บทความเรื่อง "ปริยัติงูพิษ" (บทความเตือนใจสำหรับนักท่องตำรา) ภาคพิเศษ


จุดผิดพลาดของ นักท่องตำราที่โดนงูกัด กลายเป็นปริยัติงูพิษ แล้วทำให้ต้องตกนรกกันมากมาย ก็คือ.....
พอท่องตำราแล้ว เกิดหลงในจินตนาการความคิดของตัวเองมาก หลงตัวเองสุดขีดคิดว่าตัวเองมีความเข้าใจในพระธรรมได้ลึกซึ้งมากกว่าใคร

พอมาได้ยินพระอริยะสงฆ์ตีความพระธรรมท่อนใดที่ไม่เหมือนกับที่ตัวเองตีความเอาไว้
แทนที่จะเอะใจคิดว่าเป็นเพราะว่าการเข้าถึงธรรมของตัวเองยังน้อย จึงตีความพระธรรมผิด แต่กลับคิดว่าพระอริยะสงฆ์ต่างหากที่ตีความผิดและสอนผิด

ในบอร์ดศาสนานี้มีนักท่องตำราที่โดนงูพิษฉกกัดอยู่มาก จนเผลอไปปรามาสพระอริยะสงฆ์ ทำให้กรรมปรามาสพระมาปิดกั้นโอกาสในการบรรลุธรรมไป
เลยกลายเป็นแค่นักท่องตำราไปทั้งชีวิต ไม่ได้มรรค-ไม่ได้ผลอะไร เพราะความอวดฉลาดหลงตัวเอง ของตัวเอง (แถมยังมีกรรมตกนรกสาหัสเมื่อตาย)

พระธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ปรัชญาทางโลก เหมือนความรู้อื่นๆ (เพราะความรู้ในศาสนาพุทธ สอนให้คนมีการ "บรรลุธรรม" ได้)
จึงไม่สามารถที่จะใช้หลักปรัชญา หรือหลักทักษะแนวคิดทั่วๆไปทางโลก มาตีความพระธรรมของพระพุทธเจ้าได้

แต่จะต้องอาศัยการปฏิบัติตนให้ "เข้าถึง" หรือบรรลุธรรมในขั้นนั้นๆ จึงจะสามารถ "รู้ตาม" ได้

ผู้ที่เข้าถึงระดับ พระอรหันต์      ก็จะมีความรู้ในระดับ อรหันต์       หรือต่ำกว่านั้นลงไป
ผู้ีที่เข้าถึงระดับ พระอนาคามี    ก็จะมีความรู้ในระดับ อนาคามี      หรือต่ำกว่านั้นลงไป
ผู้ที่เข้าถึงระดับ พระสกิทาคามี  ก็จะมีความรู้ในระดับ สกิทาคามี  หรือต่ำกว่านั้นลงไป
ผู้ที่เข้าถึงระดับ พระโสดาบัน    ก็จะมีความรู้ในระดับ โสดาบัน     หรือต่ำกว่านั้นลงไป

เพราะฉนั้นผู้ที่เข้าถึงในระดับใด ก็จะเข้าใจได้แค่ในระดับนั้น หรือต่ำกว่านั้นลงไป จะไม่สูงไปกว่านั้น

เมื่อคนผู้นั้น ได้มาอ่านและศึกษา พระธรรมของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฏก นั้น
ผู้ที่ศึกษานั้น ก็จะเข้าใจได้แค่ในระดับที่ตัวเองเข้าถึงเท่านั้น

ระดับที่สูงกว่าที่ตนเองเข้าถึง "จะไม่สามารถเข้าใจได้" หรือ "เข้าใจได้ไม่ครบ"



เพราะฉนั้น......
การที่คุณจะมั่นใจว่าอ่านพระธรรมในบทใด แล้วจะเข้าใจได้อย่างถูกต้องตรงทางนั้น คุณจะต้องมีการปฏิบัติตนจนเข้าถึงธรรมในจุดนั้นๆมาประกอบ

เช่น ถ้าไม่เคยเข้าฌานได้ ย่อมไม่รู้อารมณ์ฌาน ไม่รู้ว่าในหนังสือเขาเขียนไว้แบบนั้นเพราะอะไร
จนกว่าคุณจะเข้าฌานนั้นๆเองได้ คุณถึงจะรู้จักอารมณ์ของฌานนั้นจริงๆด้วยตนเอง (ใช้ผลของการปฏิบัติมาทำให้ตัวเองมีความรู้จริงในเรื่องนั้นๆ)
(โปรดจำประโยคนี้เอาไว้ให้ดี "ใช้ผลของการปฏิบัติมาทำให้ตัวเองมีความรู้จริงในเรื่องนั้นๆ") (ไม่ใช่อาศัยแค่การท่องจำตำรา)

เฉกเช่นเดียวกัน ความเป็นพระอริยะเจ้านั้น ถ้าตัวเองยังไม่ได้บรรลุธรรมในขั้นนั้นๆ คุณก็ย่อมที่จะไม่รู้อารมณ์ของพระอริยะเจ้าในขั้นนั้นๆ
จนกว่าคุณจะเจริญวิปัสสนาญาณ จนยกระดับจิตของคุณเป็นพระอริยะเจ้าในขั้นนั้นๆได้ คุณถึงจะรู้จักอารมณ์ของพระอริยะเจ้าในขั้นนั้นจริงๆ

เฉกเช่นเดียวกัน ถ้าคุณยังไม่เข้าถึงพระนิพพาน คุณย่อมไม่รู้ว่านิพพานที่แท้จริงจะมีสภาพเป็นเช่นไร? (คุณจินตนาการเอาจากหนังสือเท่านั้น)
จนกว่าคุณจะเข้าถึงนิพพานด้วยตนเอง คุณถึงจะมีความรู้จริงในเรื่องของนิพพาน (ไม่ใช่อาศัยแค่การท่องจำตำรา แล้วคิดว่าตัวเองจะเข้าใจถูกต้องแน่ๆ)

เพราะฉนั้น การตีความเรื่องนิพพาน โดยอาศัยเพียงแค่การตีความจากตัวอักษรในตำรา โดยที่ตัวเองยังไม่เข้าถึงนิพพาน จึงยังมีความผิดพลาดได้



เพราะฉนั้น ถ้ามีพระสงฆ์รูปใด สอนเรื่องนิพพานในแบบที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าท่านพิเศษมากๆ (ให้คุณระมัดระวังการปรามาสไว้)

เพราะฉนั้น ให้คุณตรวจสอบการ ได้มรรค-ได้ผล ของตนเอง เพื่อเป็นการยืนยันว่าความเข้าใจของคุณถูกต้อง (ไม่ใช่ทำได้แค่เพียงการอ่าน)
ให้คุณนึกเอะใจถามตัวเองดูว่า ในตอนนี้ คุณมีฌานสมาธิอยู่ในระดับใด? เป็นพระอริยะเจ้าในระดับใดแล้ว? (ตรวจสอบการได้มรรค-ได้ผล ของตนเอง)

ถ้าคุณยังไม่มีฌานสมาธิ และยังไม่มีความเป็นพระอริยะเจ้า นั่นแสดงว่าคุณยังเป็นเพียงแค่ปุถุชนนักท่องตำราอยู่เท่านั้น (ผลของการปฏิบัติไม่มี)
ให้คุณเผื่อใจเอาไว้ก่อนว่าคุณอาจจะตีความพระธรรมผิดพลาดเอง เพราะการเข้าถึงธรรมของคุณยังมีน้อย

คุณยังทำได้แค่การท่องตำราเฉยๆ แต่ผลของการปฏิบัติเพื่อยืนยันความเข้าใจของคุณยังไม่มี การตีความตำราของคุณจึงเป็นเพียงแค่ การคาดเดา
เพราะฉนั้น คุณควรจะสำรวมคำพูดในการวิจารณ์พระเอาไว้ก่อนเพื่อความไม่ประมาท (เซฟตัวเองเอาไว้ก่อน)

เพราะความรู้ในทางธรรมของคนเรานั้น "สูงดูต่ำได้ แต่ต่ำดูสูงไม่ได้" (เผื่อใจเอาไว้ว่าคุณยัง "ต่ำ" อยู่ จึงฟังเรื่องที่เกินระดับของตนเองแล้วไม่เข้าใจ)

แต่ถ้าคุณขยันอวดฉลาด โดยรู้อยู่แก่ใจของตัวเอง ว่าตัวเองไม่มีฌานสมาธิ และไม่ได้เป็นพระอริยะเจ้า มีแค่จิตปุถุชนที่อ่านตำราเพียวๆเท่านั้น
แต่กลับไปปรามาสพระ เพราะคิดว่าตัวเองจะมีความรู้ที่ตรงทางกว่า พระสงฆ์ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าท่านเป็นพระสุปฏิปันโน คุณจะเป็นคนที่ประมาทมากๆ


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่