พิจารณาอสุภะ หมวด D จริงแท้แห่งธรรม

หมวด D จริงแท้แห่งธรรม

๑๐. ทุกอย่างไปตามกฎแห่งธรรม มองย้อนกลับไป ข้อที่ ๑-๙ ข้อที่ผ่านมา มันเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

๑๐.๑ เป็นไปตามกฎแห่งธรรม

พระไตรลักษณ์ คือ ลักษณะที่เหมือนกันทั้งหลายทั้งปวง ๓ อย่าง ซึ่งเราจะต้องยอมรับความจริงแห่งธรรมทั้ง ๓ นี้ หากผู้ใดไม่ยอมรับความจริงแห่งธรรมนี้ก็จะเกิดโทสะ ไม่พ้นจากความทุกข์ ดัง ๓ ข้อนี้คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

๑๐.๒ ทำไมจึงเรียกว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อธิบายแต่ละข้อ

๑) อนิจจัง คือ แปรเปลี่ยน ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องมีการแปรเปลี่ยน เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย

๒) ทุกขัง คือ ไม่คงทน หมายถึง ทนอยู่สภาพเหตุนั้นไม่ได้ หรือไม่คงทนต่อภาวะนั้นๆ ตลอดกาล

๓) อนัตตา คือ ไม่สามารถควบคุมได้ เราจึงยึดมั่นถือมั่นไม่ได้ หมายถึง มีตัวตน แต่ยึดมั่นถือมั่นให้คงทนอย่างเดิมไม่ได้

๑๐.๓ พระไตรลักษณ์ต้นตอเนื่องมาจากเหตุไหน? ทั้งหมดมาจากกฎแห่งธรรม คือ อนัตตา มีตัวตนแต่ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้ เพราะเหตุต้องเปลี่ยนแปลงไปตามภาวะธรรม เราจึงไม่สามารถไปบังคับให้ถาวรไม่ได้ รับรู้ได้แต่ให้ถาวรไม่ได้

รับรู้แต่อย่าถูกครอบงำ เช่น รับรู้ว่าเป็นบุหรี่ แต่อย่าให้บุหรี่ครอบงำเรา

ชื่นชมแต่อย่าหลงใหล เช่น คุณสวยเราชื่นชม แต่ไปหลงใหลไม่ได้

๑๑. เนื่องด้วยอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จึงเกิดเป็น "อัตตา"

อัตตาจะสลายไม่ได้ มีแต่แปรรูป และอัตตาสลายไป แต่อัตตายังคงอยู่

เนื่องด้วยเราไม่สามารถควบคุมได้ ต้องแปรเปลี่ยนไป แปรเปลี่ยนอย่างนี้เรียกว่า "สุญญตา" (ข้อนี้เหตุก็คือนำอัตตามาวิเคราะห์ จนกลายเป็นอนัตตา และเข้าสู่สุญญตา มันหมุนเวียนอยู่ เราควบคุมไม่ได้จึงเกิดภาวะสุญญตา) ทั้งข้อ ๑๐-๑๑ เป็นตถตา

๑๑.๑ ทำไมถึงเป็นสุญญตา เพราะว่าเป็นอนัตตาเราควบคุมไม่ได้ทั้งหมดนี้เรายึดมั่นถือมั่นเป็นถาวรไม่ได้ เพราะเหตุต้องแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

แล้วทำไมเหตุต้องแปรเปลี่ยนไปได้ เพราะว่า

-ในธรรมต้องเป็นวิถีแห่งธรรม

-เป็นไปตามกฎแห่งธรรม

-สิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงตลอดคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

๑๑.๒ ทั้งหมด ๒ ข้อที่เราเข้าใจนี้ ส่งผลให้เราเข้าใจคำว่าสุญญตา ทำให้เรารู้ซึ้งในสุญญตา เหตุมาจาก ข้อที่ ๑๒ คือ "ตถตา"

๑๑.๓ ทั้งหมดให้เรารู้ว่าเป็นสุญญตา

สุญญตา คือ ความว่าง แต่ไม่ใช่ความว่างเปล่า แต่ว่างจากการยึดมั่นถือมั่น ทุกสิ่งเราไม่สามารถยึดมั่นถือมั่นได้

๑๒. "ตถตา" เป็นเช่นนั้นเอง ปกติในธรรม

๑๒.๑ ธรรมย่อมวิถีแห่งธรรม มีตัวธรรมชาติของธรรม มีกฎของธรรม มีวิถีแห่งธรรม มีวินัยแห่งธรรม รวมทั้งหมด คือ ธรรมย่อมมีเหตุของธรรม

๑๒.๒ เพราะธรรมย่อมดำเนินไปตามวิถีแห่งธรรม เพราะเหตุว่า มีเหตุเช่นใดย่อมต้องมีผลเช่นนั้น

๑๒.๓ ทุกอย่างดำเนินไปตามวิถีแห่งธรรม ใครจะมาขัดขวางการดำเนินไปตามวิถีแห่งธรรมไม่ได้ เพราะว่าธรรมมีกฎของธรรม เดินไปตามปกติเช่นนี้แล จึงเป็นตถตา

เหตุเพราะดำเนินไปตามกฎแห่งธรรม จึงเป็นตถตา ผลจึงเป็นตถตาเป็นเช่นนั้นเอง

๑๒ ข้อถ้าไปภาวนาได้ เป็นพระอรหันต์

หมวด A ,หมวด B รวมกัน = เป็นสมมติบัญญัติ g เป็นความจริง

หมวด C ,หมวด D รวมกัน = เป็นปรมัตถ์บัญญัติ g เป็นความจริงแท้

รวมทั้ง หมวด A ,หมวด B, หมวด C ,หมวด D รวมเป็น = ความจริง + ความจริงแท้ g เข้าสู่ความเป็นตถตา ก็กลายเป็นพระอรหันต์

^_^ ..._/\_... ^_^

ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา

อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์

เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่