กินยังไงไม่ให้อ้วน? คำถามโลกแตกที่หลายๆคนมักจะเกินขึ้นเวลาอยากกินบุฟเฟ่ต์หรืออาหารในปริมาณเยอะมากๆ วันนี้เลยอยากรวบรวมวิธีการกินของตัวเองที่สามารถควบคุมน้ำหนักไม่ให้ขึ้นหรือลงได้มาฝาก ขอบอกก่อนนะว่าปกติเป็นคนที่ทุกๆเดือนจะต้องกินบุฟเฟ่ต์ไม่ต่ำกว่า 3-4 ครั้ง เฉลี่ยอาทิตย์ละครั้งนั้นเอง ส่วนเหตุผลที่เลือกร้าน FUFU Shabu เพราะได้รับแจกคูปองกินฟรีจากกิจกรรมพิเศษ อยากรู้ว่ากิจกรรมอะไรติดตามที่หน้าแฟนเพจนะคะ (ขายเก่งงงง)
มาทำความเข้าใจกันก่อน
- การคุมน้ำหนักไม่ใช่การลดน้ำหนัก เป็นการคงที่น้ำหนักของตัวเองไม่ให้สวิงจากเดิม
- อาหารในร้านบุฟเฟ่ต์สามารถหยิบได้ทุกอย่างก็จริง แต่ก็ควร”เลือกกิน”อย่างเหมาะสม
- ร่างกายผู้ชาย 2,000 แคลลอรี่ก็กินแค่ประมาณ 1,500 แคลลอรี่
- ร่างกายผู้หญิง 1,600 แคลลอรี่ก็กินแค่ประมาณ 1,000 แคลลอรี่
คำถามคือแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าอะไรให้พลังงานเท่าไหร่ ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันที่สามารถคำนวณได้แล้ว และอีกวิธีคือการกะปริมาณด้วยตัวเองค่ะ
1.เนื้อสัตว์
เคยสังเกตุไหมวันไหนที่ไปกินบุฟเฟ่ต์แล้วซัดแต่เนื้อมักจะเกิดอาการท้องอืด และน้ำหนักขึ้นเยอะ อึไม่ออก นั้นก็เพราะเนื้อสัตว์ค่อนข้างย่อยยาก ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน แนะนำว่าควรกินผักให้ได้อย่างน้อย 2 ใน 3 ของปริมาณเนื้อที่กินเข้าไป แต่ถ้าใครที่อยากกินแบบคุมน้ำหนักแนะนำว่าเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ ควรเอาส่วนที่เป็นไขมัน Fat ออกไป สมมุติว่า
- เนื้อวัวสไลด์ติดมันปกติ 10 ชิ้นในจานให้พลังงาน 300 แคลลอรี่ถ้าตัดส่วนมันออกได้จะเหลือเพียง 2 ใน 3 ของแคลลอรี่ทั้งหมด หรือก็คือ 200 แคลลอรี่นั้นเอง
- เบคอนของโปรดของใครหลายๆคน อยากบอกว่าแคลลอรี่สูงมากนะ แค่ 2 สไลด์ก็ล่อไปประมาณ 200 แคลลอรี่แล้ว ถ้ากิน 10 ชิ้นก็ 2,000 แคลลอรี่เยอะมากกกกกกกกกกก
- เนื้อหมูติดมัน ประมาณ 400 แคลลอรี่ เยอะสุดๆ แต่ถ้าสั่งแบบไม่มีไขมัน Fat จะช่วยลดปริมาณแคลลอรี่ได้ค่อนข้างเยอะเลยละ
2.อาหารทะเล
จะบอกว่าเป็นของดีที่แนะนำให้กินก็คงจะใช่ เพราะว่าในอาหารทะเลค่อนข้างให้แคลลอรี่น้อย ถึงน้อยมาก อาหารทะเลที่สามารถกินบ่อยๆเป็นประจำ อย่างเช่นกุ้ง ปลาเนี่ย นอกจากแคลลอรี่จะน้อยแล้วยังดีต่อสุขภาพด้วย ยกตัวอย่าง
- ปลาดอลลี่เนี่ย 2 ชิ้น = 120 แคลลอรี่ เหมือนจะเยอะนะ
- แซลมอนเยอะ 2 ชิ้น = 150 แคลลอรี่ เยอะกว่าดอลลี่นิดหน่อย
- กุ้งขาว 90 กรัม ประมาณ 4 ตัว = 70 แคลลอรี่น้อยมาก
- หอยทั่วไปตัวเล็กๆ 1 ตัวแค่ประมาณ = 10 แคลลอรี่ ว้าวววว
- หอยแมงภู่ 4 ตัว ประมาณ = 80 แคลลอรี่
3.ผัก
อย่างที่รู้ว่าผักแทบจะไม่มีแคลลอรี่เลยสามารถกินได้เรื่อยๆ และควรกินอย่างน้อย 2 ใน 3 ของเนื้อสัตว์และอาหารที่กินอยู่ ถามว่าทำไมต้องกินขนาดนั้นอย่างแรกเลยเพื่อเพิ่มกากใยในท้องเพราะว่าเนื้อสัตว์ค่อนข้างย่อยยาก กากเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายสามารถย่อยได้ง่ายและช่วยให้ขับถ่ายได้สะดวกมากขึ้น ที่สำคัญยังช่วยให้อิ่มเร็วขึ้นด้วย
4.น้ำจิ้ม
จริงๆแล้วน้ำจิ้มทุกอย่างดีหมด ไม่ว่าจะเป็นซีฟู๊ด สุกี้ พอนซึ หรือแล้วแต่ร้านจะมีให้ แต่!! น้ำจิ้มเนี่ยควรกินแค่พอประมาณ ถามว่าเอ้ามันแค่ส่วนประกอบหนึ่งของการกินจะไปเพิ่มแคลลอรี่อะไรเยอะขนาดนั้น คำตอบถือในน้ำจิ้มเหล่านี้มักมีน้ำตาลผสมอยู่ค่อนข้างเยอะ ดังนั้นควรกินแค่พอประมาณ แต่ก่อนผมสมัยก่อนก็ชอบกินน้ำจิ้มเยอะๆเหมือนกัน แบบว่าบุฟเฟ่ต์ 1 ชั่วโมงครึ่ง น้ำจิ้มไม่ต่ำกว่า 2 ถ้วยซุป ย้ำว่าถ้วยซุปนะไม่ใช่ถ้วยน้ำจิ้ม
5.ของหวาน
ของโปรดของหลายๆคนที่มักจะกินปิดท้ายหลังจากของคาว ไม่ว่าอิ่มแค่ไหนร่างกายมักจะมีที่ว่างให้กับของหวานเสมอ ทำให้หลายๆคนเลือกกดไอศกรีมกันไม่ต่ำกว่า 2 สกู๊ฟต่อการกิน 1 ครั้ง แต่รู้หรือไม่ไอศกรีม 1 ลูกหรือสกู๊ฟให้พลังงานไม่ต่ำกว่า 200-300 แคลลอรี่เลยนะ อย่างของเราเนี่ยชอบ Haagen Dazs มากทำให้เวลากินบุฟเฟ่ต์จะต้องคำนวณเผื่อพื้นที่ไว้ให้เรียบร้อย เฉพาะของ Haagen Dazs สกู๊ฟนึงจะตกอยู่ที่ประมาณ 250-300 แคลลอรี่ นั้นเท่ากับว่าถ้าไม่กินเบคอน 3 สไลด์หรือประมาณ 300 แคลลอรี่ก็จะสามารถกินไอศกรีมได้ถึง 1 สกู๊ฟเลยนะ
6.น้ำดื่ม
ปัจจุบันบุฟเฟ่ห์หลายๆที่มักจะถอดน้ำเปล่าออกไปแล้ว ทำให้เหลือพวกน้ำผลไม้ ชา และน้ำอัดลมให้เลือกดื่มเท่านั้น ถ้านำทั้งหมดมาเปรียบเทียบจะเห็นว่าชาดีที่สุด แทบจะไม่มีแคลลอรี่หรือไม่มีเลย บุฟเฟ่ต์บางที่มีชาร้อนและชาเย็นให้ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ แนะนำ
จากทั้งหมดที่เล่าเนี่ย จะเห็นได้ว่าอาหารแต่ละอย่างมีแคลลอรี่ที่แตกต่างกันพอสมควร สำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก คำแนะนำเดียวที่จะบอกก็คือ การเลือกกินและกินให้เป็น อย่างผมชอบกินเนื้อและอาหารทะเลเป็นพิเศษ ก็จะสั่งพนักงานว่าขอเป็นเนื้อไม่ติดมัน ส่วนเบคอนของโปรดของทุกๆคนก็กินแต่กินแค่ 4-5 ชิ้นพอ ที่เหลือจะหนักไปทางอาหารทะเลเพราะว่าสามารถกินได้เยอะกว่า หากเปลี่ยนจากกินเบคอน 2 ชิ้น 200 แคลลอรี่ มาเป็นหอย ก็จะกินได้ 20 ตัวเลยทีเดียว ซึ่งจริงๆการคำนวณพวกนี้ไม่มีอะไรตายตัว อาจจะมีกินเลยบ้าง 100-200 แคลลอรี่ก็ไม่เป็นไร แต่ที่สำคัญต้องกินผักเยอะๆและห้ามอดอาหารด้วย มันไม่ดีต่อร่างกาย แล้วก็หากเป็นไปได้ก็ควรกินแบบชาบูหรือแบบที่เป็นต้มๆเท่านั้น
หวังว่าการแนะนำของเราจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย ขอบคุณทุกคนที่สละเวลาเข้ามาอ่าน ขอบคุณ FUFU Shabu ที่มอบคูปองกินฟรีให้ด้วย ขอบคุณค่ะ
[SR] คุมน้ำหนักด้วยอาหารบุฟเฟ่ต์ ทำได้จริงหรือแค่ล้อเล่น
มาทำความเข้าใจกันก่อน
- การคุมน้ำหนักไม่ใช่การลดน้ำหนัก เป็นการคงที่น้ำหนักของตัวเองไม่ให้สวิงจากเดิม
- อาหารในร้านบุฟเฟ่ต์สามารถหยิบได้ทุกอย่างก็จริง แต่ก็ควร”เลือกกิน”อย่างเหมาะสม
- ร่างกายผู้ชาย 2,000 แคลลอรี่ก็กินแค่ประมาณ 1,500 แคลลอรี่
- ร่างกายผู้หญิง 1,600 แคลลอรี่ก็กินแค่ประมาณ 1,000 แคลลอรี่
คำถามคือแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าอะไรให้พลังงานเท่าไหร่ ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันที่สามารถคำนวณได้แล้ว และอีกวิธีคือการกะปริมาณด้วยตัวเองค่ะ
1.เนื้อสัตว์
เคยสังเกตุไหมวันไหนที่ไปกินบุฟเฟ่ต์แล้วซัดแต่เนื้อมักจะเกิดอาการท้องอืด และน้ำหนักขึ้นเยอะ อึไม่ออก นั้นก็เพราะเนื้อสัตว์ค่อนข้างย่อยยาก ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน แนะนำว่าควรกินผักให้ได้อย่างน้อย 2 ใน 3 ของปริมาณเนื้อที่กินเข้าไป แต่ถ้าใครที่อยากกินแบบคุมน้ำหนักแนะนำว่าเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ ควรเอาส่วนที่เป็นไขมัน Fat ออกไป สมมุติว่า
- เนื้อวัวสไลด์ติดมันปกติ 10 ชิ้นในจานให้พลังงาน 300 แคลลอรี่ถ้าตัดส่วนมันออกได้จะเหลือเพียง 2 ใน 3 ของแคลลอรี่ทั้งหมด หรือก็คือ 200 แคลลอรี่นั้นเอง
- เบคอนของโปรดของใครหลายๆคน อยากบอกว่าแคลลอรี่สูงมากนะ แค่ 2 สไลด์ก็ล่อไปประมาณ 200 แคลลอรี่แล้ว ถ้ากิน 10 ชิ้นก็ 2,000 แคลลอรี่เยอะมากกกกกกกกกกก
- เนื้อหมูติดมัน ประมาณ 400 แคลลอรี่ เยอะสุดๆ แต่ถ้าสั่งแบบไม่มีไขมัน Fat จะช่วยลดปริมาณแคลลอรี่ได้ค่อนข้างเยอะเลยละ
2.อาหารทะเล
จะบอกว่าเป็นของดีที่แนะนำให้กินก็คงจะใช่ เพราะว่าในอาหารทะเลค่อนข้างให้แคลลอรี่น้อย ถึงน้อยมาก อาหารทะเลที่สามารถกินบ่อยๆเป็นประจำ อย่างเช่นกุ้ง ปลาเนี่ย นอกจากแคลลอรี่จะน้อยแล้วยังดีต่อสุขภาพด้วย ยกตัวอย่าง
- ปลาดอลลี่เนี่ย 2 ชิ้น = 120 แคลลอรี่ เหมือนจะเยอะนะ
- แซลมอนเยอะ 2 ชิ้น = 150 แคลลอรี่ เยอะกว่าดอลลี่นิดหน่อย
- กุ้งขาว 90 กรัม ประมาณ 4 ตัว = 70 แคลลอรี่น้อยมาก
- หอยทั่วไปตัวเล็กๆ 1 ตัวแค่ประมาณ = 10 แคลลอรี่ ว้าวววว
- หอยแมงภู่ 4 ตัว ประมาณ = 80 แคลลอรี่
3.ผัก
อย่างที่รู้ว่าผักแทบจะไม่มีแคลลอรี่เลยสามารถกินได้เรื่อยๆ และควรกินอย่างน้อย 2 ใน 3 ของเนื้อสัตว์และอาหารที่กินอยู่ ถามว่าทำไมต้องกินขนาดนั้นอย่างแรกเลยเพื่อเพิ่มกากใยในท้องเพราะว่าเนื้อสัตว์ค่อนข้างย่อยยาก กากเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายสามารถย่อยได้ง่ายและช่วยให้ขับถ่ายได้สะดวกมากขึ้น ที่สำคัญยังช่วยให้อิ่มเร็วขึ้นด้วย
4.น้ำจิ้ม
จริงๆแล้วน้ำจิ้มทุกอย่างดีหมด ไม่ว่าจะเป็นซีฟู๊ด สุกี้ พอนซึ หรือแล้วแต่ร้านจะมีให้ แต่!! น้ำจิ้มเนี่ยควรกินแค่พอประมาณ ถามว่าเอ้ามันแค่ส่วนประกอบหนึ่งของการกินจะไปเพิ่มแคลลอรี่อะไรเยอะขนาดนั้น คำตอบถือในน้ำจิ้มเหล่านี้มักมีน้ำตาลผสมอยู่ค่อนข้างเยอะ ดังนั้นควรกินแค่พอประมาณ แต่ก่อนผมสมัยก่อนก็ชอบกินน้ำจิ้มเยอะๆเหมือนกัน แบบว่าบุฟเฟ่ต์ 1 ชั่วโมงครึ่ง น้ำจิ้มไม่ต่ำกว่า 2 ถ้วยซุป ย้ำว่าถ้วยซุปนะไม่ใช่ถ้วยน้ำจิ้ม
5.ของหวาน
ของโปรดของหลายๆคนที่มักจะกินปิดท้ายหลังจากของคาว ไม่ว่าอิ่มแค่ไหนร่างกายมักจะมีที่ว่างให้กับของหวานเสมอ ทำให้หลายๆคนเลือกกดไอศกรีมกันไม่ต่ำกว่า 2 สกู๊ฟต่อการกิน 1 ครั้ง แต่รู้หรือไม่ไอศกรีม 1 ลูกหรือสกู๊ฟให้พลังงานไม่ต่ำกว่า 200-300 แคลลอรี่เลยนะ อย่างของเราเนี่ยชอบ Haagen Dazs มากทำให้เวลากินบุฟเฟ่ต์จะต้องคำนวณเผื่อพื้นที่ไว้ให้เรียบร้อย เฉพาะของ Haagen Dazs สกู๊ฟนึงจะตกอยู่ที่ประมาณ 250-300 แคลลอรี่ นั้นเท่ากับว่าถ้าไม่กินเบคอน 3 สไลด์หรือประมาณ 300 แคลลอรี่ก็จะสามารถกินไอศกรีมได้ถึง 1 สกู๊ฟเลยนะ
6.น้ำดื่ม
ปัจจุบันบุฟเฟ่ห์หลายๆที่มักจะถอดน้ำเปล่าออกไปแล้ว ทำให้เหลือพวกน้ำผลไม้ ชา และน้ำอัดลมให้เลือกดื่มเท่านั้น ถ้านำทั้งหมดมาเปรียบเทียบจะเห็นว่าชาดีที่สุด แทบจะไม่มีแคลลอรี่หรือไม่มีเลย บุฟเฟ่ต์บางที่มีชาร้อนและชาเย็นให้ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ แนะนำ
จากทั้งหมดที่เล่าเนี่ย จะเห็นได้ว่าอาหารแต่ละอย่างมีแคลลอรี่ที่แตกต่างกันพอสมควร สำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก คำแนะนำเดียวที่จะบอกก็คือ การเลือกกินและกินให้เป็น อย่างผมชอบกินเนื้อและอาหารทะเลเป็นพิเศษ ก็จะสั่งพนักงานว่าขอเป็นเนื้อไม่ติดมัน ส่วนเบคอนของโปรดของทุกๆคนก็กินแต่กินแค่ 4-5 ชิ้นพอ ที่เหลือจะหนักไปทางอาหารทะเลเพราะว่าสามารถกินได้เยอะกว่า หากเปลี่ยนจากกินเบคอน 2 ชิ้น 200 แคลลอรี่ มาเป็นหอย ก็จะกินได้ 20 ตัวเลยทีเดียว ซึ่งจริงๆการคำนวณพวกนี้ไม่มีอะไรตายตัว อาจจะมีกินเลยบ้าง 100-200 แคลลอรี่ก็ไม่เป็นไร แต่ที่สำคัญต้องกินผักเยอะๆและห้ามอดอาหารด้วย มันไม่ดีต่อร่างกาย แล้วก็หากเป็นไปได้ก็ควรกินแบบชาบูหรือแบบที่เป็นต้มๆเท่านั้น
หวังว่าการแนะนำของเราจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย ขอบคุณทุกคนที่สละเวลาเข้ามาอ่าน ขอบคุณ FUFU Shabu ที่มอบคูปองกินฟรีให้ด้วย ขอบคุณค่ะ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้