สวัสดีค่ะ วันนี้เป็นรีวิวสดๆร้อนๆ กับห้องอาหาร basil ที่จขกท. ได้ไปทานมาวันนี้นะคะ (ใช้ส่วนลดจาก Eatigo คุ้มค่ามากเลย )
สำหรับบรรยากาศและการบริการของพนักงานค่อนข้างที่จะประทับใจเลยค่ะ สำหรับห้องอาหาร basil จะตั้งอยู่ที่ชั้น 1 โรงแรม Sheraton Grande Sukhumvit
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Sheraton Grande Sukhumvit Hotel
ที่อยู่: 250 Sukhumvit Rd, Khwaeng Khlong Toei, Khet Khlong Toei, Krung Thep Maha Nakhon 10110
โทรศัพท์: 02 649 8888
การเดินทางสาธารณะ มีทางเดินเชื่อมจากสถานี BTS อโศก มาถึงโรงแรม

ราเองก่อนหน้านี้เคยได้มารับประทานอาหาร Sunday brunch ที่นี่ก็ค่อนข้างประทับใจเหมือนกัน แต่สำหรับวันนี้ขอมารีวิว การทาน Fine dining อาหารไทยที่ทำออกมาได้สวยงามและอร่อยมากเลยค่ะ เหมาะกับทั้งคนไทยที่อยากมาลองรับประทานอาหารไทยที่ได้ความอร่อยในอีกมิตินึง หรือใครที่อยากพาเพื่อนต่างชาติมาลิ้มรสอาหารไทยที่จัดแบบ Fine dining สวยๆค่ะ อย่างวันที่เรามาทาน ส่วนใหญ่จะเป็นคนญี่ปุ่นเกือบจะทั้งหมดเลยค่ะ

ทางเข้าห้องอาหารนะคะ

สำหรับช่วงนี้จะเป็นเซ็ต A taste of summer in Thailand ซึ่งรังสรรค์โดย Chef Krit ซึ่งทางเชฟได้แรงบันดาลใจมาจากความทรงจำสมัยเด็กในช่วงหน้าร้อน โดยมี Concept คือ Same same but different เป็นการนำเสนออาหารไทยที่ดูเหมือนจะเป็นของธรรมดา แต่นำมาเสนอและตีความใหม่และทำให้เราได้ลิ้มลองอะไรที่เป็นของเดิมแต่แปลกใหม่ขึ้นค่ะ

สำหรับคอร์สมีทั้งแบบ 7 อย่างและ 9 อย่าง เราเลือกแบบครบเซ็ต 9 อย่างค่ะ มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
อย่างแรกจะเป็น 

0) ของกินเล่น basil's amuse bouche จานนี้เป็นน้ำพริกที่เสิรฟ์มาพร้อมกับข้าวเหนียวปิ้งร้อนๆเลยค่ะ
1) จานถัดมาจะเป็นยำสาหร่ายพวงองุ่นและโฟมหอยนางรม พอตอนตักทานด้านล่างจะราดน้ำจิ้มซีฟู้ดมาไว้แล้วค่ะ จัดมาอยู่ในจานเปลือกหอยสวยงาม

2) เทอร์รีนไส้อั่วและผักแนม จานนี้เราค่อนข้างชอบเป็นพิเศษค่ะ เมนูนี้ได้รับอิทธิพลมาจากการเก็บรักษาอาหารในสมัยก่อนของภาคเหนือที่ยังไม่มีตู้เย็นค่ะ อร่อยแบบเหมือนกินขนมและของคาวในคราวเดียวกัน กลมกล่อมกำลังดีตัดกับผักและหมูกระจกได้พอดี

3)ปลาทูต้มตะลิงปลิง ปลาทูที่เอามาทำจากแม่กลอง และน้ำซุปคอนซอเม่ ทำจากปลาทูที่เอาไปต้มพร้อมกับเครื่องต้มยำ แล้วนำมากรองให้เป็นน้ำซุปใส เสิรฟ์มาร้อนๆ กินแล้วชื่นใจ และได้รสเปรี้ยวจากตะลิงปลิงที่ฝานบางๆเอาไว้ ส่วนเนื้อปลาก็แน่นอร่อย ทานได้แบบไม่ต้องกลัวก้างติดคอเลย
4) ปลาหมึกยักษ์กับโฟมไข่เค็ม สำหรับจานนี้ ปลาหมึกเอาไปซูวีก่อน เพื่อให้เนื้อปลาหมึกนุ่ม แล้วหลังจากนั้นถึงเอาไป Grill เพื่อให้ได้ผิวที่หอมกรอบ แรงบันดาลใจของจานนี้ก็คือปลาหมึกผัดไข่เค็มนั่นเอง
 5) คะน้าหมูกรอบและกระเทียมดำ จานนี้เค้าแนะนำให้ผสมกินพร้อมกันทุกอย่างค่ะ ตัวหมูกรอบเนื้อด้านในนุ่ม และหนังก็กรอบได้ใจมาก ซอสกระเทียมดำก็อร่อยค่ะ
6) จริงๆแล้วจานนี้ต้องเป็นน้ำตกเนื้อ และเป็นเนื้อนำเข้าด้วยค่ะ แต่เราไม่ทานเนื้อก็เลยได้น้ำตกหมูมาแทน จานนี้เราเลยค่อนข้างเฉยๆค่ะ
7) แกงคั่วหอยมะระ อันนี้ด้านล่างเป็นข้าวไรซ์เบอรี่ แนะนำให้คลุกเคล้าแล้วทานทีเดียว ตัวนี้ได้แรงบันดาลใจจากแกงใต้ค่ะ แต่รสชาติไม่เผ็ดมาก เหมาะแก่ต่างชาติค่ะ
8) มาสู่จานของหวานค่ะ อันนี้เราก็ค่อนข้างชอบนะคะ เชอร์เบทฝรั่งเขียวและบ๊วยเค็มกับพริกป่น กินแล้วสดชื่นมากเลย
9) จานสุดท้าย บัวลอยฟักทองในน้ำกระทิดำ และสปันจ์ไข่เค็มกรอบ  มาจานสุดท้ายเริ่มอิ่มมาก >< กินเข้าไปเกือบไม่ไหวแล้ว 555