การบรรลุธรรมโดยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยได้หรือไม่

การบรรลุธรรมโดยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยได้หรือไม่

วันนี้ขออนุญาต พูดแบบสมมุติๆ ก็แล้วกัน  อย่าว่าผมเพ้อเจอ นะครับ

      สมมุติ นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นคว้า ว่าจะทำอย่างไรจึงจะใช้ เทคโนโลยี ก็คือความรู้ทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่  เช่น ใช้สารเคมี ปรุงแต่งสมอง ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ป้อนข้อมูลเข้าสมอง และได้ทำการทดลองจนได้ผลสำเร็จ สามารถ เอาคนมาทดลอง จนสามารถบรรลุธรรมได้  

        แล้วนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนั้นก็มาเปิดคลินิก ตั้งชื่อว่า คลินิกบรรลุธรรม ประมาณนั้น

จะมีขั้นตอนดังนี้นะครับ

   เมื่อลูกค้าเข้ามา อ่านคำยินยอมในระเบียบ  เช่นเป็นผู้ศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งเป็นต้น

อันดับแรก เราก็ต้อง สร้าง ความเป็น สัมมาทิฏฐิ  เราก็จะมีโปรแกรม ที่จะดาวน์โหลด จากฐานข้อมูล จากคอมพิวเตอร์ ลงสู่สมองของลูกค้า ก็จะมีการโกนศีรษะ จิ้มเข็มลงจุดต่างๆ ก็เหมือนการ วัดคลื่นสมอง นั้นแหละผมเห็นเครื่องมือแพทย์เข้ามีอยู่ เมื่อ เมื่อดาวน์โหลดข้อมูลจนมีความเข้าใจเรื่องคำสอนแล้ว ในใจก็จะมีความรู้และเข้าใจ ไม่ว่า อริยสัจจ์สี่  , รู้ระดับลึกซึ้งว่า ขันธ์ห้าเป็นไตรลักษณ์ รู้ระดับ ว่าไม่มีจิตในขันธ์ห้า เป็นต้น ก็มาขั้นต่อไป

อันดับสอง สร้าง จิตให้เป็นสมาธิ  อันนี้ ก็ตรวจ สภาพสารเคมี ในสมอง ที่ทำให้จิตฟุ้งซ่าน  ก็ปรับสารเคมีให้สมองเข้าสู่สภาวะไม่ฟุ้งซ่าน  เราคงเคยเห็นว่า คนที่จิตผิดปรกติ แพทย์ก็ให้ยาปรับความสมดุลย์ของสารเคมี ในสมอง เข้าสู่สภาวะไม่ฟุ้งซ่าน ต่อมา ก็ใช้เครื่องปรับโปรแกรม ให้คลื่น สมองนิ่งและให้สร้างสติ มีความรู้สึกที่ลมหายใจจับอยู่ที่ลมกระทบปลายจมูก  โดยให้ลูกค้า ทำได้ง่าย ทำให้จิตนิ่ง ที่จุดเดียว จนจิตเป็นสมาธิ อาจทำฌานได้ โดยที่มีการมอนิเตอร์โดยเครื่อง และใช้โปรแกรมปรับเป็นระยะๆ เมื่อจิต ออกไปจุดอื่น จนกระทั่งเกิดสมาธิจิต 

อันดับสาม สร้าง  ญาณให้เกิดขึ้น  อันนี้จะต้องมาจาก ตัวสติเกิดก่อน ขณะที่จิตสร้างสมาธิ โปรแกรม ก็จะกระตุ้นให้สร้าง สัมปชัญญะ คือรู้สึกตัวอยู่ตลอด  สัมปชัญญะ ไม่ได้มาจากตัวผู้รู้ที่เรียกว่าจิต ซึ่งต่างจากจิต เพราะจิตมีฮาร์ดแวร์ คือสมอง  ส่วน สัมปชัญญะมาจากนิพพานธาตุ ซึ่งไม่ได้มี ฮาร์ดแวร์มาเกี่ยวข้องดังนั้น การสร้างญาณ จึงไม่สามารถบังคับจากเครื่องในโปรแกรมได้ แต่เราจะต้องกระตุ้น โดยใช้จิต เป็นตัวกระตุ้น กระตุ้นด้วยจิต ซ้ำๆ จนสัมปชัญญะ เกิดอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นญาณ

อันดับ สี่ เมื่อจิต ได้สมาธิ อาจจะเฉียดๆ ฌาน และ ตัวสัมปชัญญะ ก็มาถึงระดับญาณ เราก็จะให้เครื่องโปรแกรม บังคับ ให้จิตป้อนข้อมูล เช่น ป้อนว่า จิต ไม่ใช่ตน ขันธ์ห้าไม่ใช่ตน  ป้อนอนัตตาสัญญา  ก็เหมือนในพระสูตรที่กล่าวว่า เมื่อเกิดญาณก็ให้พิจารณา ความเป็น ไตรลักษณ์ของขันธ์ห้า  ประมาณนั้น
เมื่อ เครื่องก็จะป้อนข้อมูลผ่านจิต ไปสู่ญาณ กระตุ้นซ้ำๆ จนเกิด วิปัสสนาญาณ ก็ได้บรรลุธรรม นั้นเอง
เมื่อบรรลุธรรมแล้ว จะเกิด สภาวะ จิต แล่นสู่นิพพาน ก็คือ จิต แล่นไปสู่สภาวะปราศจากกิเลส บรรลุธรรมครั้งแรก ก็เป็นพระโสดาบัน   ตัวสังโยชน์ที่สร้างจากจิต ไปผูกกับนิพพานธาตุ ได้สามเส้น คือสามารถละสักกายะทิฏฐิ ได้เป็นต้น

เมื่อลูกค้าบรรลุธรรมแล้ว เราก็เก็บค่า บริการ ไม่แพงครับ หลักร้อยก็แล้วกัน ถ้าไม่มีเงินก็ฟรีครับ มาเช้ากลับเย็นได้เลย

จิตแล่นเข้าสู่นิพพาน  นิพพานในที่นี้ หมายถึงสภาวะปราศจากกิเลส ไม่ได้หมายถึงว่า จิต กลายเป็น นิพพานธาตุ 

มันคงเป็นแค่จินตนาการ  การทำวิปัสสนา เราไม่ได้พัฒนาเลย ไม่ว่าอดีตปัจจุบัน อย่างไรก็อย่างนั้น  น่าจะมีการพัฒนา ว่าทำอย่างไรจะได้ง่ายขึ้น  อย่างเทคโนโลยี อื่นก็ยังพัฒนาได้ เช่น 3G ก็ เป็น 4G , 5G เป็นต้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่