ตอนที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 1 : จักรพรรดิ
https://ppantip.com/topic/37958523
ตอนที่ 2 : สาวห้าวผมทอง
https://ppantip.com/topic/37967906
ตอนที่ 3 : สายอุตสาหกรรม (1)
https://ppantip.com/topic/37978268
ตอนที่ 4 : สายอุตสาหกรรม (2)
https://ppantip.com/topic/37991931
ตอนที่ 5 : เสนาธิการคนใหม่
https://ppantip.com/topic/38012815
ตอนที่ 6 : นักกีฬา
https://ppantip.com/topic/38021632
ตอนที่ 7 : แจ็คเก็ตอาดิดาส
https://ppantip.com/topic/38034222
ตอนที่ 8 : บุรุษแจ็คเก็ตอาดิดาส ปะทะ สู้คราใดต้องปราชัย
https://ppantip.com/topic/38043278
ตอนที่ 9 : ตัวจริงของบุรุษเสื้อแจ็คเก็ตอาดิดาส
https://ppantip.com/topic/38053542
ตอนที่ 10 : สายศิลป์
https://ppantip.com/topic/38066629
ตอนที่ 11 : ศึกชิงตำแหน่งสี่ขุนพล
https://ppantip.com/topic/38076746
ตอนที่ 12 : หวนคืน
https://ppantip.com/topic/38090265
ตอนที่ 13 : เอ็มเพรส ปะทะ ผู้ฆ่ายักษ์
https://ppantip.com/topic/38106739
ตอนที่ 14 : ผู้ยิ่งใหญ่
https://ppantip.com/topic/38114464
ตอนที่ 15 : การต่อสู้ของเสนาธิการ
https://ppantip.com/topic/38143494
===================================================================================
ตอนที่ 16 : ผู้คุมกฎของจักรวรรดิบูรพา
ผู้มาช่วยเหลือเสนาธิการ เจก็คือ เกมมาสเตอร์ แม็กกี้ หนึ่งในสองผู้คุมตึกอุตสาหกรรมนั่นเอง
“เกือบแย่เลยนะเสนาธิการ” แม็กกี้พูดขึ้นด้วยท่าทางสบาย ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แม็กกี้!! นายมานี่ได้ไง!” เจรีบเดินเข้าหาผู้มาช่วยเหลือ
แม็กกี้แสยะยิ้ม พูดต่อ “ก็ที่นี่มันเกมเซ็นเตอร์ไม่ใช่หรือ... เกมมาสเตอร์อย่างฉันก็ต้องอยู่สิ ไม่เห็นแปลกเลย”
“เออ” เจมองหนุ่มนักเล่นเกม “ขอบใจนายมากเลยนะ”
“ฮ่ะ ฮ่า ไม่เป็นไรหรอก” แม็กกี้หัวเราะเล็ก ๆ “ฉันกำลังตั้งสมาธิอยู่กับเครื่องสลอทแมชชีนด้านนู้นอยู่น่ะ แต่เสียงมันดังมากจนไม่มีสมาธิเลย เล่นเสียหมด ฉันเลยต้องออกมาดูหน่อย”
“อ่ะ…” เจกำลังจะพูดต่อ แต่เขาต้องหันหน้ากลับไป เพราะชายเสื้อช็อปทั้งสี่ลุกขึ้นมาแล้ว
แม็กกี้ก็เช่นกัน เขายืนจ้องดูการเคลื่อนไหวของทั้งสี่คนนั้น
“เด็กเทคนิคจักรวรรดิบูรพานี่!” แม็กกี้พูดขึ้นเมื่อเห็นชื่อโรงเรียนที่ปักอยู่ตรงหน้าอกของเสื้อช็อปของทั้งสี่นั้น
“เทคนิคจักรวรรดิบูรพา?” เจหันหน้าหาแม็กกี้ “นายรู้จักพวกนี้ด้วยหรือ?”
แม็กกี้พยักหน้ารับ สีหน้าแปรเปลี่ยนไปทันที แต่ก็ยังพอมีรอยยิ้มแฝงไว้อยู่บ้าง “รู้สิ พวกนี้ถือเป็นโรงเรียนเทคนิคที่อันตรายในแถบนี้เลย ...ท่าทางนายจะไปยุ่งกับพวกอันตรายซะแล้ว”
“หา! นายว่าไงนะ!” เจสะดุ้งกายเล็กน้อย เพราะเพิ่งรู้ว่าพวกที่เขาสู้ด้วยนั้นอันตรายขนาดที่แม็กกี้ผู้ยียวนสีหน้าแปรเปลี่ยนเลย
แต่ทั้งสองต้องหยุดคุยกัน เพราะนักเรียนเทคนิคจักรวรรดิบูรพาพุ่งเข้ามาแล้ว
เจและแม็กกี้รีบถอยฉากไปด้านข้าง ซึ่งในจังหวะหนึ่งที่หนุ่มนักเล่มเกมถอยนั้น เขาหยิบสิ่งหนึ่งออกมา
เป็นไพ่สำรับหนึ่ง โดยไพ่สำรับนี้มีไม่ครบ 52 ใบแล้ว เนื่องจากแม็กกี้ได้ร่อนไพ่ออกสี่ใบ เพื่อช่วยเหลือเจ ตอนนี้ไพ่ทั้งสำรับจึงมีแค่ 48 ใบ
แม็กกี้ใช้มือข้างที่ถือสำรับไพ่ ดีดไพ่จากในสำรับลอยขึ้นกลางอากาศสี่ใบอย่างรวดเร็ว
ไพ่ทั้งสี่ใบเป็น โพธิ์แดง โพธิ์ดำ ข้าวหลามตัด และดอกจิก หน้าไพ่เลข 10 ทั้งหมด
ไพ่เหล่านั้นลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ พลันแม็กกี้ก็ใช้มืออีกข้างจับไพ่ร่อนกลางอากาศอย่างฉับไว
ไพ่หน้าสิบทั้งสี่ใบพุ่งเข้าหานักเรียนเทคนิคจักรวรรดิบูรพาทั้งสี่คนทันที
ทั้งสี่แต่ละคนพยายามยกมือขึ้นปัดไพ่ที่พุ่งเข้าหาตน แต่แล้วเมื่อพวกเขายกมือขึ้นปัดป้อง ไพ่ทั้งสี่นั้นกลับแปรเปลี่ยนพริ้วเลี้ยวหลบ พุ่งเปลี่ยนทิศทางได้
ซึ่งเหตุที่ไพ่เลี้ยวหรือเปลี่ยนทิศทางได้นั้น เพราะไพ่มีวิถีที่แปรเปลี่ยนได้ ไม่ยึดตายตัวว่าต้องพุ่งตรงดิ่งแบบกระสุนปืน จึงสามารถพุ่งเปลี่ยนทิศทางเมื่อต้องการได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้ร่อนไพ่ด้วย
พอเปลี่ยนทิศทาง ไพ่ทั้งสี่พุ่งเข้าหาใบหน้าของชายเสื้อช็อปทั้งสี่ แฉลบเฉี่ยวเฉือนใบหน้าของชายเหล่านั้นเป็นแนวยาว
เสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดของทั้งสี่ดังขึ้นอีกครา
เพราะแม้ไพ่จะเป็นเพียงแผ่นพลาสติกธรรมดา แต่พอถูกร่อนออกด้วยความเร็วสูง มันสามารถแปรเปลี่ยนจากแผ่นพลาสติกธรรมดากลายเป็นใบมีดโกนบางเฉียบได้
แต่ไพ่ที่แม็กกี้ร่อนไปนั้นไม่ได้หยุดแค่โจมตีชายทั้งสี่ ไพ่ทั้งสี่ยังพุ่งต่อเนื่อง เข้าโจมตีหนุ่มเดดร็อคผู้สวมช็อปหนึ่งแถบที่อยู่ด้านหลังด้วย
หนุ่มเสื้อช็อปหนึ่งแถบนั้นหาได้วิตกกังวลกับการโจมตีของแม็กกี้ไม่ เขาหยิบสิ่วแกะสลักขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นำไปไว้ที่ง่ามนิ้วของตัวเองทั้งสองมือในลักษณะคล้ายกรงเล็บ แล้วฟาดมือที่มีสิ่วแกะสลักอยู่ออก ตบปะทะไพ่ทั้งสี่ที่พุ่งมาอย่างแม่นยำ จนไพ่ทั้งสี่หมดแรงร่วงลง
หนุ่มเดดร็อคแสยะยิ้ม หันมองแม็กกี้
“ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ร้ายกาจ..” หนุ่มเดดร็อคพูดขึ้นด้วยท่าทางยียวน “ได้ยินว่าในโรงเรียนประจิมฯ มีผู้หนึ่งที่มีวิชาร่อนไพ่ที่ร้ายกาจ แม่นยำและแปรเปลี่ยนได้ ...ไม่นึกว่าจะมาเห็นด้วยตาตัวเองนะเนี่ย”
“ขอบใจที่ชม” แม็กกี้มองหน้าเขา ยิ้มตอบ “นายน่ะ โชคดีแล้ว ปกติไม่มีใครได้เห็นหรอก เพราะฉันไม่ชอบต่อสู้เท่าไหร่”
“โอ...โอ ฉันก็กลายเป็นผู้โชคดีอย่างงั้นสิ ฮ่ะ ฮา ฮ่า”
อย่างที่ทราบเกมมาสเตอร์ แม็กกี้ เป็นผู้ดูแลบ่อนพนันขนาดย่อมที่อยู่ในชั้นสองของตึกอุตสาหกรรม วัน ๆ เขาต้องคลุกคลีกับไพ่และอุปกรณ์การพนันอื่น ๆ เป็นประจำ ทำให้เขาสามารถนำของเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ในการต่อสู้ได้อย่างดี
แต่ฝีมือพวกนี้ของเกมมาสเตอร์ แม็กกี้ มีผู้พบเห็นเพียงน้อยนิด ประกอบกับเขาต้องดูแลบ่อนพนัน จึงไม่ค่อยได้ต่อสู้หรือแสดงฝีมือเท่าไหร่
ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาได้จัดการกับนักเรียนโรงเรียนอื่นที่แอบเข้ามาเล่นพนันแล้วเล่นโกง ทำให้พอมีผู้พบเห็นการร่อนไพ่ของเขาเพิ่มขึ้นบ้าง
แม็กกี้เหม่อมองไปที่แขนเสื้อช็อปของหนุ่มเดดร็อค สังเกตดูแถบสีดำที่คาดอยู่ที่แขนซ้าย
“ช็อปหนึ่งแถบ?” แม็กกี้พูดต่อ “หรือว่า.. แกคือ หนึ่งในห้าผู้คุมกฎของจักรวรรดิบูรพา”
“อ่ะ! รู้เหมือนกันนี่ ไม่ธรรมดา” หนุ่มเดดร็อคบอก “ถูกแล้ว ฉันนี่แหละหนึ่งในห้าผู้คุมกฏของจักรวรรดิบูรพา ..ซ่อนดาบในรอยยิ้ม ชา ...แกรู้จักมั้ยล่ะ?”
ที่แท้แล้วเสื้อช็อปหนึ่งแถบก็คือ เครื่องบอกตำแหน่งของโรงเรียนจักรวรรดิบูรพา ซึ่งหนุ่มเดดร็อคผู้นี้คือ ชา ฉายาซ่อนดาบในรอยยิ้ม ผู้มีรอยยิ้มตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในสถาการณ์ใด ราวกับหน้าของเขาสวมหน้ากากยิ้มของละครโนอยู่ตลอด ทำให้หลากหลายคนถูกรอยยิ้มนี้หลอกเอา พิฆาตจนแพ้พ่ายไป ส่วนอาวุธประจำตัวของชาที่ใช้ในการต่อสู้ก็คือ สิ่วแกะสลัก นั่นเอง
แม็กกี้ยิ้มตอบ ส่ายหน้าไปมา “ไม่รู้ว่ะ”
แววตาของชาหนุ่มเดดร็อคเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นท่าทีเล่น ๆ ของแม็กกี้ แต่รอยยิ้มของเขาก็ยังอยู่เช่นเดิม หาเปลี่ยนแปลงด้วยไม่
“งั้นเหรอ.. ดีเลย วันนี้แกจะได้รู้จัก ซ่อนดาบในรอยยิ้ม ชา คนนี้นี้แน่”
ว่าแล้วเขาก็ก้าวเดินเพื่อเข้าไปโจมตีแม็กกี้และเจ
(มีต่อครับ)
TWO TOP สองอันตราย - [บทบูรพารุกราน] - ตอนที่ 16 : ผู้คุมกฎของจักรวรรดิบูรพา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
===================================================================================
ตอนที่ 16 : ผู้คุมกฎของจักรวรรดิบูรพา
ผู้มาช่วยเหลือเสนาธิการ เจก็คือ เกมมาสเตอร์ แม็กกี้ หนึ่งในสองผู้คุมตึกอุตสาหกรรมนั่นเอง
“เกือบแย่เลยนะเสนาธิการ” แม็กกี้พูดขึ้นด้วยท่าทางสบาย ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แม็กกี้!! นายมานี่ได้ไง!” เจรีบเดินเข้าหาผู้มาช่วยเหลือ
แม็กกี้แสยะยิ้ม พูดต่อ “ก็ที่นี่มันเกมเซ็นเตอร์ไม่ใช่หรือ... เกมมาสเตอร์อย่างฉันก็ต้องอยู่สิ ไม่เห็นแปลกเลย”
“เออ” เจมองหนุ่มนักเล่นเกม “ขอบใจนายมากเลยนะ”
“ฮ่ะ ฮ่า ไม่เป็นไรหรอก” แม็กกี้หัวเราะเล็ก ๆ “ฉันกำลังตั้งสมาธิอยู่กับเครื่องสลอทแมชชีนด้านนู้นอยู่น่ะ แต่เสียงมันดังมากจนไม่มีสมาธิเลย เล่นเสียหมด ฉันเลยต้องออกมาดูหน่อย”
“อ่ะ…” เจกำลังจะพูดต่อ แต่เขาต้องหันหน้ากลับไป เพราะชายเสื้อช็อปทั้งสี่ลุกขึ้นมาแล้ว
แม็กกี้ก็เช่นกัน เขายืนจ้องดูการเคลื่อนไหวของทั้งสี่คนนั้น
“เด็กเทคนิคจักรวรรดิบูรพานี่!” แม็กกี้พูดขึ้นเมื่อเห็นชื่อโรงเรียนที่ปักอยู่ตรงหน้าอกของเสื้อช็อปของทั้งสี่นั้น
“เทคนิคจักรวรรดิบูรพา?” เจหันหน้าหาแม็กกี้ “นายรู้จักพวกนี้ด้วยหรือ?”
แม็กกี้พยักหน้ารับ สีหน้าแปรเปลี่ยนไปทันที แต่ก็ยังพอมีรอยยิ้มแฝงไว้อยู่บ้าง “รู้สิ พวกนี้ถือเป็นโรงเรียนเทคนิคที่อันตรายในแถบนี้เลย ...ท่าทางนายจะไปยุ่งกับพวกอันตรายซะแล้ว”
“หา! นายว่าไงนะ!” เจสะดุ้งกายเล็กน้อย เพราะเพิ่งรู้ว่าพวกที่เขาสู้ด้วยนั้นอันตรายขนาดที่แม็กกี้ผู้ยียวนสีหน้าแปรเปลี่ยนเลย
แต่ทั้งสองต้องหยุดคุยกัน เพราะนักเรียนเทคนิคจักรวรรดิบูรพาพุ่งเข้ามาแล้ว
เจและแม็กกี้รีบถอยฉากไปด้านข้าง ซึ่งในจังหวะหนึ่งที่หนุ่มนักเล่มเกมถอยนั้น เขาหยิบสิ่งหนึ่งออกมา
เป็นไพ่สำรับหนึ่ง โดยไพ่สำรับนี้มีไม่ครบ 52 ใบแล้ว เนื่องจากแม็กกี้ได้ร่อนไพ่ออกสี่ใบ เพื่อช่วยเหลือเจ ตอนนี้ไพ่ทั้งสำรับจึงมีแค่ 48 ใบ
แม็กกี้ใช้มือข้างที่ถือสำรับไพ่ ดีดไพ่จากในสำรับลอยขึ้นกลางอากาศสี่ใบอย่างรวดเร็ว
ไพ่ทั้งสี่ใบเป็น โพธิ์แดง โพธิ์ดำ ข้าวหลามตัด และดอกจิก หน้าไพ่เลข 10 ทั้งหมด
ไพ่เหล่านั้นลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ พลันแม็กกี้ก็ใช้มืออีกข้างจับไพ่ร่อนกลางอากาศอย่างฉับไว
ไพ่หน้าสิบทั้งสี่ใบพุ่งเข้าหานักเรียนเทคนิคจักรวรรดิบูรพาทั้งสี่คนทันที
ทั้งสี่แต่ละคนพยายามยกมือขึ้นปัดไพ่ที่พุ่งเข้าหาตน แต่แล้วเมื่อพวกเขายกมือขึ้นปัดป้อง ไพ่ทั้งสี่นั้นกลับแปรเปลี่ยนพริ้วเลี้ยวหลบ พุ่งเปลี่ยนทิศทางได้
ซึ่งเหตุที่ไพ่เลี้ยวหรือเปลี่ยนทิศทางได้นั้น เพราะไพ่มีวิถีที่แปรเปลี่ยนได้ ไม่ยึดตายตัวว่าต้องพุ่งตรงดิ่งแบบกระสุนปืน จึงสามารถพุ่งเปลี่ยนทิศทางเมื่อต้องการได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้ร่อนไพ่ด้วย
พอเปลี่ยนทิศทาง ไพ่ทั้งสี่พุ่งเข้าหาใบหน้าของชายเสื้อช็อปทั้งสี่ แฉลบเฉี่ยวเฉือนใบหน้าของชายเหล่านั้นเป็นแนวยาว
เสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดของทั้งสี่ดังขึ้นอีกครา
เพราะแม้ไพ่จะเป็นเพียงแผ่นพลาสติกธรรมดา แต่พอถูกร่อนออกด้วยความเร็วสูง มันสามารถแปรเปลี่ยนจากแผ่นพลาสติกธรรมดากลายเป็นใบมีดโกนบางเฉียบได้
แต่ไพ่ที่แม็กกี้ร่อนไปนั้นไม่ได้หยุดแค่โจมตีชายทั้งสี่ ไพ่ทั้งสี่ยังพุ่งต่อเนื่อง เข้าโจมตีหนุ่มเดดร็อคผู้สวมช็อปหนึ่งแถบที่อยู่ด้านหลังด้วย
หนุ่มเสื้อช็อปหนึ่งแถบนั้นหาได้วิตกกังวลกับการโจมตีของแม็กกี้ไม่ เขาหยิบสิ่วแกะสลักขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นำไปไว้ที่ง่ามนิ้วของตัวเองทั้งสองมือในลักษณะคล้ายกรงเล็บ แล้วฟาดมือที่มีสิ่วแกะสลักอยู่ออก ตบปะทะไพ่ทั้งสี่ที่พุ่งมาอย่างแม่นยำ จนไพ่ทั้งสี่หมดแรงร่วงลง
หนุ่มเดดร็อคแสยะยิ้ม หันมองแม็กกี้
“ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า ร้ายกาจ..” หนุ่มเดดร็อคพูดขึ้นด้วยท่าทางยียวน “ได้ยินว่าในโรงเรียนประจิมฯ มีผู้หนึ่งที่มีวิชาร่อนไพ่ที่ร้ายกาจ แม่นยำและแปรเปลี่ยนได้ ...ไม่นึกว่าจะมาเห็นด้วยตาตัวเองนะเนี่ย”
“ขอบใจที่ชม” แม็กกี้มองหน้าเขา ยิ้มตอบ “นายน่ะ โชคดีแล้ว ปกติไม่มีใครได้เห็นหรอก เพราะฉันไม่ชอบต่อสู้เท่าไหร่”
“โอ...โอ ฉันก็กลายเป็นผู้โชคดีอย่างงั้นสิ ฮ่ะ ฮา ฮ่า”
อย่างที่ทราบเกมมาสเตอร์ แม็กกี้ เป็นผู้ดูแลบ่อนพนันขนาดย่อมที่อยู่ในชั้นสองของตึกอุตสาหกรรม วัน ๆ เขาต้องคลุกคลีกับไพ่และอุปกรณ์การพนันอื่น ๆ เป็นประจำ ทำให้เขาสามารถนำของเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ในการต่อสู้ได้อย่างดี
แต่ฝีมือพวกนี้ของเกมมาสเตอร์ แม็กกี้ มีผู้พบเห็นเพียงน้อยนิด ประกอบกับเขาต้องดูแลบ่อนพนัน จึงไม่ค่อยได้ต่อสู้หรือแสดงฝีมือเท่าไหร่
ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาได้จัดการกับนักเรียนโรงเรียนอื่นที่แอบเข้ามาเล่นพนันแล้วเล่นโกง ทำให้พอมีผู้พบเห็นการร่อนไพ่ของเขาเพิ่มขึ้นบ้าง
แม็กกี้เหม่อมองไปที่แขนเสื้อช็อปของหนุ่มเดดร็อค สังเกตดูแถบสีดำที่คาดอยู่ที่แขนซ้าย
“ช็อปหนึ่งแถบ?” แม็กกี้พูดต่อ “หรือว่า.. แกคือ หนึ่งในห้าผู้คุมกฎของจักรวรรดิบูรพา”
“อ่ะ! รู้เหมือนกันนี่ ไม่ธรรมดา” หนุ่มเดดร็อคบอก “ถูกแล้ว ฉันนี่แหละหนึ่งในห้าผู้คุมกฏของจักรวรรดิบูรพา ..ซ่อนดาบในรอยยิ้ม ชา ...แกรู้จักมั้ยล่ะ?”
ที่แท้แล้วเสื้อช็อปหนึ่งแถบก็คือ เครื่องบอกตำแหน่งของโรงเรียนจักรวรรดิบูรพา ซึ่งหนุ่มเดดร็อคผู้นี้คือ ชา ฉายาซ่อนดาบในรอยยิ้ม ผู้มีรอยยิ้มตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในสถาการณ์ใด ราวกับหน้าของเขาสวมหน้ากากยิ้มของละครโนอยู่ตลอด ทำให้หลากหลายคนถูกรอยยิ้มนี้หลอกเอา พิฆาตจนแพ้พ่ายไป ส่วนอาวุธประจำตัวของชาที่ใช้ในการต่อสู้ก็คือ สิ่วแกะสลัก นั่นเอง
แม็กกี้ยิ้มตอบ ส่ายหน้าไปมา “ไม่รู้ว่ะ”
แววตาของชาหนุ่มเดดร็อคเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นท่าทีเล่น ๆ ของแม็กกี้ แต่รอยยิ้มของเขาก็ยังอยู่เช่นเดิม หาเปลี่ยนแปลงด้วยไม่
“งั้นเหรอ.. ดีเลย วันนี้แกจะได้รู้จัก ซ่อนดาบในรอยยิ้ม ชา คนนี้นี้แน่”
ว่าแล้วเขาก็ก้าวเดินเพื่อเข้าไปโจมตีแม็กกี้และเจ
(มีต่อครับ)