TWO TOP สองอันตราย - [บทศึกชิงขุนพลสายศิลป์] - ตอนที่ 14 : ผู้ยิ่งใหญ่

ตอนที่ผ่านมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
====================================================================================

ตอนที่ 14 : ผู้ยิ่งใหญ่


    ในที่สุดก็ได้สี่ขุนพลแห่งสายศิลป์คนใหม่แล้ว

    ป๊อกกี้ ผู้ฆ่ายักษ์!

    เนื่องจากเอ็มเพรส จิน คู่ชิงขอยอมแพ้ไป ทำให้ตำแหน่งสี่ขุนพลตกเป็นของป๊อกกี้แทน

    ซึ่งตอนนี้ป๊อกกี้ สี่ขุนพลคนอื่น ๆ และผู้เกี่ยวทั้งหมดอยู่รวมกันที่ชั้นสามของตึกอุตสาหกรรม ที่พวกเขาอยู่ที่นี่ก็เพื่อร่วมฉลองตำแหน่งสี่ขุนพลให้กับเด็ก ม.4 ผู้คาบขนมปังแท่งยี่ห้อป๊อกกี้คนนี้

    อาการบาดเจ็บของป๊อกกี้เริ่มทุเลาลงแล้ว เพราะได้รับการปฐมพยาบาลและรักษาอย่างดี ถึงแม้จะมีพลาสเตอร์แปะอยู่ตามตัวและมีรอยเขียวช้ำอยู่ แต่การเดินเหินของเขาก็เดินไปมาได้อย่างปกติธรรมดา

    “ขอแสดงความยินดีกับนายด้วยนะป๊อกกี้ นายคือสี่ขุนพลคนใหม่ของเรา” เฮอมิต ใหญ่ เอ่ยบอกป๊อกกี้ ดูแล้วฤาษีหนุ่มผู้นี้จะคล้ายเป็นผู้นำของเหล่าสี่ขุนพลและนักเรียนนักเลงโดยปริยาย เพราะเขาเป็นผู้จัดการและดูแลในทุกสิ่งเลย

    ป๊อกกี้ผงกศีรษะเล็กน้อยเป็นการยอมรับ แล้วหยิบขนมปังแท่งขึ้นมากัดกินด้วยความเคยชิน

    “ครับพี่ ๆ” ป๊อกกี้พูดขึ้น เขาอยู่ ม.4 จึงเป็นรุ่นน้องที่สุดของผู้ที่อยู่ที่นี่ เพราะทุกคนในที่นี้อยู่ ม. 5 และ ม.6 หมด

    “อืม...“ ใหญ่พยักหน้ารับ “นายเพิ่งได้เป็นสี่ขุนพล ยังไม่รู้จักทุกคน วันนี้จะแนะนำทุกคนให้ได้รู้จักไว้ เพราะต่อไปเราต้องร่วมมือกัน”

    ใหญ่จ้องหน้าป๊อกกี้แล้วเอ่ยต่อ “สำหรับฉัน เฮอมิต ใหญ่ นายคงรู้จักอยู่แล้ว คงไม่ต้องแนะนำตัวอะไรมากนะ” แล้วเขาก็หันหน้าไปทางหนุ่มนักกีฬา

    สปอร์ทแมนเหมือนรู้ตัว ลุกขึ้นพูดว่า “ฉันเจมส์ ฉายาสปอร์ทแมน สี่ขุนพลสายพละ นายคงจะพอรู้จักฉันบ้างนะ”

    “ครับ” ป๊อกกี้พยักหน้า แสยะยิ้มกวน ๆ ให้ “สปอร์แมน สี่ขุนพลแห่งสายพละ นักฟุตบอลผู้โด่งดัง ...ทำไมผมจะไม่รู้จักล่ะครับ”

    “อืม...” เจมส์ผงกศีรษะรับ “ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกฉันได้”

    “ครับ”

    แล้วบุคคลลำดับต่อไปที่จะแนะนำตัว ก็พูดขึ้นมา

    “ฉันชื่อ แอล..” คนผู้นี้ไม่ได้ลุกขึ้นยืนเหมือนกับเจมส์ เพราะเขาคือ เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนรถเก้าอี้เข็นนั่นเอง

    ป๊อกกี้หันมองเขาทันที เนื่องจากยังไม่รู้จักเขาแม้แต่น้อย

    แอล บุรุษหนุ่มผิวเนียน หน้าตาซีดขาว ไว้ผมตรงยาวปะบ่า เนื่องจากขาของเขาบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ทำให้ต้องนั่งเก้าอี้รถเข็นตลอดเวลา

    แอลพูดขึ้นต่อ “ฉันแอล ฉายาอัจฉริยะที่สอง เป็นผู้รักษาการแทนสี่ขุนพลของสายวิทย์ที่ไม่อยู่ในช่วงนี้”

    “ครับ” ป๊อกกี้บอก เขาจ้องหนุ่มบนรถเข็นตาเขม็ง เพราะสงสัยว่าทำไมชายหนุ่มผู้ต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลาคนนี้ ถึงมีตำแหน่งเป็นผู้รักษาการแทนสี่ขุนพลได้

    ต่อไปเป็นตาของสองผู้คุมตึกอุตสาหกรรมแนะนำตัว

    หนุ่มผมตั้ง ท่าทางเคร่งครัด พูดขึ้นมาก่อน “ฉัน สู้คราใดต้องปราชัย เชน ผู้คุมตึกอุตสาหกรรม ชั้นหนึ่ง” เขามองป๊อกกี้ด้วยสายตาชื่นชม “นายเก่งนะ นาน ๆ จะมีเด็ก ม.4 ได้เป็นสี่ขุนพล ฉันล่ะ.. นับถือนายจริง ๆ”

    พอป๊อกกี้ได้ฟังเชนพูดก็ยิ้มขึ้นทันที เพราะแววตาของผู้คุมตึกอุตสาหกรรมชั้นหนึ่งที่จ้องมองเขานี้ ดูจริงใจมากทีเดียว

    “ต่อไปคงเป็นฉันสินะ” แม็กกี้พูดขึ้นด้วยสีหน้ากวน ๆ “ฉัน เกมมาสเตอร์ แม็กกี้ ผู้คุมตึกอุตสาหกรรม ชั้นสอง ไง..ถ้านายว่าง ก็มาเที่ยวที่ชั้นสองได้นะ..ยินดีตอนรับเสมอ แต่เตรียมเงินมาเยอะ ๆ ล่ะ หมดตัวไม่รู้ด้วยนะ ..ฮ่ะ ฮา ฮ่า”

    ป๊อกกี้จ้องดูแม็กกี้ เขาคิดในใจว่าท่าทางของจ้าวแห่งเกมผู้นี้ดูเล่น ๆ เกินไป แถมแต่งตัวเหมือนนักเที่ยวอีก ไม่น่าจะอยู่ที่สายอุตสาหกรรมเลย

    พอสิ้นแม็กกี้พูด ก็ไม่มีใครพูดขึ้นต่อ เงียบกันหมด จนใหญ่ต้องเอ่ยบอกให้อีกคนพูดขึ้นมา

    “เฮ้ย! เจ ตานายแล้ว” ใหญ่หันบอกหนุ่มร่างเล็ก

    “เอ่อ..” เจสะดุ้งเล็กน้อย หันมองป๊อกกี้ “อ่ะ ..ฉัน เจ เสนาธิการของโรงเรียน ยินดีด้วยนะ.. สี่ขุนพลคนใหม่”

    “อืม..” ป๊อกกี้จ้องมองเจ ยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี เพราะรูปร่างของเขากับเจไม่ต่างกันเท่าไหร่ ทำให้ป๊อกกี้ดูค่อนข้างถูกชะตากับเจพอสมควร

    “ต่อไปคงเป็นฉันสินะ” ผู้ที่ยังไม่แนะนำตัวคนสุดท้ายพูดขึ้น

    ผู้พูดก็คือ ปรี จักรพรรดิแห่งประจิมสวัสดิ์นั่นเอง

    “นายคงไม่รู้จักฉันสินะ” หนุ่มผมหยิกเอ่ยพูดต่อพร้อมยิ้มให้ป๊อกกี้ “ฉันมีชื่อว่า ปรี ผู้มีตำแหน่งเป็นจักรพรรดิ!!”

    “อ่า.. นายน่ะหรือ..จักรพรรดิ!” ป๊อกกี้พูดสวนทันที

    “ใช่.. ฉันนี่แหละจักรพรรดิประจิมสวัสดิ์ที่คุมโรงเรียนนี้” ปรีพูดอย่างหนักแน่น “แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้หรอกว่าฉันคือใคร มีแต่สี่ขุนพลกับผู้เกี่ยวข้องเท่านั้นที่รู้ตัวจริงของฉัน”

    “อ้อ.. มิน่าล่ะ นายถึงดูสนิทกับพวกสี่ขุนพล”

    “เออ.. เอาเถอะ” ปรียิ้ม ๆ “ต่อไปสายศิลป์คงต้องฝากนายดูแลแล้วนะ”

    หลังจากนั้นใหญ่ก็พูดคุย บอกภาระหน้าที่ของสี่ขุนพลให้ป๊อกกี้ฟัง ซึ่งหนุ่มใส่หมวกก็รับฟังและปฏิบัติตาม โดยต่อไปปัญหาหรือเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสายศิลป์ ป๊อกกี้จะต้องเป็นผู้จัดการและแก้ไขแล้ว

    ซึ่งแน่นอนว่าป๊อกกี้ก็จะมีอำนาจสามารถควบคุมเหล่านักเรียนนักเลงทั้งหมดในสายศิลป์ได้ แม้กระทั่งยักษ์วัดแจ้งยักษ์วัดโพธิ์ก็ต้องอยู่ในอาณัติของเขาด้วย

    เมื่อนัดแนะและบอกกล่าวเรียบร้อยแล้ว อัจฉริยะที่สอง แอล ก็ขอตัวกลับก่อน สู้คราใดต้องปราชับ เชน จึงอาสาเป็นคนพาแอลกลับไป เพราะแอลนั่งรถเข็นอยู่ จึงลงชั้นสามนี้ได้ค่อนข้างลำบาก

    “เอาล่ะ.. น่าจะได้เวลาแล้ว” ใหญ่พูดขึ้น แต่แล้วก็มีสิ่งหนึ่งขัดจังหวะเขาขึ้นมา

    เป็นเสียงริงโทนมือถือของใหญ่นั่นเอง เมื่อฤาษีหนุ่มแห่งสี่ขุนพลเห็นชื่อผู้โทรเข้า ก็มีอาการเปลี่ยนไปทันที

    “เอ่อ.. เดี๋ยวฉันขอตัวก่อนนะ ...แม็กกี้ ฝากนายดูแลที่เหลือต่อด้วย” แล้วใหญ่ก็รีบแจ้นออกจากตรงนี้ไปทันที

    “สงสัยฟ้าจะโทรมาแฮะ” แม็กกี้นินทาลูกพี่ตัวเองเบา ๆ แล้วหันมองป๊อกกี้ “เอาล่ะ... ถึงเวลาที่ทุกท่านรอคอยแล้ว” นักเล่นเกมเอ่ยบอกกับทุกคนราวกับตัวเองเป็นโฆษก “ต่อไปจะเป็นการเล่นเกม เพื่อต้อนรับสี่ขุนพลคนใหม่!”

    “เล่นเกม? เกมอะไร?” ป๊อกกี้งง ๆ แต่เมื่อเขาหันไปเห็นเจมส์ส่ายหน้าขึ้นมาเล็ก ๆ ก็แสดงว่าเกมนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่

    “นั่นสิ มันคือเกมอะไร?” เสนาธิการ เจ หันไปถามปรี เพราะเขาก็เพิ่งเป็นเสนาธิการ จึงไม่รู้เรื่องอะไรเหล่านี้

    “เออ.. นั่นสิ นายก็ไม่รู้นี่” ปรีบอก แสยะยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัย “มันเป็นธรรมเนียมของเราน่ะ เมื่อมีสี่ขุนพลคนใหม่ มันก็จะมีการเล่นเกม เพื่อเป็นการต้อนรับและเสริมความสัมพันธ์กัน”

    “อ้อ.. แล้วจะเล่นเกมอะไรกันล่ะ?” เจถามต่อ

    “เกมอะไรหรือ... เรื่องนี้คงต้องปล่อยเป็นหน้าที่ของผู้ชำนาญเรื่องเกมอย่างแม็กกี้ เราแค่รอเล่นเกมก็พอ”

    “เอาล่ะ.. เริ่มกันเลยดีกว่า” แม็กกี้พูดต่อ ท่าทางเขามีความสุขมากเหลือเกิน

    แล้วเขาก็หยิบกล่องขึ้นมาใบหนึ่ง “ป๊อกกี้ ในกล่องนี้มีสลากเกมประเภทต่าง ๆ อยู่ ให้นายหยิบสลากในกล่องนี้ขึ้นมาใบหนึ่ง เราจะเล่นเกมที่นายเลือกนั้น”

    “อะ.. ได้” ป๊อกกี้ล้วงมือลงไปในกล่อง เพื่อหยิบสลากเลือกเกมขึ้นมา  

    “ขอให้ได้เกมธรรมดาเถิด..” เจมส์พูดกับตัวเอง เขาเคยเผชิญกับการเล่นเกมต้อนรับสี่ขุนพลนี้แล้วในสมัยที่เขาเพิ่งเป็นสี่ขุนพล ซึ่งดูจากสีหน้าของหนุ่มนักกีฬาตอนนี้ เกมต่าง ๆ ที่อยู่ในกล่อง ต้องไม่ใช่เกมธรรมดาอย่างแน่นอน

    แต่สำหรับแม็กกี้คนละอารมณ์กับเจมส์เลย เขามีท่าทีสนุกมากกับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นนี้อย่างเห็นได้ชัด

    ป๊อกกี้ล้วงสลากขึ้นมาใบหนึ่ง ส่งให้แม็กกี้เปิดอ่าน

    เมื่อหนุ่มนักเล่นเกมเปิดดู สีหน้าส่อแววประหลาดใจเล็กน้อย แต่แล้วก็ฉีกยิ้มกว้างคล้ายดีใจอย่างยิ่ง

    “เกมที่ได้คือ...” แม็กกี้ทิ้งช่วงให้ระทึกเล่น “..เกมผู้ยิ่งใหญ่!!”

    ผู้ที่อยู่ที่นี่ต่างนิ่ง ๆ เพราะส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าเกมที่ได้นี้เป็นอย่างไร

    “ไม่น่าเชื่อนะ.. ว่าจะได้เกมผู้ยิ่งใหญ่ ป๊อกกี้..นายนี่โชคดีจริง ๆ นานมาแล้วที่ไม่มีใครได้เกมนี้” แม็กกี้เอ่ยต่อ “เกมนี้ไม่มีอะไรมากหรอก เราก็แค่หาผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด” เขาเน้นคำว่า ‘ยิ่งใหญ่’ ซะดัง “เอาล่ะ เกมนี้เราจะไปเล่นกันในห้องน้ำ ขอให้ทุกคนถอดเสื้อผ้า นุ่งผ้าเช็ดตัว แล้วไปรวมกันที่ห้องน้ำนะครับ..”

    ว่าแล้วแม็กกี้ก็เดินยิ้มอย่างมีความสุข แล้วเข้าห้องน้ำไปเป็นคนแรก

    “เกมอะไรเนี่ย..” ป๊อกกี้บ่นเล็ก ๆ แต่ในเมื่อเขาเป็นสี่ขุนพลแล้ว ต่อให้เป็นเกมอะไรก็ต้องยอมรับ จึงทำตามที่แม็กกี้บอก เดินเข้าห้องน้ำไปอีกคน

    “ปรี.. เราต้องเล่นเกมนี้ด้วยเหรอ?” เจถาม

    “ใช่ ..ทุกคนต้องเล่น มันเป็นธรรมเนียม” ปรีบอก “ไปเถอะ เราก็ทำตามที่แม็กกี้บอกเถอะ”

    ปรีกับเจก็ยอมเล่น ทำตามที่แม็กกี้บอก แล้วเข้าห้องน้ำไป

    เหลือแค่สปอร์ทแมน เจมส์ ที่ยังไม่เข้าไป ดูจากอาการแล้ว เขาไม่ค่อยอยากเล่นเกมนี้เท่าไหร่ นั่งนิ่งครุ่นคิดอยู่เนิ่นนาน

    “เอาก็เอา!!” แล้วหนุ่มนักกีฬาก็ตัดสินใจลุกขึ้น เดินตามเข้าห้องน้ำไปอีกคน

    ตอนนี้ผู้คนส่วนใหญ่ก็เข้าห้องน้ำไปเพื่อเล่นเกมผู้ยิ่งใหญ่แล้ว จะเหลือก็แค่ใหญ่ที่ออกไปคุยโทรศัพท์กับฟ้าที่ด้านนอก และเชนที่ไปส่งแอลกลับ

    แต่ว่าเกมผู้ยิ่งใหญ่มันเป็นอย่างไรกันแน่!


(มีต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่