[CR] Portugal ♡ เที่ยว Lisbon Porto แบกกระเป๋าตามล่าหาทาร์ตไข่

“รอบนี้เราไปไหนกันดี?”

คำถามนี้ถูกยกขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเรามีวันหยุดตรงกัน (หรือตั้งใจลาหยุดเพื่อมาเที่ยวก็ว่าได้) สืบเนื่องจากที่เราและ B1 ได้วันหยุดจากการทำงาน ก็จะกลับไทยประมาณ 3 อาทิตย์จากปารีส และหิ้วเอา B2 กลับมาที่นี่ด้วย เพื่อมาเรียนป.โทต่อที่เมือง Bordeaux บวกกับ B4 ที่ลางานเพื่อที่จะมาเที่ยวด้วยกัน

“รอบนี้เราไปไหนกันดี?” - นั่นน่ะสิ ไปไหนดีล่ะ หลากหลาย destination ถูกพูดถึงพร้อมๆกับเปิด skyscanner หาตั๋วเครื่องบินถูกไปพลางๆ เราแพลนทริปนี้ประมาณเดือนมิถุนายน สำหรับการท่องเที่ยวในช่วงปลายเดือนสิงหา คาบเกี่ยวกับเดือนกันยา เพื่อไม่ให้ราคามันแพงพุ่งไปไกลมากนัก

ตอนแรกสุดเลย B4 อยากไปมอลต้า เห็นจากที่พวกเราไปกันมาจากกระทู้ Malta ♡ ประเทศเล็กๆที่เที่ยวเท่าไรก็ไม่พอ https://ppantip.com/topic/36591267 แต่ว่าตั๋วแพงมากกกกกกกกกกกกก แล้วบูดาเปสจากกระทู้ Budapest, Hungary ♡ สวยที่สุดในยุโรปสมคำร่ำลือ https://ppantip.com/topic/37690503 B4 ก็เคยไปมาแล้ว จะไปอิตาลีจากกระทู้ Italy ♡ ตะลุยอิตาลีด้วยรถไฟหวานเย็น https://ppantip.com/topic/38035227 อีกรอบก็ไม่ไหวกันแล้ว เหนื่อยเหลือเกินพี่จ๋า

ตัวเลือกก็มาตกอยู่ที่ประเทศโปรตุเกสอีกครั้ง มันมีเรื่องของมัน เพราะว่าประเทศนี้ B4 อยากมาตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้วได้ แต่ว่าดวงมันไม่เคยได้มาเลยสักครั้ง ติดอุปสรรคโน่นนี่นั่นไปทั่ว จุดโฟกัสเลยเริ่มเอนเอียงไปที่โปรตุเกส แล้วสุดท้ายแจ้คพอตก็มาแตกที่ประเทศนี้แหละ (คิดว่าถ้ารอบนี้อยากไปละไม่ได้ไปก็ไม่ต้องไปละนะ ประเทศนี้คงไม่ใช่ของเราจริงๆ) เนื่องจากมันมีตั๋วถูกจากปารีสไปยังเมืองหลวงลิสบอน (Lisbon) โดยสายการบิน Transavia คนละ 39€ เท่านั้น และขากลับก็เหมาะเจาะ โดยสายการบินแห่งชาติโปรตุเกส TAP Portugal จากลิสบอนไปเมืองบอร์โด (Bordeaux) คนละ 60€ ก็ถือโอกาสไปส่ง B2 เข้าหอซะเลย เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวนัก

ทริปนี้ใช้กล้อง Nikon D90 Fixed-Lens 35mm f/1.8 ไม่แบกเยอะแล้ว กล้องตัวเดียวเอาอยู่วววว



จะว่าไปทริปนี้เป็นทริปที่แพลนล่วงหน้านานอยู่เหมือนกัน เพราะทางเราจะกลับไทยประมาณ 3 อาทิตย์ก่อนที่จะไปเที่ยวหลังจากกลับมาจากไทย อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรก ก็เลยอยากแพลนอยากจองทุกอย่างให้เสร็จก่อนที่จะกลับไทย กลับบ้านไปจะได้นอนพักผ่อน อยู่บ้านอย่างสบายใจ

หลังจากจองตั๋วเครื่องบินเสร็จก็ทำการจองที่พัก แผนก็คือพวกเราจะบินไปลิสบอนก่อน แล้วนอน 1 คืน วันที่ 2 ก็ค่อยนั่งรถไฟไปที่เมืองปอร์โต้ (Porto) นอน 1 คืน แล้วกลับมานอนที่ลิสบอนอีก 5 คืนก่อนที่จะบินกลับ สาเหตุที่ทำแบบนั้นก็เพราะว่า ตอนแรกแพลนยังไม่ลงตัวเลยว่าจะไปไหนบ้างก็เลยไปกลับ-ลิสบอนก่อนเลย play safe สุดๆ

จะบอกว่าเป็นการหาที่พักที่ค่อนข้างยากลำบากมาก เพราะว่าเราตั้งใจจะหา Airbnb แต่ว่าทุกที่คือราคาไปไกลมาก เราคิดว่าที่ราคาที่พักที่โปรตุเกสจะถูกกว่านี้ หากันอยู่นานมากกกก ไม่มี๊ โรงแรมก็แพงเกินและช้อยน้อยมาก Airbnb ก็แพงจนไม่น่าเป็น Airbnb (แพงในที่นี่ก็คือราคาเด็กๆเก็บเงินเที่ยวเอง on budget สุดอะไรสุด) สุดท้ายก็เลยมาตกที่โฮสเทล ตอนแรกเราไม่เรื่องมากเลย อะไรก็ได้ เนื่องจากเป็น ผญ คนเดียว แต่ขออย่างเดียวคือไม่เอาห้องน้ำแชร์ ซีเรียสเรื่องห้องน้ำมากเว่อ แต่ท้ายที่สุดแล้วทำอะไรไม่ได้เลย ต้องพึ่งโฮสเทลเท่านั้น เอาก็เอาวะ โฮสเทลครั้งแรกในชีวิต ที่ลิสบอนก็เลยจะนอนเป็นโฮสเทลหมด ทั้งหมด 6 คืนจ่ายไป 442€ แต่ที่ปอร์โต้เราไปได้ Airbnb ในราคาคืนละ 90.90€ ก็ยอมจ่ายไปเพราะอยู่ในตัวเมืองเลย

เอาล่ะ เกริ่นเรื่องตั๋วเครื่องบินกับที่พักมามากพอสมควรละ เริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่าาาาา


Day 1

เรื่องมันมีอยู่ว่า วันก่อนที่จะบินเนี่ย เรา B1 B2 เพิ่งกลับมาจากเมืองไทยกัน เป็นรูทที่ทรหดมาก คือบินจากสุวรรณภูมิไปยังโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก แล้วก็รับกระเป๋า ผ่าน immigration ทำทุกอย่าง เสร็จตั้งแต่ประมาณ 8-9 โมง แล้วรอขึ้นอีกไฟลท์นึงกลับปารีสตอนประมาณ 4 โมงเย็น ตอนแรกว่าจะออกไปเดินเที่ยวกัน แต่.. ความซัมเมอร์มักจะไม่ค่อยมีอยู่จริงที่ประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ละฝนก็ตกพรำๆทั้งวัน ก็เลยอด ไปนั่งๆนอนๆกินๆอยู่ที่เบอร์เกอร์คิงในเทอมินอลนั่นแหละ จนถึงเวลาขึ้นเครื่อง พอกลับมาถึงปารีสตอนค่ำๆ ก็แกะกระเป๋า แล้วก็แพ้คใหม่ เพื่อที่จะเดินทางในวันต่อไป กว่าจะได้นอน ดึกดื่นตาโบ๋มากกกก

โชคดีที่ไฟลท์ไปลิสบอนนี่บินตอนเที่ยง ยังตื่นสายได้บ้างจิ๊ดนึงก็ยังดี และก็ดีอีกที่บ้านอยู่ไม่ไกลสนามบิน Orly มากนัก ไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว ทางเราเช้คอินมาเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเข้าเกตขึ้นเครื่องได้เลย เรื่องตลกมีอยู่ว่า สายการบิน Transavia เนี่ย ให้กระเป๋าแค่คนละใบ ย้ำว่าคนละใบเท่านั้น กระเป๋าถือกระจุ๊งกระจิ๊ง เป้ กระเป๋าสะพาย นับหมด! เห่นโหล้ว ยังไงล่ะ เค้าจริงจังมาก มีแม้กระทั่งวิดีโอบอกในเว้ปว่าต้องยัดทุกอย่างลงใน “ใบเดียว” ก็ต้องยัดสิคะรออะไร

แล้วบินไปโปรตุเกสนี่เป็นการบินระหว่างประเทศในยุโรปที่นานมาก 2 ชั่วโมงครึ่งได้ นานเว่อ เมื่อไรจะถึงสักที แต่ก็อ่ะ พอถึงแล้วก็ทำการติดต่อ B4 ค่ะ เพราะทางนั้นบินมาจากไทย catch up flight ตามๆกันมามากเว่อ เราถึงที่สนามบินบ่ายโมงครึ่ง ทาง B4 น่าจะถึงตั้งแต่ประมาณ 11 โมงครึ่งเห็นจะได้ พอเจอกันก็ไปหาอะไรกินรองท้องก่อน เพราะทางเราคิดว่ากินให้เสร็จ เช้คอินที่พัก แล้วจะได้เดินเที่ยวเลย จุดจบก็คือเบอร์เกอร์คิงนั่นเอง

จากนั้นก็นั่งเมโทรจากสนามบินนี่แหละ ไปที่โฮสเทลที่เราจองไว้ เมโทรที่นี่นั่งไม่ยากเลย เป็นแผนผังเล็กๆ เทียบกับปารีสนี่ที่นี่เล็กกว่าเยอะ มี 4 สายเท่านั้น แยกเป็นสี สีเหลือง แดง เขียว และฟ้า ค่าตั๋วต่อเที่ยวจะอยู่ที่คนละ 1.45€ แพงพอๆกับปารีสเลยแฮะ แต่ตั๋วจะเป็นแบบ reusable ที่ใช้เติมเงินได้ (ดีกว่าปารีสมาก เพราะปารีสใช้แล้วทิ้งเกลื่อนเมืองเต็มไปหม๊ด) ตอนซื้อครั้งแรกจะมีค่าตั๋ว reusable เนี้ย อีก 0.50€ หลังจากนั้นก็จ่ายแค่ 1.45€ ต่อเที่ยวเหมือนเดิม มีแพ้คเกจอื่นๆอีกมากมาย แบบราคา 24-hour อะไรแบบนี้ แต่ด้วยความที่พวกเราเดี๋ยวพรุ่งนี้จะนั่งรถไฟไปเที่ยวที่ปอร์โต้ กัน ก็เลยเติมเป็นรอบๆไปดีกว่า


โฮสเทลที่เราจะไปนั้นอยู่ที่สถานี Marquês de Pombal เป็นสถานีที่ค่อนข้างกลางเมืองมากๆ อยู่ตรง Estátua do Marquês de Pombal เลย เป็นเหมือนอนุสาวรีย์ วงเวียน จัตุรัส หรืออะไรสักอย่างที่กลางเมืองมากๆ (อย่าถามหาประวัติศาสตร์จากเรา มันไม่มีอยู่ในหัวเลย) กลับมาที่โฮสเทล เดินไม่ไกลจากสถานีมากนัก แต่ทว่า เนินสูงมาก นึกว่ามาปีนยอดเขา Everest คือมันไม่ไกล แต่ปีนเนินเนี่ย ให้ความรู้สึกที่ไกลเว่อ พอมาถึงก็จัดการเช้คอิน เก็บของ เปลี่ยนเสื้อผ้า และออกไปเดินเที่ยวกัน

สถานที่แรกที่เราไปถึงนั่นก็คือ คืออะไรก็ไม่รู้ ให้ภาพเล่าเรื่องก็แล้วกัน วันนี้เป็นเหมือนการเดินเล่นชมเมืองเฉยๆซะมากกว่า เพราะเราไม่ได้เน้นอะไรเป็นพิเศษ เข้าใจว่าลิสบอนเนี่ย จะมีฝั่ง new town และ old town วันนี้เราก็เลยคิดว่าจะเดินเล่นฝั่งเมืองใหม่ให้หมดก่อน


เราก็ทำการเดินไปเรื่อยๆ ไปจนถึงที่ Praça do Rossio หรือ Rossio Square เข้าใจว่าน่าจะเป็นจัตุรัสอะไรสักอย่าง มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง ถนนรอบๆเต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก โรงแรม ร้านแลกเงิน อะไรเหล่านี้ตั่งต่างเต็มไปหมด



เดินไปอีกเรื่อยๆก็จะเจอกับเส้นที่มีแต่ร้านอาหารทั้ง 2 ฝั่ง นึกภาพถนนคนเดินเส้นใหญ่ๆกว้างๆหน่อย มีร้านอาหารเรียงรายทั้ง 2 ฝั่ง ตรงกลางมีโต๊ะอาหารตั้งอยู่เต็มไปหมด เหลือที่ให้คนเดินไม่ใหญ่มาก ดูแล้วลิสบอนนี่ทำตัวเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างแท้จริง หลังจากนั้น เราก็มุ่งหน้าไปที่ร้านขนมหวาน ที่เราอ่านรีวิวมาจากพันทิป มีคนแนะนำให้ไปกิน “ทาร์ตไข่” ที่ร้านนี้ แน่ล่ะไม่กินทาร์ตไข่ก็คงเหมือนมาไม่ถึงประเทศโปรตุเกสสินะ

เรามุ่งหน้าไปที่ร้าน Confeitaria Nacional ที่เค้าเคลมว่าเปิดมาตั้งแต่ปี 1829 หน้าร้านแฟนซีมาก มีขนมหวานเรียงเต็มไปหมด เราเข้าไปด้านในคือความวุ่นวาย เรายืนรอคิวนานมากแต่ไม่มีใครมารับออเดอร์เลย ก็เลย discover ว่าขึ้นไปชั้นสองก็ได้ สั่งข้างบนได้ สบายมาก


เราก็จัดการสั่งทาร์ตไข่ที่รอคอย ชิ้นละ 1.40€ (แพง ถ้าเทียบกับร้านอื่นๆ) มาคนละชิ้น ทาร์ตไข่ที่นี่จะเรียกว่า Pastel de Nata หรือ Pastéis de Nata (ไม่แน่ใจว่าภาษาอะไรกับภาษาอะไร แต่เห็นมันเขียนสองแบบ) และเราก็สั่งอะไรก็ไม่รู้ที่จำชื่อไม่ได้ หน้าตาเหมือนฝอยทองกรอบมาอีกชิ้นนึง มาลองชิมกัน ปรากฏว่า เฉยๆง่ะ ไม่แฟนซีเลย เจ้าฝอยทองกรอบก็เฉยๆ หวานม๊ากกกกก



กินเสร็จก็มูฟตัวเองไปต่อ เดินเล่น แล้วก็เดินผ่านร้านทาร์ตไข่ร้านที่ 2 ชื่อว่า Fábrica da Nata ก็เลยเข้าไปลองซื้อกินอีก ร้านนี้ขายแค่ชิ้นละ 1€ เอง (ที่บอกไปว่าร้านแรกแพงเพราะร้านอื่นๆคือชิ้นละ 1€ ทั้งนั้นเลย) แป้งกรอบมาก ออกรสเค็มๆหน่อย ด้านในไม่หวานมาก กินแบบร้อนๆแบบออกมาจากเตาอบใหม่ๆ อร่อยมากกกกกกกกกกกกกก ชอบมากกกกกกกกกกก อีกอย่างคือร้านนี้ตกแต่งน่ารักมาก ออกโทนสี marine ขาวฟ้า มีโต๊ะเล็กๆด้านให้ยืนกิน พร้อมกับ cinnamon และ icing sugar ไว้ให้เพิ่มความหวาน หรือถ้าใครอยากนั่งกินก็ขึ้นไปที่ชั้น 2 ได้

บอกเลยว่าร้านนี้นี่อร่อยถูกใจตั้งแต่คำแรก ตั้งแต่แป้งออกเค็มๆ ไส้ไม่หวานมาก อบกรอบๆร้อนๆจากเตา ชิ้นที่ไหม้ๆหน่อยก็จะหอมตรงส่วนที่ไหม้ อร่อยลื้มมม หลังจากที่ได้ชิมไป ก็กลับมากินร้านนี้ทุกวันที่อยู่ลิสบอนเลย ไม่ได้ล้อเล่นเพราะมาจริงๆ วันละชิ้นสองชิ้นให้หายอยาก อร่อยจริงอะไรจริง



หลังจากดื่มด่ำรสชาติของทาร์ตไข่อันแสนหอมหวนแล้ว เราก็เดินเล่นไปต่อที่ Elevador de Santa Justa หรือลิฟท์ชื่อดังที่ออกแบบโดย Gustave Eiffel คนเดียวกับที่ออกแบบสร้างหอไอเฟลที่ปารีสนั่นเอง พอไปเห็นก็สวยนะ แต่ก็ไม่ได้แฟนซีอีกตามเคย เป็นลิฟท์เหล็ก สูงๆ ถ่ายรูปยากเพราะอยู่ในซอยแคบๆ มาพร้อมกับคิวนักท่องเที่ยวที่ต่อคิวรอขึ้นลิฟท์กัน คือพอมองดูแล้ว หน้าตา ลักษณะ และการดีไซน์ก็มีความคล้ายคลึงหอไอเฟลอยู่มากนะ ทั้งเหล็ก ลักษณะการบิดงอ รูปร่างต่างๆ แต่ด้วยความที่ไม่ได้อ่านประวัติของมันมา ก็เลยไม่รู้ว่าเป้าหมายของการสร้างลิฟท์ตัวนี้คืออะไร 55555555555555 มาด้วยความงงๆ เพราะเป็นลิฟท์เดี่ยวๆ ไม่ได้ต่อกับตึกหรืออะไรเลย


** to be continued ☺︎ **
ชื่อสินค้า:   Portugal โปรตุเกส
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่