ชลน่าน อัด บิ๊กตู่ ไม่ให้เกียรติสภาฯ ไล่ไปแก้งบในชั้น กมธ. ตัดงบไม่จำเป็น
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4431555
ชลน่าน อัด บิ๊กตู่ ไม่ให้เกียรติสภาฯ ไล่ไปแก้งบในชั้น กมธ. ตัดงบไม่จำเป็น
เมื่อเวลา 23.10 น. วันที่ 2 ก.ค. ที่รัฐสภา การอภิปรายงบประมาณในช่วงค่ำ ส.ส.รัฐบาล และซีกฝ่ายค้านยังสลับกันขึ้นอภิปราย
นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้มี 40 มาตรา 7 หมวด ได้ฟังนายกฯ และ ครม.แถลงหลักการและเหตุผล หลักการเขียนสั้น ๆ ว่าจัดตั้งงบประมาณไว้ไม่เกิน 3.3 ล้านล้านบาท เป็นรายจ่ายปี 64
โดยส่วนตัวและสมาชิกฝ่ายค้านที่ได้อภิปรายที่ผ่านมา เราพิจารณาโดยรอบคอบ คาดการณ์ว่าไม่สามารถรับหลักการได้ สมาชิกฝ่ายรัฐบาลก็มีข้อทักท้วงติติงทุกคน ซึ่งเป็นเรื่องแปลก เพราะโดยปกติเราต้องขอแรงเพื่อนสมาชิกฝ่ายรัฐบาล แต่วันนี้คงไม่ต้องเพราะทุกคนเห็นไปในทางเดียวว่ามีปัญหา
เหตุที่ตนไม่สามารถรับร่างฉบับนี้ได้ เพราะ
1. นายกฯ ไม่ให้เกียรติสภาฯ ดูถูกสภาฯ เห็นเป็นสภาฯ ตรายาง
2. ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 140
3. ไม่ตอบโจทย์ปัญหาและประเทศ
4. ไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ
5. ส่อไปในทางแสวงหาผลประโยชน์ ไม่ถูกที่ถูกทาง
6. แทบไม่เห็นว่าทำตามที่สัญญาประชาคมเอาไว้กับพี่น้องประชาชน
นพ.
ชลน่าน อภิปรายต่อว่า ที่บอกสภาฯตรายาง เมื่อดูปฏิทินงบประมาณตั้งงบกลาง 4 หมื่นล้านบาท แต่ทั้งเล่มงบไม่รองรับโควิด-19 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณารับหลักการ 1-3 ก.ค. ในวาระ 1 ซึ่งสภาฯ ย่อมรับหลักการแน่ เมื่อเข้าสู่วาระ 2 ตั้งกรรมาธิการวิสามัญ รัฐธรรมนูญเขียนชัดว่า สภาฯ ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 105 วัน เสร็จประมาณ 30 ก.ย. ซึ่งจะมีเวลา 70 วันเหลือเวลาให้ชั้นกรรมาธิการฯ ต้องทำตัวเป็นเทวดา แสวงหาข้อมูลเองให้รอบด้าน เพราะเล่มงบประมาณนี้แตกต่างจากเล่มอื่นๆ เพราะมีหน่วยรับงบประมาณมากถึง 748 หน่วยรับงบประมาณ ถือเป็นการมัดมือสภาฯ ให้ทำหน้าที่อย่างหนักหน่วง เสมือนเป็นตรายาง ที่ไม่ตอบโจทย์ประเทศเพราะจัดงบแบบรัฐราชการ งบลงทุนไม่มาก
ที่บอกว่าจะเกิดมหาประยุทธภัย จนทำให้เกิดมหาวิกฤตเศรษฐกิจ ในช่วงอีก 3 เดือนข้างหน้า และจะอยู่ต่อไปอีก 2 ปี แต่การจัดเก็บภาษีไม่เข้าเป้า 2.67 ล้านล้านบาทแน่นอน อยากถาม รมว.คลังจะทำอย่างไร เพราะกู้เงินเพิ่มไม่ได้ กู้ติดกันมาตั้งแต่ปี 57 ต่อกันมา 5 ปี ปีหน้าถ้ากู้อีกล้มละลายทางการเงินแน่นอน จึงอยากให้กรรมาธิการฯเข้าไปหาวิธีนำเงินนอกงบประมาณที่มีสูงถึง 4 ล้านล้านบาทมาใช้เกิดประโยชน์
'วิโรจน์' ชี้ การศึกษาไทยแข่งพลเมืองโลกไม่ได้ จวกงบ 64 เอากะลาน้ำแข็งมาครอบเด็ก ต้องโยนกะลาคืน 'บิ๊กตู่'
https://www.matichon.co.th/politics/news_2252319
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนาย
ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาวาระรับหลักการร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.15 นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ระบบการศึกษาไทย ไม่อาจพัฒนาประชากรให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันกับพลเมืองโลกได้เลย ถ้าเรายังปล่อยให้การจัดงบประมาณการศึกษาไทยเป็นแบบนี้ต่อไป จะเหมือนมูนวอล์กเหมือนเดินไปข้างหน้า แต่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นเหมือนเราเดินถอยหลังตลอดเวลา การจัดงบประมาณแบบนี้ไม่ใช่การปฏิรูปประเทศ แต่เป็นมาตรการสารรูปประเทศภายใต้แผนยุทธศาสตร์มัดตราสังข์ประเทศ 20 ปี เราปรับลดงบตามจำนวนเด็กที่ลดลงเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา งบแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาลดลงถึง 7.56 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันงบกองทุนเสมอภาคทางการศึกษาลดลงถึง 13.7 เปอร์เซ็นต์ แทนที่จะอุดหนุนงบประมาณเพิ่มขึ้น กลับไปตัดงบประมาณเพื่อซ้ำเติมความเหลื่อมล้ำ และเมื่อนับงบประมาณที่เกี่ยวกับงานประชุมสัมมนาดึงครูออกนอกห้องเรียน จำนวนถึง 5,818 ล้านบาท ตนเห็นว่า การจัดงบประมาณทางการศึกษาปี 2564 เป็นงบที่เอากะลาน้ำแข็งมาครอบเด็กไทย ตนและพรรคก้าวไกล ยอมรับงบประมาณทางการศึกษาแบบนี้ไม่ได้ จำเป็นต้องโยนกะลาใบนี้คืน พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯไป
JJNY : ชลน่านอัดตู่ไม่ให้เกียรติสภาฯ/วิโรจน์ จวกงบ 64 เอากะลาน้ำแข็งมาครอบเด็ก/ทั่วโลกจ่อติด‘โควิด’11ล./ติดเชื้อเพิ่ม1
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4431555
เมื่อเวลา 23.10 น. วันที่ 2 ก.ค. ที่รัฐสภา การอภิปรายงบประมาณในช่วงค่ำ ส.ส.รัฐบาล และซีกฝ่ายค้านยังสลับกันขึ้นอภิปราย
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้มี 40 มาตรา 7 หมวด ได้ฟังนายกฯ และ ครม.แถลงหลักการและเหตุผล หลักการเขียนสั้น ๆ ว่าจัดตั้งงบประมาณไว้ไม่เกิน 3.3 ล้านล้านบาท เป็นรายจ่ายปี 64
โดยส่วนตัวและสมาชิกฝ่ายค้านที่ได้อภิปรายที่ผ่านมา เราพิจารณาโดยรอบคอบ คาดการณ์ว่าไม่สามารถรับหลักการได้ สมาชิกฝ่ายรัฐบาลก็มีข้อทักท้วงติติงทุกคน ซึ่งเป็นเรื่องแปลก เพราะโดยปกติเราต้องขอแรงเพื่อนสมาชิกฝ่ายรัฐบาล แต่วันนี้คงไม่ต้องเพราะทุกคนเห็นไปในทางเดียวว่ามีปัญหา
เหตุที่ตนไม่สามารถรับร่างฉบับนี้ได้ เพราะ
1. นายกฯ ไม่ให้เกียรติสภาฯ ดูถูกสภาฯ เห็นเป็นสภาฯ ตรายาง
2. ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 140
3. ไม่ตอบโจทย์ปัญหาและประเทศ
4. ไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ
5. ส่อไปในทางแสวงหาผลประโยชน์ ไม่ถูกที่ถูกทาง
6. แทบไม่เห็นว่าทำตามที่สัญญาประชาคมเอาไว้กับพี่น้องประชาชน
นพ.ชลน่าน อภิปรายต่อว่า ที่บอกสภาฯตรายาง เมื่อดูปฏิทินงบประมาณตั้งงบกลาง 4 หมื่นล้านบาท แต่ทั้งเล่มงบไม่รองรับโควิด-19 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิจารณารับหลักการ 1-3 ก.ค. ในวาระ 1 ซึ่งสภาฯ ย่อมรับหลักการแน่ เมื่อเข้าสู่วาระ 2 ตั้งกรรมาธิการวิสามัญ รัฐธรรมนูญเขียนชัดว่า สภาฯ ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 105 วัน เสร็จประมาณ 30 ก.ย. ซึ่งจะมีเวลา 70 วันเหลือเวลาให้ชั้นกรรมาธิการฯ ต้องทำตัวเป็นเทวดา แสวงหาข้อมูลเองให้รอบด้าน เพราะเล่มงบประมาณนี้แตกต่างจากเล่มอื่นๆ เพราะมีหน่วยรับงบประมาณมากถึง 748 หน่วยรับงบประมาณ ถือเป็นการมัดมือสภาฯ ให้ทำหน้าที่อย่างหนักหน่วง เสมือนเป็นตรายาง ที่ไม่ตอบโจทย์ประเทศเพราะจัดงบแบบรัฐราชการ งบลงทุนไม่มาก
ที่บอกว่าจะเกิดมหาประยุทธภัย จนทำให้เกิดมหาวิกฤตเศรษฐกิจ ในช่วงอีก 3 เดือนข้างหน้า และจะอยู่ต่อไปอีก 2 ปี แต่การจัดเก็บภาษีไม่เข้าเป้า 2.67 ล้านล้านบาทแน่นอน อยากถาม รมว.คลังจะทำอย่างไร เพราะกู้เงินเพิ่มไม่ได้ กู้ติดกันมาตั้งแต่ปี 57 ต่อกันมา 5 ปี ปีหน้าถ้ากู้อีกล้มละลายทางการเงินแน่นอน จึงอยากให้กรรมาธิการฯเข้าไปหาวิธีนำเงินนอกงบประมาณที่มีสูงถึง 4 ล้านล้านบาทมาใช้เกิดประโยชน์
'วิโรจน์' ชี้ การศึกษาไทยแข่งพลเมืองโลกไม่ได้ จวกงบ 64 เอากะลาน้ำแข็งมาครอบเด็ก ต้องโยนกะลาคืน 'บิ๊กตู่'
https://www.matichon.co.th/politics/news_2252319
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาวาระรับหลักการร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.15 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ระบบการศึกษาไทย ไม่อาจพัฒนาประชากรให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันกับพลเมืองโลกได้เลย ถ้าเรายังปล่อยให้การจัดงบประมาณการศึกษาไทยเป็นแบบนี้ต่อไป จะเหมือนมูนวอล์กเหมือนเดินไปข้างหน้า แต่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นเหมือนเราเดินถอยหลังตลอดเวลา การจัดงบประมาณแบบนี้ไม่ใช่การปฏิรูปประเทศ แต่เป็นมาตรการสารรูปประเทศภายใต้แผนยุทธศาสตร์มัดตราสังข์ประเทศ 20 ปี เราปรับลดงบตามจำนวนเด็กที่ลดลงเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา งบแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาลดลงถึง 7.56 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกันงบกองทุนเสมอภาคทางการศึกษาลดลงถึง 13.7 เปอร์เซ็นต์ แทนที่จะอุดหนุนงบประมาณเพิ่มขึ้น กลับไปตัดงบประมาณเพื่อซ้ำเติมความเหลื่อมล้ำ และเมื่อนับงบประมาณที่เกี่ยวกับงานประชุมสัมมนาดึงครูออกนอกห้องเรียน จำนวนถึง 5,818 ล้านบาท ตนเห็นว่า การจัดงบประมาณทางการศึกษาปี 2564 เป็นงบที่เอากะลาน้ำแข็งมาครอบเด็กไทย ตนและพรรคก้าวไกล ยอมรับงบประมาณทางการศึกษาแบบนี้ไม่ได้ จำเป็นต้องโยนกะลาใบนี้คืน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯไป