[CR] เมื่อคุณหลานอยากทานอาหารฝรั่งเศส ! พาคุณยายบุกร้านเก่าแก่ - Lyon

ยินดีต้อนรับสู่รีวิวกระทู้ที่ 2 ของเราค่าาา

วันนี้ไม่ค่อยมีสตอรี่อะไรซึ้ง ๆ นะคะ มาเล่าเพราะนอนไม่หลับค่ะ เปิดมาด้วยการเล่าเหมือนเดิม ใครขี้เกียจอ่านเลื่อนลงไปดูรูปเลยค่า

ขอพกไอเทมเด็ดมารีวิวเช่นเคย นั่นก็คือคุณยายผู้เป็นกระเป๋าตังค์ของเรา เม่าชอปปิ้ง

วันนี้โดนคุณยายลากออกไปซื้อสลากออมสินใหม่ เนื่องจากของเดิมครบอายุแล้ว ซึ่งสลากออมสินนี่ คุณยายก็เป็นคนเก็บเงินให้นี่ล่ะค่ะ (คุณยายยอดมาก) แม้เราอยากจะลองไปลงทุนอย่างอื่น แต่คุณยายก็ชอบการลงทุนชนิดนี้ เพราะเชื่อว่าสักวันหนึ่งเราจะถูกรางวัลใหญ่ (แต่ทุกวันนี้ก็ยังถูกแค่ 150 บาท เอ่อะ)

หลังจากนั้นเพราะเรื่องภาษี เลยต้องไปเปิดบัญชีที่กรุงไทย ซึ่งสาขาใกล้ ๆ สำนักงานเขตอยู่ชั้น 3 บันไดอยู่ข้างหน้าตึก เราเดาว่ามีลิฟต์ข้างในก็พยายามจะให้นางไปขึ้นลิฟต์ แต่คุณยายก็ดื้อเหลือเกิน รีบร้อน จะเดินขึ้นบันได ทั้ง ๆ ที่ขาก็ไม่ค่อยดี =_=

เดินขึ้นไปจะถึง แม่บ้านหันมาเห็นก็อุทานด้วยความตกใจ "โอ๊ยยย คุณ ทำไมไม่ขึ้นลิฟต์ !" คุณยายก็หัวเราะแก้เก้อ แล้วบอกว่า "ไม่รู้ว่ามีลิฟต์นี่นา" ดู๊ดู ไม่เชื่อหลาน

พอจัดการธุระเสร็จ คุณยายก็ให้เลือกร้านอาหารกลางวัน เราก็จำได้ว่า คุณน้าที่รู้จักเคยไปพาไปทานร้านอาหารฝรั่งเศสอยู่ร้านหนึ่ง (คุณน้าคนเดียวกับที่พาไปร้าน Mizu's Kitchen) แล้วเราชอบอาหารเค้ามาก แต่ไม่เคยไปกินเองเพราะไม่มีตังค์ และไม่เคยพาที่บ้านไป เพราะที่บ้านชอบอาหารญี่ปุ่นมากกว่า (คุณยายเป็นคนญี่ปุ่น)

ได้พิกัดแล้วก็โบกแท็กซี่ไป พี่เขาก็ไม่ค่อยรู้ทาง เราก็เปิดแมปจากบางคอแหลมไปร่วมฤดี ระหว่างทางก็โดนบ่นหูชา เพราะเราให้เขาไปเข้าสาทร แต่คุณยายอยากไปทางนางลิ้นจี่ (เอาสิ ยังไม่ทันกินก็อารมณ์เสียแล้ว) กว่าจะไปถึงร้านก็บ่ายโมง ร้านปิดบ่ายสองครึ่ง

Lyon เป็นร้านที่ต้องเข้าไปในซอยร่วมฤดี ร้านจะอยู่ติดกับซอยร่วมฤดี 3 ถนนสองเลนแคบนิดเดียว ภายในมีที่จอดรถ

เดินเข้าไปถึงหน้าร้าน มีพนักงานออกมารับ พนักงานที่นี่ส่วนใหญ่จะมีอายุ แล้วพูดสุภาพมาก เรียกคุณยายเราว่า "คุณท่าน" ทุกคำ คุณยายก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เราก็ไม่เคยเห็นร้านไหนเรียกลูกค้าว่า คุณท่าน มาก่อน แต่คือชอบอะ ดูเหมือนย้อนอดีตไปสมัยโบราณ

ไม่ได้ถ่ายรูปร้านมานะคะ ร้านบรรยากาศดี สะอาด ตกแต่งสวย มีเพลงเปิดคลอ ร้านไม่ใหญ่มาก มีโต๊ะหลายตัว

เราได้โต๊ะตัวริม จะมีเก้าอี้สองตัว ตัวหนึ่งหันหน้าเข้าหากำแพง อีกตัวหันออกเห็นบรรยากาศร้าน

ขอนอกเรื่อง เล่านิดหนึ่ง เรื่องที่นั่งในโต๊ะอาหาร เราเคยไป AFS ที่สวิตเซอร์แลนด์ โฮสต์พ่อก็สอนเราว่า เวลาไปร้านอาหาร ผู้ชายจะต้องนั่งหันหน้าเข้ากำแพง เพราะสายตาจะได้มองผู้หญิงของเขาแค่คนเดียว (โรแมนติกมาก) ส่วนโฮสต์แม่ก็เสริมว่า เขาชอบในธรรมเนียมนี้ เพราะเขาจะได้เอนจอยกับบรรยากาศของร้าน เราก็สัพยอกไปว่า และเพราะผู้หญิงจะได้มองผู้ชายทั้งร้านด้วยใช่ไหม
เพี้ยนเขินเพี้ยนเขิน

เพราะฉะนั้นคุณหลานที่แสนดีอย่างเราก็เลยเลือกที่นั่งที่หันหน้าเข้าหากำแพง เพื่อให้คุณยายได้เอนจอยบรรยากาศของร้าน

พอจะนั่ง บริกรก็มาเลื่อนเก้าอี้ให้ พอนั่ง เขาก็ปูผ้ากันเปื้อนไว้ที่ตักของเรา มองไปบนโต๊ะก็มีช้อนส้อมเรียงรายเต็มไปหมด

เรา : เคยมากินร้านนี้ไหม
คุณยาย : ฉันไม่เคยมากินร้านในตรอกซอกซอยเหมือนเธอหรอก

พี่บริกรเอาเมนูเล่มใหญ่มาให้ เราก็บอกเขาว่าจะสั่งเป็นคอร์สอาหารกลางวัน ไม่เกินนาทีเราก็ได้เมนูเล่มเล็กมา ซึ่งเราก็จำชื่อฝรั่งเศส ชื่ออาหารอะไรไม่ได้เลย พอคุณยายได้มาก็งง ๆ หน่อย เราเลยบอกให้พี่เขาช่วยแนะนำซึ่งเขาก็แนะนำได้ดีมาก

ในใบเมนูคอร์ส ไม่มีราคาเขียนไว้ เราถามก็ได้คำตอบว่า ราคาของ 1 คอร์ส คือ 600 บาท จะได้อาหารทั้งหมด 4 รายการด้วยกัน คือ อาหารรองท้อง ซุป จานหลัก และขนมหวาน ในแต่ละรายการทางร้านก็จะมีตัวเลือกให้รายการละ 3 ตัวเลือก แต่ละครั้งที่เรามาร้านนี้ เมนูจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ไม่เคยเหมือนกันเลย

เมื่อสั่งเสร็จ เขาก็จะยกขนมปังมาให้ เป็นขนมปังฝรั่งเศสชิ้นใหญ่ พร้อมกับเนย เปลือกของขนมปังกรอบร่วน เราไม่สามารถกินให้ผงไม่เปื้อนโต๊ะได้เลย T_T (ยังฝึกมาไม่พอ เลเวลการกินอาหารฝรั่งเศสยังต่ำอยู่ สงสัยต้องฝึกบ่อย ๆ)

ขนมปังฝรั่งเศสและช้อนส้อมที่เรียงราย ใช้ไม่ถูกเลย
 
 
ระหว่างนั้นคุณยายก็หันไปสั่งน้ำ
 
คุณยาย : เอาน้ำมะนาวโซดาที่นึง
บริกร : ครับ
 
เราได้ยินก็เลยแซว
เรา : ดื่มรักษามะเร็งเหรอออ
คุณยาย : บ้า ฉันไปที่ไหน ฉันก็สั่งมะนาวโซดา
บริกร(ขำ) : ลองน้ำมังคุดต้มดูก็ดีนะครับ
 
ตึ่งโป๊ะ !
(เผื่อคนไม่เข้าใจ คือเราแซวคุณยายว่าไปอ่านฟอเวิร์ดเมลมะนาวโซดารักษามะเร็ง แต่ดูเหมือนจะมีคนอ่านฟอเวิร์ดเมลมังคุดต้มอีกฉบับซะแล้ว เอ๊ะ หรือพี่เขาก็เล่นมุก !)
 
กินขนมปังไปได้ไม่กี่คำ Appitizer ของเราก็มา คือพี่บริกรเขาใส่ใจมากนะ เราบอกแต่แรกว่าเราอยากแบ่งกัน พี่เขาก็เสิร์ฟตรงกลางโต๊ะ แล้วเอาจานเปล่ามาให้เรากับคุณยายอย่างละใบ
 
จานที่หนึ่ง เนื้อปูอบชีส เต็มปากเต็มคำ เนื้อปูเด้งมาก จนไม่อยากเชื่อว่าเป็นปู รสซอสจะเป็นเนื้อครีมเข้มข้น เราก็กินแม้กระทั่งผักรองจาน จานนี้ชอบมาก เอาช้อนมาแซะชีสที่ขอบถ้วยเซรามิก
 
เรา : เลียเลยได้ไหม
คุณยาย : อยากเลือกมากินร้านผู้ดี ก็ต้องกินแบบผู้ดี
 
สุดท้ายเราก็เอาขนมปังมาปาดก้นถ้วย กินหมดไม่เหลือซาก ฮ่า ๆ (วิธีนี้โฮสต์ก็สอนมา)
 
จานรองท้อง เนื้อปูอบชีส
 
 
มาถึงอีกจานกันบ้าง สลัดผักยุโรปที่เราจำชื่อผักไม่ได้ ทานกับแอนโชวี่ รสน้ำสลัดออกเปรี้ยว
 
ตอนนั้นเราก็งงว่าต้องใช้ช้อนส้อมอันไหน คือเราเคยเรียนมาว่าต้องใช้ อันที่อยู่นอกสุดก่อน แต่วันนี้จำผิดเป็นอันในสุดก่อน เลยเอาส้อมใหญ่มากิน คุณยายก็เอ็ดเสียงเขียว "ใช้ส้อมอันเล็ก !"
 
สลัดจานนี้ดูจะถูกปากคุณยายมากกว่าปู เพราะปูคุณยายกินคำเดียว แต่กับสลัดกลับทานได้เรื่อย ๆ
 
 
จานรองท้อง สลัดผักยุโรปกับปลาแอนโชวี น้ำสลัดเปรี้ยวนำ จานนี้ถูกปากคุณยาย
 
 
หลังจากจัดการจานแรกเรี่ยมเร้ ซุปก็ออกมา ของคุณยายคือซุปครีมมะเขือเทศ เราชิมก็ได้รสมะเขือเทศ คุณยายเบ้หน้าแล้วบอกว่าเค็ม แต่เราก็ไม่เห็นว่าเค็มตรงไหนนะ ส่วนของเราคือซุปต้นกระเทียม (Leak) กับมันฝรั่ง อันนี้สิเค็มกว่า

จานซุปเราถ่ายรูปมาแค่ซุปต้นกระเทียมมันฝรั่งของเรา หน้าตาไม่ค่อยสวย รสชาติโอเค

ความสนุกของการกินซุปของเราคือ หย่อนปลายช้อนด้านไกลตัวลงไปในซุปแล้วตวัดขึ้นมา จะได้ซุปเต็มช้อน ยกขึ้นซดเบา ๆ จากมุมช้อนด้านใกล้ตัว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปกติเขาทานกันอย่างนี้ไหม แต่เราทำตามคุณยายค่ะ แฮะ ๆ

พอซุปหมด ก็เอาขนมปังปาดอีกตามเคย คราวนี้คุณยายก็ปาดด้วย (ถึงนางจะบอกว่าเค็ม แต่ก็หมดยันเอาขนมปังปาดนะจ๊ะ)

จานซุป ซุปต้นกระเทียมกับมันฝรั่ง
 
 
 
ในที่สุดดดดดดดด ก็ถึงเวลาที่เรารอคอยยยยยยยยยยยยยยย

อาหารจานหลักมาแล้วจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

จานหลัก เนื้อ เนื้อ เนื้อ เนื้อกับซอสอะไรไม่รู้ แต่อร่อยมากกกกกกกกกกกกก
 
 
เนื้อ !!!! เสต็กเนื้อชิ้นหนา ย่างแบบมีเดียมแรร์ !! ยกสวรรค์มาบนดินชัด ๆ หั่นเนื้อเข้าไป ข้างในยังแดงชมพู ฉ่ำ เนื้อนุ่มมากกกกกกก กัดแล้วน้ำของเนื้อทะลัก อร๊ายยยย
 
คืออันนี้เราไม่ได้ดูชื่อเมนู เห็นเป็นเนื้อก็สั่งเลย เพราะเป็นคอเนื้อ จากรสชาติซอส เราคิดว่าเป็นพวกสมุนไพรเครื่องเทศผัด กระเทียม หอมใหญ่ ไม่รู้ใส่อะไรบ้าง แต่อร่อยดี  มีมัสตาร์ดมาให้จิ้มเพิ่ม อันนี้คุณยายบอกว่าเค็มอีกแล้ว (แต่ก็กินจนหมดนะ) นอกจากเนื้อเราก็ชอบจิ้มถั่วลันเตามากินทีละเม็ด มันลื่น ๆ นุ่ม ๆ
 
 
ครั้งก่อนที่เรามาทานที่นี่ เราก็สั่งเนื้อ แต่เป็นซอสไวน์แดง ส่วนตัวชอบซอสไวน์แดงมากกว่า ถ้าอยากเปลี่ยนซอส เราก็สามารถบอกร้านได้ เพราะคราวที่แล้วที่มาเพื่อนก็ขอเขาเปลี่ยนเป็นซอสไวน์แดงเหมือนกัน
 
ไปกันต่อที่จานหลักอีกจาน
 
จานหลักอีกจาน น่าจะกอดองเบลอหมู มีหมูสอดไส้แฮมชีส
 
 
จานนี้เราไม่แน่ใจชื่อเมนู พี่บริกรแจ้งว่าเป็น หมูสอดไส้แฮมชีส เราก็คิดว่าคงคล้ายกอดองเบลอมั้ง แต่ที่เราเคยกินมันเป็นไก่ชุปแป้งทอด อันนี้ไม่ได้ชุปเลยไม่รู้ว่าเมนูเดียวกันไหม
 
หั่นออกมาปุ๊ปชีสก็ไหลออกมา ส่วนตัวชอบจานเนื้อมากกว่า รู้สึกว่าหมูจานนี้ไม่นุ่มเท่า แต่ชีสก็หอมดี รสชาติซอสนุ่มโอเค คุณยายบ่นว่าเค็มอีกตามเคย ส่วนอันนี้คือบทสรุป
 
.
.
.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตบท้ายด้วยของหวาน ร้านมีให้เลือกคือไอติมหลากรส หรือชา หรือกาแฟ พี่บริกรก็บอกมาว่า ไอศกรีมที่นี่ทำเองนะครับ

คุณยายได้ยินดังนั้นก็สั่งเขาว่า ขอไอติมมะนาวโซดา เอ๊ย ไอติมเชอร์เบทมะนาว กินไปก็หยีตาไปในความเปรี้ยว

ส่วนเราก็จัดเป็นไอติมคาราเมล รสชาติดี หวาน เค็มปะแล่ม

จานหวาน ไอศกรีมรสคาราเมล หอม มัน
 
 
ค่าเสียหายทั้งหมดคือประมาณ 1300 บาท (2 คอร์ส + น้ำมะนาวโซดา)
สิ่งที่ประทับใจกว่าอาหารก็คือการบริการ เป็นร้านที่บริการได้ดีมาก ๆ คุณยายก็อารมณ์ดี ถ้ามีโอกาสก็จะมากินอีกแน่นอน 
สำหรับคนที่อยากพาคนพิเศษมาสร้างความประทับใจ เราบอกได้เลยค่ะว่า ร้านนี้ไม่มีผิดหวัง บรรยากาศ อาหาร บริการ ดีหมด ราคาอาหารคอร์สกลางวันที่ 600 บาท เราคิดว่าคุ้มค่ามาก ๆ 
 
ส่วนตัวอยากให้ 5 ดาว แต่ขอหักครึ่งดาว เพราะคุณยายบ่นว่า เค็ม ไป 3 ครั้ง (แต่เราว่าไม่เค็มนะ)
ต้องขอโทษแฟนคลับคุณยายที่ไม่ได้เอารูปคุณยายมาฝากเลย เพราะไม่ได้กะจะเขียนรีวิวนี้มาก่อน แต่เผอิญนอนไม่หลับเลยเอามาเล่าให้ฟังเล่น ๆ ค่ะ
เพี้ยนกินมาม่าเพี้ยนกินมาม่าเพี้ยนกินมาม่า

ใครหลงมาอ่านกระทู้รีวิวนี้ครั้งแรก แล้วอยากอ่านความน่ารักของคุณยายเพิ่มเติม ขอเชิญกระทู้นี้ค่า เป็นร้านที่คุณยายหัดทานสปาเกตตีครั้งแรก
พิสูจน์ตำนาน ร้าน MIZU สุดยอดเสต็กแห่งพัฒน์พงศ์ ร้านอาหารฝรั่งสไตล์ญี่ปุ่น ก่อนตายต้องมากินสักครั้ง

แถมท้าย

เรา : พี่คะ ในซอยจะมีแท็กซี่ไหมคะ
พี่บริกร : ก็... มีอยู่นะครับ
เรา : กำลังคิดว่าจะเรียก Grab ดีกว่าไหม
พี่บริกร (มองที่คุณยาย) : เรียก Grab ดีกว่าครับ
คุณยาย : โอ๊ย ไม่ต้อง ไปโบกเอานั่นล่ะ
เรา : ...ตามใจ "คุณท่าน" เขาแล้วกัน

จบบริบูรณ์.
ชื่อสินค้า:   Lyon French Cuisine @ ซอยร่วมฤดี 3
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่