พื้นที่โฆษณา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องราวของชายสองคนสองวัยที่ทำหน้าที่เฝ้าประภาคาร ในช่วงนั้นมีพายุเข้า ทำให้ไม่มีเรือเข้าออกเกาะ ทั้งคู่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนเกาะนั้น และเรื่องบ้าคลั่งก็เริ่มต้นขึ้น!
หนังเต็มไปด้วสัญลักษณ์มากมาย โดยเฉพาะเรื่องเล่าเก่าแก่รวมถึงนิยายกรีกอีกด้วย ดูหนังแล้วอึดอันสะอิดสะเอียนไปซะหมด ทั้งเรื่องราวในหนังที่ย้อนแย้ง ปั่นประสาทคนดู แต่ก็มีเนื้อหาที่เข้มข้นที่หลอกหลวงคนดูได้ดี ว่าช่วงไหนจริง ช่วงไหนหลอก อีกอย่างหนึ่งคือสัดส่วนภาพที่มาด้วยเกือบสี่เหลี่ยมจตุรัส (1.19:1) ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อย
อีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นนั่นก็คือการแสดงของนักแสดงทั้งสองไม่ว่าจะเป็น Robert Pattinson และ Willem Dafoe ที่ใส่อารมณ์ดุเดือดกันในแทบทุกๆซีน ปรบมือให้เลย
.
.
.
ต่อจากนี้จะเต็มไปด้วยสปอยล์
.
.
.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หนังเรื่องนี้มีการอ้างอิงถึงทั้งนิยายปรัมปรา และเทพจากนิยายกรีก สองตัวละครหลักในหนังนั่นก็คือ Thomas ชายแก่ที่มีประสบการณ์ในการดูแลประภาคารนี้ และ Ephraim ชายหนุ่มที่มาแทนที่ผู้ดูแลคนเดิม
.
จากการที่ตัวเราเองดูหนังเรื่องนี้ไม่ค่อยรู้เรื่องเลย แต่ก็อยากรู้เรื่อง ก็เลยไปอ่านบทวิเคราะห์ของต่างประเทศมา ได้ความไว้ว่า สองตัวละครหลักนี้เป็นตัวละครที่แทนตัวละครทั้งสองจากนิยายกรีก Thomas คือ Proteus ผู้เฒ่าแห่งท้องทะเล, Ephraim คือ Prometheus เทพผู้ขโมยไฟลงไปให้มนุษย์, ส่วนประภาคารคือเขาโอลิมปัส
.
ในตอนต้นเรื่อง Thomas ใช้งาน Ephraim อย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นยกของ ทิ้งของเสีย ขุดแร่ ขนหิน สารพัดอย่างเลย ส่วนเขาเองนั้นก็แค่อยู่บนประภาคารและเฝ้าแสงไฟ ซึ่งนั่นก็ทำให้ Ephraim อยากรู้อยากเห็นว่าแสงไฟบนประภาคารนั้นคืออะไรกันแน่ นี่ก็เหมือนตำนานของกรีกที่ Prometheus พยายามที่จะปีนยอดเขาไปเอาแสงไฟ
.
ต่อมา Ephraim นั้นได้ฆ่านกทะเล ซึ่ง Thomas ก็เตือนไว้แล้วว่าอย่าทำร้ายนกทะเล เพราะมันเป็นจิตวิญญาณของนักเดินเรือ หากทำร้ายพวกมันก็จะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น! และเรื่องเลวร้ายก็เกิดขึ้นจริง เมื่อลมเปลี่ยนทิศ ทำให้เรือที่จะมารับพวกเขากลับฝั่งไม่ได้มาตามที่บอกไว้ ทำให้พวกเขาต้องติดอยู่ที่เกาะนี้ไปเรื่อยๆ
.
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร พวกเขาทั้งคู่ก็เริ่มดื่มเหล้าและเมามายกันในที่สุด Ephraim สำเร็จความไคร่ทั้งจากนางเงือกที่ตัวเองคิดว่าเจอกับหุ่นนางเงือกที่ Thomas ให้ไว้, Thomas โกธรพายุที่ไม่หยุดสักที และในระหว่างที่พายุพักแรงอยู่ด้านนอก ชายทั้งคู่ที่อยู่ด้านในชายคาก็เริ่มเผยความลับออกมา Ephraim ไม่ใช่ Ephraim อีกต่อไป เขาคือ Thomas จากแคนาดาที่ฆ่า Ephraim เจ้านายตัวเองแล้วก็ขโมยชื่อเขามาใช้ ส่วนตาเฒ่า Thomas ก็ฆ่าผู้ช่วยคนก่อนของตัวเอง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาบอกเองว่าผู้ช่วยเป็นบ้าแล้วก็ตายไปเอง ตอนนี้ทั้งคู่เป็นฆาตรกร!
.
ไม่นานนัก พายุฝนก็พัดเข้ามาในชายคา ทำให้เกิดน้ำท่วม Thomas คนหนุ่มเจอสมุดบันทึกของ ตาแก่ Thomas ที่เขาเขียนไว้ว่า หนุ่ม Thomas ทำงานไม่ดีและไม่สมควรได้รับค่าจ้าง ในที่สุดเขาก็แค้นและได้ฆ่าตาแก่ Thomas จากนั้นเขาก็ได้ขึ้นไปบนประภาคารที่มีแสงไฟอยู่ ในตัวหนังเองก็ไม่ได้เล่าว่าหนุ่ม Thomas นั้นได้เห็นอะไรในแสงไฟ ฉากหลังจากนั้นคือเขาได้ตกบันไดวนของประภาคารลงมาด้านล่าง และไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่ฉากสุดท้ายก็คือเขาในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่แต่อิดโรยมากๆ นอนให้นกทะเลหักจิกเครื่องในของตัวเองอยู่ที่ข้างประภาคารแห่งนั้น ซึ่งก็คล้ายกับการที่ Prometheus ถูก Zeus ลงโทษให้มีนกมากัดจิกตับทุกๆวัน!
.
ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่ง ตัวละครชื่อ Thomas เหมือนกัน อาจเป็นไปได้ว่า เขาทั้งคู่คือคนๆเดียวกันที่มีการดำเนินชีวิตไปอย่างไม่จบสิ้น ตาแก่ Thomas ที่ขากระเพกอาจจะมาจากการที่ตัวเขาเองตกจากประภาคารในฉากสุดท้ายของเรื่อง และผู้ช่วยคนก่อนหน้าที้ที่ตายก็คือตาแก่ Thomas นั่นแหละ!
จริงๆมีอีกหลายฉากมากๆที่ส่วนตัวเราเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ และอันนี้คือเว็บที่เราไปอ่านมา
https://collider.com/the-lighthouse-ending-explained/
ดูแล้วก็มาดิสคัสกันได้นะ
#TheLightHouse
The Lighthouse (2019) | ดูแล้วอึดอัดสะอิดสะเอียน ถ้าตีความเก่งๆจะดูหนังสนุก
เรื่องราวของชายสองคนสองวัยที่ทำหน้าที่เฝ้าประภาคาร ในช่วงนั้นมีพายุเข้า ทำให้ไม่มีเรือเข้าออกเกาะ ทั้งคู่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนเกาะนั้น และเรื่องบ้าคลั่งก็เริ่มต้นขึ้น!
หนังเต็มไปด้วสัญลักษณ์มากมาย โดยเฉพาะเรื่องเล่าเก่าแก่รวมถึงนิยายกรีกอีกด้วย ดูหนังแล้วอึดอันสะอิดสะเอียนไปซะหมด ทั้งเรื่องราวในหนังที่ย้อนแย้ง ปั่นประสาทคนดู แต่ก็มีเนื้อหาที่เข้มข้นที่หลอกหลวงคนดูได้ดี ว่าช่วงไหนจริง ช่วงไหนหลอก อีกอย่างหนึ่งคือสัดส่วนภาพที่มาด้วยเกือบสี่เหลี่ยมจตุรัส (1.19:1) ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อย
อีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นนั่นก็คือการแสดงของนักแสดงทั้งสองไม่ว่าจะเป็น Robert Pattinson และ Willem Dafoe ที่ใส่อารมณ์ดุเดือดกันในแทบทุกๆซีน ปรบมือให้เลย
.
.
.
ต่อจากนี้จะเต็มไปด้วยสปอยล์
.
.
.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จริงๆมีอีกหลายฉากมากๆที่ส่วนตัวเราเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ และอันนี้คือเว็บที่เราไปอ่านมา https://collider.com/the-lighthouse-ending-explained/
ดูแล้วก็มาดิสคัสกันได้นะ
#TheLightHouse