ตอนแรกตั้งใจจะส่งในชื่อ ถุงมือศิวิไลซ์ แต่ยกเลิกไปก่อนครับ เพราะลายมือมันโจ่งแจ้งไปนิด
เรื่อง ในมุมมองของพระเจ้า
เสียงก้าวเท้าเป็นจังหวะของหญิงวัยทำงานเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งหยุดที่หน้าประตูห้อง1507
เธอควานหาคีย์การ์ดในกระเป๋าสะพายมารูด ประตูเปิดออกและปิดโดยอัตโนมัติโดยตัวตรวจจับความร้อน
แสงธรรมชาติส่องผ่านผ้าม่านสีสดใส เธอถอดรองเท้าวางไว้ที่ชั้น วางกระเป๋าบนเคาน์เตอร์โดยไม่หยุดเดิน
ภายในห้องที่ตกแต่งอย่างเก๋ไก๋สไตล์โพสต์โมเดิร์น เธอเดินอ้อมชุดโซฟาไปที่ตู้เย็นแล้วเปืดมันออก
คว้าขวดน้ำเย็นเจี๊ยบมาดื่มและเก็บมันไว้ที่เดิม ก่อนจะหันไปมองทางขวา
ไม่ห่างจากตู้เย็นนัก มีคอมพิวเตอร์ที่กำลังทำงานอยู่บนโต๊ะไม้ กลุ่มสายไฟด้านหลังถูกมัดไว้อย่างเรียบร้อย
ใกล้ๆจอภาพสีดำขนาดใหญ่ มีใครคนหนึ่งในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ฟุบอยู่กับโต๊ะคล้ายสลบไสล
"ถึงไหนละ.." ผมเงยหน้าขึ้นจากแขนของตัวเอง มามองหน้าเจ้าของคำถาม
แล้วสบัดแขนและขยับมันสักครู่หนึ่ง ก่อนจะโปรยนิ้วลงบนแป้นพิมพ์ จอภาพรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในช่วงที่หลับ
"เอ่อ...." ผมอ่านค่าอย่างรวดเร็ว แล้วหันหน้าไปบอก "เริ่มสร้างหมู่บ้านแล้วครับ ท่าทางจะค้นพบการใช้ดินปืนด้วย"
"อืม..เห็นแล้วค่ะ คุณไปนอนเถอะ ฉันจัดการต่อเอง" โปรแกรมเมอร์หมายเลขหนึ่งมองที่จออย่างสนใจ
ผมไถลตัวไปที่ตู้เย็นด้วยเก้าอี้ติดล้อ เปิดประตูหยิบน้ำเย็นในภาชนะแก้วใสออกมาซดแก้กระหาย
แล้ววางกลับไปที่เดิม โปรแกรมเมอร์หมายเลขหนึ่งลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งมองจอ และเริ่มพรมนิ้วบ้าง
แต่ดูแตกต่างราวกับศิลปินนามอุโฆษกำลังบรรเลงมนต์ขลังผ่านแกรนด์เปียนโน
"นี่..." เธอหันมามองผม "จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันเร่งความเร็วขึ้นอีกร้อยเท่า" เธอถามความเห็นผม
"เอ่อ..คอมพิวเตอร์อาจจะรับไม่ไหวนะครับ แล้วเราอาจจะไม่ทันสังเกตการณ์ด้วย"
เธอพ่นลมออกจากจมูก หันมามองหน้าผมด้วยแววตาที่ผมไม่เข้าใจ "เรื่องนั้นไม่ลองก็ไม่รู้นะ"
พอเธอกดenter ผมก็รีบไถลกลับมาเกาะติดจอทันที ตัวเลขแสดงเวลาเริ่มหมุนติ้ว
จากหมู่บ้านกลายเป็นเมือง เทคโนโลยีหลายอย่างถูกค้นพบอย่างรัวๆ มีการรุกรานเมืองใกล้เคียงหลายครั้ง
เพื่อแย่งทรัพยากร "โอ้ยยยย" ผมร้องเนื่องจากตามไม่ทัน ได้แต่หันหน้าไปมองโปรแกรมเมอร์หมายเลขหนึ่ง
ซึ่งดูเหมือนจะค้างไปแล้ว "Shiftหาย" ผมสบถพลางแย่งเมาส์ในมือเธอมาคลิกที่planet view
ที่หน้าจอ ลูกบอลสีฟ้าขาวหมุนรอบตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ผมคลิกเมาส์อีกครั้ง เพื่อหยุดการหมุนอัตโนมัติ
และเฝ้ามองเชื้อโรคสีขาวลุกลามไปทั่วลูกบอล ตามมาด้วยจุดแสงวูบวาบ มีจุดหนึ่งใหญ่กว่าเพื่อน
ผมร้องเฮัยโดยอัตโนมัติ เมื่อได้กลิ่นเหม็นใหม้กับกลุ่มควันสีดำที่ลอยออกมาจากคอมพิวเตอร์
หันมามองจออีกที ลูกบอลเริ่มสลัดขนออกแล้วดูดขนเข้าไปข้างใน ก่อนจะพองตัวออกหลายเท่า
แล้วแตกกระจายเป็นจุลกลับสู่ความว่างเปล่า เพราะหน้าจอดับไปแล้ว
โปรแกรมเมอร์หมายเลขหนึ่งกับหมายเลขสอง หันหน้ามามองกันในสภาพอ้าปากค้าง
เรื่องสั้นที่ไม่ได้ลงใน the weekly gloves เอามาวางให้อ่านดูครับ
เรื่อง ในมุมมองของพระเจ้า
เสียงก้าวเท้าเป็นจังหวะของหญิงวัยทำงานเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งหยุดที่หน้าประตูห้อง1507
เธอควานหาคีย์การ์ดในกระเป๋าสะพายมารูด ประตูเปิดออกและปิดโดยอัตโนมัติโดยตัวตรวจจับความร้อน
แสงธรรมชาติส่องผ่านผ้าม่านสีสดใส เธอถอดรองเท้าวางไว้ที่ชั้น วางกระเป๋าบนเคาน์เตอร์โดยไม่หยุดเดิน
ภายในห้องที่ตกแต่งอย่างเก๋ไก๋สไตล์โพสต์โมเดิร์น เธอเดินอ้อมชุดโซฟาไปที่ตู้เย็นแล้วเปืดมันออก
คว้าขวดน้ำเย็นเจี๊ยบมาดื่มและเก็บมันไว้ที่เดิม ก่อนจะหันไปมองทางขวา
ไม่ห่างจากตู้เย็นนัก มีคอมพิวเตอร์ที่กำลังทำงานอยู่บนโต๊ะไม้ กลุ่มสายไฟด้านหลังถูกมัดไว้อย่างเรียบร้อย
ใกล้ๆจอภาพสีดำขนาดใหญ่ มีใครคนหนึ่งในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ฟุบอยู่กับโต๊ะคล้ายสลบไสล
"ถึงไหนละ.." ผมเงยหน้าขึ้นจากแขนของตัวเอง มามองหน้าเจ้าของคำถาม
แล้วสบัดแขนและขยับมันสักครู่หนึ่ง ก่อนจะโปรยนิ้วลงบนแป้นพิมพ์ จอภาพรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในช่วงที่หลับ
"เอ่อ...." ผมอ่านค่าอย่างรวดเร็ว แล้วหันหน้าไปบอก "เริ่มสร้างหมู่บ้านแล้วครับ ท่าทางจะค้นพบการใช้ดินปืนด้วย"
"อืม..เห็นแล้วค่ะ คุณไปนอนเถอะ ฉันจัดการต่อเอง" โปรแกรมเมอร์หมายเลขหนึ่งมองที่จออย่างสนใจ
ผมไถลตัวไปที่ตู้เย็นด้วยเก้าอี้ติดล้อ เปิดประตูหยิบน้ำเย็นในภาชนะแก้วใสออกมาซดแก้กระหาย
แล้ววางกลับไปที่เดิม โปรแกรมเมอร์หมายเลขหนึ่งลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งมองจอ และเริ่มพรมนิ้วบ้าง
แต่ดูแตกต่างราวกับศิลปินนามอุโฆษกำลังบรรเลงมนต์ขลังผ่านแกรนด์เปียนโน
"นี่..." เธอหันมามองผม "จะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันเร่งความเร็วขึ้นอีกร้อยเท่า" เธอถามความเห็นผม
"เอ่อ..คอมพิวเตอร์อาจจะรับไม่ไหวนะครับ แล้วเราอาจจะไม่ทันสังเกตการณ์ด้วย"
เธอพ่นลมออกจากจมูก หันมามองหน้าผมด้วยแววตาที่ผมไม่เข้าใจ "เรื่องนั้นไม่ลองก็ไม่รู้นะ"
พอเธอกดenter ผมก็รีบไถลกลับมาเกาะติดจอทันที ตัวเลขแสดงเวลาเริ่มหมุนติ้ว
จากหมู่บ้านกลายเป็นเมือง เทคโนโลยีหลายอย่างถูกค้นพบอย่างรัวๆ มีการรุกรานเมืองใกล้เคียงหลายครั้ง
เพื่อแย่งทรัพยากร "โอ้ยยยย" ผมร้องเนื่องจากตามไม่ทัน ได้แต่หันหน้าไปมองโปรแกรมเมอร์หมายเลขหนึ่ง
ซึ่งดูเหมือนจะค้างไปแล้ว "Shiftหาย" ผมสบถพลางแย่งเมาส์ในมือเธอมาคลิกที่planet view
ที่หน้าจอ ลูกบอลสีฟ้าขาวหมุนรอบตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ผมคลิกเมาส์อีกครั้ง เพื่อหยุดการหมุนอัตโนมัติ
และเฝ้ามองเชื้อโรคสีขาวลุกลามไปทั่วลูกบอล ตามมาด้วยจุดแสงวูบวาบ มีจุดหนึ่งใหญ่กว่าเพื่อน
ผมร้องเฮัยโดยอัตโนมัติ เมื่อได้กลิ่นเหม็นใหม้กับกลุ่มควันสีดำที่ลอยออกมาจากคอมพิวเตอร์
หันมามองจออีกที ลูกบอลเริ่มสลัดขนออกแล้วดูดขนเข้าไปข้างใน ก่อนจะพองตัวออกหลายเท่า
แล้วแตกกระจายเป็นจุลกลับสู่ความว่างเปล่า เพราะหน้าจอดับไปแล้ว
โปรแกรมเมอร์หมายเลขหนึ่งกับหมายเลขสอง หันหน้ามามองกันในสภาพอ้าปากค้าง