สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้เราจะมาเอาใจเพื่อนๆสาย Beef Lover กัน โดยการที่จะพาไปทานร้าน Steak House สุดพรีเมี่ยมกันที่ Compass Skyview Hotel โรงแรมสุดหรูใจกลางสุขุมวิท 24
โดยที่ห้องอาหารที่จะพาไปทานกันในวันนี้ชื่อว่า Prime+ Urban grill and bar restaurant ตั้งอยู่ที่บนชั้น 7 ของตัวโรงแรม
การตกแต่งห้องอาหารของที่นี่นั้น จะเน้นไปทางโทนสีเข้มออกดำ ตกแต่งด้วยวัสดุอย่างเหล็ก ปูน และผนังอิฐ พร้อมกับโคมไฟห้อยในสไตล์วินเทจที่ส่องสว่างในแต่ละโต๊ะ เมื่อรวมกันแล้วให้ความรู้สึกแบบ Industrial Loft สะท้อนความเรียบหรูได้เป็นอย่างดี
และเนื้อวัวของที่ห้องอาหาร Prime+ นั้นจะมีเนื้อชั้นดีให้ได้ลิ้มลองกันถึง 3 ประเภทด้วยกัน ทั้งเนื้อวัวเกรด Wagyu USDA และAngus รวมถึงเมนูสุดพิเศษในแบบต่างๆ ที่เชฟรังสรรค์มาให้ได้ลิ้มลองกัน
ส่วนการเดินทางมาที่ห้องอาหาร Prime+ ก็ไม่ยากเลย จะขับรถส่วนตัวมาหรือจะนั่งบีทีเอสมาลงสถานีพร้อมพงษ์ก็ได้ จากสถานีเดินเข้าซอยมาเพียง 200 เมตรโดยประมาณเท่านั้นก็จะเจอตัวโรงแรม
ห้องอาหาร Prime+ Urban grill and bar restaurant เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 18:00 - 23:00 น. สามารถโทรไปจองโต๊ะได้ที่เบอร์ 02-011-1111 หรือ 02-0111-156
หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมต่างๆได้ที่
https://www.facebook.com/primerestaurantbar/
สำหรับเพื่อนๆที่อยากร่วมสนุกลุ้นเล่นเกมชิงรางวัล Voucher ทานอาหารมูลค่า 2,000 บาท สามารถเข้าไปร่วมเล่นเกมกันที่ลิ้งค์นี้ได้เลยน้า
https://www.facebook.com/skipworkgojourney/posts/420198808510463?notif_id=1538818328837949¬if_t=page_post_reaction
บรรยากาศภายในร้านให้ความโรแมนติกอบอุ่นผสมผสานกับความหรูหราได้อย่างลงตัว
มีตู้โชว์เนื้อชั้นดีให้ได้เห็นกันเลย ประกอบไปด้วยเนื้อวัวส่วนต่างๆ ทั้ง Rib Eye Tenderloin Striploin สามารถเลือกได้ตามใจชอบ
มาเริ่มกันที่เมนูแรกกันก่อนเลย Ciabatta Bread with Chimichurri Sauce and Garlic Butte ตัวขนมปังมีความนุ่มมาก ทานร้อนๆคู่กับ Chimichurri ซอส หรือทาเนยกระเทียม ให้ความเข้ากันได้อย่างลงตัว
เมนูต่อมาจะเป็น Caprese Salad เป็นมอสซาเรลล่าชีสสดกับมะเขือเทศ เมนูนี้ถ้าใครชอบทานชีสสดรับรองไม่ผิดหวัง ทานคู่กับผักและมะเขือเทศให้ความรู้สึกสดชื่นมากๆ
Soup – Lobster & Crab Bisque ซุปครีมล็อบสเตอร์และปู จานนี้ทานร้อนๆให้รสชาติที่กลมกล่อมหอมนุ่มละมุนลิ้นมากๆ กลิ่นของล็อบสเตอร์และปูมีกลิ่นหอมเตะจมูกมากๆ
มาในส่วนของ Main Course กันบ้าง เริ่มต้นกันที่ Spaghetti Olio สปาเก็ตตี้ผัดน้ำมันมะกอก เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ชอบทานสปาเก็ตตี้มันๆ เพราะเมนูนี้มีความแห้งของเส้นกำลังดีไม่มากไม่น้อยจนเกินไปและตัวเส้นมีความเหนียวนุ่มอร่อยมากๆ
มาถึงไฮไลท์ของเราในวันนี้ 350GR Wagyu Fillet Steak Medium Rare
เป็นส่วนสันในของวัวที่มีเนื้อนุ่มอร่อยเป็นพิเศษ ไขมันน้อย ความหนาของเนื้อกำลังพอดี หั่นออกมาเป็นชิ้นทานเข้าไปแล้วพอดีคำ เนื้อมีความเหนียวนุ่มในระดับพรีเมี่ยมสุดๆ จะทานคู่กับซอสหรือทานเปล่าๆก็ได้ ให้ความอร่อยในแบบที่แตกต่างกันไป
ยิ่งได้ทานกับ Red Wine CAMINO DE CHILE นะ ฟินมาก บอกเลยเข้ากันอย่างลงตัวสุดๆ
สำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อก็จะมี Grilled Norwegian Salmon สเต๊กแซลมอนนอร์เวย์ย่าง ให้ได้เลือกทานกันด้วย เนื้อปลาสุกกำลังดี มีความชุ่มฉ่ำของเนื้อปลาไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เวลาทานจะได้กลิ่นหอมจางๆของแซลม่อนฟินสุดๆ
สำหรับคนที่อาจจะดื่มไวน์ไม่ถนัดนัก ที่นี่ก็มี Cocktail หลากหลายแบบให้เราได้เลือกสรรค์กันด้วยนะ
ครัวของที่นี่จะเป็นครัวเปิด โชว์ให้เห็นถึงขั้นตอนการทำอาหารของเชฟกับแบบจะๆไปเลย
จบจากของคาวกันแล้ว เรามาต่อกันที่ของหวานตบท้ายกันสักหน่อย
เริ่มกันที่ Signature Chocolate LAVA เค้กช็อคโกแลตลาวา เสิร์ฟพร้อมกับไอศครีมวานิลลา แต่ตัวลาวาของที่นี่จะไม่ออกมาเป็นน้ำช็อคโกแลตเหลวๆ แต่จะมีความเหนียวนุ่มเข้มข้นเข้ามาแทน ทานคู่กับไอศครีมวานิลลาและสตอเบอรี่ที่ถูกหั่นมาเป็นชิ้นเล็กๆเข้ากันได้อย่างลงตัวสุดๆ
ตบท้ายกันด้วย Homemade Orange Scented Cold Cheesecake โฮมเมดชีสเค้กกลิ่นส้ม เสิร์ฟพร้อมกับซอสราสเบอรี่ ตัวชีสเค้กมีความละมุนและเนื้อแน่นมากๆ ทานคู่กับส้มและซอสราสเบอรี่รสชาติตัดกันเข้ากันมาก ถือเป็นการปิดท้ายมื้ออาหารของวันนี้ได้เป็นอย่างดี
ถ้าใครที่เป็นคอสเต็กอย่าพลาดที่นี่น้า แนะนำเลยรับรองจะต้องเป็นมื้ออาหารที่น่าจดจำแน่ๆ
สุดท้ายแล้วขอบคุณมากๆที่อ่านกันมาจนจบ ฝากติดตามผลงานการรีวิวอื่นๆได้ที่
https://www.facebook.com/skipworkgojourney/
แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าครับ
[SR] พาไปกินวากิวสุดพรีเมี่ยม @Prime+ Urban grill and bar restaurant(แจก Voucher 2,000 บาท)
โดยที่ห้องอาหารที่จะพาไปทานกันในวันนี้ชื่อว่า Prime+ Urban grill and bar restaurant ตั้งอยู่ที่บนชั้น 7 ของตัวโรงแรม
การตกแต่งห้องอาหารของที่นี่นั้น จะเน้นไปทางโทนสีเข้มออกดำ ตกแต่งด้วยวัสดุอย่างเหล็ก ปูน และผนังอิฐ พร้อมกับโคมไฟห้อยในสไตล์วินเทจที่ส่องสว่างในแต่ละโต๊ะ เมื่อรวมกันแล้วให้ความรู้สึกแบบ Industrial Loft สะท้อนความเรียบหรูได้เป็นอย่างดี
และเนื้อวัวของที่ห้องอาหาร Prime+ นั้นจะมีเนื้อชั้นดีให้ได้ลิ้มลองกันถึง 3 ประเภทด้วยกัน ทั้งเนื้อวัวเกรด Wagyu USDA และAngus รวมถึงเมนูสุดพิเศษในแบบต่างๆ ที่เชฟรังสรรค์มาให้ได้ลิ้มลองกัน
ส่วนการเดินทางมาที่ห้องอาหาร Prime+ ก็ไม่ยากเลย จะขับรถส่วนตัวมาหรือจะนั่งบีทีเอสมาลงสถานีพร้อมพงษ์ก็ได้ จากสถานีเดินเข้าซอยมาเพียง 200 เมตรโดยประมาณเท่านั้นก็จะเจอตัวโรงแรม
ห้องอาหาร Prime+ Urban grill and bar restaurant เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 18:00 - 23:00 น. สามารถโทรไปจองโต๊ะได้ที่เบอร์ 02-011-1111 หรือ 02-0111-156
หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมต่างๆได้ที่ https://www.facebook.com/primerestaurantbar/
สำหรับเพื่อนๆที่อยากร่วมสนุกลุ้นเล่นเกมชิงรางวัล Voucher ทานอาหารมูลค่า 2,000 บาท สามารถเข้าไปร่วมเล่นเกมกันที่ลิ้งค์นี้ได้เลยน้า https://www.facebook.com/skipworkgojourney/posts/420198808510463?notif_id=1538818328837949¬if_t=page_post_reaction
บรรยากาศภายในร้านให้ความโรแมนติกอบอุ่นผสมผสานกับความหรูหราได้อย่างลงตัว
มีตู้โชว์เนื้อชั้นดีให้ได้เห็นกันเลย ประกอบไปด้วยเนื้อวัวส่วนต่างๆ ทั้ง Rib Eye Tenderloin Striploin สามารถเลือกได้ตามใจชอบ
มาเริ่มกันที่เมนูแรกกันก่อนเลย Ciabatta Bread with Chimichurri Sauce and Garlic Butte ตัวขนมปังมีความนุ่มมาก ทานร้อนๆคู่กับ Chimichurri ซอส หรือทาเนยกระเทียม ให้ความเข้ากันได้อย่างลงตัว
เมนูต่อมาจะเป็น Caprese Salad เป็นมอสซาเรลล่าชีสสดกับมะเขือเทศ เมนูนี้ถ้าใครชอบทานชีสสดรับรองไม่ผิดหวัง ทานคู่กับผักและมะเขือเทศให้ความรู้สึกสดชื่นมากๆ
Soup – Lobster & Crab Bisque ซุปครีมล็อบสเตอร์และปู จานนี้ทานร้อนๆให้รสชาติที่กลมกล่อมหอมนุ่มละมุนลิ้นมากๆ กลิ่นของล็อบสเตอร์และปูมีกลิ่นหอมเตะจมูกมากๆ
มาในส่วนของ Main Course กันบ้าง เริ่มต้นกันที่ Spaghetti Olio สปาเก็ตตี้ผัดน้ำมันมะกอก เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ชอบทานสปาเก็ตตี้มันๆ เพราะเมนูนี้มีความแห้งของเส้นกำลังดีไม่มากไม่น้อยจนเกินไปและตัวเส้นมีความเหนียวนุ่มอร่อยมากๆ
มาถึงไฮไลท์ของเราในวันนี้ 350GR Wagyu Fillet Steak Medium Rare
เป็นส่วนสันในของวัวที่มีเนื้อนุ่มอร่อยเป็นพิเศษ ไขมันน้อย ความหนาของเนื้อกำลังพอดี หั่นออกมาเป็นชิ้นทานเข้าไปแล้วพอดีคำ เนื้อมีความเหนียวนุ่มในระดับพรีเมี่ยมสุดๆ จะทานคู่กับซอสหรือทานเปล่าๆก็ได้ ให้ความอร่อยในแบบที่แตกต่างกันไป
ยิ่งได้ทานกับ Red Wine CAMINO DE CHILE นะ ฟินมาก บอกเลยเข้ากันอย่างลงตัวสุดๆ
สำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อก็จะมี Grilled Norwegian Salmon สเต๊กแซลมอนนอร์เวย์ย่าง ให้ได้เลือกทานกันด้วย เนื้อปลาสุกกำลังดี มีความชุ่มฉ่ำของเนื้อปลาไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เวลาทานจะได้กลิ่นหอมจางๆของแซลม่อนฟินสุดๆ
สำหรับคนที่อาจจะดื่มไวน์ไม่ถนัดนัก ที่นี่ก็มี Cocktail หลากหลายแบบให้เราได้เลือกสรรค์กันด้วยนะ
ครัวของที่นี่จะเป็นครัวเปิด โชว์ให้เห็นถึงขั้นตอนการทำอาหารของเชฟกับแบบจะๆไปเลย
จบจากของคาวกันแล้ว เรามาต่อกันที่ของหวานตบท้ายกันสักหน่อย
เริ่มกันที่ Signature Chocolate LAVA เค้กช็อคโกแลตลาวา เสิร์ฟพร้อมกับไอศครีมวานิลลา แต่ตัวลาวาของที่นี่จะไม่ออกมาเป็นน้ำช็อคโกแลตเหลวๆ แต่จะมีความเหนียวนุ่มเข้มข้นเข้ามาแทน ทานคู่กับไอศครีมวานิลลาและสตอเบอรี่ที่ถูกหั่นมาเป็นชิ้นเล็กๆเข้ากันได้อย่างลงตัวสุดๆ
ตบท้ายกันด้วย Homemade Orange Scented Cold Cheesecake โฮมเมดชีสเค้กกลิ่นส้ม เสิร์ฟพร้อมกับซอสราสเบอรี่ ตัวชีสเค้กมีความละมุนและเนื้อแน่นมากๆ ทานคู่กับส้มและซอสราสเบอรี่รสชาติตัดกันเข้ากันมาก ถือเป็นการปิดท้ายมื้ออาหารของวันนี้ได้เป็นอย่างดี
ถ้าใครที่เป็นคอสเต็กอย่าพลาดที่นี่น้า แนะนำเลยรับรองจะต้องเป็นมื้ออาหารที่น่าจดจำแน่ๆ
สุดท้ายแล้วขอบคุณมากๆที่อ่านกันมาจนจบ ฝากติดตามผลงานการรีวิวอื่นๆได้ที่ https://www.facebook.com/skipworkgojourney/
แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น