ผมเคยตั้งกระทู้ ว่า ญาณ มีความสัมพันธ์อย่างไร กับจิต
มีผู้มาให้ความรู้ความเห็นมากมาย
ส่วนใหญ่ตอบไปในทิศทางเดียวกัน หรือไม่ก็ใกล้เคียงกัน ผมจะสรูปให้ฟังดังนี้
ท่านเหล่านั้นกล่าวว่า
ญาณ คือ ตัวปัญญา ซึ่งเกิดขึ้นในจิต (ไม่ใช่เกิดขึ้นนอกจิต) เพราะท่านเหล่านั้นกล่าวว่า ปัญญาก็คือเจตสิกของจิต
ญาณ ก็คือ เจตสิกของจิต เพราะเจตสิก เกิดขึ้นในจิตไม่ใช่เกิดนอกจิต
ญาณเกิดขึ้นได้อย่างไร ท่านเหล่านั้นก็ บอกว่า เมื่อปฏิบัติภาวนาจนจิตเป็นสมาธิ ก็จะเกิดญาณขึ้นในจิต
ตอนที่เกิดญาณขึ้นในจิต จิตก็จะมีปัญญา รอบรู้ความเป็นไตรลักษณ์ของสังขาร
บางท่านก็บอกว่า ญาณ บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องเกิดสมาธิ ก็ได้
บางท่านก็บอกว่า เมื่อเกิดญาณ ตัวสติจะป้อน ความรู้ให้กับจิตที่มีญาณ ก็มี
ตรงนี้ผมงงมากๆ มันเป็นความรู้ใหม่จริงๆ ที่ว่า จิต ของเรานี้เมื่อ เราอ่าน คิด ตามคำสอน ก็ถือว่า จิตรู้และเข้าใจ ในระดับหนึ่ง
แต่เมื่อท่านเหล่านี้บอกว่า เมื่อจิตมีญาณเกิด ก็คือจิตมีปัญญาเจตสิก จิตก็จะรู้และเข้าใจ กับคำสอน เช่น การบอกว่าขันธ์ห้า
เป็นไตรลักษณ์ มากยิ่งขึ้น เมื่อรู้มากๆ ในเนี้อหาเดิมๆ เรียกว่าจิตมีญาณ จิตมีปัญญา เรียกว่าการบรรลุธรรมอย่างนั้นหรือเปล่า
ในเนื้อหา อันเดียวนี้ จิต มีความรู้ มากได้หลายระดับอย่างนั้นหรือครับ
บางคนบอกว่า การดูจิต ก็ให้จิตมันดูจนจิตมันยอมรับว่าสังขารไม่เที่ยงเป็นไตรลักษณ์
มันย้อนแย้งกับความเข้าใจของผม เช่นผมหยิบธนบัตรใบห้าร้อยมาดู จิตผมก็ยอมรับว่า มันคือธนบัตร ใบห้าร้อย
ทำไมต้องภาวนาให้ใจมันยอมรับละ มันคือแบ้งค์ห้าร้อย
พระพุทธเจ้าสอนอย่างนี้จริงๆหรือครับ ว่าจิตมีความรู้หลายระดับ ผมไม่เคยได้ยินจากพระสูตร กล่าวอย่างนี้มาก่อนเลย
คำถาม ว่า จิต จะรู้ได้หลายระดับ ในเนื้อหาเดิมๆ เช่นความเป็นไตรลักษณ์ของขันธ์ห้า
จนเมื่อจิตมีเจตสิกที่เรียกว่าญาณ มาประกอบจิตจะมีความรู้สุงสุดถึงระดับบรรลุธรรม อย่างนั้นใช่หรือไม่
จิต มีความรู้ในความเป็นไตรลักษณ์ เข้มข้นได้หลายระดับ จนถึงระดับญาณ ก็จะบรรลุธรรม อย่างนั้นจริงหรือ
มีผู้มาให้ความรู้ความเห็นมากมาย
ส่วนใหญ่ตอบไปในทิศทางเดียวกัน หรือไม่ก็ใกล้เคียงกัน ผมจะสรูปให้ฟังดังนี้
ท่านเหล่านั้นกล่าวว่า
ญาณ คือ ตัวปัญญา ซึ่งเกิดขึ้นในจิต (ไม่ใช่เกิดขึ้นนอกจิต) เพราะท่านเหล่านั้นกล่าวว่า ปัญญาก็คือเจตสิกของจิต
ญาณ ก็คือ เจตสิกของจิต เพราะเจตสิก เกิดขึ้นในจิตไม่ใช่เกิดนอกจิต
ญาณเกิดขึ้นได้อย่างไร ท่านเหล่านั้นก็ บอกว่า เมื่อปฏิบัติภาวนาจนจิตเป็นสมาธิ ก็จะเกิดญาณขึ้นในจิต
ตอนที่เกิดญาณขึ้นในจิต จิตก็จะมีปัญญา รอบรู้ความเป็นไตรลักษณ์ของสังขาร
บางท่านก็บอกว่า ญาณ บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องเกิดสมาธิ ก็ได้
บางท่านก็บอกว่า เมื่อเกิดญาณ ตัวสติจะป้อน ความรู้ให้กับจิตที่มีญาณ ก็มี
ตรงนี้ผมงงมากๆ มันเป็นความรู้ใหม่จริงๆ ที่ว่า จิต ของเรานี้เมื่อ เราอ่าน คิด ตามคำสอน ก็ถือว่า จิตรู้และเข้าใจ ในระดับหนึ่ง
แต่เมื่อท่านเหล่านี้บอกว่า เมื่อจิตมีญาณเกิด ก็คือจิตมีปัญญาเจตสิก จิตก็จะรู้และเข้าใจ กับคำสอน เช่น การบอกว่าขันธ์ห้า
เป็นไตรลักษณ์ มากยิ่งขึ้น เมื่อรู้มากๆ ในเนี้อหาเดิมๆ เรียกว่าจิตมีญาณ จิตมีปัญญา เรียกว่าการบรรลุธรรมอย่างนั้นหรือเปล่า
ในเนื้อหา อันเดียวนี้ จิต มีความรู้ มากได้หลายระดับอย่างนั้นหรือครับ
บางคนบอกว่า การดูจิต ก็ให้จิตมันดูจนจิตมันยอมรับว่าสังขารไม่เที่ยงเป็นไตรลักษณ์
มันย้อนแย้งกับความเข้าใจของผม เช่นผมหยิบธนบัตรใบห้าร้อยมาดู จิตผมก็ยอมรับว่า มันคือธนบัตร ใบห้าร้อย
ทำไมต้องภาวนาให้ใจมันยอมรับละ มันคือแบ้งค์ห้าร้อย
พระพุทธเจ้าสอนอย่างนี้จริงๆหรือครับ ว่าจิตมีความรู้หลายระดับ ผมไม่เคยได้ยินจากพระสูตร กล่าวอย่างนี้มาก่อนเลย
คำถาม ว่า จิต จะรู้ได้หลายระดับ ในเนื้อหาเดิมๆ เช่นความเป็นไตรลักษณ์ของขันธ์ห้า
จนเมื่อจิตมีเจตสิกที่เรียกว่าญาณ มาประกอบจิตจะมีความรู้สุงสุดถึงระดับบรรลุธรรม อย่างนั้นใช่หรือไม่