[CR] Budapest, Hungary ♡ สวยที่สุดในยุโรปสมคำร่ำลือ

กลับมาอีกครั้งงงง จากที่ห่างหายไปจากทริป Malta เมื่อปีที่แล้ว กดเข้าไปตามอ่านที่ลิ้งนี้ได้เล้ยยยย

https://ppantip.com/topic/36591267

บอกก่อนอย่างนึงว่าคือตกใจมากกก เพราะยอดแชร์กระทู้นี้คือ 13K บนเฟสบุ้คค่าาา งงในงงในงงไปอีก เพราะเป็นกระทู้แรก แต่อย่าว่างั้นงี้เลย มันสวยจริง ต้องไปแหละ หรือจะแค่แชร์เก็บรูปไว้ดูก็ได้ เดี๋ยวเราพาไปเที่ยวเอง

มาครั้งนี้ เราจะพาทุกคนไปเที่ยวที่ Budapest ประเทศ Hungary นั่นเองง หลายๆคนอาจจะคุ้นชื่อนะ เพราะเวลาแพคเกจทัวร์ไปเที่ยว ก็จะพาตะลุย 3 ประเทศที่ติดกันนั่นก็คือ Czech-Austria-Hungary แต่ แต่ แต่ว่า รอบนี้เราไปประเทศเดียว เมืองเดียวกันไปเลย (แอบบอกว่าเดี๋ยวแถม Brussels ประเทศ Belgium มาให้หน่อยนึง เพราะแว้บไปขึ้นเครื่องที่นั่น)


ใครที่ได้ติดตามกระทู้ Malta ไป ก็จะจำได้ว่าตัวละครคือเราเอง พ่วงมาด้วย B1 และ B2 รอบนี้ B1 ยังอยู่ แต่ B2 ถูกแทนที่ด้วย B3 แทน งงล่ะสิ ไม่ต้อง งง เอาเป็นว่ามี 3 คนเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเปลี่ยนที่เที่ยวเป็น Budapest ค่าาาา

จริงๆก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าครั้งนี้มาเที่ยว Hungary หรือ Hungry กันแน่ เพราะทริปนี้กินแหลกแหกสะบั้นม๊ากกกกก กินเยอะมาก ไม่มีเวลาหิวกันเลยทีเดียว ก็เลยจะมารีวิวทั้งอาหาร การเดินทาง และสถานที่ท่องเที่ยวนะฮ้าา

เริ่มเลยละกัน พร่ำมานานละ รูปในกระทู้นี้ทั้งหมดใช้กล้อง Nikon D90 Fixed-Lens 35mm F1.8 นะค้าาา




จุดเริ่มต้นของทริปนี้คือ B3 บินมาล่องท่องเที่ยวยุโรปก่อนหน้านี้มาแล้วประมาณ 1 เดือน แล้วก็ตามมาสมทบกับเราและ B1 ที่ตอนนี้ปักหลักอยู่ที่ปารีส เพื่อจะเดินทางไปที่ Budapest กับเราทั้งสองคน เป็นเวลา 4วัน 5คืนถ้วน

เริ่มแรกเลยก็คือต้องหาตั๋วเครื่องบินที่ถูกที่สุด เหมาะสมที่สุด และแจ้คพอตก็ไปตกที่ Ryan Air Brussels-Budapest ราคาคนละ 18.35€ ต่อคน และขากลับโดย Wizz Air Budapest-Brussels ราคาคนละ 36.43€ ต่อคน (ขากลับแพงหน่อยแหละ เพราะว่าช่วงที่เราไปเที่ยว ประมาณอาทิตย์แรกของเดือนพฤษภาคม เป็นวันหยุดยาวของที่นี่ ผู้คนเลยหลั่งไหลไปเที่ยวกัน ราคาก็เลยแอบแพงนิดๆ) รวมๆแล้ว ราคาตั๋วเครื่องบินไปกลับประมาณคนละ 54.78€ หรือประมาณ 2,191 บาท (คูณเลขกลม 40 บาท = 1€ ไปเลยละกันน้า)

เหตุผลที่ไม่ซื้อ Ryan Air หรือ Wizz Air ทั้งไปทั้งกลับนั่นก็เพราะว่า จุดแรกที่เราออกเดินทางคือปารีส และไปบินออกจาก Brussels ช่วงเวลาก็เลยจะซับซ้อนหน่อยๆ และกะว่าจะแวะเที่ยว Brussels วันสุดท้ายก่อนกลับปารีส เลยกด Wizz Air ไปเพราะมีไฟลท์ตอนเย็น




Day 1

เริ่มออกเดินทางจากปารีส โดยเราจองรถบัสออกจากสถานี Saint-Denis Université โดยนั่งเมโทรออกจากบ้านแต่เช้าาาาาาาามาก ไปขึ้นรถบัสของ Oui Bus ไปที่เมือง Lille เป็นเมืองที่ติดกับเขตเมือง Brussels (คนละ 7€) พักหาอะไรกินแถวสถานีรถไฟ (สถานีรถไฟที่ Lille ใหญ่มาก และเป็นห้างไปในตัวด้วย) เสร็จแล้วก็ต่อ Flibco เป็น shuttle bus เพื่อต่อไปที่สนามบิน Brussels South Charleroi Airport เพื่อขึ้นเครื่องบินต่อไปที่ Budapest (คนละ 8.16€) ปัญหาคือเราไปเร็วเกิน แต่เหลือก็ดีกว่าขาดเนอะ ก็เลยนั่งๆนอนๆรอเครื่องออก เครื่องออกตอน 6:25pm ถึง Budapest Ferenc Liszt International Airport ตอน 8:25pm


การเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองสามารถทำได้ 2 ทางคือ รถบัส 100E หรือ 200E ถ้าเป็น 100E จะยิงตรงเข้าเมืองเลย ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่จะไม่สามารถใช้ตั๋ว day ticket ได้ต้องซื้อตั๋วแยก ส่วน 200E สามารถใช้ day ticket ได้ แต่จะใช้เวลานานกว่าเพราะจอดตามป้ายจนถึงเข้าเมือง พวกเราเลยตัดสินใจซื้อตั๋ว 100E ดีกว่า คนละ 900ft เพราะเครื่องลงก็ดึกแล้ว (Hungary ถึงจะอยู่ในเชงเก้นแต่ไม่ได้ใช้เงินยูโร ใช้เป็น HUF หรือ ft อ่านว่า forint ฟอริน) ถึงตอนนี้จะงงมาก เพราะ 2 คนอยู่ฝรั่งเศส อีกคนมาจากไทย ก็จะแปลงเงินไปมา ทั้งฟอริน ยูโร และเงินบาท เอาเป็นว่าคิดง่ายๆว่า 300ft = 1€ ละกัน เอ้ยยย และจะบอกก่อนว่าอย่าแลกเงินที่สนามบิน เป็น-อัน-ขาด!!! เพราะกดเรทมากๆ ให้เรทแค่ประมาณ 250ft = 1€ เท่านั้นเอง ทางที่ดีคือใช้บัตรเครดิตไปเลย แก้ขัดไปก่อน เข้าเมืองค่อยไปแลก ได้เรทดีกว่านี้เย๊อะะะะ!!


ถึงที่พักที่จองไว้คือ Airbnb ในเมือง ทั้งหมด 3 คืน 124€ ถ้วน บอกก่อนว่าที่พักที่เราจองผ่าน Airbnb อยู่ในเครือ Hi5 Apartments ซึ่งเราเข้าใจว่าน่าจะเป็นเอเจ้นที่ดูแลที่พักทั้งที่จองผ่าน Booking, Expedia, Hotels, และ Airbnb ซึ่งมันเป็นระบบดีมาก เมื่อจองเสร็จก้จะมีเว้ปมาให้เช้คอิน บอกว่าเดินทางมายังไง เครื่องลงเมื่อไร ต้องการรถรับส่งสนามบินมั้ย และต้องการซื้อตั๋วเข้า Thermal Bath มั้ย เพราะที่นี่มีบ่อน้ำร้อนสาธารณะ เคลมมาว่าซื้อกับเค้าเนี่ยจะได้ราคาที่ถูกกว่า แต่เรายังก่อน เพราะยังไม่แน่ใจว่าจะได้ลงมั้ย เดี๋ยวก่อนยังไม่หมด มากไปกว่านั้นคือเค้าทำ baggage storage ด้วย ซึ่งใครอยากฝากกระเป๋าก็ไปฝากได้ที่ออฟฟิศอยู่ที่ใจกลางเมืองเลย หรือถ้าใครพักที่พักในเครือนี้ก็จะได้ฝากกระเป๋าฟรีไป (นี่ก็โปรโมตให้เต็มที่นะ เพราะค่อนข้างโอเคกับเซอวิสที่ได้รับเลยนะ ที่พักก็ดี กว้างขวางนอนสบาย)

รถบัส 100E จะมาจอดที่หน้าโรงแรม The Ritz Carlton ใกล้ๆกับเมโทรสถานี Deák Ferenc tér M เมื่อลงรถบัส ก็ไปต่อเมโทรอีกประมาณ 3 สถานีก็ถึงที่พัก ที่สถานี Oktogon ถึงที่พักก็เช้คอิน เก็บของ แต่มันยังไม่จบเพราะเราหิวค่ะคุณผู้ชม ดึกแล้วด้วย เดินไปเดินมา กว่าจะตัดสินใจกินอะไรได้ร้านก็ทยอยปิดแล้ว สุดท้ายก็ต้องไปฝากท้องไว้ที่ Burger King เด้อจ้า 2 มื้อติดละเพราะที่ Lille ก็จัด Burger King มาเหมือนกัลลล T________T

อิ่มก็เข้าที่พัก อาบน้ำนอน เตรียมตัวเที่ยวในวันพรุ่งนี้





Day 2

เริ่มต้นวันด้วยการออกจากที่พักตอนสายๆ เดินไปแวะเที่ยวที่ St. Stephen’s Basilica เป็นที่แรก ค่าเข้าโบสถ์คนละ 200ft จริงๆอย่าเรียกว่าค่าเข้าเลย เค้าเขียนไว้ว่าเป็นค่า maintenance แล้วแต่ศรัทธา แต่จะเดินเข้าเฉยๆก็กระไรอยู่แหละ หยอดกันไปก่อนคนละเหรียญและเดินเข้าไปอย่างใจสงบนิ่ง ที่นี่มีบันไดวนให้เดินขึ้นไปด้านบนสุดของโบสถ์ด้วยนะ เพื่อจะชมวิวเมือง อันนี้มีค่าเข้าของจริง แต่เราไม่ขึ้นจ้า เข้าโบสถ์พอ





ถ่ายรูปอยู่หน้าโบสถ์สักพักใหญ่ๆ เดินชมเมืองตึกรามบ้านช่องไปเรื่อยๆก็ถึงร้าน Strudel House (www.reteshaz.com) เป็น the first Strudel house of Pest นั่นก็คือร้าน Strudel ร้านแรกของฝั่ง Pest นั่นเอง


ด้วยความไม่รู้และอยากรู้ว่ามันคืออะไร ก็เลยลองสั่งมา ตอนแรกก็คิดว่าเอ๊ะสั่งอะไรดี จะสั่ง breafast จัดเต็มเลยมั้ย แต่ไม่เอาดีกว่า เก็บท้องไปกินอย่างอื่นด้วย ก็เลยสั่งมา 2ชุดแบ่งกันกิน ชุดแรกเป็น Strudel Breakfast ประกอบไปด้วย 2 optional Strudels, optional hot drink and 200ml fresh orange juice (2,190ft) ทางเราก็เลยเลือกเป็น Curd Strudel และ Rasberry-curd Strudel ส่วนชุดที่ 2 เป็น Apple Strudel with vanilla ice-cream and cinnamon sauce (1,790ft)



พอชิมแล้ว ก็ได้ความมาว่า เจ้า Strudel เนี่ยมันก็คล้ายๆกับพายบ้านเราแหละ แป้งก็จะบางกรอบหน่อยๆ ข้างในก็จะเป็นไส้ ตัว Curd Strudel ตอนแรกก็งงว่ามันคืออะไร ก็เลยอยากลองสั่งมาชิม ได้ชิมสรุปได้ว่ามันรสชาติคล้ายๆกับ custard เลย แต่เนื้อจะออกร่วนๆหน่อย และมีกลิ่นชีสผสมเข้ามาด้วย เอาเป็นว่าเราชอบไส้ curd มาที่สุดเลย

กินอิ่มแล้วก็เดินเล่นไปเรื่อยๆจนถึง Chain Bridge เพื่อที่จะข้ามไปที่ฝั่ง Buda // บอกก่อนว่า Budapest จะถูกแบ่งออกเป็น 2ฝั่ง ถูกคั่นด้วยแม่น้ำ Danube ทั้ง 2ฝั่งมีชื่อเรียกว่าฝั่ง Buda กับ Pest ทั้งหมดข้างต้นที่กล่าวมาคืออยู่ฝั่ง Pest หมดเลย ทั้ง 2ฝั่งถูกเชื่อมกันด้วยสะพานหลักที่เรียกว่า Chain Bridge นั่นเองค่ะทั่นผู้โชมมมม




ครั้งนี้เราเลือกที่จะเดินข้ามแทนที่จะนั่งรถบัสเพราะจะได้ถ่ายรูปเล่น พร้อมชมวิวไปด้วย เดินไปถึงฝั่ง Buda ก็จะเจอรถรางที่ตรงใกล้ๆตีนสะพานเลย เพื่อขึ้นไปชม Buda Castle แต่ แต่ แต่ว่ารถรางพังงง!!! อดจ้า ก็เลยมีเจ้าหน้าที่เดินเข้ามาบอกว่า เค้ามีตัวเลือกให้แทนรถรางนะ นั่นก็คือ mini bus แล้ว เสียเงินคนละ 6.9€ หน้าตาคล้ายๆรถกอล์ฟ น่าจะนั่งได้มากสุดประมาณ 10 คนเท่านั้นแหละ จะพาไปจอดตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แต่เราไม่เอาค่ะ เพราะเราเปิด Google แล้วเห็นได้ว่า เราสามารถซื้อ day ticket แล้วนั่งบัสขึ้นไปได้เหมือนกัน ก็เลยจัดการกดตั๋วที่ตู้ เรามากัน 3 คน ก็เลยเลือกที่จะกด 24 hours group ticket ราคา 3,300ft ถ้าเราเข้าใจไม่ผิด ตั๋วนี้น่าจะใช้ได้ถึง 5คนเลยทีเดียว แต่เรามากัน 3คนได้ตั๋วราคานี้ก็ถือว่าถูกมากแล้ว และตั๋ว 24 ชั่วโมงนี่คือ validate ตั้งแต่นาทีที่เรากดซื้อตั๋วออกมา จนถึงเวลานี้ของพรุ่งนี้ นับไปอีก 24 ชั่วโมง หรืออีกทางนึงคือเราสามารถเลือกเวลาให้มัน validate ได้เลยจาก option ในตู้


ถ้าใครคิดว่าไม่เอาดีกว่า อยากซื้อตั๋ว single ก็กดได้ ราคาใบละ 350ft หรือถ้าจะซื้อเป็นชุด 10 ใบก็จะเหลือ 3,000ft ทุกครั้งต้อง validate ตั๋วกับเครื่อง แต่ถ้าหากซื้อตั๋วกรุ้ปจะได้มาเป็นตั๋วใบใหญ่ ไม่ต้อง validate แต่ต้องโชว์ให้คนขับรถบัสดู หรือลงเมโทรก็โชว์ให้เจ้าหน้าที่ดู ทุกๆสถานีเมโทรจะมีเจ้าหน้าที่คอยยืนตรวจตั๋วอยู่ ส่วนใหญ่คือจะยืนอยู่ตรงทางเข้า ระวังตั๋วหาย เพราะมันเป็นกระดาษแผ่นเล็กๆ เบาๆก็ขาด แค่ลมบางเบาก็ปลิว (555555 เพลงสมัยไหนน้อออออ) เราคิดว่าถ้าที่ปารีสเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่ตรวจแบบนี้อีกสักนิด พวก pick pocket ตามสถานีเมโทรอาจจะน้อยลงก็ได้นะ


ซื้อตั๋วเสร็จเราก็ไปยืนรอรถบัสสาย 16 ตรงที่ใกล้ๆที่ซื้อตั๋วเลย เพื่อขึ้นไปที่ Fisherman’s Bastion ติดๆกันก็จะมี Matthias Church ตั้งตระหง่านยอดสูงอยู่ ขึ้นไปแล้วลมแรงม๊ากกกก ถึงจะสปริง แต่อากาศทางยุโรปตอนนี้ยังค่อนข้างแปรปรวนอยู่บ้าง แต่เห็น Fisherman’s Bastion ขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะตั้งอยู่แล้วคุ้มที่จะให้ลมพัดปลิวเราไป สวยเหมือนปราสาทดิสนีย์เลย เป็นยอดเตี้ยๆเรียงกัน มองออกไปทางหน้าต่างเล็กๆที่เจาะเรียงกันอยู่จะเห็นวิวแม่น้ำ Danube และ Paliament ตั้งอยู่ไกลๆ สวยง่ะงื้อออออออ




** to be continued ☺︎ **
ชื่อสินค้า:   Budapest Hungary
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่