นพ.เย่ ปิงเว่ย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านตับและทางเดินอาหาร ออกมาเผยแพร่องค์ความรู้ทางการแพทย์เกี่ยวกับชายไต้หวันวัย 20 ปีคนหนึ่งที่ประสบปัญหาท้องผูก หลังไปทานอาหารทะเลและกินหอยนางรมสดย่างกว่า 30 ตัวพร้อมกับเพื่อน ๆ
โดยไม่คาดคิด หลังจากกลับบ้านได้ 2 ชั่วโมง เขาก็รู้สึกว่าท้องปั่นป่วนอย่างรุนแรงแล้วเริ่มมีอาการท้องเสีย 4 – 5 ครั้งและยังคงมีอาการท้องเสียต่อเนื่องหลายครั้งชั่วโมง
ต่อมาคนไข้ชายเริ่มมีอาการอ่อนแรงเกินกว่าจะลุกขึ้นยืนได้และถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล แพทย์ห้องฉุกเฉินสันนิษฐานว่า เขาเป็นโรคลำไส้อักเสบจากแบคทีเรีย เพราะผู้ป่วยอาจทานอาหารที่ไม่สะอาด ไม่สุกเต็มที่ในระหว่างขั้นตอนการทำอาหาร หรือเกิดจากแบคทีเรียจำนวนมากเกินไป
นพ.เย่ ปิงเว่ยกล่าวว่าชายคนนั้นอยู่ในภาวะช็อกจากการติดเชื้อและภาวะไตวายเฉียบพลัน พร้อมทั้งอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องร้ายแรงมากสำหรับชายหนุ่มในวัย 20 ปีที่จะกินแบบนี้” แพทย์ให้ยาปฏิชีวนะและยาหยอดทางหลอดเลือดดำทันที จากนั้นเสริมว่า คนไข้ต้องทานยาเพื่อควบคุมอาการ และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ในที่สุดก่อนที่การติดเชื้อทั้งหมดจะหายขาด
นอกจากนี้ แพทย์กัว เหยียนเหลียงก็ได้เล่าอุทาหรณ์ของชายวัย 20 ปีเช่นกัน แต่เป็นการทานหอยนางรมเพื่อเพิ่มความฟิตอึดทนก่อนเปิดฉากรักกับคู่นอน โดยไม่คาดคิด สิ่งที่ชายคนดังกล่าวได้รับแลก คือ ท้องร่วงทางทวารหนักมากกว่า 10 ครั้งต่อคืน และถูกส่งตรงถึงห้องฉุกเฉิน
นพ.กัวเหยียนเหลียง อธิบายว่า มีความเชื่อกันโดยทั่วไปว่าหอยนางรมสามารถช่วยการทำงานทางเพศได้ เนื่องจากอุดมไปด้วยสังกะสี ซึ่งเป็นสารอาหารที่ขาดไม่ได้ในร่างกายมนุษย์เพื่อรักษาการทำงานตามปกติของระบบ สังกะสีเกี่ยวข้องกับการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน
นอกจากนี้ยังจำเป็นต่อการรักษาการทำงานปกติของลูกอัณฑะและการผลิตอสุจิของผู้ชาย สังกะสีสามารถส่งเสริมการทำงานของอวัยวะสืบพันธุ์และรักษาความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ได้ ดังนั้น จึงมักถูกมองว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์หรืออาวุธลับเพื่อช่วยเหลือทางเพศของผู้ชาย
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเตือนว่า พฤติกรรมการทานอาหารทะเลดิบ เช่น หอยนางรม ซาซิมิ ไข่ปลาแซลมอน และกุ้งเย็น เป็นต้น รวมไปถึงไข่ลวกหรือแม้แต่จับคู่ไข่แดงดิบกับข้าวขาวโดยไม่สนใจความเสี่ยงของอาหารดิบเพื่อแสวงหารสชาติ
โดยทั่วไปในสภาพแวดล้อมที่ชื้นและร้อน แบคทีเรียก่อโรคในอาหาร เช่น Vibrio Enteritidis และ Salmonella มีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโต หากรับประทานอาหารดิบ ๆ หรือไม่อุ่นให้ทั่ว อาหารเป็นพิษอาจเกิดขึ้นได้ และอาจมีอาการต่าง ๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสีย...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_9576490#m5j50f35gqfunwahx4k 
แพทย์เผยอุทาหรณ์ หนุ่มไต้หวันกินหอยนางรม 30 ตัว ทำท้องปั่นป่วนรุนแรง มีภาวะช็อกจากการติดเชื้อ ไตวายเฉียบพลัน
โดยไม่คาดคิด หลังจากกลับบ้านได้ 2 ชั่วโมง เขาก็รู้สึกว่าท้องปั่นป่วนอย่างรุนแรงแล้วเริ่มมีอาการท้องเสีย 4 – 5 ครั้งและยังคงมีอาการท้องเสียต่อเนื่องหลายครั้งชั่วโมง
ต่อมาคนไข้ชายเริ่มมีอาการอ่อนแรงเกินกว่าจะลุกขึ้นยืนได้และถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล แพทย์ห้องฉุกเฉินสันนิษฐานว่า เขาเป็นโรคลำไส้อักเสบจากแบคทีเรีย เพราะผู้ป่วยอาจทานอาหารที่ไม่สะอาด ไม่สุกเต็มที่ในระหว่างขั้นตอนการทำอาหาร หรือเกิดจากแบคทีเรียจำนวนมากเกินไป
นพ.เย่ ปิงเว่ยกล่าวว่าชายคนนั้นอยู่ในภาวะช็อกจากการติดเชื้อและภาวะไตวายเฉียบพลัน พร้อมทั้งอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องร้ายแรงมากสำหรับชายหนุ่มในวัย 20 ปีที่จะกินแบบนี้” แพทย์ให้ยาปฏิชีวนะและยาหยอดทางหลอดเลือดดำทันที จากนั้นเสริมว่า คนไข้ต้องทานยาเพื่อควบคุมอาการ และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ในที่สุดก่อนที่การติดเชื้อทั้งหมดจะหายขาด
นอกจากนี้ แพทย์กัว เหยียนเหลียงก็ได้เล่าอุทาหรณ์ของชายวัย 20 ปีเช่นกัน แต่เป็นการทานหอยนางรมเพื่อเพิ่มความฟิตอึดทนก่อนเปิดฉากรักกับคู่นอน โดยไม่คาดคิด สิ่งที่ชายคนดังกล่าวได้รับแลก คือ ท้องร่วงทางทวารหนักมากกว่า 10 ครั้งต่อคืน และถูกส่งตรงถึงห้องฉุกเฉิน
นพ.กัวเหยียนเหลียง อธิบายว่า มีความเชื่อกันโดยทั่วไปว่าหอยนางรมสามารถช่วยการทำงานทางเพศได้ เนื่องจากอุดมไปด้วยสังกะสี ซึ่งเป็นสารอาหารที่ขาดไม่ได้ในร่างกายมนุษย์เพื่อรักษาการทำงานตามปกติของระบบ สังกะสีเกี่ยวข้องกับการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน
นอกจากนี้ยังจำเป็นต่อการรักษาการทำงานปกติของลูกอัณฑะและการผลิตอสุจิของผู้ชาย สังกะสีสามารถส่งเสริมการทำงานของอวัยวะสืบพันธุ์และรักษาความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ได้ ดังนั้น จึงมักถูกมองว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์หรืออาวุธลับเพื่อช่วยเหลือทางเพศของผู้ชาย
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเตือนว่า พฤติกรรมการทานอาหารทะเลดิบ เช่น หอยนางรม ซาซิมิ ไข่ปลาแซลมอน และกุ้งเย็น เป็นต้น รวมไปถึงไข่ลวกหรือแม้แต่จับคู่ไข่แดงดิบกับข้าวขาวโดยไม่สนใจความเสี่ยงของอาหารดิบเพื่อแสวงหารสชาติ
โดยทั่วไปในสภาพแวดล้อมที่ชื้นและร้อน แบคทีเรียก่อโรคในอาหาร เช่น Vibrio Enteritidis และ Salmonella มีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโต หากรับประทานอาหารดิบ ๆ หรือไม่อุ่นให้ทั่ว อาหารเป็นพิษอาจเกิดขึ้นได้ และอาจมีอาการต่าง ๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และท้องเสีย...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_9576490#m5j50f35gqfunwahx4k