TWO TOP สองอันตราย - [บทบูรพารุกราน] - ตอนที่ 20 : ร้านเบเกอรี่

ตอนที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

====================================================================================

ตอนที่ 20 : ร้านเบเกอรี่


    ร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่ง

    ร้านนี้ตั้งอยู่ไม่ห่างจากพื้นที่ของโรงเรียนประจิมสวัสดิ์นัก แต่ผู้มาใช้บริการที่ร้านนี้กลับมีไม่มากเท่าที่ควร

    เหตุผลที่ทำให้ร้านเบเกอรี่แห่งนี้ไม่ค่อยมีคนมาใช้บริการมีอยู่สองประการ

    ประการที่หนึ่ง ร้านนี้ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของโรงเรียนประจิมสวัสดิ์แถมอยู่ในซอกมุม ทำให้นักเรียนที่เข้าออกทางด้านหลังซึ่งมีจำนวนน้อยนิดอยู่แล้ว ไม่ค่อยพบเห็น ผู้รู้จักร้านนี้จึงมีอยู่น้อย

    ส่วนประการที่สอง ข้อนี้แทบจะเป็นเหตุผลใหญ่ที่ทำให้ไม่ค่อยมีคนมาร้านนี้เลย นั่นเพราะร้านนี้ถือเป็นร้านประจำของจักรพรรดิประจิมสวัสดิ์ สี่ขุนพล และผู้ติดตามทุกยุคทุกรุ่น จึงเป็นเหตุให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องไม่กล้ามายุ่งเกี่ยวกับร้านนี้เท่าไหร่

    จักรพรรดิและสี่ขุนพลทุกรุ่นนิยมใช้ร้านเบเกอรี่แห่งนี้เป็นที่ประชุมใหญ่ เพื่อเตรียมการในเรื่องต่าง ๆ เสมอ จนเรียกได้ว่าร้านเบเกอรี่นี้เปรียบเสมือนห้องประชุมใหญ่ของพวกเขาเลยทีเดียว

    ในวันนี้ก็เช่นกัน จักรพรรดิ ปรี เสนาธิการ เจ และสี่ขุนพลคนอื่น ๆ รวมทั้งผู้ติดตามก็มาอยู่ที่นี้แล้ว

    วันนี้พวกเขาต้องประชุมกัน เพราะหลังจากที่หนึ่งในห้าผู้คุมกฎของจักรวรรดิบูรพา ซ่อนดาบในรอยยิ้ม ชา บุกมาที่โรงเรียนประจิมสวัสดิ์ และแม้ว่าจะถูกใหญ่จัดการไปได้ แต่ก็ต้องหารือกันเพิ่มเติมอีก เพื่อหาแนวทางรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในลำดับต่อไป

    “ดูเหมือนการบุกของชาจะเป็นการเริ่มต้นของจักรวรรดิบูรพานะ” จักรพรรดิ ปรีพูดขึ้น

    “ใช่ มันเป็นการประกาศถึงการเป็นศัตรูกับเราอย่างชัดเจน ต่อไปโรงเรียนเราคงต้องปะทะกับพวกจักรวรรดิบูรพาอีกแน่” เฮอมิต ใหญ่พูดเสริม

    “อืม... คงต้องฝากให้สี่ขุนพลทุกคนดูแลนักเรียนในสายให้ดีล่ะ บอกให้ทุกคนหลีกเลี่ยงการพบกับพวกจักรวรรดิบูรพาด้วย” ปรีพูดต่อพลางหันมองผู้อยู่ร่วมโต๊ะทุกคน

    แน่นอนว่าผู้ที่มาประชุมไม่ได้มีแค่ปรีกับใหญ่ ยังมีเจที่นั่งข้าง ๆ ปรี สปอร์ทแมน เจมส์ สี่ขุนพลแห่งสายพละ ป๊อกกี้ สี่ขุนพลแห่งสายศิลป์ แอล หนุ่มบนรถเข็น เจ้าของฉายาอัจฉริยะที่สอง ผู้รักษาการณ์แทนสี่ขุนพลแห่งสายวิทย์-คณิต และสุดท้ายเป็นสองผู้คุมตึกอุตสาหกรรม สู้คราใดต้องปราชัย เชน กับ เกมมาสเตอร์ แม็กกี้

    “ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ...” ป๊อกกี้ หนุ่มใส่หมวกคาบขนมปังแท่งพูดขึ้น เขาดูคุ้นเคยกับร้านนี้น้อยที่สุด เพราะเพิ่งเป็นสี่ขุนพลได้ไม่นาน แถมยังเป็นรุ่นน้องที่สุดในร้านแห่งนี้ด้วย

    “ต้องทำ” ปรีตอบอย่างหนักแน่น “ป๊อกกี้ ..นายเพิ่งเข้ามา ยังไม่รู้สิว่าพวกจักรวรรดิบูรพาเป็นยังไง ถึงครั้งนี้เราเอาชนะพวกมันไปได้ แต่หลังจากนี้สิ พวกมันต้องหาทางเอาคืนแน่”

    “เหรอพี่...” ป๊อกกี้ทำท่าครุ่นคิด “งั้นผมต้องคอยระวังไม่ให้พวกมันมาก่อเรื่องสินะ”

    “ก็ราว ๆ นั่นแหละ” ใหญ่ตอบให้แทน “นายก็ดูแลนักเรียนในสาย ส่งข่าวบอกพรรคพวกให้ทราบ จะได้ช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดอะไรร้ายแรงขึ้นมา”

    “ครับ” ป๊อกกี้พยักหน้ารับพลางกัดป๊อกกี้กินด้วยท่าทางเคร่งเครียดเล็กน้อย

    “สายวิทย์-คณิตก็คงต้องระวังเหมือนกัน” แอล หนุ่มบนรถเข็นพูดขึ้นบ้าง “ยิ่งตอนนี้สี่ขุนพลไม่อยู่ คงต้องระวังมากกว่าเดิม”

    “ดีแล้ว” ปรีบอก “ฝากนายดูแลด้วยนะ”

    “แต่น่าเสียดายนะ...” จู่ ๆ สปอร์ทแมน เจมส์ก็พูดแทรกขึ้นมา

    “อะไรเหรอ?”

    “ก็นาน ๆ ใหญ่จะสู้ที ฉันกลับไม่อยู่ซะได้นี่ น่าเสียดาย” เจมส์บอกด้วยท่าทางผิดหวัง ซึ่งหนุ่มนักกีฬาจอมฝึกฝนย่อมอยากชมการต่อสู้ของฤาษีหนุ่มนักวางแผนอยู่แล้ว ยิ่งสู้ชนะด้วยยิ่งน่าดูเข้าไปใหญ่

    พวกเขาพูดคุยถึงเรื่องนี้กันอีกสักพัก แล้วใหญ่ก็เปลี่ยนเรื่องพูดขึ้นมา

    “เอ่อ.. ฉันได้ยินชาพูดถึงยูยะ”

    พอได้ยินคำว่า ‘ยูยะ’ สีหน้าของทุกคนก็แปรเปลี่ยนทันที มีเพียงเจกับป๊อกกี้เท่านั้นที่ยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

    “ยูยะ...” จักรพรรดิ ปรีพูดขึ้นมา “มันพูดว่าไงบ้างล่ะ?”

    “ก็ไม่ได้พูดอะไร มันแค่พูดว่ายูยะ แล้วสลบไป จากนั้นลูกน้องมันก็พามันหนีออกไปทันที ฉันเลยไม่ทันได้ถามอะไร”

    “อืม...” ปรีพยักหน้าครุ่นคิดอย่างเคร่งเครียด “เรื่องนี้จะเกี่ยวกับยูยะด้วยหรือ.. เห็นท่าจะมีเรื่องอีกแล้ว”

    “ยูยะคือใครเหรอ?” เสนาธิการ เจเอ่ยถาม เขาย่อมไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว จึงสงสัยเป็นธรรมดา

    แต่ปรีไม่ตอบ ใหญ่จึงพูดขึ้นแทน

    “เรื่องยูยะนี้... เอาไว้ก่อนละกันนะเจ ถึงเวลานายก็จะรู้เองแหละ”

    “อ่ะ...” เจเลิกคิ้ว “ทำไม?”

    “เอาน่าเจ มันยังไม่ถึงเวลา”

    “ใช่เจ อย่าเพิ่งไปสนใจเรื่องนี้เลย” เจมส์บอกบ้าง “ตอนนี้นายคอยระวังพวกจักรวรรดิบูรพาไว้ก็พอ”

    “เอ่อ..” เจพยักหน้าเล็ก ๆ แต่ในใจยังคงคิดถึงเรื่องยูยะอยู่แน่ ๆ

    พวกเขาพูดคุยกันต่ออีกสักพัก แต่สีหน้าของเจยังส่อแววฉงนอยู่เหมือนเดิม ท่าทางคงอยากได้คำตอบเรื่องยูยะอยู่เป็นแน่แท้

    “อย่าไปคิดมากไปเลยเสนาธิการ” คราวนี้กลับเป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่พูดขึ้นมา เขาเดินมาส่งขนมปังพอดี

    “เอ..” เจหันไปหา “คะ..ครับ”

    เจ้าของร้านเบเกอรี่คนนี้อายุประมาณสามสิบต้น ๆ ได้ รูปร่างสูงกว่าเจเล็กน้อย ฉีกยิ้มแสดงความมิตรเกือบตลอด แถมอารมณ์ดีอยู่เสมอด้วย

    เขามีชื่อว่า คุโร

    คุโรฉีกยิ้มให้เจ พูดต่อ “พี่ว่ามันมีเรื่องน่าสงสัยมากกว่าเรื่องนั้นอีก”

    “เรื่องอะไรครับ?”

    “ก็เรื่องที่ว่าใครเก่งที่สุดในโรงเรียนประจิมสวัสดิ์นี้ไง เธอไม่สงสัยบ้างเหรอ?”

    “อ้อ.. เรื่องนี้ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกัน แต่พิสูจน์ไม่ได้หรอกครับ”

    “งั้นเหรอ..” คุโรเอามือจับคางพลางครุ่นคิด ซึ่งเรื่องที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน ผู้ร่วมโต๊ะทุกคนก็ได้ยิน

    “เอางี้ไงพี่คุโรยัง” เกมมาสเตอร์ แม็กกี้จ้าวแห่งเกมพูดขึ้นมา เขาอาการดีขึ้นมากแล้ว ซึ่งหนุ่มนักเล่นเกมย่อมมีวิธีแปลก ๆ เพื่อหาทางตัดสินปัญหาที่พูดถึงแน่

    พอแม็กกี้เอ่ยขึ้นมา หลายคนในที่นี้สีหน้าแปรเปลี่ยน สยิวกายขึ้นกันหมด โดยเฉพาะเจ เขาย่อมไม่อยากให้ตัดสินด้วยเกมบ้า ๆ อย่างเกมผู้ยิ่งใหญ่อีกแน่

    แม็กกี้พูดต่อ “แข่งทำขนมปังไง ตอนนี้อยู่ในร้านเบเกอรี่ เราน่าจะตัดสินการแข่งทำขนมปังนะ พี่คุโรยังเห็นว่าไงครับ”

    หลายคนเริ่มโล่งอกขึ้นมา เพราะเกมที่แม็กกี้คิดไม่ใช่แบบนั้นแล้ว

    “อ้า... เป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมไปเลยน้องแม็กกี้ ไม่เสียทีที่ฉายาเกมมาสเตอร์” คุโรพยักหน้ารับ แล้วหันไปทางใหญ่ “ว่าไงใหญ่ จะแข่งทำขนมปังกันมั้ย?”

    ใหญ่นิ่งคิด เพราะยังไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทำขนมปังได้หรือเปล่า ซึ่งผิดกับจักรพรรดิ ปรี เขาชื่นชอบขนมปังมากทีเดียว นี่ขนาดประชุมเครียดยังหยิบทานอย่างเอร็ดอร่อยด้วย

    “เอาสิพี่คุโรยัง แข่งทำขนมปังกัน” ปรีบอก ท่าทางเขาอยากจะแข่งทำขนมปังมากทีเดียว

    ใหญ่เห็นปรีบอกอย่างนั้นเลยพยักหน้ารับ แล้วหันไปดูสี่ขุนพลที่เหลือ ซึ่งเจมส์และป๊อกกี้ก็ไม่มีปัญหา ท่าทางทั้งคู่พร้อมจะทำขนมปังอยู่แล้ว

    “ดีเลย ผมเอาด้วย.. อยากกินขนมปังฝีมือตัวเองจัง” ป๊อกกี้ยิ้มร่า คล้ายจินตนาการถึงขนมปังที่น่าอร่อย

    “อืม” สปอร์ทแมน เจมส์พยักหน้ารับ เขาชอบฝึกฝน ย่อมอยากแข่งขัน แม้จะเป็นการแข่งทำขนมปังก็ตาม

    “งั้นเอาตามนี้นะ” คุโรเจ้าของร้านเบเกอรี่เอ่ยต่อ “ผู้แข่งขันมี ปรี ใหญ่ ป๊อกกี้ เจมส์...” เขาหันไปทางหนุ่มผมยาวนั่งรถเข็น “แอล เธอแข่งด้วยมั้ย?”

    “ไม่ครับ.. ผมขอบายดีกว่า” แอลส่ายหน้า “ผมนั่งรถเข็น ทำขนมปังไม่ค่อยถนัด”

    “อืม.. งั้นก็ไม่เป็นไร” คราวนี้คุโรหันไปทางเชนและแม็กกี้ “เชน แม็กกี้ เธอจะแข่งด้วยมั้ย?”

    “ไม่ดีกว่าครับ” สู้คราใดต้องปราชัย เชนตอบ

    “ใช่ครับ” แม็กกี้ช่วยเสริม “ให้เป็นการตัดสินของสี่ขุนพลกับจักรพรรดิดีกว่า”

    “เหรอ..” คุโรขยับหัวเล็กน้อย “แต่คนมันน้อยไปหน่อย ฉันอยากได้อีกคน” เขาเหลือบไปมองเจ “เอ่อ.. เจ เธอแข่งด้วยละกันนะ เสนาธิการก็ควรจะแข่งด้วย”

    “อ่า? ผมเหรอ..” เจประหลาดใจ เพราะไม่คิดว่าตัวเองต้องลงแข่งทำขนมปังด้วย

    “อืม.. เธอนั่นแหละ” คุโรยิ้มกว้าง แล้วหันบอกกับทุกคน “งั้นเริ่มการแข่งขันทำขนมปังกันเลยนะ ..ฉันจะเป็นคนตัดสินให้เอง”

    และแล้วการแข่งขันทำขนมปังของจักรพรรดิ เสนาธิการ และสี่ขุนพลก็เริ่มต้นขึ้น


(มีต่อครับ)

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่