ขอปรึกษาผู้มีความรู้ ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายนะคะ อิอิ

IF หรือ Intermitent fasting หรือการทานอาหารอย่างจำกัดเวลาตามที่กำหนด ในที่นี้มีหลายสูตร 16/8 20/4 ว่ากันไป...

เค้า(ผู้ที่เคลมว่าตนเป็นผู้เชี่ยวชาญ มีรูปร่างดี ทำยูทูป)ว่ากันว่า... การทำIF จะไปช่วยเพิ่มกระบวนการดึงไขมันมาใช้ เพราะช่วงเวลาที่เราไม่ทานอาหารนั้น แน่นอน อินซูลิน(ฮอร์โมนลดน้ำตาล)จะต่ำลง และกลูคากอน(ฮอร์โมนเพิ่มน้ำตาล)จะเพิ่มสูงขึ้นแทน ส่งผลให้มีการนำไขมันมาใช้ในช่วงเวลาที่เราไม่ได้ทานอาหาร ในขณะที่เวลาทานอาหารเราก็ทานให้มากตามที่ร่างกายต้องการตามปกติ(ดูแคลอรี่)

...นั่นแปลว่า ยิ่งเวลาที่เราไม่ได้ทานอาหารมากเท่าไหร่(ต้องเหมาะสมด้วยนะ) ยิ่งดี เพราะจะเป็นการนำไขมันมาใช้

ส่วนความรู้เดิมที่เรามีอยู่...นั่นคือการแบ่งอาหารเป็นมื้อย่อยๆ อันนี้เข้าใจง่ายๆ พูดง่ายๆ นั่นก็คือ เค้าว่ากันว่า(ผู้เชี่ยวชาญ/ผู้คุมอาหารวิธีนี้แล้วได้ผล) มันจะช่วยเพิ่มระบบเผาผลาญ แต่ต้องทานให้เหมาะสมครบตามที่ร่างกายเราต้องการด้วยนะ เลือกทานหน่อยๆ ไม่ใช่ไก่ทอด หมูสามชั้น...

ถามง่ายๆค่ะ แบบไหนเชื่อได้ แบบไหนดีกว่ากัน แบบไหนได้ผล ไม่ได้ให้ผลเสียต่อร่างกายมากนัก แต่ละวิธีมีข้อจำกัดอย่างไร ประมาณนี้ค่ะ

ส่วนตัว อาจจะเลือกวิธีfasting 16/8ในช่วงแรก ทานตั้งแต่07.00-15.00น. ช่วงนั้นจะไม่ออกกำลังกาย(กลัวเรื่องไม่ทานข้าวเช้าค่ะ ที่เคยฟังๆมา ขาดข้าวเช้าจะมีผลเสียต่างๆตามมามากมาย หนึ่งในนั้นคือโรคอัลไซเมอร์) พอลดน้ำหนักมาได้สักพักจนน้ำหนักเริ่มไม่ลง ก็จะเริ่มค่อยๆเพิ่มอาหารค่ะ IF ไม่กะจะทำนานเพราะกลัวระบบจะพัง(จากที่เคยทราบมา...ถ้าเราอดอาหาร ร่างกายเราจะเข้าสู่โหมดของการดึงพลังงานมาใช้น้อยๆ หรือแทบไม่ใช้เลย) บวกกับเริ่มออกกำลังกาย เพราะเหมือนหลอกร่างกายตัวเอง ร่างกายเราฉลาด เราจะต้องเอาชนะมันด้วยการมีไม้ตายมาสู้กับมันเสมอค่ะ

วิธีนี้ถูกมั้ยคะ...

คำถามสุดท้าย สงสัยจริงๆ พวกที่ทำ IF 16/8 หรือ 20/4ก็ดี แต่กลับไม่ทานข้าวเช้า มาทนเอาตอนเที่ยงแทน แบบนี้จะดีหรอคะ ไม่เป็นอัลไซเมอร์หรอ...

ขอบคุณค่า มาคุยกันค่ะๆ😊😊😊