ล่ามวิศวะ ... Mission Impossible 1

ล่ามวิศวะ ... Mission Impossible 1

1 ล้มลุกคลุกคลาน

    ตอนมาทำล่ามคอบบร้าโกลด์ใหม่ๆก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรนะ ลุยไปเลยว่างั้นเถอะ อาศัยมีพื้นฐานเรียนภาษาอังกฤษโรงเรียนฝรั่งมาบ้าง เลยพอรู้ศัพท์ต่างๆต่อยอดไปได้ไม่ยาก ถ้าแปลตรงๆเป็นคำเป๊ะๆไม่ได้ แต่รู้ความหมาย ก็พออธิบายเอาตัวรอดไปได้ แต่ยิ่งทำไปทำมา ชักจะไม่ไหวแล้ว แต่ละงานเริ่มเจาะลึกลงรายละเอียด คู่สนทนาสื่อสารโต้ตอบกันเร็ว เรียกว่าถ้ากะแค่แปลตรงตัวตามคำจากอังกฤษเป็นไทย แต่ไม่เข้าใจเนื้อหานี่ไม่มีทางแปลได้ทันแปลได้ถูกแน่

    หลายงานก่อนวันทำงานผู้ว่าจ้างหรือนายหน้าไม่ได้บอกอะไรเลย บอกแค่กว้างๆ พอไปทำก็ตกม้าตายแหง๋แก๋น่ะสิ และที่เหียกที่สุดงานหนึ่ง ก็คือไปล่ามให้บริษัทที่ปรึกษาต่างชาติแห่งหนึ่งผ่านนายหน้า นายหน้าแจ้งมาสั้นๆว่า ล่ามธนาคาร ไม่มีเอกสารอะไรให้ศึกษาก่อนทั้งนั้น นี่สินะ สัญญาณไฟแดงลางร้ายหายนะแรก พอไปถึงหน้างาน ผู้ว่าจ้างไม่บอกอะไรเหมือนเดิม ถามไปก็บอกไม่ยาก แค่ล่ามในห้องประชุม แล้วยื่นเครื่องอะไรก็ไม่รู้พร้อมหูฟังมาให้ รับมาถึงรู้ว่าเป็นเครื่องล่าม เอาล่ะสิ ไฟแดงอันที่สองแดงวาบๆ ยิ้มแล้วกู นายหน้าไม่ได้บอกว่ามาทำล่ามฉับพลัน แล้วชีวิตนี้เฮียก็ยังไม่เคยทำล่ามฉับพลันมาก่อน ไอ้เครื่องล่ามข้างหน้านี่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ก็พึ่งจะเห็นวันนี้นี่แหละ ผู้ว่าจ้างดัน(ยิ้ม)ไม่คุยกับนายหน้าให้ละเอียดว่าล่ามฉับพลันหรือล่ามต่อเนื่องกันแน่ คราวนี้สัญญาณเตือนไฟดังลั่น “อ๊อดๆๆๆๆๆๆ” อยู่ในหัว แต่ถอยไม่ได้แล้ว เอาวะ ลองดูสักตั้ง เดินตามผู้ว่าจ้าง เข้าห้องประชุม มีนายแบงค์ผู้ใหญ่คนไทยนั่งกันเกือบ 20 คน ผู้พูดเป็นแขกอินเดียพูดโดยไม่มีสคริปต์ เรื่องการปล่อยสินเชื่อ เอาแล้วหายนะมาเยือนแน่แล้ว ซวยซ้ำซวยซ้อน ภาษาอังกฤษเฮียก็ไม่คล่องพอที่จะล่ามฉับพลัน ความรู้เรื่องสินเชื่อแบงค์แทบเป็นศูนย์ ขณะที่ทุกคนห้องประชุมทำงานแบงค์กันมาคนละ 20-30 ปีขึ้นไป พี่แขกก็สำเนียงแขกของแท้ เฮียจำได้มีคำนึงได้ยินไม่ชัด เหมือนๆ trade manager เฮียก็ล่ามไปตามที่ได้ยินแหละว่า ผู้จัดการด้านค้าขาย แต่จริงๆแล้วพี่แขกแกพูดว่า credit manager ผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อ เออ ยิ้มวายป่วงดีไม๊ล่ะ แปลขาดๆเกินๆ เว้าๆแหว่งๆ เหมือนขนมเปี๊ยะถูกแมลงสาบแทะ แปลขาดซะมากกว่า เพราะสำเนียงพี่แขกฟังยากมาก ครั้งแรกที่เจอสำเนียงแขก ห่า มันพูดภาษาเหียกไรกันเนี่ย พูดซะคล่องอย่างไวเลย แต่ทำไมตูฟังไม่ออกเลยวะ แปลได้เก่งบรรลัยมากจนผู้บริหารบางท่านต้องบอกว่า “น้องๆ แปลเยอะๆหน่อย พี่ไม่ค่อยถนัดภาษาอังกฤษค่ะ” ตอนนั้นเฮียได้แต่หน้าชา รับปาก ”ครับ” แต่ข้างในนี่หัวใจเต้นตุ้บๆ สั่นไปทั้งตัว หัวใจเต้น 150 ครั้งต่อนาที แปลถูกไถไปได้กว่า 45 นาทีจนจบ  ออกจากห้องประชุม สะโหลสะเหล หูร้อน หน้าชา ร้อนฉ่าเกร็งไปทั้งตัว ความรู้สึกเหมือนจูดี้ ฟอสเตอร์ ถูกข่มขืนกลางบาร์ ในหนังเรื่อง The Accused ... แต่ยังก่อน ชะตากรรมเฮียยังไม่จบนะ พี่แขกเรียกไปแปลอีกรอบ เหมือนเดิมเลยบรรลัยไม่ต่างรอบแรก พี่แขกก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยจริงๆ พูดคร่อกๆ *&*&*%%$#$()))_ ไปเหมือนเดิม ช่างเป็นการลองสนามล่ามฉับพลันครั้งแรกของเฮียได้บรรลัยยิ้มวายป่วงมาก แปลรอบสองเสร็จ เฮียรีบโทรกลับไปหานายหน้า นายหน้าเม้งโกรธผู้ว่าจ้างที่ไม่รู้จักประเภทของล่าม สักแต่สั่งล่ามมาใช้งาน มิน่าบริษัทที่ปรึกษารายนี้เปลี่ยนล่ามบ่อยมาก ก็เล่นไม่บอกรายละเอียดงานล่วงหน้านี่ ใครมันจะเตรียมตัวถูก อย่าว่าแต่มีพื้นฐานความรู้ในด้านนั้นๆเลย เฮียจำแม่นจนวันตายเลย ก่อนรับงานต้องถามรายละเอียดงานให้ชัด ล่ามฉับพลันหรือล่ามต่อเนื่อง แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีทั้งนายหน้าและผู้ว่าจ้างบางคน ที่ไม่รู้จักความแตกต่างไม่พอ ยังทำสู่รู้บอกว่าตัวเองเคยทำล่ามมาก่อนอีก แต่พอถามไปลึกๆก็ไม่รู้ว่าแตกต่างกันอย่างไร แล้วดันเสนอราคาผิดๆอีก เออ เอาสิ ดูมัน น่าเบื่อมาก ไม่รู้(โง่)แล้วไม่ยอมรับ แบบนี้เฮียไม่ร่วมงานด้วยเลย ไม่อยากสนุกบรรลัยเหมือนก่อนอีกแล้ว อิอิ เค้าก็ไม่อยากร่วมงานกับเฮียด้วยแหละ ฮา เสือกรู้มากกว่าชั้นดีนัก ไปจ้างคนอื่นดีกว่า

         อันนี้โฆษณานะ ใครที่สนใจอยากอ่านโพสต์เก่าๆเฮีย ติดตามได้ที่เพจล่ามเฮีย ดูมาเล่า-Thai Translator Tony
https://www.facebook.com/194511154044679/posts/637782993050824/
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่