เกมรักพิศวง 3 พ่อครัวป้ายแดง

กระทู้สนทนา
บทที่ 1
https://ppantip.com/topic/38502853

บทที่ 2
https://ppantip.com/topic/38505599

ท้ายบทที่แล้ว
  [...อย่าเพิ่งอารมณ์เสีย เรายังคุยกันได้ในระหว่างรอเล่นเกม...]
             กด 1 เพื่อยอมรับ
             กด 2 เพื่อปฏิเสธ

...................


    
            บ้าอะไรอีก! เกมจะมาคุยกับคนเล่น ชายหนุ่มขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน จ้องมองอย่างไม่เชื่อกับการเดาทางของโปรแกรมราวกับจะล่วงรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ หลังจากนั่งมองสักพักหนึ่งข้อความบนจอยังกะพริบไม่หายไปไหน

             เกมรอการตัดสินใจ

             “ฉันอยากเล่นเกม ไม่ได้อยากคุยกับแกโว้ย”  ชายหนุ่มตะโกนใส่หน้าจอ ไม่สนใจกดอะไรทั้งนั้น ทำท่าจะปิดคอมพิวเตอร์อย่างหัวเสีย บนจอมีข้อความเพิ่มขึ้นมาอีก พร้อมกับเสียงดัง ปี๊บๆ อย่างเร่งเร้าจากลำโพงรูปอิโมติคอนหน้ากลมทำท่าฉงนแบบกวนๆ  ลอยวนไปมาเหมือนท้าทาย

             […คุณแน่ใจว่าจะออกจากโปรแกรม…]

             “ฉัน ไม่ อยาก คุย กับ แก...”    เขาจงใจพูดช้าๆ ทีละคำใส่หน้าจอ นิ้วกดปุ่มหมายเลข 2 ทันที ทุกอย่างหายไปจากหน้าจอ ก่อนจะมีข้อความใหม่โต้ตอบกลับมา

             […เสียใจด้วย คุณหมดโอกาสรู้ข้อมูลดีๆแล้ว...]

             เกมบ้าอะไรกันถึงตลกร้ายกับคนเล่นขนาดนี้ หน้าจอปรากฏรูปอิโมติคอนหน้ากลมดิก ยักคิ้วหลิ่วตาอย่างล้อเลียน กระเด้งกระดอนกระทบขอบจอไปมาก่อนดับวูบไป

             กวนประสาทดีชะมัด!

             หลังจากนั่งทำใจให้สงบ ก็รู้สึกว่าตัวเองคิดผิด ในเมื่อเกมมันเปิดโอกาสให้พูดคุยแล้ว ทำไมถึงละทิ้งโอกาสงามๆ หลุดหายไปต่อหน้าต่อตา ทำไมไม่ถามมันเรื่องความมีตัวตนของหญิงสาวคนนั้น ว่าเธอเป็นมนุษย์ หรือเป็นเพียงยูนิตเกม ถ้าเป็นคนเธออยู่ตรงไหนของโลก และวัตถุประสงค์ของเกมคืออะไร

             นึกมาแล้วก็รู้สึกเสียดาย ไม่น่าพลาดเลย...และที่แน่ๆ ต้องรอเวลาเล่นเกมชนิดข้ามวันเลยทีเดียว


เช้ามืดวันต่อมา  

             ลำโพงคอมพิวเตอร์เริ่มส่งเสียงเพลงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ชายหนุ่มตาสว่าง กระโดดผลุงลงจากเตียง  หายง่วงเป็นปลิดทิ้งแม้จะเพิ่งตื่นนอน ผวาไปนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยอาการหัวใจเต้นแรง พบว่าเกมกำลังเริ่มต้นขึ้นพอดี ปรากฏภาพห้องนั่งเล่นบรรยากาศมืดสลัวจากแสงไฟดวงเล็ก การรอคอยยาวนานสิ้นสุดลงเสียที ไม่ต้องอาบน้ำแปรงฟันกัน

             ลองเลื่อนภาพเข้าไปในห้องนอน ก็เดาได้ว่าเธอยังไม่ตื่น เพราะห้องยังปิดไฟมืดสนิท นึกเสียดายอีกตามเคย ตัดใจเลื่อนเมาส์ไปสำรวจดูห้องอื่นจนทั่วทุกซอกทุกมุมเป็นการรอเวลา ห้องพักของเธอจัดไว้อย่างเรียบร้อย เหมาะสำหรับหญิงสาวพักอาศัยอยู่เพียงคนเดียว ลักษณะการแบ่งโซนจัดที่พักแบบเรียบง่าย

             จากการสำรวจไปมา พบว่ามีห้องใหม่เพิ่มขึ้นมา คราวนี้เป็นห้องครัว

             เอาละ ได้ห้องเพิ่มมาอีกห้องแล้ว หมายถึงมีการพัฒนา เขายิ้มกริ่ม แม้ยังไม่รู้ว่าห้องครัวเพิ่มมาทำไม  ลองเลื่อนเมาส์ไปประตูห้องครัว ภาพตัดวูบเปลี่ยนเป็นภายในห้องครัวห้องครัวที่มีอุปกรณ์ทำครัวแขวนวางเรียงราย ตัวหนังสือสีขาวปรากฏขึ้นบนจอ

             [...คุณต้องการทำอาหารเช้ารอเธอหรือไม่...]
             กด 1 เพื่อยอมรับ
             กด 2 เพื่อปฏิเสธ

             ชายหนุ่มนั่งหน้าเอ๋อไปพักหนึ่ง งานเข้าแล้ว... ทำอาหาร...?

             จ้องมองข้อความในจอมอนิเตอร์อย่างงุนงง คิดในใจว่าทำไมต้องมาทำอาหารในเกมด้วย มันคิดอะไรของมัน จะให้ตูข้าคนนี้น่ะนะ มาเสียเวลานั่งทำอาหารในเกม มากไป มากไป...

             [...ถ้าไม่ทำอาหาร เกมจะปิดตัวลงในเวลา 10 วินาที...]

             ข้อความสีขาวปรากฏกะพริบเตือน  แบบนี้มันขู่แกมบังคับกันชัดๆ! ทั้งหงุดหงิดทั้งขำ บอกมาดีๆก็สิ้นเรื่อง รู้ก็รู้ว่าไม่อยากให้ปิดเกม ทำเป็นมาถาม ไม่ใช่เด็กผู้หญิงนะเฟ้ย! จะมาเล่นเกมทำอาหาร...แต่เมื่อคิดได้ว่าเกมเริ่มโต้ตอบและมีความคืบหน้า ก็ไม่ควรอยู่เฉย ตัดสินใจได้ทันที รีบเลือกกดปุ่ม 1 บนแป้นพิมพ์แทบไม่หายใจหายคอ ลองดูสักตั้งก็ได้ ให้มันรู้กันไป

             […กรุณาเลือกรายการอาหาร…]

             ถึงตอนนี้ชายหนุ่มใจหายวาบ อยากจะบีบคอตัวเองให้ตาย กับรายการเมนูอาหารที่ไล่เรียงรายบนหน้าจอ เรื่องเข้าครัวเขาเชี่ยวชาญเพียงการกินเท่านั้น เจียวไข่ยังติดกระทะ ต้มไข่ยังติดเปลือก ทุกวันนี้ต้องใช้วิธี ‘ผูกปิ่นโต’ ซึ่งหมายถึงการเหมาจ่ายค่าอาหารเป็นรายเดือน แลกกับการรับส่งปิ่นโตอาหารถึงหน้าห้องทุกเช้าเย็น

             วิธีนี้สะดวกสบาย ไม่ต้องยุ่งยากกับการทำครัว แค่เปิดประตูบ้านก็เจอปิ่นโตข้าวเสนอหน้าวางรอหน้าห้อง ไม่ต้องเสียเวลาล้างถ้วยชาม
แต่เวลานี้ต้องมาทำอาหาร แม้จะเป็นการทำผ่านเกมก็ตามเถอะ

             หลังจากนั่งคิดครู่หนึ่งก็ตัดสินใจเด็ดขาด ชักช้าประเดี๋ยวเกมมันขู่เอาอีก ทำผิดทำถูกไม่เห็นเป็นไร คิดว่าเป็นเกมเท่านั้นจะได้ไม่เครียด

             ลองเลือกเมนูอาหารที่คิดว่าอร่อยและทำได้ง่าย คิดในใจว่า ลองบ้ากับมันสักพักไม่เห็นเป็นไร... วันนี้ไม่ต้องไปไหนกัน

             หลังจากนั้นเกือบครึ่งชั่วโมง พ่อครัวมือใหม่ผู้มุ่งมั่นก็วุ่นวายอยู่กับอัตราส่วน เครื่องปรุง ผักและเนื้อนานาชนิดตามเมนูบนจออย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ก็สามารถจัดการภารกิจเรื่องอาหารจนเรียบร้อยได้ในที่สุด แม้ว่าจะต้องปาดเหงื่อบนใบหน้าหลายครั้ง

             อาหารเช้าจัดวางเรียงรายบนโต๊ะอาหารเมื่อจบขั้นตอน ประกอบด้วยข้าวสวยร้อนๆ หมูทอดกระเทียมพริกไทย แกงจืดวุ้นเส้น ข้าวต้มทะเล และน้ำหนึ่งแก้ว

             […ไม่ค่อยได้เรื่อง...หมูทอดกระเทียมพริกไทยแต่เช้าเลย]

             ตัวหนังสือต่อว่าปรากฏบนจอมอนิเตอร์ทำเอาชายหนุ่มยิ้มเจื่อนๆให้กับตัวเอง ก่อนหันไปแยกเขี้ยวตะคอกเสียงขุ่นใส่หน้าจอ

             “แกมายุ่งอะไรฟะ รู้ได้ไงว่าไม่ได้เรื่อง? ช่วยก็ไม่ช่วย...ฉันไม่อยากคุยกับแกสักหน่อย”

             ราวกับโปรแกรมเกมจะได้ยิน หน้าจอปรากฏภาพหน้ากลมทำหน้าเบ้จะอ้วก ก่อนยักคิ้วยิ้มล้อเลียนและจางหายไปพร้อมกับตัวอักษร
เอาเข้าไป! เขานึกในใจ อย่าบอกนะว่าแกได้ยินฉันพูด!

             พออาหารจัดวางเรียงบนโต๊ะ เธอคนนั้นก็ตื่นและอาบน้ำแต่งตัวเสร็จพอดี เมื่อเข้ามาห้องครัวครั้งแรกหญิงสาวไม่ทันสังเกตเห็นอาหารวางอยู่บนโต๊ะ แต่ชะงักทำท่าแปลกใจ ไม่กล้าเข้าใกล้โต๊ะอาหาร ท่าทางเหมือนได้กลิ่นอะไรสักอย่าง หันหน้าไปมาราวกับจะค้นหาคำตอบว่าอาหารบนโต๊ะมาจากไหน

             "ผมอยู่นี่  ฝีมือผมเอง" เขากระซิบอย่างภูมิใจกับจอภาพ พยายามสื่อความรู้สึก แล้วก็นึกขำกับอาการตัวเอง   หญิงสาวหันมาสบตาโดยบังเอิญ แต่ดูเหมือนเธอไม่รู้ว่ามีคนกำลังแอบเฝ้ามอง    แน่ล่ะ! ก็เธอเป็นเพียงตัวละครในเกมเท่านั้นนี่นา จะมองเห็นคนเล่มเกมได้อย่างไร

             พ่อครัวมือใหม่เฝ้าสังเกตชนิดแทบไม่คลาดสายตา หญิงสาวรีๆรอๆ ด้วยท่าทางระแวงภัย สีหน้าไม่ดีเต็มไปด้วยอาการครุ่นคิด ทำให้ผู้คอยเฝ้ามองเริ่มใจคอไม่ดีไปด้วย  

             เวลาผ่านไปหลายนาทีก่อนหญิงสาวจะตัดสินใจเดินไปยังโต๊ะอาหาร นั่งลงอย่างแช่มช้า ระมัดระวังทุกย่างก้าวจนดูแทบเกินความจำเป็น แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากกับกิริยาที่ค่อนข้างผิดธรรมชาตินั้น เธอพินิจพิจารณาอาหารที่วางอยู่ด้วยความงุนงงแกมหวาดระแวง ต่อมาจึงค่อยเอื้อมมือหยิบจานไปใกล้ตัว คลำหาช้อน ทำท่าลังเลอยู่นาน ก่อนตักอาหารชิมอย่างเชื่องช้าผิดปกติวิสัยการกินอาหารของคนทั่วไป

             เป็นกิริยาอาการแปลกประหลาดดี ตัวละครในเกมกินข้าวอย่างนี้หรอกหรือ  พอกลืนอาหารคำแรก หญิงสาวในเกมทำหน้าพะอืดพะอม แล้วรีบวางช้อนทันที  ไม่ต้องทายก็รู้ว่ารสชาติอาหารจะถูกใจขนาดไหน

             “อ่า...! ฝีมือทำอาหารผมแย่ ขนาดนั้นเลยเหรอ”

             ชายหนุ่มส่ายหน้ายิ้มเจื่อน เกาหัวตัวเองไปมาก่อนลุ้นต่อไป อาจเป็นไปได้ว่าเขามองเห็นน้ำตาลเป็นเกลือ เห็นช้อนชาเป็นช้อนโต๊ะ แกงจืดเลยกลายเป็นแกงเผ็ด เลือกรายการเครื่องปรุงไม่ถูกต้อง นึกดีใจที่ไม่เลือกเมนูของต่างประเทศของจีน อินเดีย หรืออัฟกานิสถาน ซึ่งคงจะหนักกว่านี้

             ก็แน่ล่ะ! เคยทำอาหารแบบนี้กินเองเสียที่ไหน

             หญิงสาวนั่งนิ่งครู่หนึ่ง ท่าทางเหมือนกำลังคิดบางอย่าง หยิบแก้วน้ำข้างตัวขึ้นมาจิบ หันไปทางอาหารบนโต๊ะอย่างชั่งใจ คงสงสัยว่ามีอาหารมาวางอยู่บนโต๊ะได้อย่างไร ท่าทางลังเลใจอีกครั้งก่อนตักอาหารทานต่ออีกสองสามคำจึงค่อยลุกขึ้น นำจานชามไปล้างในห้องครัว เขาเสียดายอาหารที่เธอเททิ้งอยู่บ้าง แต่ก็ต้องทำใจยอมรับกับฝีมือการทำอาหารของตนเอง ขนาดตัวละครในเกมยังไม่เข้าถึงรสชาติ ถ้าเป็นคนจริงจะขนาดไหน นึกเสียใจว่าสมัยเรียนหนังสือไม่ได้สนใจวิชาคหกรรม ก็ใครจะไปคิดว่าจะมีโอกาสเอาความรู้เรื่องการทำอาหารมาใช้งาน มันเป็นเรื่องของพวกผู้หญิงไม่ใช่หรือ
    
             แต่ไม่เป็นไร ไว้มื้อหน้าจะแก้ตัวใหม่ ไม่ยอมแพ้หรอก

             หลังจากการเข้าไปแต่งตัวในชุดเสื้อผ้าเรียบๆ แต่ดูออกว่าเธอจะต้องออกนอกบ้าน หญิงสาวเดินตรวจดูประตูหน้าต่างอย่างละเอียดลออ  สัมผัสดูประตูหน้าต่างราวกับให้แน่ใจในความมั่นคง ท่าทางยังคงสงสัยไม่หายว่าใครมาทำอาหารเช้าไว้ให้ถึงในบ้าน เป็นใครก็คงงุนงงสงสัยหวาดกลัวด้วยกันทั้งนั้น

             เพราะหมายถึงว่ามีใครคนหนึ่งสามารถเข้าออกในบ้านได้อย่างตามใจชอบ น่าไว้ใจเสียเมื่อไรกัน โดยเฉพาะกับหญิงสาวที่อยู่เพียงลำพัง

             “ผมไม่ใช่คนร้ายจะคิดทำไม่ดีกับคุณนะครับ” ชายหนุ่มเผลอพูดเสียงดังใส่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เมื่อสังเกตความไม่ไว้ใจเรื่องความปลอดภัย แน่นอนว่าเธอคนนั้นไม่มีทางจะได้ยิน ถ้าได้ยินก็บ้ากันใหญ่แล้ว

             แต่เขาเองก็อดสงสัยในพฤติกรรมอันใกล้บ้าของตัวเองเหมือนกัน มีอย่างที่ไหน พูดจาพูดจาปราศรัยกับเกมด้วยน้ำเสียงจริงจังเป็นเรื่องเป็นราว ต้องเป็นห่วงกังวลใจกับตัวละครในเกมขนาดนี้

             […หมดเวลาเล่นเกม คุณต้องรอจนกว่าเธอกลับบ้าน...]

             ข้อความปรากฏบนจอก่อนดับวูบหายไป กลับเข้าสู่หน้าจอตามปกติ

             “ไอ้บ้า....”   เขาสบถอย่างขุ่นเคือง ขณะนึกภาพตัวเองไล่เตะคนเขียนโปรแกรมอย่างสาแก่ใจ เธอไปไหน จะกลับมาเวลาไหนก็ไม่รู้ คงจะต้องเปิดหน้าจอทิ้งเอาไว้ รอเวลาให้โปรแกรมเปิดทำงานเองอย่างไม่มีทางเลือก เพราะเจ้าเกมประหลาดมันทะลึ่งทำงานแบบตามใจตัวเอง

            ชายหนุ่มพยายามสงบใจ อย่างน้อยก็มีเวลาขบคิดว่าจะจัดการอย่างไรต่อไป ต้องทำให้ตัวละครรู้สึกถึงความปลอดภัย ไม่มีการคุกคามหรืออันตรายใดๆ ปกป้องดูแลตัวละครสาวให้อยู่รอดปลอดภัย

             คงต้องรอเวลาสักระยะหนึ่ง โปรแกรมตัวแสบอาจจะรับรู้ความปรารถนาดีของคนเล่น

             “หรือเราจะบ้าจริงนี่?”  ชายหนุ่มนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์พลางหัวเราะเสียงดังกับความคิดของตัวเอง “ทำไมเรามากังวลสนใจกับเกมจนไม่ต้องทำมาหากินขนาดนี้วุ้ยเรา...”

             อย่างไรก็ตามหลายวันต่อมา หลังการเฝ้ารอเล่นเกมอย่างใจจดใจจ่อ และความพากเพียรชนิดแทบไม่ต้องทำอะไรนอกจากรอและเล่นเกม ภารกิจของเขาในแต่ละวันเพิ่มมากขึ้น เกมเริ่มเปิดช่องทางให้เข้าไปมีส่วนร่วมขึ้นอีกระดับหนึ่ง นอกจากทำอาหารแล้วยังสามารถเลือกจัดห้อง ปัดกวาดเช็ดถูเพื่อแบ่งเบาภาระ  

             เพื่อแสดงความมุ่งมั่น ชายหนุ่มถึงกับตัดใจลงทุนไปซื้อหนังสือคู่มือการทำอาหารเมนูเด็ด หนังสือเกี่ยวกับการจัดตกแต่งห้องมาศึกษาหลายเล่ม รู้สึกดีใจเมื่อเห็นเธอดูมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ท่าทางหวาดระแวงค่อยหายไปตามวันเวลา  

             เวลานี้เขาเริ่มเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำอาหารและการจัดบ้าน ทุ่มเทการศึกษาตำรายิ่งกว่าการเตรียมตัวเข้าสอบเสียอีก   ชายหนุ่มพยายามเลือกทำอาหารง่ายๆ ไว้รอเธอทุกเช้า เริ่มเรียนรู้ว่าผู้หญิงนิยมเมนูอะไร แน่ล่ะ! เขายังไม่เก่งพอจะทำอาหารเมนูเด็ดเชิญชวนชิมให้เธอลิ้มลอง ต้องใช้เวลาสักนิด  


จบบทที่ 3
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยือนครับผม^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่