'ชลน่าน'ลั่นฟลอร์อภิปรายงบฯ63เน้นสาระไม่ตีรวน
https://www.dailynews.co.th/politics/736863
“หมอชลน่าน” ลั่นฟลอร์อภิปรายงบ 63 ฝ่ายค้านไม่ตีรวนเพราะไม่เกิดประโยชน์ แต่เน้นสาระชี้ให้เห็นการตั้งงบไม่สอดคล้อง
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 17 -19 ต.ค.นี้ ว่า จากการหารือกันของคณะกรรมการประสานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้ข้อสรุปว่าจะได้เวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 18 ชม. ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่รับได้ โดยรัฐบาลขอว่าการแถลงหลักการและเหตุผล ของนายกรัฐมนตรี จะไม่นับเวลารวมอยู่ใน 18 ชั่วโมง ส่วนการเตรียมการอภิปรายของฝ่ายค้าน
ขณะนี้ในส่วนพรรคเพื่อไทย มีผู้อภิปราย จำนวน 66 คน พรรคอนาคตใหม่ 20 คน เท่ากับจะได้อภิปรายคนละ 5 – 6 นาที ทั้งนี้ ฝ่ายค้านจะอภิปรายบนเนื้อหาสาระที่ดี ไม่ตีรวนเพราะไม่เกิดประโยชน์ จะเป็นลักษณะของการทักท้วงติติง และแสดงหลักฐาน ว่าการจัด งบประมาณครั้งนี้ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศอย่างไร โปร่งใสตรวจสอบได้ และเป็นไปตามที่รัฐบาลแถลงนโยบายไว้หรือไม่
เมื่อถามว่า จะเน้นการอภิปรายในกระทรวงใดบ้าง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มีผู้อภิปรายเป็นรายกระทรวงอยู่แล้ว เช่น งบกระทรวงกลาโหมจะมีคนชี้ให้เห็นถึงความไม่เหมาะสม ไม่ตอบโจทย์กับสภาวะของประเทศที่กำลังยากลำบาก รวมถึงงบกลางที่ตั้งงบประมาณในส่วนของเงินทดลองจ่ายฉุกเฉินไม่เหมาะสม ส่วนการลงมติว่าจะรับหรือไม่รับร่างพ.ร.บ.งบฯ คงต้องรอดูสถานการณ์จากการรับฟังการอภิปราย และการชี้แจงของรัฐมนตรี รวมถึงการชี้แจงของนายกฯก็จะเป็นตัวชี้วัดด้วยส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากร่างพ.ร.บ.งบฯผ่านความเห็นชอบในวาระที่ 1 ชั้นรับหลักการ แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาวาระที่ 2 ชั้นคณะกมธ.ฯ
หากมีมาตราใดที่ตั้งงบไม่สอดคล้อง และไม่เหมาะสม กมธ.ฯก็สามารถลงมติไม่เห็นชอบเป็นรายมาตราได้ หรือไม่เห็นชอบร่างดังกล่าวในวาระที่ 3 ได้ เพราะการเห็นชอบที่สำคัญที่สุดคือวาระที่ 3
‘ธนาธร’ ชำแหละ พ.ร.บ.งบฯ ปัญหาอื้อ เสนอ4แนวทาง ยัน ‘อนค.’ อภิปรายสร้างสรรค์
https://www.matichon.co.th/politics/news_1715207
“ธนาธร” ชำแหละ พ.ร.บ.งบฯ ชี้ปัญหาอื้อ ไม่ตอบโจทย์แก้เหลื่อมล้ำ เสนอ 4 แนวทาง ลดงบดำเนินการ เพิ่มงบลงทุน สร้างสวัสดิการครอบคลุม ยัน “อนาคตใหม่” อภิปรายสร้างสรรค์ รับแนวคิด “ธีรยุทธ” ไม่ผลักคนเห็นต่างเป็นศัตรู-พร้อมแลกเปลี่ยน
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 16 ตุลาคม ที่พรรคอนาคตใหม่ นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ในการเตรียมความพร้อมพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ว่า หลังจากศึกษางบประมาณมาอย่างเต็มที่ ไม่หลับไม่นอน เห็นว่างบดังกล่าวมีปัญหาเยอะมาก สิ่งที่เราเห็นคือโจทย์ใหญ่ของประเทศยังไม่ได้รับการตอบสนอง เช่น เรื่องความเหลื่อมล้ำ ความไม่มั่นคงในชีวิต ภาวะเศรษฐกิจซบเซา ไม่ถูกแก้ไขในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ โดยพรรคอนาคตใหม่มีแนวทางเสนอ 4 ข้อ ได้แก่
1. งบประมาณจากส่วนกลางจะต้องถูกย้ายไปให้ท้องถิ่นมีอำนาจบริหารได้อิสระมากขึ้น
2. งบดำเนินการนั้นเยอะเกินไป เรากำลังนำเงินภาษีประชาชนไปเลี้ยงระบบราชการที่ใหญ่เทอะทะในรูปแบบงบเบี้ยเลี้ยง งบเดินทาง ค่าจัดสัมมนาต่างๆ เยอะมาก จึงเสนอให้ลดงบดำเนินการและเพิ่มงบลงทุน เราจำเป็นต้องมีการลงทุนมหาศาลทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน และการจัดสรรเรื่องสิ่งแวดล้อม เราจัดสรรงบลงทุนเหล่านี้ไม่เพียงพอ
3. เราต้องทำให้รัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้น การลงทุนที่จะเกิดขึ้นต้องทำเพื่อคนทุกคน เรามีการลงทุนขนาดใหญ่ ทั้งระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุต รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน แต่การลงทุนให้ชีวิตของคนไทยมั่นคงขึ้นกลับมีน้อยมาก เราเห็นด้วยกับการลงทุนเมกะโปรเจกต์ แต่ต้องเคลื่อนย้ายถ่ายเทเงินบางส่วนให้การลงทุนเพื่อคนตัวเล็กตัวน้อยในสังคม เช่น โรงเรียนขนาดกลาง ขนาดเล็ก สาธารณูปโภคพื้นฐาน อาหารกลางวันเด็ก การคมนาคม
และ 4. เราจำเป็นต้องสร้างสวัสดิการให้ครอบคลุมเพื่อความเสมอภาค ไม่ใช่สวัสดิการแบบอนาถา ต้องย้ายงบสวัสดิการแบบเบี้ยหัวแตก ทำให้เกิดสวัสดิการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ
“ทุกคนจะได้เห็นการเสนอแนวคิดและกรอบแบบนี้ของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ที่จะเกิดในสภาฯ เราจะไม่อภิปรายอย่างเดียว แต่จะเสนอแนะแนวทางด้วย ซึ่งจะเป็นการอภิปรายที่สร้างสรรค์และประชาชนได้ประโยชน์ โดยหวังว่าข้อเสนอของเราไม่มากก็น้อย จะไปสู่การแปรญัตติวาระ 2” นาย
ธนาธรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า งบประมาณปี 2563 ไม่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจใช่หรือไม่ นาย
ธนาธร กล่าวว่า แน่นอน ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 ยิ่งตอกย้ำถึงการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ การลงทุนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบทไม่มีให้เห็น งบฉบับนี้เป็นงบไม่มีความฝัน คืออยากเห็นสังคมแบบไหนใน 10 ปีข้างหน้า มีงบ 3.2 ล้านล้านจะขยับไปสู่สังคมที่ใฝ่ฝันอย่างไร แต่งบ 2563 ไม่เห็น อย่างไรก็ตาม การอภิปรายจะไม่เน้นรายกระทรวง ด้วยภาระที่จำกัด พูดทุกกระทรวงไม่ได้ แต่จะพูดรายประเด็นตัดผ่านทุกกระทรวง เช่น สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง โดยเวลา 390 นาทีที่พรรคได้รับการจัดสรร ถือว่าเป็นเวลาที่กำลังดี
เมื่อถามว่า มองการตั้งงบกลางจำนวน 5 แสนล้านบาทอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า งบกลางที่ไม่ต้องใส่รายละเอียด ให้เป็นอำนาจฝ่ายบริหารทั้งหมด การตั้งงบกลางเยอะๆ เป็นการข้ามหัวสภาฯ ข้ามหัวประชาชน พรรคจะอภิปรายเรื่องนี้ด้วย
เมื่อถามถึงกรณีที่นาย
ธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการ มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุว่ามีกระบวนการความเมือง ผลักคนเห็นต่างให้เป็นศัตรู นาย
ธนาธร กล่าวว่า เนื่องจากเตรียมการอภิปราย จึงไม่มีเวลาฟัง แต่เราไม่ได้มองใครเป็นศัตรู มองว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ประชาธิปไตย เดินกลับไปสู่ความเป็นปกติ ถ้ามีกลุ่มคนมีความเห็นหลากหลายก็พร้อมจะแลกเปลี่ยนถกเถียงกัน เช่น เรื่องรัฐธรรมนูญที่ตั้งใจไม่ลงรายละเอียด เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนหาทางออก เราต้องกล้าพูดความจริงว่าเรามีส่วนที่ทำให้มาถึงทุกวันนี้ ทั้งนักวิชาการ สื่อ กองทัพ นักการเมือง สิ่งที่สังคมต้องการคือข้อตกลงร่วมกัน เห็นไม่ตรงกันได้ แต่อย่างน้อยมีกฎกติกาที่เคารพร่วมกัน
ส่วนกรณีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วน ของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 ที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่จะลงมติงดออกเสียงนั้น นายธนาธร กล่าวว่า ทางพรรคยังไม่มีข้อสรุป มีการหารือเบื้องต้นกับ ส.ส.ของพรรค ไป 1 ครั้ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปหลังการประชุม ส.ส.ในวันนี้หรืออย่างช้าในช่วงเช้าก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
JJNY : 4in1 ชลน่านลั่นอภิปรายงบฯ63เน้นสาระ/ธนาธรชำแหละพ.ร.บ.งบฯ ปัญหาอึ้อ/เนติวิทย์ยื่นฟ้องศาลปค./ฮือต้านยกเลิก 3สารเคมี
https://www.dailynews.co.th/politics/736863
“หมอชลน่าน” ลั่นฟลอร์อภิปรายงบ 63 ฝ่ายค้านไม่ตีรวนเพราะไม่เกิดประโยชน์ แต่เน้นสาระชี้ให้เห็นการตั้งงบไม่สอดคล้อง
เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่อาคารรัฐสภา เกียกกาย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 17 -19 ต.ค.นี้ ว่า จากการหารือกันของคณะกรรมการประสานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ได้ข้อสรุปว่าจะได้เวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 18 ชม. ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่รับได้ โดยรัฐบาลขอว่าการแถลงหลักการและเหตุผล ของนายกรัฐมนตรี จะไม่นับเวลารวมอยู่ใน 18 ชั่วโมง ส่วนการเตรียมการอภิปรายของฝ่ายค้าน
ขณะนี้ในส่วนพรรคเพื่อไทย มีผู้อภิปราย จำนวน 66 คน พรรคอนาคตใหม่ 20 คน เท่ากับจะได้อภิปรายคนละ 5 – 6 นาที ทั้งนี้ ฝ่ายค้านจะอภิปรายบนเนื้อหาสาระที่ดี ไม่ตีรวนเพราะไม่เกิดประโยชน์ จะเป็นลักษณะของการทักท้วงติติง และแสดงหลักฐาน ว่าการจัด งบประมาณครั้งนี้ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศอย่างไร โปร่งใสตรวจสอบได้ และเป็นไปตามที่รัฐบาลแถลงนโยบายไว้หรือไม่
เมื่อถามว่า จะเน้นการอภิปรายในกระทรวงใดบ้าง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มีผู้อภิปรายเป็นรายกระทรวงอยู่แล้ว เช่น งบกระทรวงกลาโหมจะมีคนชี้ให้เห็นถึงความไม่เหมาะสม ไม่ตอบโจทย์กับสภาวะของประเทศที่กำลังยากลำบาก รวมถึงงบกลางที่ตั้งงบประมาณในส่วนของเงินทดลองจ่ายฉุกเฉินไม่เหมาะสม ส่วนการลงมติว่าจะรับหรือไม่รับร่างพ.ร.บ.งบฯ คงต้องรอดูสถานการณ์จากการรับฟังการอภิปราย และการชี้แจงของรัฐมนตรี รวมถึงการชี้แจงของนายกฯก็จะเป็นตัวชี้วัดด้วยส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากร่างพ.ร.บ.งบฯผ่านความเห็นชอบในวาระที่ 1 ชั้นรับหลักการ แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาวาระที่ 2 ชั้นคณะกมธ.ฯ
หากมีมาตราใดที่ตั้งงบไม่สอดคล้อง และไม่เหมาะสม กมธ.ฯก็สามารถลงมติไม่เห็นชอบเป็นรายมาตราได้ หรือไม่เห็นชอบร่างดังกล่าวในวาระที่ 3 ได้ เพราะการเห็นชอบที่สำคัญที่สุดคือวาระที่ 3
‘ธนาธร’ ชำแหละ พ.ร.บ.งบฯ ปัญหาอื้อ เสนอ4แนวทาง ยัน ‘อนค.’ อภิปรายสร้างสรรค์
https://www.matichon.co.th/politics/news_1715207
“ธนาธร” ชำแหละ พ.ร.บ.งบฯ ชี้ปัญหาอื้อ ไม่ตอบโจทย์แก้เหลื่อมล้ำ เสนอ 4 แนวทาง ลดงบดำเนินการ เพิ่มงบลงทุน สร้างสวัสดิการครอบคลุม ยัน “อนาคตใหม่” อภิปรายสร้างสรรค์ รับแนวคิด “ธีรยุทธ” ไม่ผลักคนเห็นต่างเป็นศัตรู-พร้อมแลกเปลี่ยน
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 16 ตุลาคม ที่พรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ในการเตรียมความพร้อมพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ว่า หลังจากศึกษางบประมาณมาอย่างเต็มที่ ไม่หลับไม่นอน เห็นว่างบดังกล่าวมีปัญหาเยอะมาก สิ่งที่เราเห็นคือโจทย์ใหญ่ของประเทศยังไม่ได้รับการตอบสนอง เช่น เรื่องความเหลื่อมล้ำ ความไม่มั่นคงในชีวิต ภาวะเศรษฐกิจซบเซา ไม่ถูกแก้ไขในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ โดยพรรคอนาคตใหม่มีแนวทางเสนอ 4 ข้อ ได้แก่
1. งบประมาณจากส่วนกลางจะต้องถูกย้ายไปให้ท้องถิ่นมีอำนาจบริหารได้อิสระมากขึ้น
2. งบดำเนินการนั้นเยอะเกินไป เรากำลังนำเงินภาษีประชาชนไปเลี้ยงระบบราชการที่ใหญ่เทอะทะในรูปแบบงบเบี้ยเลี้ยง งบเดินทาง ค่าจัดสัมมนาต่างๆ เยอะมาก จึงเสนอให้ลดงบดำเนินการและเพิ่มงบลงทุน เราจำเป็นต้องมีการลงทุนมหาศาลทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน และการจัดสรรเรื่องสิ่งแวดล้อม เราจัดสรรงบลงทุนเหล่านี้ไม่เพียงพอ
3. เราต้องทำให้รัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้น การลงทุนที่จะเกิดขึ้นต้องทำเพื่อคนทุกคน เรามีการลงทุนขนาดใหญ่ ทั้งระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุต รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน แต่การลงทุนให้ชีวิตของคนไทยมั่นคงขึ้นกลับมีน้อยมาก เราเห็นด้วยกับการลงทุนเมกะโปรเจกต์ แต่ต้องเคลื่อนย้ายถ่ายเทเงินบางส่วนให้การลงทุนเพื่อคนตัวเล็กตัวน้อยในสังคม เช่น โรงเรียนขนาดกลาง ขนาดเล็ก สาธารณูปโภคพื้นฐาน อาหารกลางวันเด็ก การคมนาคม
และ 4. เราจำเป็นต้องสร้างสวัสดิการให้ครอบคลุมเพื่อความเสมอภาค ไม่ใช่สวัสดิการแบบอนาถา ต้องย้ายงบสวัสดิการแบบเบี้ยหัวแตก ทำให้เกิดสวัสดิการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ
“ทุกคนจะได้เห็นการเสนอแนวคิดและกรอบแบบนี้ของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ที่จะเกิดในสภาฯ เราจะไม่อภิปรายอย่างเดียว แต่จะเสนอแนะแนวทางด้วย ซึ่งจะเป็นการอภิปรายที่สร้างสรรค์และประชาชนได้ประโยชน์ โดยหวังว่าข้อเสนอของเราไม่มากก็น้อย จะไปสู่การแปรญัตติวาระ 2” นายธนาธรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า งบประมาณปี 2563 ไม่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจใช่หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอน ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 ยิ่งตอกย้ำถึงการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ การลงทุนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบทไม่มีให้เห็น งบฉบับนี้เป็นงบไม่มีความฝัน คืออยากเห็นสังคมแบบไหนใน 10 ปีข้างหน้า มีงบ 3.2 ล้านล้านจะขยับไปสู่สังคมที่ใฝ่ฝันอย่างไร แต่งบ 2563 ไม่เห็น อย่างไรก็ตาม การอภิปรายจะไม่เน้นรายกระทรวง ด้วยภาระที่จำกัด พูดทุกกระทรวงไม่ได้ แต่จะพูดรายประเด็นตัดผ่านทุกกระทรวง เช่น สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง โดยเวลา 390 นาทีที่พรรคได้รับการจัดสรร ถือว่าเป็นเวลาที่กำลังดี
เมื่อถามว่า มองการตั้งงบกลางจำนวน 5 แสนล้านบาทอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า งบกลางที่ไม่ต้องใส่รายละเอียด ให้เป็นอำนาจฝ่ายบริหารทั้งหมด การตั้งงบกลางเยอะๆ เป็นการข้ามหัวสภาฯ ข้ามหัวประชาชน พรรคจะอภิปรายเรื่องนี้ด้วย
เมื่อถามถึงกรณีที่นายธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการ มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุว่ามีกระบวนการความเมือง ผลักคนเห็นต่างให้เป็นศัตรู นายธนาธร กล่าวว่า เนื่องจากเตรียมการอภิปราย จึงไม่มีเวลาฟัง แต่เราไม่ได้มองใครเป็นศัตรู มองว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ประชาธิปไตย เดินกลับไปสู่ความเป็นปกติ ถ้ามีกลุ่มคนมีความเห็นหลากหลายก็พร้อมจะแลกเปลี่ยนถกเถียงกัน เช่น เรื่องรัฐธรรมนูญที่ตั้งใจไม่ลงรายละเอียด เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนหาทางออก เราต้องกล้าพูดความจริงว่าเรามีส่วนที่ทำให้มาถึงทุกวันนี้ ทั้งนักวิชาการ สื่อ กองทัพ นักการเมือง สิ่งที่สังคมต้องการคือข้อตกลงร่วมกัน เห็นไม่ตรงกันได้ แต่อย่างน้อยมีกฎกติกาที่เคารพร่วมกัน
ส่วนกรณีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วน ของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 ที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่จะลงมติงดออกเสียงนั้น นายธนาธร กล่าวว่า ทางพรรคยังไม่มีข้อสรุป มีการหารือเบื้องต้นกับ ส.ส.ของพรรค ไป 1 ครั้ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปหลังการประชุม ส.ส.ในวันนี้หรืออย่างช้าในช่วงเช้าก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร