ตอนที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้File 6 : สาวปริศนาในบาร์เหล้า [บทเฉลย]
https://ppantip.com/topic/38522987
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ปลาย นักสืบจำเป็น
File 7 : เรื่องเก่าๆ
- 1 -
รถมอเตอร์ไซค์สีดำแล่นมาหยุดที่ลานจอดรถของภัตตาคารหรูในย่านหนึ่ง
ผู้ที่ขับมาเป็นชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบต้น ๆ ไว้ผมตั้ง ซึ่งก็คือ ปลาย นักสืบหัวหน้าแก๊งในมหาวิทยาลัยนั่นเอง แต่วันนี้เขาไม่ได้แต่งชุดนักศึกษาเหมือนอย่างเคย กลับสวมเสื้อเชิ้ตอย่างดีและใส่กางเกงสแล็คมาที่นี่
แต่ว่าเขามาทำไมกัน? หรือว่านัดใครบางคนมาทานอาหารนอกสถานที่เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
ปลายลงจากรถมอเตอร์ไซค์เดินเข้าไปในภัตตาคาร พอถึงข้างในเขาหันซ้ายหันขวาคล้ายมองหาใครบางคน
แต่ว่าไม่มีใคร เพราะตอนนี้ภายในร้านยังไม่มีผู้ใดมาทานอาหารเลย หนุ่มผมตั้งจึงเดินเข้าไปนั่งตรงโต๊ะด้านในสุดก่อน
บริกรของภัตตาคารเดินเข้ามาหาปลายเพื่อรับรายการอาหารตามหน้าที่ แต่หนุ่มผมตั้งยังไม่ยอมสั่งอะไรมาเท่าไหร่ สั่งเพียงน้ำเปล่ามาดื่มแก้กระหายอย่างเดียว
เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในภัตตาคารเป็นคนที่สองต่อจากปลาย คนผู้นั้นดิ่งตรงไปที่โต๊ะที่ปลายนั่งอยู่เลย
ชายคนนี้อายุประมาณห้าสิบกว่า ๆ ได้ แต่ถ้าดูจากภายนอกไม่น่าจะทายอายุจริง ๆ ได้ถูก เพราะลักษณะภายนอกดูหนุ่มกว่าอายุจริงมากทีเดียว รูปร่างหน้าตาของเขานั้นมีบางส่วนที่คล้ายคลึงปลาย อย่างเช่น รูปหน้า จมูก ตา คิ้ว รวมทั้งลักษณะท่าทาง แต่ก็มีที่ต่างกันอยู่เหมือนกัน นั่นคือ ผมที่บางกว่าและส่วนสูงที่เตี้ยกว่าปลาย
เมื่อชายคนนั้นนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามปลาย หนุ่มผมตั้งก็ยกมือไหว้ขึ้น พร้อมพูดว่า
“สวัสดีครับพ่อ นัดผมมามีเรื่องอะไรหรือครับ?”
ชายคนนี้คือ พ่อของปลายนั่นเอง
ผู้เป็นพ่อมองดูลูกตัวเองสักพัก คลี่ยิ้มแล้วค่อยพูดตอบว่า “ก็ไม่มีอะไรหรอก อยากเจอหน้าแกน่ะ”
“หรือครับ... อยากเจอผม ทำไมไม่ไปหาที่บ้านล่ะครับ ไม่ต้องนัดผมมาหรอก เสียเวลาเปล่า ๆ”
ผู้เป็นพ่อเบ้หน้า “ก็มีคนไม่อยากเจอหน้าฉันน่ะสิ แกก็น่าจะรู้”
“รู้แล้วครับ” ปลายยิ้มขึ้นนิด ๆ “..แม่ไม่ว่าหรอกครับ วันนี้แม่ยังบ่นให้ฟังว่าไม่มีใครช่วยเค้าหาเงินเลย”
“งั้นเหรอ...” พ่อของปลายมองหน้า “พ่อก็โอนเงินเข้าบัญชีประจำทุกเดือนไม่ใช่หรือ?”
“ไม่รู้นะครับ” ปลายส่ายหน้าเล็ก ๆ “เห็นบอกว่าเงินไม่พอ เพราะเดี๋ยวนี้อะไร ๆ มันก็แพง” เขาหยุดพูดมองหน้าพ่อตัวเอง “ ..แล้วเมื่อไหร่พ่อจะรับแม่ไปอยู่ด้วยล่ะครับ ผมว่าแม่ก็รออยู่น้า..”
“อือ...” พ่อปลายแค่นเสียง “แกก็รู้ว่าฉันทำไม่ได้ แค่มาหาแกยังต้องแอบมาเลย”
ปลายเลิกคิ้ว ทำหน้ากวน ๆ “งั้นก็ต้องแอบมาหาผมกับแม่ตลอดเลยสิครับ?”
“ก็เออสิ” พ่อเขาตอบ “ถ้าบ้านนู้นรู้ ฉันตายแน่!!”
แม้จะมีการตอบโต้กันไปมาบ้าง แต่ดูแล้วทั้งสองก็พูดคุยกันได้อย่างสนิทสนมเลยทีเดียว พวกเขาคุยกันพลางจิบน้ำดื่มไปด้วย
“แล้วพวกลูกน้องพ่อไปไหนล่ะครับ ปกติต้องอยู่ไม่ห่างตัวพ่อนี่” ปลายพูดขึ้นต่อ
พ่อของปลายหันหน้าเอียงไปด้านหลังเล็กน้อย “พ่อให้พวกมันไปรออยู่แถวหน้าร้านน่ะ ไม่ได้ให้เข้ามาหรอก ไม่อยากให้พวกมันมายุ่ง” เขาพูดเสร็จก้มหน้าดูเมนู “แต่ว่าแกสั่งอะไรหรือยัง?”
“ยังเลยครับ พ่อสั่งได้เลย เอาตามใจพ่อนั่นแหละ“ ปลายฉีกยิ้มพลางก้มดูเมนู “เพราะวันนี้พ่อเป็นคนเลี้ยงใช่มั้ยครับ?”
ผู้เป็นพ่อมองหน้า คลี่ยิ้ม “แกนี่จริง ๆ เลย เหมือนแม่แกจริง ๆ”
“ก็ทำไงได้ล่ะครับ ผมมันแค่ลูกนักเขียนธรรมดา ไม่ใช่ลูกคุณนายท่านรัฐมนตรีนี่” ปลายยิ้มรับกวน ๆ
“หือ..” พ่อปลายเอียงคอเล็กน้อยมองลูกตัวเอง “เอาน่า อย่างไรแกก็เป็นลูกฉัน”
พวกเขาคุยกันไปตามประสาพ่อลูก ไม่นานอาหารที่สั่งก็ถูกนำมาส่ง ปลายเห็นอาหารที่อยู่ตรงหน้าย่อมทนไม่ไหว บวกด้วยความที่ไม่ค่อยได้กินอาหารดี ๆ อย่างนี้ เขาเลยตั้งหน้าตั้งตากินใหญ่ ทำให้เวลาพ่อของเขาพูดคุยด้วยแล้วตัวเองต้องพูดตอบ บางทีมันดูเหมือนว่าพูดไปกินไป จึงโดนพ่อตัวเองว่ากล่าวเป็นระยะ
ทั้งสองทานอาหารไปได้สักพัก พ่อปลายก็เอ่ยขึ้นมาว่า “เห็นหน้าแกทีไร ..คิดถึงเรื่องเมื่อตอนนั้นทุกทีสิ”
ปลายเงยหน้าขึ้นมาหลังจากก้มกินอาหารอยู่ “เรื่องอะไรหรือครับ?”
“เรื่องที่แกถูกลักพาตัว สมัยก่อนที่พ่อยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรีไงล่ะ”
“อ้อ... เรื่องนั้นเอง” ปลายพยักหน้า เหมือนจะพอรู้แล้ว “แต่ก็เพราะเรื่องนั้นไม่ใช่หรือครับ ..ที่ทำให้พ่อกับแม่ไม่ยอมเจอกัน”
(มีต่อครับ)
ปลาย นักสืบจำเป็น - File 7 : เรื่องเก่าๆ [บทปัญหา]
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ปลาย นักสืบจำเป็น
File 7 : เรื่องเก่าๆ
- 1 -
รถมอเตอร์ไซค์สีดำแล่นมาหยุดที่ลานจอดรถของภัตตาคารหรูในย่านหนึ่ง
ผู้ที่ขับมาเป็นชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบต้น ๆ ไว้ผมตั้ง ซึ่งก็คือ ปลาย นักสืบหัวหน้าแก๊งในมหาวิทยาลัยนั่นเอง แต่วันนี้เขาไม่ได้แต่งชุดนักศึกษาเหมือนอย่างเคย กลับสวมเสื้อเชิ้ตอย่างดีและใส่กางเกงสแล็คมาที่นี่
แต่ว่าเขามาทำไมกัน? หรือว่านัดใครบางคนมาทานอาหารนอกสถานที่เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
ปลายลงจากรถมอเตอร์ไซค์เดินเข้าไปในภัตตาคาร พอถึงข้างในเขาหันซ้ายหันขวาคล้ายมองหาใครบางคน
แต่ว่าไม่มีใคร เพราะตอนนี้ภายในร้านยังไม่มีผู้ใดมาทานอาหารเลย หนุ่มผมตั้งจึงเดินเข้าไปนั่งตรงโต๊ะด้านในสุดก่อน
บริกรของภัตตาคารเดินเข้ามาหาปลายเพื่อรับรายการอาหารตามหน้าที่ แต่หนุ่มผมตั้งยังไม่ยอมสั่งอะไรมาเท่าไหร่ สั่งเพียงน้ำเปล่ามาดื่มแก้กระหายอย่างเดียว
เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในภัตตาคารเป็นคนที่สองต่อจากปลาย คนผู้นั้นดิ่งตรงไปที่โต๊ะที่ปลายนั่งอยู่เลย
ชายคนนี้อายุประมาณห้าสิบกว่า ๆ ได้ แต่ถ้าดูจากภายนอกไม่น่าจะทายอายุจริง ๆ ได้ถูก เพราะลักษณะภายนอกดูหนุ่มกว่าอายุจริงมากทีเดียว รูปร่างหน้าตาของเขานั้นมีบางส่วนที่คล้ายคลึงปลาย อย่างเช่น รูปหน้า จมูก ตา คิ้ว รวมทั้งลักษณะท่าทาง แต่ก็มีที่ต่างกันอยู่เหมือนกัน นั่นคือ ผมที่บางกว่าและส่วนสูงที่เตี้ยกว่าปลาย
เมื่อชายคนนั้นนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามปลาย หนุ่มผมตั้งก็ยกมือไหว้ขึ้น พร้อมพูดว่า
“สวัสดีครับพ่อ นัดผมมามีเรื่องอะไรหรือครับ?”
ชายคนนี้คือ พ่อของปลายนั่นเอง
ผู้เป็นพ่อมองดูลูกตัวเองสักพัก คลี่ยิ้มแล้วค่อยพูดตอบว่า “ก็ไม่มีอะไรหรอก อยากเจอหน้าแกน่ะ”
“หรือครับ... อยากเจอผม ทำไมไม่ไปหาที่บ้านล่ะครับ ไม่ต้องนัดผมมาหรอก เสียเวลาเปล่า ๆ”
ผู้เป็นพ่อเบ้หน้า “ก็มีคนไม่อยากเจอหน้าฉันน่ะสิ แกก็น่าจะรู้”
“รู้แล้วครับ” ปลายยิ้มขึ้นนิด ๆ “..แม่ไม่ว่าหรอกครับ วันนี้แม่ยังบ่นให้ฟังว่าไม่มีใครช่วยเค้าหาเงินเลย”
“งั้นเหรอ...” พ่อของปลายมองหน้า “พ่อก็โอนเงินเข้าบัญชีประจำทุกเดือนไม่ใช่หรือ?”
“ไม่รู้นะครับ” ปลายส่ายหน้าเล็ก ๆ “เห็นบอกว่าเงินไม่พอ เพราะเดี๋ยวนี้อะไร ๆ มันก็แพง” เขาหยุดพูดมองหน้าพ่อตัวเอง “ ..แล้วเมื่อไหร่พ่อจะรับแม่ไปอยู่ด้วยล่ะครับ ผมว่าแม่ก็รออยู่น้า..”
“อือ...” พ่อปลายแค่นเสียง “แกก็รู้ว่าฉันทำไม่ได้ แค่มาหาแกยังต้องแอบมาเลย”
ปลายเลิกคิ้ว ทำหน้ากวน ๆ “งั้นก็ต้องแอบมาหาผมกับแม่ตลอดเลยสิครับ?”
“ก็เออสิ” พ่อเขาตอบ “ถ้าบ้านนู้นรู้ ฉันตายแน่!!”
แม้จะมีการตอบโต้กันไปมาบ้าง แต่ดูแล้วทั้งสองก็พูดคุยกันได้อย่างสนิทสนมเลยทีเดียว พวกเขาคุยกันพลางจิบน้ำดื่มไปด้วย
“แล้วพวกลูกน้องพ่อไปไหนล่ะครับ ปกติต้องอยู่ไม่ห่างตัวพ่อนี่” ปลายพูดขึ้นต่อ
พ่อของปลายหันหน้าเอียงไปด้านหลังเล็กน้อย “พ่อให้พวกมันไปรออยู่แถวหน้าร้านน่ะ ไม่ได้ให้เข้ามาหรอก ไม่อยากให้พวกมันมายุ่ง” เขาพูดเสร็จก้มหน้าดูเมนู “แต่ว่าแกสั่งอะไรหรือยัง?”
“ยังเลยครับ พ่อสั่งได้เลย เอาตามใจพ่อนั่นแหละ“ ปลายฉีกยิ้มพลางก้มดูเมนู “เพราะวันนี้พ่อเป็นคนเลี้ยงใช่มั้ยครับ?”
ผู้เป็นพ่อมองหน้า คลี่ยิ้ม “แกนี่จริง ๆ เลย เหมือนแม่แกจริง ๆ”
“ก็ทำไงได้ล่ะครับ ผมมันแค่ลูกนักเขียนธรรมดา ไม่ใช่ลูกคุณนายท่านรัฐมนตรีนี่” ปลายยิ้มรับกวน ๆ
“หือ..” พ่อปลายเอียงคอเล็กน้อยมองลูกตัวเอง “เอาน่า อย่างไรแกก็เป็นลูกฉัน”
พวกเขาคุยกันไปตามประสาพ่อลูก ไม่นานอาหารที่สั่งก็ถูกนำมาส่ง ปลายเห็นอาหารที่อยู่ตรงหน้าย่อมทนไม่ไหว บวกด้วยความที่ไม่ค่อยได้กินอาหารดี ๆ อย่างนี้ เขาเลยตั้งหน้าตั้งตากินใหญ่ ทำให้เวลาพ่อของเขาพูดคุยด้วยแล้วตัวเองต้องพูดตอบ บางทีมันดูเหมือนว่าพูดไปกินไป จึงโดนพ่อตัวเองว่ากล่าวเป็นระยะ
ทั้งสองทานอาหารไปได้สักพัก พ่อปลายก็เอ่ยขึ้นมาว่า “เห็นหน้าแกทีไร ..คิดถึงเรื่องเมื่อตอนนั้นทุกทีสิ”
ปลายเงยหน้าขึ้นมาหลังจากก้มกินอาหารอยู่ “เรื่องอะไรหรือครับ?”
“เรื่องที่แกถูกลักพาตัว สมัยก่อนที่พ่อยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรีไงล่ะ”
“อ้อ... เรื่องนั้นเอง” ปลายพยักหน้า เหมือนจะพอรู้แล้ว “แต่ก็เพราะเรื่องนั้นไม่ใช่หรือครับ ..ที่ทำให้พ่อกับแม่ไม่ยอมเจอกัน”
(มีต่อครับ)