[SR] รีวิวร้าน CARNE (การ์เน่) สุขุมวิท 23 ร้านอาหารสเปนสุดหรู เน้นหนักเรื่องเนื้อและไฟ แต่ขายราคาไม่แรง❌

วันนี้ผมได้รับคำเชิญจากร้าน CARNE (การ์เน่) ซอยสุขุมวิท 23 อยู่ใกล้กันกับห้างประสานมิตรพลาซ่า ให้เข้ามารีวิวอาหารของที่นี่ โดยร้านนี้มีจุดเด่นคือเขาเก่งในการใช้ไฟในการประกอบอาหารเป็นหลัก ทั้งการเทคนิคย่างโดยใช้ถ่านจากกะลามะพร้าว การอบเเละการรมควันที่เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เน้นไปที่รสชาติที่เข้มข้นถูกปากคนไทย เเละยังเลือกใช้แต่วัตถุดิบปลอดสารพิษที่ดีที่สุดในไทยเท่านั้น เมนูอาหารที่เสิร์ฟในร้านเป็นตำรับสเปนเเละอเมริกาใต้ ซึ่งส่วนตัวแล้วผมไม่เคยทานอาหารตำรับนี้มาก่อน เลยตอบตกลงเข้ามาชิมที่ร้านแบบไม่มีข้อสงสัย วิธีการเดินทางมาก็ง่ายๆ ลง MRT สถานีสุขุมวิท หรือ BTS สถานีอโศก แล้วเดินเข้ามาเรื่อยๆในซอยสุขุมวิท 23 ประมาณ 500 เมตร จะเจอร้าน CARNE ที่มีกำแพงอิฐสีส้มขนาดใหญ่แบบนี้ เดินเข้ามาจะพบกับสวนขนาดเล็กสไตล์มินิมอลและรูปปั้นวัวกระทิงตัวผู้สีดำขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของประเทศสเปนที่ดูดุดัน บ่งบอกถึงความเป็นตัวร้านนี้ได้เป็นอย่างดี ก่อนจะมาขอบอกก่อนว่าร้านนี้เปิดแค่เฉพาะช่วงเย็น 17.30น. - 22.30น.เท่านั้น ส่วนใครที่ขับรถส่วนตัวมา ด้านหลังมีลานจอดรถให้กว้างขวาง พร้อมพี่ยามคอยเฝ้ารถให้เป็นอย่างดี ตอนนี้เราเดินเข้าไปในร้านกันเลยครับ




บรรยากาศภายในร้านเน้นสีดำ ไฟตกแต่งร้านสีส้มและเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มดูหรูหรา มีหลายมุมให้เราเลือกนั่งไม่ว่าจะมานั่งดื่มชิลล์ๆคนเดียว/มานั่งดินเนอร์กับคู่รัก/มานั่งทานอาหารชมบรรยากาศร้านสวยๆกับครอบครัว/มากับเพื่อนกลุ่มใหญ่เพื่อสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน ที่นี่เขามีโต๊ะทุกขนาดตอบโจทย์คุณได้ทั้งหมด ห้องครัวของทางร้านก็เป็นแบบเปิดโล่ง เราสามารถมองวัตถุดิบต่างๆและชมเวลาเชฟบรรจงปรุงอาหารให้เราแต่ละจานได้ (แสดงว่าเขามั่นใจจริงๆว่าทุกขั้นตอนสะอาดและใช้แต่วัตถุดิบคุณภาพดี เลยเปิดครัวให้เราได้ชมทุกขั้นตอนขนาดนี้ ) ตอนนี้เราเลือกโต๊ะที่จะนั่งกันก่อน จานที่วางบนโต๊ะก็ใช้เป็นลายหิน ช้อน/ส้อมเป็นแบบก้านไม้สุดหรู ราคามื้อนี้ต้องแพงแน่ๆ 
 





แต่พอเปิดเล่มเมนูจริงๆแล้วราคาไม่ได้แพงอย่างที่คิด สลัดเริ่มต้นที่จานละ 150 บาท พาสต้าราคาเริ่มต้นที่จานละ 350 บาท เมนู Small Plates ราคาเริ่มต้นที่ 150 บาท Side Dish ราคา 150 ทุกเมนู ส่วนเนื้อสัตว์ที่เป็นเมนูจานหลักของทางร้านราคาเริ่มต้นที่ 480 บาท ส่วนเนื้อระดับพรีเมี่ยมทางร้านขายเป็นราคาต่อกรัม นอกนั้นทางร้านเน้นหนักไปทางเมนูเครื่องดื่ม ค๊อกเทล/เบียร์/ไวน์และ Lกฮ อีกหลายขนาน แต่ก่อนอื่นทางร้านจะเสิร์ฟอเปอริทีฟ 1 ช็อตสำหรับเรียกน้ำย่อย เป็นเหล้ามะกรูดเชลโลรสหวานอ่อนๆ มีความติดขมปลายลิ้นเล็กน้อย ทานแล้วจะรู้สึกร้อนท้องหน่อยๆ พร้อมเกลือและพริกป่นปรุงรสสูตรของทางร้าน เครื่องดื่มเราสั่งเป็นน้ำเปล่า ถึงแม้จะราคาขวดละ 50 บาท แต่ก็เสิร์ฟเป็นน้ำดื่มยี่ห้อ Aqua Panna ก็ถือว่าสมราคา เพราะได้ทานน้ำแร่นำเข้าจากต่างประเทศเลยนะเออ

อาหารต่างๆถูกทยอยนำมาเสิร์ฟให้เต็มโต๊ะ แต่ที่เห็นนี่คือยังไม่ใช่อาหารจานหลัก เป็นการรวมเฉพาะเมนูอาหารทานเล่นและ Small Plates มาให้เราชิมก่อน เมนูแรกคือ Pan de Cassava ราคา 150 บาท เป็นขนมปังชีสกอร์กอนโซลารสเค็มกำลังดี/หอมมันชีสคลุ้งไปทั้งปาก/เคี้ยวหนึบสู้ฟันสุดๆ จานนี้ติดใจมากจนต้องขอเบิ้ลอีกหลายจานเลยครับ เมนูต่อมาคือ Sweet Corn Succotash ราคา 150 บาท ข้าวโพดหวานๆย่างไฟจนเนื้อแน่นกระชับเคี้ยวสนุกหอมกลิ่นรมควันเต็มปาก ใส่ไส้กรอกโชริโซ/พริกหวาน/มะนาวย่างเพื่อเพิ่มรสชาติ คลุกเคล้าให้เข้ากับน้ำสลัดสูตรพิเศษที่มีความเปรี้ยว /มันหอมกลิ่นรมควัน ได้ทั้งความหวาน/มัน/เปรี้ยว/เคี้ยวสนุก/หอมกลิ่นรมควันเต็มๆในปาก แต่ส่วนตัวว่าจานนี้รสชาติค่อนข้างอ่อนไปหน่อย แต่เราสามารถเพิ่มเกลือและพริกป่นที่ทางร้านวางไว้ให้บนโต๊ะเมื่อตอนต้นลงไปเพื่อเพิ่มความแซ่บ/กลมกล่อมได้ หรือจะสั่งเป็นน้ำสลัดสูตรเผ็ดแทนน้ำสลัดสูตรปกติก็ได้ครับผม

Wagyu Beef Tongue ราคา 380 บาท ลิ้นวัววากิวหนาพิเศษ 3 ชิ้นใหญ่ๆ ที่นำไป Slow Cooked ข้ามคืน จนเนื้อนุ่มละลาย ความหนึบเหนียวสู้ฟันของลิ้นวัวหายไป จากนั้นนำไปย่างถ่านจนหอมเหมือนลิ้นวัวรมควันและราดซอสซัลซาอุ่นๆที่ทำจากมะเขือเครือสีเหลืองรสหวานอมเปรี้ยวช่วยลดความเลี่ยนจากลิ้นวัวได้เป็นอย่างดี รสชาติดีลงตัวในทุกมิติเลยครับ เพิ่มความเผ็ดเปรี้ยวแซ่บด้วยเมนู Sea Bass Ceviche ราคา 320 บาท ปลากระพงเนื้อขาวแล่สดใหม่มีความหวานนุ่มเด้งสู้ฟัน ทานคู่กับซัลซาชมพู่ผสมกับอะโวคาโดและท๊อปปิ้งด้วยมันม่วงทอดกรอบๆ ให้รสเผ็ด/เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด จานนี้เป็นอีก 1 เมนูที่ถูกใจเพราะโดยรวมแล้วคล้ายกับซาชิมิราดน้ำจิ้มซีฟู๊ดแซ่บๆ แบบที่เราคุ้นเคย แต่เป็นการนำมาเล่าเรื่องในรูปแบบใหม่ ช่วยเรียกความอยากอาหารได้มากกว่าเดิมอีกหลายเท่าเลยครับ
 


Ember Roasted Beetroot ราคา 260 บาท สลัดบีทรูทอบในเตาถ่านจนมีกลิ่นหอมควันแต่เนื้อในยังชุ่มฉ่ำ ท็อปปิ้งด้วยผักวอเตอร์เครสสด ควินัวขาว/ควินัวดำหุงสุกช่วยเพิ่มความเคี้ยวหนึบ เพิ่มสัมผัสความกรอบและหอมด้วยถั่วพีแคนอบ และน้ำสลัดสีเขียวข้นที่สกัดมาจากผักสด ก่อนทานให้คลุกทุกอย่างให้เข้ากัน เป็นบีทรูทสลัดที่ได้คุณประโยชน์ของผักสด/กลิ่นหอมและสัมผัสที่หลากหลายในคำเดียวกัน เมนูสุดท้ายคือ Octopus Adobo ราคา 390 บาท หนวดหมึกยักษ์ที่ถูกนำไปตุ๋นให้นุ่มจากนั้นนำมาหมักด้วยสมุนไพรสูตรเฉพาะของทางร้านและนำไปย่างจนมีกลิ่นรมควันคล้ายกับขนมรสปลาหมึก เสิร์ฟมาพร้อมกับสลัดใบชะครามที่มีกลิ่นเฉพาะผสมกับมะเขือเหลืองรสอมเปรี้ยว ทานคู่กับซอสพิวเร่ถั่วขาว ที่มีความหอม/มัน และช่วยทำให้ทุกอย่างผสมเข้าเป็นรสเดียวกัน ลงตัวดีครับ

ระหว่างที่รออาหารจานหลัก (เมนูเนื้อสัตว์) มาเสิร์ฟเรายังพอมีเวลาเข้ามาสำรวจในครัว เห็นว่าเชฟของที่นี่เคยทำงานในร้านมิชลินสตาร์ของสเปนมาก่อน ดูจากฝีมือการทำอาหาร/จัดตกแต่งจานแล้วไม่ธรรมดาจริงๆครับ เข้ามาในครัวมีความหอมกลิ่นควันย่างเนื้อต่างๆ รู้จักการใช้ไฟในการปรุงแต่ละเมนูเป็นอย่างดี สมกับที่ทางร้านมั่นใจครับ
 



Picanha Asada With Chimichurri Sauce And Frites ราคา 790 บาทเนื้อวัวส่วน Picanha ส่วนที่นุ่มพิเศษของวัว โดยทั้งตัวมีแค่ 2 ชิ้นเล็กๆย่างมาจนสุกกำลังดีแบบ Medium Well เนื้อสีชมพูหวานฉ่ำๆ หอมกลิ่นเตาถ่านราดซอสซิมิซูรีสด หอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรแบบฝรั่ง เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอดกรอบและมายองเนส เมนูจานต่อมาก็คือ Fire Grilled Chicken Roulade ราคา 480 บาทเป็นไก่ไม่มีกระดูกม้วนติดหนังหมักสมุนไพร ย่างจนหนังมีความกรอบ หอมกลิ่นย่างถ่าน/เนื้อไก่ด้านในชุ่มฉ่ำ ทานคู่กับซอสรสข้าวโพดรสหวานอ่อนๆ และก้านกระเทียมตุ๋นและย่าง อร่อยดีแต่ว่าติดไหม้ขมตรงหนังไก่เกินไปหน่อยโดยรวมก็ถือว่าดี ซึ่งตรงจุดนี้เราแจ้งทางทางร้านไว้แล้ว
 




Pork Tomahawk ราคา 590 บาท เนื้อหมูคูโรบุตะส่วนพอร์คช๊อปชิ้นโตแช่กับน้ำเกลือและเครื่องสมุนไพรนานกว่า 4 ชม. จากนั้นนำไปหมักกับซอสโคจิเเดงและเครื่องเทศอื่นๆที่ช่วยทำให้หมูมีความนุ่มละมุนลิ้น จากนั้นนำไปย่างด้วยไฟจากถ่านกะลามะพร้าวจนหอมและอบอีกทีจนเนื้อหมูด้านในสุกชุ่มฉ่ำ มาพร้อมกับสับปะรดภูแลซัลซ่าที่มีความเปรี้ยวอมหวานลดความเลี่ยนจากไขมันหมูได้เป็นอย่างดี เเละพิวเร่มันหวานญี่ปุ่นแทนมันฝรั่งบดสูตรปกติ จึงทำให้มีความหวานละมุนมากกว่า จานนี้ถึงจะมีรอยไหม้แต่ก็ไม่รู้สึกขมเท่าจานไก่ ทุกอย่างในจานทำให้เนื้อหมูชิ้นนี้รสชาติเข้มข้น อร่อยลงตัวสุดๆเลยครับ เมนูต่อมาหน้าตาเหมือนรีซอตโต้แต่มันคือ Risi ราคา 480 บาท แต่มันคือพาสต้าแบบเมล็ดข้าวนำไปหุงพร้อมกับมิโสะมันปูและเนื้อปูรสเข้มข้น โรยด้วยทรัฟเฟิลฝานบาง/สเปกแฮมรมควัน เป็นการผสมความเป็นเอเชียและยุโรปให้เข้ากันเป็น 1 เดียว พาสต้าเคี้ยวหนึบเหมือนข้าวทานกับซอสรสมันเค็มกลิ่นปูเต็มๆ ตามด้วยความหอมของทรัฟเฟิลและตัดด้วยความเค็มและเหนียวนิดๆของสเปกแฮมรมควัน ลงตัวสุดๆครับ




****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ ******
ชื่อสินค้า:   CARNE (การ์เน่) สุขุมวิท 23
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างแต่ได้รับผลประโยชน์อย่างอื่น เช่น บัตรกำนัล ค่าเดินทางตามจริง

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ได้รับบัตรกำนัล 7 ใบ สำหรับใช้ทำกิจกรรมในเพจ "เสพติดการกิน"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่