บันทึกการเดินทางรอบยุโรปของผู้หญิงเอเชียตัวเล็กๆ ตอนที่ 8 Budapest, Hungary (บูดาเปสต์, ฮังการี)
44 วัน 20 เมือง 16 ประเทศ (ตอนที่ 8 จาก 17)
หรือตามได้ที่ K.Natri Blogger
สารบัญของบันทึก
1. เตรียมความพร้อม
2. Barcelona, Spain (บาร์เซโลน่า, สเปน) [3 คืน]
3. Nice, France & Monaco (นีซ, ฝรั่งเศส และราชรัฐโมนาโก) [3 คืน]
4. Milan, Italy & Lugano Switzerland (มิลาน, อิตาลี และลูกาโน่ สวิสเซอร์แลนด์) [2 คืน]
5. Venice, Italy (เวนิส, อิตาลี) [2 คืน]
6. Ljubljana & Bled, Slovenia (ลูบลิยานา และเบลด, สโลวีเนีย) [3 คืน]
7. Zagreb, Croatia (ซาเกร็บ, โครเอเชีย) [2 คืน]
8. Budapest, Hungary (บูดาเปสต์, ฮังการี) [3 คืน]
9. Vienna, Austria & Bratislava, Slovakia (เวียนนา, ออสเตรีย และบราติสลาวา, สโลวาเกีย) [3 คืน]
10. Prague, Czech Republic (ปราก, สาธารณรัฐเช็ก) [4 คืน]
11. Kraków, Poland (คราคูฟ, โปแลนด์) [6 คืน]
12. Morskie Oko, Zakopane, Poland (ทะเลสาบมอร์สเกี๊ยะโอโกะ สโกเปีย, โปแลนด์) [0 คืน]
13. Berlin, Germany (เบอร์ลิน, เยอรมัน) [3 คืน]
14. Hamburg, Germany (ฮัมบูร์ก, เยอรมัน) [3 คืน]
15. Amsterdam, Netherlands (อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์) [2 คืน]
16. Antwerp, Belgium (แอนต์เวิร์ป, เบลเยี่ยม) [2 คืน]
17. Luxembourg City, Luxembourg (ลักเซมเบิร์ก, ราชรัฐลักเซมเบิร์ก) [2 คืน]
อยากให้อ่านก่อน
บันทึกนี้เล่าโดย K.Natri เป็นการเล่าจากประสบการณ์ตรงของเราเอง โดยการเล่าเรื่องได้ใช้ความรู้สึก ความคิดเห็นของเราแต่งเติมเข้าไปในเนื้อหา เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่าเรื่อง นอกจากนี้เราได้รวบรวมข้อมูลบางส่วนที่ได้มาจากการอ่านในเว็บไซต์ต่างๆ ตามบอร์ดในสถานที่จริง และจากการฟังมาจากไกด์ รวมทั้งคนท้องถิ่น เพื่อนำมาบรรยายให้ดูมีความรู้ขึ้น 😁
สำหรับการท่องเที่ยวยุโรปครั้งนี้ เป็นครั้งแรกของเราเลยที่ได้เที่ยวประเทศในยุโรป (ไม่รวมฝรั่งเศสที่มาเรียนต่อในยุคโควิด) และเป็นการเดินทางคนเดียวตั้งแต่ครั้งแรกเลย ดังนั้นเรายังไม่มีประสบการณ์ท่องเที่ยวในยุโรปดี แต่เราพยายามเก็บทุกที่ที่ไปได้และอยากไป เพราะไม่รู้จะมีโอกาสได้เที่ยวแบบนี้อีกเมื่อไร สำหรับทริปนี้เราไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวช่วงตอนกลางคืน เราเป็นแค่ผู้หญิงเอเชียตัวเล็กคนเดียว ยังไม่กล้ามากพอ ขอเซฟตัวเองก่อนนะ และในทริปนี้เราพยายามเลือกไปสถานที่ธรรมชาติมากกว่าสายมิวเซียม เพราะเป็นคนไม่อินกับมิวเซียมและศิลปะนัก ค่อนข้างแนวสายลุยๆ มากกว่า 💚
มุ่งสู่ Budapest จาก Zagreb

บูดาเปสต์เป็นหนึ่งในเมืองในฝันของเหล่าบรรดานักเดินทาง ที่อยากมาชมความงามของเมืองแห่งนี้ 💖ในบรรดาหลายเมืองที่เราไปในทริปนี้ เรายกให้บูดาเปสต์เป็นเมืองอันดับสามเลย (รองจากปรากและคราคูฟ ตามลำดับ) เพราะเมืองนี้มีภูมิทัศน์ที่โดดเด่นจากธรรมชาติมาก นั่นคือ มีแม่น้ำขนาดใหญ่ คือ แม่น้ำดานูบ (Danube River) ไหลผ่านกลางเมือง แบ่งเมืองออกเป็นสองฝั่ง คือ ฝั่งบูดา มีลักษณะเนินสูงขึ้นไป ทำให้เป็นจุดชมวิวที่ดี โดยเฉพาะเมื่อหันหน้ามองไปทางฝั่งเปสต์ จะเห็นวิวของเมืองที่สวยงามมากๆ และยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ อย่าง Fisherman’s Bastion และ Buda castle สำหรับฝั่งเปสต์ มีลักษณะเป็นที่ราบ เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญหลายที่ เป็นย่านตัวเมือง ทั้งสองฝั่งมีสะพานเชื่อมที่ออกแบบอย่างสวยงามหลายสะพานเชื่อมถึงกัน ซึ่งสามารถเดินเท้าได้ หรือนั่ง Tram หรือขับรถ หรือใช้รถไฟใต้ดินก็ได้เช่นกัน
เรานั่ง Flixbus จาก Zagreb ตอนสิบโมง ถึง Budapest Kelenföld bus station ตอนบ่ายสองครึ่ง ราคา 17.99 Euro มีจอดด่านระหว่าง Croatia – Hungary ประมาณชั่วโมงกว่าๆ เจ้าหน้าที่ขึ้นมาบนรถบัสและขอ Passport ทุกคนบนรถ และให้พวกเรานั่งรอบนรถสักพักใหญ่ๆ จากนั้นก็ให้ทุกคนลงจากรถ และรับ Passport คืนทีละคน ครั้งนี้ ได้ Passport Stamp มาด้วย

Budapest Kelenföld bus station ตั้งอยู่ฝั่งบูดา แต่เราพักฝั่งเปสต์ เราก็ต้องนั่งเมโทรไปฝั่งเปสต์ มันไม่ได้ไกลกัน แบบที่จะเดินโดยไม่เหนื่อยได้ เราขอแนะนำให้พักฝั่งเปสต์มากกว่า เพราะเป็นแหล่งช้อปปิ้ง แหล่งร้านอาหาร และราคาตั๋วรถโดยสารมีราคาถูก อย่างแบบ Single ticket มีราคา 350 HUF ประมาณ 33 บาท หรือจะซื้อแบบ 10 ใบเลยก็ได้ จะมีราคา 3000 HUF ก็ตกใบละ 28 บาท
เราพักที่ไหนใน Zagreb
เราพักที่ Flow Spaces อยู่ใกล้กับ Great Market Hall เลย ไม่ได้ใกล้จากตัวเมือง ต้องเดินประมาณ 20 นาที เราพัก 3 คืน จากวันที่ 4 ถึง 7 เมษายน ราคารวมภาษีอยู่ที่ 42.96 Euro แบบ Female Dorm 6 เตียง เป็นเตียงแบบมีม่านกั้น เตียงสะอาด แต่หน้าต่างดูเก่าไปหน่อย ตอนเราไปพัก ไม่ค่อยมีคนเท่าไร

ที่พักมีห้องน้ำในตัวเลย แต่แอบสกปรก และเล็กไป

เราชอบส่วนกลางของที่นี่ มีห้องครัว โต๊ะกว้าง สะอาด และมีส่วนห้องทำงานให้ได้ใช้
เราไปไหนมาบ้างใน Budapest
เราชอบถ่ายรูปรถ Tram ของเมืองบูดาเปสต์มาก แบบดูน่ารัก คลาสสิคมากๆ😍
Great Market Hall เราไปตลาดในที่ร่ม ที่อยู่ใกล้ที่พักก่อนเป็นอันดับแรก เพราะจะต้องไปแลกเงินด้วย เนื่องจากฮังการีใช้สกุลเงินโฟรินท์ฮังการี (HUF) เราก็พกเงินสดสกุล Euro ไป เราอ่านมาจากเน็ต เขาแนะนำว่าให้มาแลกเงินที่ตลาดนี้ ได้เรทดี แต่ตอนเรามาถึงร้านแลกปิด ระหว่างที่เรายืนมองหน้าร้าน ก็มีลุงมาเสนอให้แลกกับเงินลุง แล้วลุงเสนอเรทที่ดีมากๆ เราต้องปฏิเสธหลายรอบมาก กว่าจะสลัดหลุด ไม่อยากแลกกับลุง เพราะเคยอ่านเจอมาว่าให้ระวังแบบเงินปลอมไรงี้ สุดท้ายเราก็ไปเดินแลกแถวด้านหน้าตลาด เรทไม่ดีเท่าไร แต่แลกมาก่อนนิดนึง ไว้ใช้ในตลาดแก้ขัดไปก่อน ระหว่างเราเดินเล่นทั่วเมืองก็ส่องๆ ร้านแลก ร้านแลกเรทที่ราคาดีที่สุดที่เราเดินผ่าน คือ ย่านชาวยิว สำหรับตลาดนี้ เป็นตลาดที่ต้องมาเลย มีของขายหลายอย่างมาก มีสองชั้น โดยชั้นแรกจะเป็นพวกของสด ผักผลไม้ เครื่องเทศต่างๆ ชั้นสองจะเป็นพวกร้านขายของที่ระลึก และร้านขายอาหารแบบนั่งกินที่ร้านได้
Fisherman’s Bastion เรานั่งเมโทรไปลงสถานีที่ใกล้ที่สุด คือ Batthyány Tér จากนั้นก็เดินต่ออีกประมาณ 15 นาที ที่นี่สวยมากๆ เป็นสถานที่ที่เราชอบที่สุดในบูดาเปสต์เลย📌 เพราะมองเห็นวิวเมืองฝั่งเปสต์ได้กว้างมากๆ ตัวป้อมปราการชาวประมงจะเป็นสีขาวนวลๆ สะอาดตา แล้วยิ่งท้องฟ้าแบบวันที่อากาศดี ยิ่งเพิ่มความสวยงามเลย และที่สำคัญเข้าชมฟรี แต่จะมีชั้นสองของสันกำแพงที่เสียค่าเข้าเพิ่ม แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา แค่ชั้นหนึ่งก็ดีงามมากๆ แล้ว แล้วเราก็ไม่เห็นจะมีใครขึ้นไปชั้นสองกันเลย

จุดถ่ายภาพที่สำคัญเลย ที่ทุกคนมาที่นี่ต้องมาถ่ายกับช่องกำแพง แต่ว่าเราไม่สามารถตั้งกล้องหรือเซลฟี่ได้เลย ถ่ายยากมากๆ เราก็เดินไปมาสักพักใหญ่ๆ เพื่อมองหาคนถ่ายรูปให้ แอบเขินๆ 😆555 จนในที่สุดก็ได้เพื่อนเดินถ่ายรูปด้วยกัน เธอมาคนเดียวเป็นชาวเม็กซิโก เราก็สลับกันถ่ายรูปบริเวณนี้สักพักใหญ่ๆ เลย ต้องได้ภาพตัวเอง❗

บริเวณนี้ก็มีสถานที่ให้ได้เยี่ยมชมอย่างรูปปั้น St. Stephen Statue, โบสถ์ Matthias Church (ค่าเข้าราคาปกติ 800 HUF) และสวน Szentháromság park
Buda castle เราเดินมาเรื่อยๆ จากป้อมปราการชาวประมง แอบเหนื่อยเหมือนกัน เพราะทางเดินชันขึ้นไป แต่ถ้าไม่อยากเดิน จะใช้นั่ง Tram แล้วมานั่งกระเช้าต่อขึ้นไปก็ได้ ปราสาทบูดากินพื้นที่บริเวณกว้าง ตอนเราไปบางส่วนกำลังต่อเติมอยู่ ภายในระแวกปราสาทเป็นที่ตั้งของหอสมุดแห่งชาติ Széchényi Library, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บูดาเปสต์ และหอศิลป์แห่งชาติ เราสามารถเข้าชมสวนและบริเวณโดยรอบได้ฟรี แต่ถ้าเข้าพิพิธภัณฑ์ต่างๆ จะมีค่าเข้าเพิ่มเติม ปราสาทบูดาตั้งอยู่ด้านบนสุดของ Castle Hill นั่นทำให้มีทัศนียภาพกว้างไกล มองเห็นฝั่งเมืองเปสต์ คล้ายกับมุมมองจากป้อมปราการชาวประมง และมองเห็น Chain Bridge ชัดเจน แต่น่าเสียดายตอนเราไปสะพานยังปิดปรับปรุงอยู่ เห็นว่าจะเปิดให้ใช้บริการได้ในเดือนสิงหาคม 2566

Hungarian Parliament Building อาคารรัฐสภาฮังการี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฝั่งเปสต์ ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหลวงฮังการีเลย เป็นอาคารที่เราบอกได้เลยว่าสวยงามมากๆ มีค่าเข้าราคาปกติอยู่ที่ 6400 HUF ตอนที่เราไป คือ คนเยอะมากๆ ที่กำลังรอต่อแถวซื้อตั๋วเข้าไปชมภายในอาคาร
ภาพอาคารรัฐสภาฮังการี ที่เราถ่ายจากฝั่งบูดา ก่อนเดินขึ้นไปป้อมปราการชาวประมง
บันทึกการเดินทางรอบยุโรปของผู้หญิงเอเชียตัวเล็กๆ ตอนที่ 8 Budapest, Hungary (บูดาเปสต์, ฮังการี)
44 วัน 20 เมือง 16 ประเทศ (ตอนที่ 8 จาก 17)
หรือตามได้ที่ K.Natri Blogger
สารบัญของบันทึก
1. เตรียมความพร้อม
2. Barcelona, Spain (บาร์เซโลน่า, สเปน) [3 คืน]
3. Nice, France & Monaco (นีซ, ฝรั่งเศส และราชรัฐโมนาโก) [3 คืน]
4. Milan, Italy & Lugano Switzerland (มิลาน, อิตาลี และลูกาโน่ สวิสเซอร์แลนด์) [2 คืน]
5. Venice, Italy (เวนิส, อิตาลี) [2 คืน]
6. Ljubljana & Bled, Slovenia (ลูบลิยานา และเบลด, สโลวีเนีย) [3 คืน]
7. Zagreb, Croatia (ซาเกร็บ, โครเอเชีย) [2 คืน]
8. Budapest, Hungary (บูดาเปสต์, ฮังการี) [3 คืน]
9. Vienna, Austria & Bratislava, Slovakia (เวียนนา, ออสเตรีย และบราติสลาวา, สโลวาเกีย) [3 คืน]
10. Prague, Czech Republic (ปราก, สาธารณรัฐเช็ก) [4 คืน]
11. Kraków, Poland (คราคูฟ, โปแลนด์) [6 คืน]
12. Morskie Oko, Zakopane, Poland (ทะเลสาบมอร์สเกี๊ยะโอโกะ สโกเปีย, โปแลนด์) [0 คืน]
13. Berlin, Germany (เบอร์ลิน, เยอรมัน) [3 คืน]
14. Hamburg, Germany (ฮัมบูร์ก, เยอรมัน) [3 คืน]
15. Amsterdam, Netherlands (อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์) [2 คืน]
16. Antwerp, Belgium (แอนต์เวิร์ป, เบลเยี่ยม) [2 คืน]
17. Luxembourg City, Luxembourg (ลักเซมเบิร์ก, ราชรัฐลักเซมเบิร์ก) [2 คืน]
อยากให้อ่านก่อน
บันทึกนี้เล่าโดย K.Natri เป็นการเล่าจากประสบการณ์ตรงของเราเอง โดยการเล่าเรื่องได้ใช้ความรู้สึก ความคิดเห็นของเราแต่งเติมเข้าไปในเนื้อหา เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่าเรื่อง นอกจากนี้เราได้รวบรวมข้อมูลบางส่วนที่ได้มาจากการอ่านในเว็บไซต์ต่างๆ ตามบอร์ดในสถานที่จริง และจากการฟังมาจากไกด์ รวมทั้งคนท้องถิ่น เพื่อนำมาบรรยายให้ดูมีความรู้ขึ้น 😁
สำหรับการท่องเที่ยวยุโรปครั้งนี้ เป็นครั้งแรกของเราเลยที่ได้เที่ยวประเทศในยุโรป (ไม่รวมฝรั่งเศสที่มาเรียนต่อในยุคโควิด) และเป็นการเดินทางคนเดียวตั้งแต่ครั้งแรกเลย ดังนั้นเรายังไม่มีประสบการณ์ท่องเที่ยวในยุโรปดี แต่เราพยายามเก็บทุกที่ที่ไปได้และอยากไป เพราะไม่รู้จะมีโอกาสได้เที่ยวแบบนี้อีกเมื่อไร สำหรับทริปนี้เราไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวช่วงตอนกลางคืน เราเป็นแค่ผู้หญิงเอเชียตัวเล็กคนเดียว ยังไม่กล้ามากพอ ขอเซฟตัวเองก่อนนะ และในทริปนี้เราพยายามเลือกไปสถานที่ธรรมชาติมากกว่าสายมิวเซียม เพราะเป็นคนไม่อินกับมิวเซียมและศิลปะนัก ค่อนข้างแนวสายลุยๆ มากกว่า 💚
มุ่งสู่ Budapest จาก Zagreb
บูดาเปสต์เป็นหนึ่งในเมืองในฝันของเหล่าบรรดานักเดินทาง ที่อยากมาชมความงามของเมืองแห่งนี้ 💖ในบรรดาหลายเมืองที่เราไปในทริปนี้ เรายกให้บูดาเปสต์เป็นเมืองอันดับสามเลย (รองจากปรากและคราคูฟ ตามลำดับ) เพราะเมืองนี้มีภูมิทัศน์ที่โดดเด่นจากธรรมชาติมาก นั่นคือ มีแม่น้ำขนาดใหญ่ คือ แม่น้ำดานูบ (Danube River) ไหลผ่านกลางเมือง แบ่งเมืองออกเป็นสองฝั่ง คือ ฝั่งบูดา มีลักษณะเนินสูงขึ้นไป ทำให้เป็นจุดชมวิวที่ดี โดยเฉพาะเมื่อหันหน้ามองไปทางฝั่งเปสต์ จะเห็นวิวของเมืองที่สวยงามมากๆ และยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ อย่าง Fisherman’s Bastion และ Buda castle สำหรับฝั่งเปสต์ มีลักษณะเป็นที่ราบ เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญหลายที่ เป็นย่านตัวเมือง ทั้งสองฝั่งมีสะพานเชื่อมที่ออกแบบอย่างสวยงามหลายสะพานเชื่อมถึงกัน ซึ่งสามารถเดินเท้าได้ หรือนั่ง Tram หรือขับรถ หรือใช้รถไฟใต้ดินก็ได้เช่นกัน
เรานั่ง Flixbus จาก Zagreb ตอนสิบโมง ถึง Budapest Kelenföld bus station ตอนบ่ายสองครึ่ง ราคา 17.99 Euro มีจอดด่านระหว่าง Croatia – Hungary ประมาณชั่วโมงกว่าๆ เจ้าหน้าที่ขึ้นมาบนรถบัสและขอ Passport ทุกคนบนรถ และให้พวกเรานั่งรอบนรถสักพักใหญ่ๆ จากนั้นก็ให้ทุกคนลงจากรถ และรับ Passport คืนทีละคน ครั้งนี้ ได้ Passport Stamp มาด้วย
Budapest Kelenföld bus station ตั้งอยู่ฝั่งบูดา แต่เราพักฝั่งเปสต์ เราก็ต้องนั่งเมโทรไปฝั่งเปสต์ มันไม่ได้ไกลกัน แบบที่จะเดินโดยไม่เหนื่อยได้ เราขอแนะนำให้พักฝั่งเปสต์มากกว่า เพราะเป็นแหล่งช้อปปิ้ง แหล่งร้านอาหาร และราคาตั๋วรถโดยสารมีราคาถูก อย่างแบบ Single ticket มีราคา 350 HUF ประมาณ 33 บาท หรือจะซื้อแบบ 10 ใบเลยก็ได้ จะมีราคา 3000 HUF ก็ตกใบละ 28 บาท
เราพักที่ไหนใน Zagreb
เราพักที่ Flow Spaces อยู่ใกล้กับ Great Market Hall เลย ไม่ได้ใกล้จากตัวเมือง ต้องเดินประมาณ 20 นาที เราพัก 3 คืน จากวันที่ 4 ถึง 7 เมษายน ราคารวมภาษีอยู่ที่ 42.96 Euro แบบ Female Dorm 6 เตียง เป็นเตียงแบบมีม่านกั้น เตียงสะอาด แต่หน้าต่างดูเก่าไปหน่อย ตอนเราไปพัก ไม่ค่อยมีคนเท่าไร
ที่พักมีห้องน้ำในตัวเลย แต่แอบสกปรก และเล็กไป
เราชอบส่วนกลางของที่นี่ มีห้องครัว โต๊ะกว้าง สะอาด และมีส่วนห้องทำงานให้ได้ใช้
เราไปไหนมาบ้างใน Budapest
เราชอบถ่ายรูปรถ Tram ของเมืองบูดาเปสต์มาก แบบดูน่ารัก คลาสสิคมากๆ😍
Great Market Hall เราไปตลาดในที่ร่ม ที่อยู่ใกล้ที่พักก่อนเป็นอันดับแรก เพราะจะต้องไปแลกเงินด้วย เนื่องจากฮังการีใช้สกุลเงินโฟรินท์ฮังการี (HUF) เราก็พกเงินสดสกุล Euro ไป เราอ่านมาจากเน็ต เขาแนะนำว่าให้มาแลกเงินที่ตลาดนี้ ได้เรทดี แต่ตอนเรามาถึงร้านแลกปิด ระหว่างที่เรายืนมองหน้าร้าน ก็มีลุงมาเสนอให้แลกกับเงินลุง แล้วลุงเสนอเรทที่ดีมากๆ เราต้องปฏิเสธหลายรอบมาก กว่าจะสลัดหลุด ไม่อยากแลกกับลุง เพราะเคยอ่านเจอมาว่าให้ระวังแบบเงินปลอมไรงี้ สุดท้ายเราก็ไปเดินแลกแถวด้านหน้าตลาด เรทไม่ดีเท่าไร แต่แลกมาก่อนนิดนึง ไว้ใช้ในตลาดแก้ขัดไปก่อน ระหว่างเราเดินเล่นทั่วเมืองก็ส่องๆ ร้านแลก ร้านแลกเรทที่ราคาดีที่สุดที่เราเดินผ่าน คือ ย่านชาวยิว สำหรับตลาดนี้ เป็นตลาดที่ต้องมาเลย มีของขายหลายอย่างมาก มีสองชั้น โดยชั้นแรกจะเป็นพวกของสด ผักผลไม้ เครื่องเทศต่างๆ ชั้นสองจะเป็นพวกร้านขายของที่ระลึก และร้านขายอาหารแบบนั่งกินที่ร้านได้
Fisherman’s Bastion เรานั่งเมโทรไปลงสถานีที่ใกล้ที่สุด คือ Batthyány Tér จากนั้นก็เดินต่ออีกประมาณ 15 นาที ที่นี่สวยมากๆ เป็นสถานที่ที่เราชอบที่สุดในบูดาเปสต์เลย📌 เพราะมองเห็นวิวเมืองฝั่งเปสต์ได้กว้างมากๆ ตัวป้อมปราการชาวประมงจะเป็นสีขาวนวลๆ สะอาดตา แล้วยิ่งท้องฟ้าแบบวันที่อากาศดี ยิ่งเพิ่มความสวยงามเลย และที่สำคัญเข้าชมฟรี แต่จะมีชั้นสองของสันกำแพงที่เสียค่าเข้าเพิ่ม แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา แค่ชั้นหนึ่งก็ดีงามมากๆ แล้ว แล้วเราก็ไม่เห็นจะมีใครขึ้นไปชั้นสองกันเลย
จุดถ่ายภาพที่สำคัญเลย ที่ทุกคนมาที่นี่ต้องมาถ่ายกับช่องกำแพง แต่ว่าเราไม่สามารถตั้งกล้องหรือเซลฟี่ได้เลย ถ่ายยากมากๆ เราก็เดินไปมาสักพักใหญ่ๆ เพื่อมองหาคนถ่ายรูปให้ แอบเขินๆ 😆555 จนในที่สุดก็ได้เพื่อนเดินถ่ายรูปด้วยกัน เธอมาคนเดียวเป็นชาวเม็กซิโก เราก็สลับกันถ่ายรูปบริเวณนี้สักพักใหญ่ๆ เลย ต้องได้ภาพตัวเอง❗
บริเวณนี้ก็มีสถานที่ให้ได้เยี่ยมชมอย่างรูปปั้น St. Stephen Statue, โบสถ์ Matthias Church (ค่าเข้าราคาปกติ 800 HUF) และสวน Szentháromság park
Buda castle เราเดินมาเรื่อยๆ จากป้อมปราการชาวประมง แอบเหนื่อยเหมือนกัน เพราะทางเดินชันขึ้นไป แต่ถ้าไม่อยากเดิน จะใช้นั่ง Tram แล้วมานั่งกระเช้าต่อขึ้นไปก็ได้ ปราสาทบูดากินพื้นที่บริเวณกว้าง ตอนเราไปบางส่วนกำลังต่อเติมอยู่ ภายในระแวกปราสาทเป็นที่ตั้งของหอสมุดแห่งชาติ Széchényi Library, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บูดาเปสต์ และหอศิลป์แห่งชาติ เราสามารถเข้าชมสวนและบริเวณโดยรอบได้ฟรี แต่ถ้าเข้าพิพิธภัณฑ์ต่างๆ จะมีค่าเข้าเพิ่มเติม ปราสาทบูดาตั้งอยู่ด้านบนสุดของ Castle Hill นั่นทำให้มีทัศนียภาพกว้างไกล มองเห็นฝั่งเมืองเปสต์ คล้ายกับมุมมองจากป้อมปราการชาวประมง และมองเห็น Chain Bridge ชัดเจน แต่น่าเสียดายตอนเราไปสะพานยังปิดปรับปรุงอยู่ เห็นว่าจะเปิดให้ใช้บริการได้ในเดือนสิงหาคม 2566
Hungarian Parliament Building อาคารรัฐสภาฮังการี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฝั่งเปสต์ ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหลวงฮังการีเลย เป็นอาคารที่เราบอกได้เลยว่าสวยงามมากๆ มีค่าเข้าราคาปกติอยู่ที่ 6400 HUF ตอนที่เราไป คือ คนเยอะมากๆ ที่กำลังรอต่อแถวซื้อตั๋วเข้าไปชมภายในอาคาร
ภาพอาคารรัฐสภาฮังการี ที่เราถ่ายจากฝั่งบูดา ก่อนเดินขึ้นไปป้อมปราการชาวประมง