่าเพื่อกลับฝั่งไม่ใช่เหรอ ... นี่คือจุดที่ดีของหนัง คือ ไม่ได้ให้คนดูรักใครเป็นพิเศษ
9/10
วิเคราะห์ + สปอย (ไปดูหนังก่อนค่อยอ่าน)
การวิเคราะห์เกิดการดูหนังเสร็จ ผิดถูกยังไงโปรดใช้จักรยาน
------------------------------
พายุสงบ
------------------------------
กะลาสีหนุ่มวิสโลว์ต้องทำทุกอย่างเหมือนเป็นข้ารับใช้กะลาสีแก่ แบกเชื้อเพลิง เติมไฟ จับกุ้ง ทาสี โดยกะลาสีแก่เป็นคนสั่ง กะลาสีแก่ถือกุญแจไปสู่ด้านบนของประภาคาโดยที่กะลาสีหนุ่มไม่รู้ว่าด้านบนมีอะไรเกิดขึ้น วันๆได้แต่มองขึ้นไปบนนั้นแล้วเดาไปเรื่อยว่ามันมีอะไร ทันไดนั้นเองเสียงนกทะเลตัวหนึ่งมาขวางทาง วินสโลว์ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป เลยเอาหินขว้าง โทมัสเลยบอกวิสโลว์ ถ้าแกทำร้ายเจ้านกนั่น ภัยร้ายจะมาเยือน
คืนนั้นเองวินโลว์ฝันเห็นเงือกไซเลน (เป็นผู้หญิงสวยอยู่ในทะเล มีเสียงแหลม หากใครได้เจอต้องพบโชคร้าย คนเดินเรือเชื่อว่าไซเรนสามารถทำให้เรืออับปางได้)
------------------------------
มีคลื่นและพายุเล็กน้อย
------------------------------
ทั้งสองเมาได้ที่ ร้องเพลง เต้นรำเหมือนคนรู้จักกันมาแสนนาน เริ่มเรียนรู้ซักประวัติไปมา ตอนนี้เองที่คนดูเรียนรู้ไปพร้อมกับตัวละคร ตอนนี้เราจะไม่รู้ว่าใครพูดจริงพูดเท็จ คลื่นซัดฝังดังโครมแทบจะกลบเสียงทั้งสองคน แถมฝนก็ตกอีก ทำงานกลางฝนไม่ง่ายเลย วินสโลว์เริ่ทเหนื่อยล้า มองเห็นกะลาสีแก่ไม่ช่วยแถมยังแกล้งให้เขาเจ็บตัวแล้วก็กัดฟันกรอด ความแค้นเหมือนคลื่นทะเลที่ค่อยๆคลั่งเป็นพายุ แถมนกนั้นก็ร้องแหกปากน่ารำคาญ ... ฆ่าๆมันทิ้งซะดีไหม ... เขาจับขานก เหวี่ยงมันไปบนอากาศแล้วทุบมันลงบนคอนกรีด ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เลือดสะบัดไปทั่วบริเวณ มันตายเรียบร้อย แต่เขายังเอาร่างนกที่ไร้วิญญาณของมันฟาดต่ออย่างสะใจ
เสียงนกเงียบไป เหลือแต่เสียงลม ... ลมที่เปลี่ยนทิศไปทางเหนือ ทั้งๆที่ทางกลับบ้านอยู่ทางใต้ กะลาสีแก่บอก แกไม่น่าจะฆ่าเจ้านกนั้น ภัยร้ายจะมาเยือน พวกเราจะไม่มีทางกลับบ้านหากลมเปลี่ยนทิศ -- ความเครียดทำให้วิสโลว์ต้องปลดปล่อย เขาปลดกระดุมกางเกงออก แล้วจินตนาการเห็นตัวเองได้เสพย์ความไคร่กับเงือกไซเรนที่แสนสวย
------------------------------
พายุแรง
------------------------------
วินสโลว์บอกตัวเองว่าเขาจะไม่ยอมเป็นขี้ข้าอีกต่อไป แถมเขายังจับได้ว่าตาแก่กะลาสีนั้นไม่มีประสบการณ์การเดินเรือ เขาพยายามจะหนีแต่ตาแก่นั้นก็จามเรือด้วยขวานจนพัง ทั้งสองคนฟัดกันตะลุมบอน ตาแก่ล้มลง วิสโลว์ง้างหมัดจะต่อย ตอนนั้นเอาที่เขาเห็นตาแก่กลายร่างเป็นนางเหงือ ปลาหมึก และ โพไซดอน เทพเจ้าแห่งท้องทะเล เขาตกใจชกหน้ามันไม่ยั้งมือจนใบหน้าของไอ้แก่นั้นโชกเลือด มันหายใจรวนริน น่าจะสำลักเลือดตัวเองตายๆไปซะ --- เขาลากตาแก่นั้นออกนอกบ้านหวังฝังทั้งเป็นท่ามกลางห่าสายฝนที่เทลงมาหยั่งฟ้ารั่ว แต่เดี๋ยวก่อน ขอกุญแจเปิดประภาคา ขอขึ้นไปดูสักนิดว่ามันมีอะไรอยู่บนนั้
เขากำกุญแจไว้แน่น เดินขึ้นไปบนประภาคา ชั่วนั้นเองที่ไอ้กะลาสีแก่นั้น รวบรวมหายใจเฮือกสุดท้ายเอาขวานจามไปบนไหล่ของวินสโลว์ดังพลั๊ก เขาผลักตาแก่ล้มลง ดึงขวานออกมาจากไหล่แล้วสับลงไปบนหน้าของตาแก่นั้น เลือดกระจายขึ้นมาแล้วตกไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก ใช่ หน้ามันแหก มันตายสนิท --- เขาหอบแห่ก เลือดสีแดงก่ำไหลออกมาจากบ่าไม่หยุด เขาล้มตัวลงแล้วคลานขึ้นบันไดไปชั้นบนสุดอย่างอ่อนแรง
วินสโลว์ไขกุญแจ สิ่งที่เขาได้เห็นก็คือแสงจ้าจากไฟประภาคาและ .............. เขาตกใจอ้าปากค้า ด้วยความไม่ระวัง แสงจากไฟส่องจ้าแรงวาบมาบนใบหน้า เขาปล่อยมือจากบันได กลิ้งตกลงมาจากบันไดกุกๆ ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เขาสลบไป เขาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนชายหาด สิ่งสุดท้ายที่เขาได้เห็นคือฝูงนกทะเลรุมจัดการกัดท้องของเขาลากไส้ออกมากินทั้งเป็น
เสียงทะเลได้สงบลง
กะลาสีหนุ่มวิสโลว์ = โพรมีเทียส เทพเจ้าแห่งไฟ (Phometheus)
กะลาสีแก่โทมัส = โพไซดอน เทพเจ้าแห่งท้องทะเล (Poseidon)
ประภาคา = โอลิมปัส
นางเงือก = เฮร่า (Hera) ราชีนีแห่งสวรรค์ มีนกยุง (=นกทะเล) เป็นสัตว์ประจำตัว
(หากผิดต้องขออภัย แต่เราถอดความจากหนังออกมาได้แบบนี้)
The Lighthouse (2019) — วิเคราะห์
การต่อสู้ระหว่างเทพเจ้าแห่งท้องทะเล และเทพเจ้าแห่งไฟ
กะลาสีแก่ หัวแข็ง ผ่านประสบการณ์เจ็ดย่านน้ำ โทมัส (Willem Dafoe) พากะลาสีหนุ่มวิสโลว์ (Robert Pattinson) มายังเกาะร้าง ไร้ผู้คน มีแต่นกทะเล และ ประภาคา
หนังโทนขาวดำ แถมตัวอย่างแรกก็ตัดออกมาแบบงั้นๆไม่น่าดูเท่าไหร่ แถมเราเองก็ไม่ได้ประทับใจกับ The VVitch ของ Robert Eggers (ผู้กำกับ) แต่คำวิจารณ์ที่ออกมาเป็นเอกฉันท์ว่ายอดเยี่ยมเลยแหกขี้ตาไปดูตอน 10 โมงเช้า (รอบที่ค่าตั๋วถูกที่สุด)
เราเคยบอกไว้ว่าหนังโจ๊กเกอร์เป็นหนังที่ดีที่สุดแห่งปี แถมการแสดงของ Joaquin Phoenix ก็น่าจะได้ออสการ์ แต่ตอนนี้วาคีนอาจจะมีม้ามืดแย่งไปผ่านการแสดงของ Willem Dafoe
หนังถ่ายทอดผ่านสีขาวดำ เหมือนตัวละครที่เป็นขาวดำ (ความดี ความร้าย) ไม่รู้จะเชียร์ใครดีเพราะทั้งคู่ก็ไม่น่าไว้ใจ ไม่รู้ใครพูดจริง ไม่รู้ใครพูดเท็จ หนังใช้วิธีการให้คนดูเรียนรู้ไปพร้อมๆกับตัวละคร ไม่สามารถเดาออกได้ว่าหนังเรื่องนี้จะไปจบตรงไหน -- หนังยาวเกือบสองชั่วโมง และเป็นความยาวที่พอดี ไม่มีช่วงไหนน่าเบื่อ ถ้าดูแบบไม่มี Subtitle อาจจะแปลยากหน่อย เพราะภาษาที่ใช้เป็นภาษากะลาสีเรือแก่ของอังกฤษ เช่น Aya, Find some winks, Hark แต่ถ้าได้อ่านนิยายเก่าๆ เช่น The Old Man and the Sea (อาจารย์ให้อ่านตอนเรียนภาษาอังกฤษ) หรือบทกวีของ Herman, Jewett (https://mypoeticside.com/poets/sarah-orne-jewett-poems) ก็อาจจะเข้าใจบางส่วน (เหมือนดูหนังจักๆวงศ์ๆบ้านเรานั่นแหละ)
วกมาที่หนังขาวดำ -- การถ่ายภาพขาวดำในนั้นเรื่องนี้เจ๋งมาก หากใครชอบรูปขาวดำ หรือกลิ่นอายหนังเก่า ห้ามพลาด หนังใช้แสงจากธรรมชาติ เช่น แสงจันทร์ แสงอาทิตย์ หรือ แสงจากตะเกียงเป็นส่วนใหญ่ ด้วยความที่เป็นขาวดำ หนังเลยให้เราไปโพกัสเฉพาะจุดที่หนังต้องการ คืออยากให้ดูตรงไหนแสงก็จะไปตกตรงนั้น ถือว่า เยี่ยมมาก 👍🏼
คุณพี่แวมไพท์ Twilight อยากจะสะบัดภาพเก่าๆ หลังๆเลยรับเล่นหนังอินดี้จ๋าติดๆ กันเช่น Good Time (หนังดี), High Life (หลับ), The Rover (ยังไม่ได้ดู) แต่ก็มาจับหนังเรื่องนี้แหละที่เออ เว้ย ความพยายามของใกล้ถึงฝั่งแล้วแพททินสัน มาถูกทางแล้ว (ก่อนจะไปรับบทแบทแมน) -- Dafoe ก็คุมหนังอยู่ ทุกตอนที่เขาโผล่มาต้องมีกวีเจ๋งๆ คำด่า คำว่ากระแทกเจ็บแสบติดมาตลอด จนคนดูอย่างเราก็ขำแต่ก็อยากจะยิงตัวละครนี้ทิ้งๆไป แต่ก็ต้องมาฉุคิดที่หลังว่าถ้ายิงมันตาย แล้วจะเอายังไงต่อ เพราะกะลาสีแก่แม้จะไม่ฟังกะลาสีหนุ่ม แต่เราก็ต้องมีคนมีประสบการณ์ หรือ น้ำพึงเรือเสือพึ่งป่าเพื่อกลับฝั่งไม่ใช่เหรอ ... นี่คือจุดที่ดีของหนัง คือ ไม่ได้ให้คนดูรักใครเป็นพิเศษ
9/10
วิเคราะห์ + สปอย (ไปดูหนังก่อนค่อยอ่าน)
การวิเคราะห์เกิดการดูหนังเสร็จ ผิดถูกยังไงโปรดใช้จักรยาน
------------------------------
พายุสงบ
------------------------------
กะลาสีหนุ่มวิสโลว์ต้องทำทุกอย่างเหมือนเป็นข้ารับใช้กะลาสีแก่ แบกเชื้อเพลิง เติมไฟ จับกุ้ง ทาสี โดยกะลาสีแก่เป็นคนสั่ง กะลาสีแก่ถือกุญแจไปสู่ด้านบนของประภาคาโดยที่กะลาสีหนุ่มไม่รู้ว่าด้านบนมีอะไรเกิดขึ้น วันๆได้แต่มองขึ้นไปบนนั้นแล้วเดาไปเรื่อยว่ามันมีอะไร ทันไดนั้นเองเสียงนกทะเลตัวหนึ่งมาขวางทาง วินสโลว์ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป เลยเอาหินขว้าง โทมัสเลยบอกวิสโลว์ ถ้าแกทำร้ายเจ้านกนั่น ภัยร้ายจะมาเยือน
คืนนั้นเองวินโลว์ฝันเห็นเงือกไซเลน (เป็นผู้หญิงสวยอยู่ในทะเล มีเสียงแหลม หากใครได้เจอต้องพบโชคร้าย คนเดินเรือเชื่อว่าไซเรนสามารถทำให้เรืออับปางได้)
------------------------------
มีคลื่นและพายุเล็กน้อย
------------------------------
ทั้งสองเมาได้ที่ ร้องเพลง เต้นรำเหมือนคนรู้จักกันมาแสนนาน เริ่มเรียนรู้ซักประวัติไปมา ตอนนี้เองที่คนดูเรียนรู้ไปพร้อมกับตัวละคร ตอนนี้เราจะไม่รู้ว่าใครพูดจริงพูดเท็จ คลื่นซัดฝังดังโครมแทบจะกลบเสียงทั้งสองคน แถมฝนก็ตกอีก ทำงานกลางฝนไม่ง่ายเลย วินสโลว์เริ่ทเหนื่อยล้า มองเห็นกะลาสีแก่ไม่ช่วยแถมยังแกล้งให้เขาเจ็บตัวแล้วก็กัดฟันกรอด ความแค้นเหมือนคลื่นทะเลที่ค่อยๆคลั่งเป็นพายุ แถมนกนั้นก็ร้องแหกปากน่ารำคาญ ... ฆ่าๆมันทิ้งซะดีไหม ... เขาจับขานก เหวี่ยงมันไปบนอากาศแล้วทุบมันลงบนคอนกรีด ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เลือดสะบัดไปทั่วบริเวณ มันตายเรียบร้อย แต่เขายังเอาร่างนกที่ไร้วิญญาณของมันฟาดต่ออย่างสะใจ
เสียงนกเงียบไป เหลือแต่เสียงลม ... ลมที่เปลี่ยนทิศไปทางเหนือ ทั้งๆที่ทางกลับบ้านอยู่ทางใต้ กะลาสีแก่บอก แกไม่น่าจะฆ่าเจ้านกนั้น ภัยร้ายจะมาเยือน พวกเราจะไม่มีทางกลับบ้านหากลมเปลี่ยนทิศ -- ความเครียดทำให้วิสโลว์ต้องปลดปล่อย เขาปลดกระดุมกางเกงออก แล้วจินตนาการเห็นตัวเองได้เสพย์ความไคร่กับเงือกไซเรนที่แสนสวย
------------------------------
พายุแรง
------------------------------
วินสโลว์บอกตัวเองว่าเขาจะไม่ยอมเป็นขี้ข้าอีกต่อไป แถมเขายังจับได้ว่าตาแก่กะลาสีนั้นไม่มีประสบการณ์การเดินเรือ เขาพยายามจะหนีแต่ตาแก่นั้นก็จามเรือด้วยขวานจนพัง ทั้งสองคนฟัดกันตะลุมบอน ตาแก่ล้มลง วิสโลว์ง้างหมัดจะต่อย ตอนนั้นเอาที่เขาเห็นตาแก่กลายร่างเป็นนางเหงือ ปลาหมึก และ โพไซดอน เทพเจ้าแห่งท้องทะเล เขาตกใจชกหน้ามันไม่ยั้งมือจนใบหน้าของไอ้แก่นั้นโชกเลือด มันหายใจรวนริน น่าจะสำลักเลือดตัวเองตายๆไปซะ --- เขาลากตาแก่นั้นออกนอกบ้านหวังฝังทั้งเป็นท่ามกลางห่าสายฝนที่เทลงมาหยั่งฟ้ารั่ว แต่เดี๋ยวก่อน ขอกุญแจเปิดประภาคา ขอขึ้นไปดูสักนิดว่ามันมีอะไรอยู่บนนั้
เขากำกุญแจไว้แน่น เดินขึ้นไปบนประภาคา ชั่วนั้นเองที่ไอ้กะลาสีแก่นั้น รวบรวมหายใจเฮือกสุดท้ายเอาขวานจามไปบนไหล่ของวินสโลว์ดังพลั๊ก เขาผลักตาแก่ล้มลง ดึงขวานออกมาจากไหล่แล้วสับลงไปบนหน้าของตาแก่นั้น เลือดกระจายขึ้นมาแล้วตกไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก ใช่ หน้ามันแหก มันตายสนิท --- เขาหอบแห่ก เลือดสีแดงก่ำไหลออกมาจากบ่าไม่หยุด เขาล้มตัวลงแล้วคลานขึ้นบันไดไปชั้นบนสุดอย่างอ่อนแรง
วินสโลว์ไขกุญแจ สิ่งที่เขาได้เห็นก็คือแสงจ้าจากไฟประภาคาและ .............. เขาตกใจอ้าปากค้า ด้วยความไม่ระวัง แสงจากไฟส่องจ้าแรงวาบมาบนใบหน้า เขาปล่อยมือจากบันได กลิ้งตกลงมาจากบันไดกุกๆ ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เขาสลบไป เขาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนชายหาด สิ่งสุดท้ายที่เขาได้เห็นคือฝูงนกทะเลรุมจัดการกัดท้องของเขาลากไส้ออกมากินทั้งเป็น
เสียงทะเลได้สงบลง
กะลาสีหนุ่มวิสโลว์ = โพรมีเทียส เทพเจ้าแห่งไฟ (Phometheus)
กะลาสีแก่โทมัส = โพไซดอน เทพเจ้าแห่งท้องทะเล (Poseidon)
ประภาคา = โอลิมปัส
นางเงือก = เฮร่า (Hera) ราชีนีแห่งสวรรค์ มีนกยุง (=นกทะเล) เป็นสัตว์ประจำตัว
(หากผิดต้องขออภัย แต่เราถอดความจากหนังออกมาได้แบบนี้)