ตั้งอยู่ตำบลหนองผึ่ง อำเภอสารภี เชียงใหม่
จาก นิราศหริภุญไชย โดย ประเสริฐ ณ นคร ตอนหนึ่งมีว่า
อรรณพพระขวางขั้นขอบ พิงเพิง รอดเอ่
ผืนแผ่นสุยลงเลิง ลวดยั้ง
คองเห็นที่รักเทิง ใจเช่น ครานี
ยลอื่นสันเสี้ยนตั้ง ตอกไว้วักษณ์เรียม
เดิมแม่น้ำปิงไหลไปทางวัดพระนอนบ้านพิง หนองผึ้ง
ต่อมาขุดคลองลัด แต่น้ำก็ยังไหลไปทางเดิม จึงต้องสร้างพระนอนขึ้นกั้นน้ำ ตั้งแต่นั้นน้ำก็ไหลไปตามคลองลัด
พระนอนสร้างขึ้นขวางลำน้ำปิงเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมเมืองที่อยู่ถัดออกไป เรียกว่า พระนอนป้านปิง
วันหนึ่งของปี 2555 ได้ไปวัดพระนอนหนองผึ้งที่ครั้งหนึ่งได้ไปตอนเด็ก ๆ
วนเดินถ่ายภาพได้แต่ภายนอกเพราะปิดหมด
พระไม่อยู่ไปงานเสียศพ ... ฌาปนกิจในภาษาเหนือ
ถามเณรก็บอกว่าวิหารเปิดเฉพาะวันศีล ... วันพระในภาษาเหนือ
วิหารของวัด
หันหน้าไปทางตะวันออก บันไดรูปมกรคายนาค
หน้าบันประดับปูนปั้นปิดทองและเขียนสี ลายหม้อดอกและพรรณพฤกษา
พระเจ้าทันใจ
พอดีท่านเจ้าอาวาสท่านมาจ่ายค่าวัสดุก่อสร้าง พบเราเข้า ก็ถามว่า
โยมอยากเข้าไปไหว้พระนอนไหม ... นับว่าเป็นบุญของเรานะ
ท่านก็เรียกเณรให้ไปหยิบกุญแจวิหารพระนอน
แล้วท่านก็เล่าให้ฟังว่า ของดั้งเดิมมีสามสิ่งคือ วิหารพระนอน เจดีย์ โบสถ์
ตำนานพระเจ้าเลียบโลกว่า
พระพุทธเจ้าได้พาพระอรหันต์เสด็จขึ้นไปทางทิศเหนือถึงน้ำแม่ระมิงค์มีหนองน้ำใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ยังมีพญานาคตัวหนึ่งอยู่ในหนองน้ำนั้น
เมื่อเห็นพระพุทธเจ้าพญานาคจึงดีใจนัก จึงเนรมิตกายเป็นมนุษย์ เอาน้ำผึ้งใกล้หนองน้ำมาถวาย
พระพุทธเจ้าทรงรับน้ำผึ้งนั้น และพระองค์ทรงสำเร็จสีหไสยา
พญานาคทูลขอรอยพระพุทธบาท พระพุทธเจ้าตรัสว่าสถานที่นี้ไม่มีหินจักเหยียบ
ท่านจงก่อรูปเราไว้ยังที่ตถาคตประทับนอนนี้ไว้เป็นที่สักการะบูชาแก่คนและเทวดาทั้งหลาย
สถานที่นี้ภายหน้าจักได้ชื่อว่า พระนอนหนองผึ้ง”
อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า พระพุทธองค์ได้ประทานพระเกศาหนึ่งเส้นด้วย
วิหารพระนอนอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของวิหาร
เข้าใจว่าเป็นตุงกระด้าง สำหรับบูชาพระพุทธเจ้า
เขียนลายคำ และลวดลายแกะไม้ประดับกระจกสี
เจดีย์ที่เห็นได้รับการซ่อมปฏิสังขรณ์เมื่อไม่นานมานี้
ล่างสุดเป็นฐานเขียงสองชั้น ชั้นบนย่อมุม... ยกให้สูงกว่าพื้นดิน
เหนือขึ้นมาเป็นชั้นปัทม์ย่อเก็จ ... เป็นฐานบัวรองรับพระพุทธเจ้าในทุกอิริยาบท
ฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมสองชั้น รับบัวปากระฆังกลม
องค์ระฆัง หรือเรียกว่าเรือนธาตุ เป็นที่บรรจุพระพุทธรูป ธาตุ
ไม่มีบัลลังก์ มีปล้องไฉนทรงกรวยคว่ำแต่ละปล้องต้องมีขนาดใหญ่ เปรียบเสมือนฉัตร
ปัทมบาทคือส่วนที่มีบัวคว่ำบัวหงายที่มีลายกลีบบัวขนาดใหญ่ ... ลักษณะเฉพาะของเจดีย์พม่า
ปลียอด ชี้ขึ้นฟ้า หมายถึงเส้นทางสู่พระนิพพาน ประดับฉัตรโลหะ
โบสถ์
บูรณะขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2456 ภาพถ่ายตอนอายุ 99 ปีหลังบูรณะ ตอนนี้อายุ 106 ปี
หลังจากได้รับวิสุงคามสีมา คือพระเจ้าแผ่นดินพระราชทานที่ให้สร้างโบสถ์
ถามท่านว่า วิสุงคามสีมา มีหน้าตาอย่างไร
ท่านตอบว่า มันก็เป็นกระดาษเหมือนโฉนดที่ดินนี่แหละ
ปกติโบสถ์จะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
แต่ที่นี่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก
บอกเราว่า ... หน้าโบสถ์อาจแสดงถึงทางสัญจรโบราณคือ แม่น้ำ
สิงห์ล้านนา เหมือนมีปลอกหุ้มเท้า
หน้าบันลวดลายหม้อดอก
วัดเล่าเรื่องพระนางจามเทวี ... 7 วัดพระนอนหนองผึ้ง
วนเดินถ่ายภาพได้แต่ภายนอกเพราะปิดหมด
พระไม่อยู่ไปงานเสียศพ ... ฌาปนกิจในภาษาเหนือ
ถามเณรก็บอกว่าวิหารเปิดเฉพาะวันศีล ... วันพระในภาษาเหนือ
วิหารของวัด
หน้าบันประดับปูนปั้นปิดทองและเขียนสี ลายหม้อดอกและพรรณพฤกษา
พระพุทธเจ้าได้พาพระอรหันต์เสด็จขึ้นไปทางทิศเหนือถึงน้ำแม่ระมิงค์มีหนองน้ำใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ยังมีพญานาคตัวหนึ่งอยู่ในหนองน้ำนั้น
เมื่อเห็นพระพุทธเจ้าพญานาคจึงดีใจนัก จึงเนรมิตกายเป็นมนุษย์ เอาน้ำผึ้งใกล้หนองน้ำมาถวาย
พระพุทธเจ้าทรงรับน้ำผึ้งนั้น และพระองค์ทรงสำเร็จสีหไสยา
พญานาคทูลขอรอยพระพุทธบาท พระพุทธเจ้าตรัสว่าสถานที่นี้ไม่มีหินจักเหยียบ
ท่านจงก่อรูปเราไว้ยังที่ตถาคตประทับนอนนี้ไว้เป็นที่สักการะบูชาแก่คนและเทวดาทั้งหลาย
สถานที่นี้ภายหน้าจักได้ชื่อว่า พระนอนหนองผึ้ง”
อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า พระพุทธองค์ได้ประทานพระเกศาหนึ่งเส้นด้วย